Entertainment

CONVERSATION WITH พี่สึด ‘โถชีวิตนักดนตรี’ ตัวตนที่แท้จริงของแอดมินเพจสังคมดนตรีอารมณ์ดี มีคุณภาพ

By: Chaipohn February 17, 2018

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งาน Facebook เยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หลายคนจึงเริ่มต้นสร้าง Facebook Page ขึ้นมาเพื่อรวบรวมแฟนเพจให้ได้เยอะที่สุด บางเพจสร้างขึ้นมาโดยตั้งใจแค่ให้มีคนติดตามเยอะ ๆ ไม่สนใจวิธีการ คุณภาพ หรือความถูกต้องอะไรทั้งนั้น ทำเอาคนส่วนใหญ่เอือมระอาไปตาม ๆ กัน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำแบบนั้น เพราะมีเพจคุณภาพดีอีกมากมาย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเพจที่เราเข้าไปอ่านเป็นประจำก็คือ “โถชีวิตนักดนตรี” เพจอารมณ์ดีที่รวมนักดนตรีจากทั่วสารทิศ ให้เข้ามาแชร์ประสบการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ ฮา ๆ บางครั้งก็เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือเพื่อนนักดนตรีที่ประสบปัญหา เรียกว่าเป็นเพจอารมณ์ดี มีประโยชน์ของจริง

คนที่เราต้องยกเครดิตให้ ในฐานะที่เป็นผู้สร้าง Community ชั้นดีแบบนี้ขึ้นมาได้ ก็คงต้องยกให้ฝีมือของ ‘พี่สึด’ นักดนตรีอารมณ์ดีเจ้าของเพจ เพราะเพจนั้นจะมีคาแรคเตอร์ยังไง ก็ต้องมาจากตัวตนของคนที่สร้างมันขึ้นมา แต่ไม่ง่ายเลยที่เราจะหาทางพูดคุยกับเค้าได้ เพราะพี่สึดไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่ไหนมาก่อน จนกระทั่งวันนึงความพยายามเริ่มออกผล เราได้มีโอกาสเชิญพี่สึดมาที่ออฟฟิศของ UNLOCKMEN เพื่อนั่งคุยกันเกี่ยวกับเพจของเค้า แม้เราจะตื่นเต้นที่ได้เห็นตัวจริงของพี่สึด แต่สิ่งที่เราได้เจอคือพี่สึดในหัวม้า เดินเข้ามาในออฟฟิศเราซะงั้น

เอาไงเอากัน เราจึงตัดสินใจ Interview พี่สึดในร่างม้าอาชาศึกซะเลย ไปทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของพี่สึด และความหมายของเพจ ‘โถชีวิตนักดนตรี’ เพจดี ๆ มีคุณภาพที่หาได้ยากในปัจจุบันกันเลยดีกว่า

เป็นคนลึกลับขนาดนี้ ถ้าให้แนะนำตัวจะแนะนำว่าอะไร

‘สวัสดีครับ เรียกผม ‘พี่สึด’ นั่นแหละครับ เป็นชื่อที่ ‘ชาวโถ’ (ลูกเพจ) เรียกกันจนติดปากไปแล้วครับ’

พี่สึดไม่ใช่ตัวตนจริง แล้ว ‘พี่สึด’ คือใครในโลกออนไลน์ เกิดขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อะไร

‘…….. (หลังจากคิดอยู่นาน)

เอาเป็นว่า ผมขอเป็นบุคคลลึกลับในวงการดนตรีละกันครับ เป็นพี่สึดที่จะคอยช่วยสร้างความสุขให้กับพี่ ๆ น้อง ๆ นักดนตรี หรือถ้ามีปัญหาอะไรที่เราช่วยได้ ก็ยินดีมากที่จะช่วยแบ่งเบาปัญหาเท่าที่เราจะทำได้ครับ’

อะไรดลใจให้สร้างเพจขึ้นมา

‘จุดเริ่มต้นจริง ๆ เกิดจากความนึกสนุก อยากเสียดสีวงการดนตรี อยากแอบด่าเพื่อนร่วมงานแบบเนียน ๆ อยากเอาปัญหาที่เจอในทุกวันตอนทำงานมาระบายเล่น ๆ ผ่านทางเพจ

ทีนี้พอเราบ่นไป ทