ตั้งแต่ “ไกลแค่ไหนคือใกล้” จนมาถึง “คนไม่จำเป็น” นับเป็นการสร้างปรากฎการณ์ GETSUNOVA FEVER ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องได้ยินเพลงของพวกเขาอยู่เสมอ จากวันนั้นถึงวันนี้เพลงฮิตของพวกเขาทั้ง 4 คนในชื่อ “GETSUNOVA” ได้ไปแตะหลักร้อยล้านวิวเรียบร้อย ซึ่งนั่นอาจทำให้คนฟังส่วนใหญ่ติดภาพจำที่ว่า “GETSUNOVA” จะมีแต่เพลงรัก เพลงซึ้ง แต่การกลับมาของเขาครั้งนี้จะทำให้เราลืมภาพเดิม ๆ ของพวกเขาไปเลยกับเพลงใหม่ที่ชื่อว่า “รู้ดีว่าไม่ดี” ที่ได้แร็ปเปอร์กำลังมาแรงในขณะนี้อย่าง YOUNGOHM มา Featuring กับเพลงสไตล์ใหม่ของวง ที่แปลกตากันตั้งแต่รูปโปสเตอร์ไปจนถึง MV เอง วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาพูดคุยถึงการ UNLOCK สไตล์ใหม่กับหนุ่ม ๆ “GETSUNOVA” กัน ก่อนหน้านี้ไปทำอะไรกันมาบ้าง? เล่าถึงการกลับมาของตัวเองครั้งนี้หน่อย ? นต : จริงๆมันผ่านช่วงที่เราปล่อยเพลงมาสักระยะหนึ่ง เราเองก็ปล่อยเพลงล่าสุดชื่อว่า “พัง” ไปประมาณปีที่แล้ว หลังจากนั้นเราเองก็อยากทำอะไรที่ตื่นเต้นมากขึ้น ตอนเราปล่อยเพลง “พัง” ไปเรารู้สึกว่ามัน Success แล้วก็มีคนฟังเยอะ แต่ว่ามันยังเป็นเพลงเก็ตสึโนว่าที่ทุกคนเดาออก มันก็คือเพลงช้า เพลงเพราะ เพลงซึ้ง ทุกคนเดาได้หมดเลย เราเลยรู้สึกว่ามันขาดอะไรบางอย่างที่มันยังไม่สนุกเท่าไหร่
“ลูกผู้ชาย แม้วายชนม์ แต่ผู้คนยังจารึก” หนึ่งในความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการดนตรียุค ‘90 ก็คือจากไปของ Kurt Cobain ชายผู้แผ่ขยายอิทธิพลของดนตรี Grunge ให้มันส์กันถึงระดับโลก น่าเศร้าที่ฟร้อนต์แมนวง Nirvana จบชีวิตตัวเองด้วยอาวุธปืนเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ.1994 ซึ่งขณะนั้นเขาอายุเพียง 27 ปีเท่านั้น แม้การตายของเขาจะทำให้ความนิยมดนตรี Grunge ค่อย ๆ จางลง แต่ทุกวันนี้ผู้คนยังอินกับผลงานของ Nirvana อยู่ เพลงเด่น ๆ อย่าง Smells Like Teen Spirit, Heart-Shaped Box, Lithium, Come as You are และ In Bloom มียอดวิวบน YouTube รวมกันมากกว่า 1,300 ล้านวิว หลายเพลงของยอดวงจากเมือง Aberdeen ในสหรัฐฯ ก็ถูกนำไปเล่นคัฟเวอร์กันมันส์ตั้งแต่ในวงเหล้ายันคอนเสิร์ตใหญ่ และไม่มีใครสงสัยในความอมตะของอัลบัม Bleach
ศิลปินที่ชอบร้องเพลงในบรรยากาศที่ใช่ เป็นหนึ่งในหนทางปลดปล่อยตัวตนที่เราทุกคนรอคอย แต่ถ้าใกล้วันจัดคอนเสิร์ตหลังจากที่ซื้อตั๋ว Early bird หรือเข้าสมรภูมิแย่งตั๋วฟาดฟันกับคนอื่น ยื่นลางานพร้อมจองที่พักและนัดสาวไว้เสร็จสรรพ แต่กลับต้องไปเจอหน้าเพจคอนเสิร์ตเกิดประกาศว่า “ยกเลิก” เราเชื่อว่าจากมาตรวัดความสุขที่ล้นปรี่ ต้องตกฮวบย้ายไปที่อาการเฟลสุด ๆ ส่ออาการหัวร้อนแบบที่ต่อให้ออกมาคืนเงินก็ยังไม่หาย! แต่มองในฐานะคนซื้อตั๋วอย่างเดียวอาจจะไม่แฟร์ เพื่อให้เท่าเทียมเรามาดูเหตุผลของการโดนเทกันสักหน่อยว่าเบื้องหลังมันมาจากอะไรกันแน่ จาก 5 คอนเสิร์ตสุดเฟลพร้อมเบื้องหลังของเหตุผลเหล่านี้ 1. เสม็ด อินเลิฟ คอนเสิร์ต / Samed in Love เฟลยาวแบบไม่มีวันหวนกลับ สำหรับคนเคยอินเลิฟเสียงเพลงริมเกาะเสม็ดมันส์ กระโดดบนพื้นทรายนิ่ม ๆ ริมหาดต้นตำรับ “เกาะเด็ดเสร็จทุกราย” และติดตามมาข้ามน้ำข้ามทะเลไปครั้งแรกจนถึงครั้งที่ 7 แต่พอครั้งที่ 8 ก็เจอตอ ทำให้ต้องปิดฉาก งดจัดไปถาวรท่ามกลางความเฟล สุดท้ายครั้งนี้ลงเอยด้วยการก็คืนตั๋วราคาเต็ม 100 % ใครที่ตกขบวนไปไม่ทัน หรือตกข่าวว่าเพราะอะไร เขามีจดหมายอธิบายไว้ให้ด้วย เหตุผลหยุดจัด: อันนี้ถือว่าน่าสงสารคนจัดเหมือนกันแต่เป็นเรื่องที่สมควรทำ เพราะมีเหตุผลจำยอมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จากตอนแรกที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ดออกมาห้ามจัดเพราะอยู่ในช่วงงดรื่นเริงดอกแรกเพื่อถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไป ๆ มา ๆ โดนดอกที่สองเข้าไปเพิ่มเรื่องการจัดการ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งาน Facebook เยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หลายคนจึงเริ่มต้นสร้าง Facebook Page ขึ้นมาเพื่อรวบรวมแฟนเพจให้ได้เยอะที่สุด บางเพจสร้างขึ้นมาโดยตั้งใจแค่ให้มีคนติดตามเยอะ ๆ ไม่สนใจวิธีการ คุณภาพ หรือความถูกต้องอะไรทั้งนั้น ทำเอาคนส่วนใหญ่เอือมระอาไปตาม ๆ กัน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำแบบนั้น เพราะมีเพจคุณภาพดีอีกมากมาย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเพจที่เราเข้าไปอ่านเป็นประจำก็คือ “โถชีวิตนักดนตรี” เพจอารมณ์ดีที่รวมนักดนตรีจากทั่วสารทิศ ให้เข้ามาแชร์ประสบการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ ฮา ๆ บางครั้งก็เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือเพื่อนนักดนตรีที่ประสบปัญหา เรียกว่าเป็นเพจอารมณ์ดี มีประโยชน์ของจริง คนที่เราต้องยกเครดิตให้ ในฐานะที่เป็นผู้สร้าง Community ชั้นดีแบบนี้ขึ้นมาได้ ก็คงต้องยกให้ฝีมือของ ‘พี่สึด’ นักดนตรีอารมณ์ดีเจ้าของเพจ เพราะเพจนั้นจะมีคาแรคเตอร์ยังไง ก็ต้องมาจากตัวตนของคนที่สร้างมันขึ้นมา แต่ไม่ง่ายเลยที่เราจะหาทางพูดคุยกับเค้าได้ เพราะพี่สึดไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่ไหนมาก่อน จนกระทั่งวันนึงความพยายามเริ่มออกผล เราได้มีโอกาสเชิญพี่สึดมาที่ออฟฟิศของ UNLOCKMEN เพื่อนั่งคุยกันเกี่ยวกับเพจของเค้า แม้เราจะตื่นเต้นที่ได้เห็นตัวจริงของพี่สึด แต่สิ่งที่เราได้เจอคือพี่สึดในหัวม้า เดินเข้ามาในออฟฟิศเราซะงั้น เอาไงเอากัน เราจึงตัดสินใจ Interview พี่สึดในร่างม้าอาชาศึกซะเลย ไปทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของพี่สึด
ช่วงหลังมีศิลปินเจ๋ง ๆ บินมาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง ส่วนศิลปินไทยเองก็บรรเลงแบบไม่หยุดหย่อน มิวสิคเฟสติวัลดี ๆ ก็มีให้ไปเพียบ อารมณ์ที่ค้างอยู่จากคอนเสิร์ตที่ไปดูมายังไม่ทันหมด ก็ต้องออกไปโยกหัวกันอีกงานแล้ว แหม่ เล่นซะเงินในกระเป๋าเบาลงไปเยอะ แต่เพื่อแลกกับความมันส์กับวงที่ชอบก็ถือว่าคุ้ม แถมได้ประโยชน์แฝงที่เราไม่ได้โฟกัสถึงมันอย่างความฟิตของร่างกายอีกด้วย ทีมงาน UNLOCKMEN มีสถิติใหม่ที่แสดงให้เห็นว่ายิ่งเรามันส์เท่าไหร่ในการดูคอนเสิร์ตยิ่งทำให้เราฟิตขึ้นราวกับได้การ cardio จริง ๆ มาให้ดู โดยตัวเลขที่จะเล่าให้ฟังนี้คือค่าเฉลี่ยจำนวนก้าวขยับก้าวและอัตราการเต้นของหัวใจของคนที่กำลังเสพไลฟ์โชว์อย่างเมามันส์ในอังกฤษ ที่วัดโดยสายรัดข้อมือสุขภาพ Fitbit การวัดค่าดังกล่าวแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 5 กลุ่มที่ดูคอนเสิร์ตต่างแนว ประกอบด้วย grime, electronic, pop, R&B และ indie และผลที่ได้ออกมาดูเหมือนว่าแนว grime ที่ถือกำเนิดในอังกฤษ ซึ่งมีองค์ประกอบของแนว UK garage, dancehall, hip hop และ drum ’n’ bass จะทำให้เราฟิตกว่า genre อื่น โดยจำนวนการขยับก้าวเฉลี่ยของคนที่ดูคอนเสิร์ตแนวนี้อยู่ที่ 7,635 ก้าว มากกว่าค่าเฉลี่ยจำนวนก้าวต่อวันของผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรเกือบ 3 เท่า และพอ ๆ กับการวิ่งรอบสนามฟุตบอล 14 รอบ อ่าว
ดนตรีเป็นอีกเสน่ห์ที่ดึงดูดสาว ๆ ได้อย่างดี เพียงแค่หยิบกีต้าร์ขึ้นมาลูบ ๆ คลำ ๆ ก็ตีบวกคะแนนพิศวาสไปได้แบบรัว ๆ หากไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงก็อย่าเพิ่งท้อใจกันไป แค่ไม่หยุดเรียนรู้ เราก็เจ๋งได้ แค่ลองเปิดใจ มาเรียนกีต้าร์กันแบบออนไลน์บนแชแนลยูทูป ที่สำคัญคือฟรี! วันนี้ UNLOCKMEN มาแนะนำ 5 แชแนลยูทูปสอนเล่นกีตาร์ เรียนกันแบบฟรี ๆ ไม่ว่าจะเล่นเพราะจีบสาวหรือเพราะ Passion ที่รักดนตรี ปลายทางก็คือการได้บรรเลงแต่ละตัวโน้ตด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรีเหมือนกัน GuitarJamz คลิก เริ่มต้นเรียนกีต้าร์แบบเบสิคสุด ๆ กับหนุ่มอารมณ์ดีที่มาพร้อมกับสำเนียงที่ฟังง่ายอย่าง Marty Schwartz, Bret Papa, Tim Pierce, John Konesky และอีกหลายคนที่จะมาแจมบ้างในบางคลิป สอนเรากันแบบตั้งแต่เบสิคเริ่มหัดกันเหมือนหยิบจับกีต้าร์ครั้งแรก สอนละเอียดแบบทุกดีเทล แม้ว่าจะไม่เคยเล่นมาก่อนก็สามารถเล่นเป็นได้ เพราะคลิปการสอนจะมีหลายเลเวลให้เราได้ขยับไปเรื่อย ๆ ตามความถนัดของเรา Let’sPlayGuitar! คลิก ใครมาแนว Fingerstyle ขอแนะนำแชแนลนี้เลย สอนแบบละเอียดแบบเจาะลึกเป็นเพลง ๆ ไปเลย โน้ตต่อโน้ต ให้ได้เล่นตามกันแบบง่าย ๆ ไม่ต้องกดสโลว์
ห้วงเวลาของความผิดหวังเป็นเวลาที่ทุกคนต้องเคยเผชิญกันมาแล้วอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นคนร่าเริงขนาดไหน แต่ความเศร้าที่เป็นเหมือนเมฆหมอกคอยบดบังแสงอาทิตย์ พาให้ความสดใสที่เคยมีหายไป เหลือแต่คนที่ห่อเหี่ยวเหมือนผักเหี่ยวค้างในตู้เย็น ไม่ว่าจะเศร้าเรื่องอะไรก็ตาม แต่ให้ตายเถอะ เปิดเพลงฟังทีไรก็ยังจะเลือกเพลงเศร้าไว้คอยตอกย้ำตัวเองอยู่ดี (ถ้ายังไม่มีไอเดียเพลงเศร้า เราขอเสนอ Drunk and Drown: Playlist คนเศร้า ขอเหล้าขม ๆ ให้จมน้ำตากันไปข้าง) UNLOCKMEN จะพามาหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงฟังเพลงเศร้าแม้ว่าเราจะเศร้าจะตายอยู่แล้วก็ตาม ทบทวนเหตุการณ์ เราไม่ได้อยากจะซ้ำเติมตัวเองกันนักหรอก แต่ในเมื่อเรื่องราวมันแย่ขนาดนี้ เราก็แค่อยากทบทวนตัวเองเท่านั้นเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา แล้วเราทำอะไรลงไปบ้าง การฟังเพลงก็เหมือนเป็นการรีรันสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกเพลงที่เรื่องราวตรงกับเรื่องของตัวเองกันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ? เราก็จะได้ทบทวนเรื่องราวของตัวเองที่ซ่อนอยู่ในแต่ละโน้ตของเพลง เหมือนเราได้กลับมาทบทวนกับสิ่งที่ทำลงไปด้วย ความเจ็บปวดบนความสวยงาม ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ ว่า “ดนตรี” ยังคงเป็นอีกความสุนทรีย์ที่เรารื่นรมย์ไปกับมันได้เสมอ แม้ว่ามัน(และเราเอง)จะอยู่ในมู้ดแห่งความเศร้าก็ตาม อาจจะมีเนื้อเพลง มู้ดแอนด์โทนของเพลงที่เศร้าไปบ้าง แต่ดนตรีก็คือสิ่งที่เราดื่มด่ำกับหลายอย่างประกอบกัน คุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ก็ยังคงแฝงตัวอยู่ในทุกตัวโน้ต เราจึงได้ฟีลเจ็บปวดบนความสวยงามของดนตรีนั่นเอง เหมือนมีใครสักคนรับรู้เรื่องราวของเรา อย่างที่บอกว่าหลายครั้งเรามักเลือกเพลงที่มีเรื่องราวตรงกับเรื่องของเรา เพราะว่านั่นหมายถึงเราไม่ได้พบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เพียงคนเดียว อย่างน้อยก็ยังมีเพลงนี้ที่ยังเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา ช่วยให้เรารีแลกซ์ขึ้นมาอีกนิดว่าเราไม่ได้เผชิญปัญหาเพียงลำพังนั่นเอง แม้ว่าจะตรงนิดหน่อยแค่ท่อนสองท่อน แต่คนมันเฮิร์ทอะ แค่นั้นความรู้สึกก็อินจนรู้สึกว่าเพลงนี้แม่งตรงกับชีวิตเราซะเหลือเกิน (ทั้งที่จริงตรงอยู่สองท่อน) ใครที่มีเพื่อน ๆ พี่น้องคอยปลอบใจเป็นที่ระบายก็ดีไป แต่บางคนที่ไม่อาจเล่าให้ใครฟังได้ก็คงต้องพึ่งเพลงที่มันตรงกับชีวิตแบบนี้แหละคอยเป็นเพื่อนที่ร่วมเหตุการณ์เดียวกัน ฟังเพลงเศร้ามันจะเศร้ามากขึ้นหรือจะรู้สึกดีขึ้นกันแน่? เรามาฟังคำตอบจากนักวิจัยอย่าง Taruffi
เชื่อว่าทุกคนรวมถึงผู้ชายอย่างเราน่าจะเป็นแบบนี้ แม้ยอมรับว่ามีเพลงใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ ออกมาให้ฟังกันแทบทุกสัปดาห์ แต่หูของเรายังคงโหยหาเพลงเก่า ๆ ที่เราชอบ บางทีก็ถามตัวเองหรือนั่งถกกับคนอื่นว่าเป็นเพราะเพลงใหม่มันสู้เพลงเก่าไม่ได้ หรือเป็นเพราะรสนิยมเราเอง ไม่ต้องเถียงกันครับ UNLOCKMEN มีผลสำรวจที่พอจะพิสูจน์ได้ว่าเมื่อช่วงวัยรุ่นเรารับอะไรเข้าไปแล้วถูกใจ มันจะหล่อหลอมเป็นความชอบของเราจนถึงปัจจุบัน The New York Times ร่วมงานกับ Seth Stephens-Davidowitz เจ้าของผลงานเขียน Everybody Lies: Big Data, New Data, And What The Internet Can Tell Us About Who We Really Are เพื่อค้นคว้าว่าทำไมผู้คนยังนิยมไปดูคอนเสิร์ตของวงเก่า ๆ โดยงานนี้ได้รับการสนับสนุนข้อมูลจาก Spotify ประกอบกับความขยันของ Stephens-Davidowitz ในการไล่วิเคราะห์เพลงฮิตใน Billboard chart ระหว่างปี 1960-2000 รวมถึงเจาะว่าช่วงอายุไหนเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเพลงนั้น ๆ ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ออกมาว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้ชายจะมีพัฒนาการด้านรสนิยมการฟังเพลงระหว่างอายุ
เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่นานกับงานปาร์ตี้สุดมันส์ งานที่รวมเหล่าวัยรุ่นพลังให้มาโชว์สเต็ป ปลดล่อยพลังงานของคนรุ่นใหม่ออกมาภายใต้เสียงดนตรีที่เร้าใจ ซึ่งแน่นอนว่าทีมงาน UNLOCKMEN นั้นไม่ได้ปล่อยผ่าน ไม่ยอมพลาดการไปเก็บบรรยากาศงานมันส์ ๆ แบบนี้มาฝากแน่นอน ซึ่งคราวนี้เราได้ไปเตรียมตัวสแตนด์บายรับความสนุกกันที่ GMM LIVE HOUSE ณ ชั้น 8 Central World สถานที่จัดงาน “KULOV MAX 7 presents งานเลี้ยงประเพณี ครั้งที่ 2” ที่มีเครื่องดื่ม KULOV MAX 7 เป็นสปอนเซอร์หลักใจดี ซึ่งที่ทำให้เกิดงานนี้ขึ้นมา พร้อมเปิดตัวเครื่องดื่ม KULOV MAX 7 ให้ได้ยลโฉมกระป๋องเท่ ๆ และลิ้มรสในงานนี้เป็นครั้งแรก หลังจากปล่อยให้สงสัยกันอยู่พักใหญ่ ว่าอะไรคือ KULOV MAX 7 สำหรับบรรยากาศภายในงานต้องขอบอกว่ามันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของเหล่าวัยรุ่น ที่เรียกได้ว่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ใช้ชีวิตกันต่อเนื่องแบบไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะไปทำภารกิจอะไรมาตลอดวัน ก็ยังยิงยาวมาต่อที่งานปาร์ตี้รอบดึกกันอย่างพร้อมเพรียงเต็มฮอลล์ โดยไม่มีทีท่าว่าจะมีใครสามารถหยุดความตั้งใจในการมาร่วมงานเลี้ยงประเพณีครั้งนี้ได้ ซึ่งก็ตรงกับแนวคิด และคาแรคเตอร์ความเป็น KULOV MAX 7 ที่เป็นเครื่องดื่มสำหรับคนรุ่นใหม่ เน้นการใช้ชีวิตแบบเต็มที่ไม่มีสะดุด ภายใต้แนวคิด
และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความหอมหวาน มีแต่ความรักเต็ม feed ไปหมด แต่สำหรับหนุ่ม ๆ อย่างเราบางทีก็หวานไม่ค่อยเป็นเน้นการกระทำ การบอกจะความในใจกับคนพิเศษอาจไม่ได้มาในรูปแบบดอกไม้และคำพูด แต่ถ้าวันวาเลนไทน์นี้พวกเราไม่มีอะไรสื่อสารถึงคนรักเลย รับรองว่างานเข้าแน่ ๆ สำหรับผู้ชายปากแข็ง ทีมงาน UNLOCKMEN ขอเสนอเพลงรักสไตล์ classic rock ที่มีดนตรีหนักแน่นมาพร้อมกับเนื้อหาจริงใจมาเป็นตัวช่วยแสดงความรู้สึกออกไปแบบไม่เขิน คงจะไม่เวอร์เกินไปถ้าเราจะบอกว่าเพลงเหล่านี้คือเวทมนตร์ที่จะช่วยเติมเต็มวันแห่งความรักของคุณ นี่คือ 10 เพลง classic rock แทนความรู้สึกรักที่ควรให้เธอฟังในวันวาเลนไทน์ ไม่ก็เล่นกีตาร์แล้วร้องให้ฟังไปเลยก็เท่ดีครับ Angel – AEROSMITH “I want your love, let’s break the wall between us.” อารมณ์อ่อนหวานของวง rock รุ่นใหญ่อย่าง Aerosmith มักจะโดนใจเราเสมอ เพลงนี้ก็เช่นกัน Steven Tyler ฟร้อนต์แมนของวงร่วมงานกับ Desmond Child นักเขียนเพลงชื่อดังจนกลายมาเป็นเพลงแนว power ballad ในอัลบัม Permanent
ใครที่เป็นคอเพลงอาจจะคุ้นเคยกันดีกับการ COVER เพลงจากวงดังหรือเพลงฮิตในขณะนั้น มาให้เป็นสไตล์ของตัวเองตามแต่วงที่ COVER ส่วนมากก็จะเป็น Acoustic ฟังสบาย ๆ แต่ถ้าอารมณ์ไหนที่อยากหลุดพ้นความชิล หรืออยากฟังเพลงหนัก ๆ แต่ไม่ไหวจะฟังการสกรีมที่โคตรหนักหน่วง ลองเริ่มต้นจากวง ROCK COVER ที่นำเพลงดัง ๆ มาทำในสไตล์ที่โคตรระห่ำก็ได้ วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 วง ROCK COVER ให้เราได้ไปลองเลือกฟัง เลือกเปิดใจกับทุกแนวเพลง เผื่อว่าจะได้วงโปรดเพิ่มขึ้นอีกสักวง Our Last Night เริ่มต้นกันที่วงร็อกสัญชาติอเมริกัน โดยมีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ซึ่งส่วนมากจะ Cover เพลงดัง ๆ มากมายในแนว Post-Hardcore และ Alternative Metal ไม่ว่าจะเป็น Taylor Swift – Blank Space, Katy Perry – Dark Horse, Imagine Dragons – Radioactive และอื่น
กุมภาพันธ์เดือนแห่งความรักที่คนมีคู่ตั้งหน้าตั้งตารอ แต่ชาวอกหักรักคุดล่ะ จะไปยืนอยู่ตรงไหนของเดือนแห่งความรัก คำตอบคือมายืนรวมกันใน Playlist นี้ได้เลย UNLOCKMEN ขอนำ 10 บทเพลงที่ขมไม่แพ้เหล้า และไม่แพ้ความรักของเรา ฟังกันตั้งแต่ต้นจนจบแล้วมาดูกันว่า จะมีคนจมน้ำตากันกี่ศพ เมารัก – P2WARSHIP สตาร์ทกันพี่เพลงจังหวะสนุก ๆ ฟังชิล ๆ กันก่อน ผลงานเก่า ๆ จาก P2WARSHIP ที่ใคร ๆ หลายคนคิดถึง อย่างเพลงนี้ ยิ่งกว่าเมาเหล้าก็ต้องเมารักนี่แหละ เพลงเศร้าที่ไม่ค่อยเศร้า แต่ฟังแล้วยิ่งชวนให้เราดำดิ่งลงไปในความรัก ฟังจบแล้วก็ได้แต่ปลงว่าพอได้รักแล้วมันก็เหมือนการกินเหล้า ที่เราจะต้องเมามายมันอยู่อย่างนั้น จนกว่าเราจะสร่างเองได้ในสักวัน น้ำค้าง – Desktop Error ชวนมาเมากันต่อแบบคนคูล ด้วยเพลงจากวงขวัญใจชาวอินดี้อย่าง Desktop Error เพลงนี้ดนตรีที่หนักหน่วงและเสียงร้องที่บางเบาแต่เนื้อเพลงที่โคตรจะเศร้า ชวนให้จมดิ่งลงไปในเพลง ฟังจบแล้วเมาดิบได้โดยไม่ต้องโดนสักแก้ว ดื่ม – SKALAXY ผลงานเก่า ๆ แบบมะจังกันอีกเพลง กับวง SKALAXY เจ้าของเพลงฮิตอย่าง “จิ๊กซอว์” ลองมาฟังเพลงเศร้า ๆ ของเขากันบ้าง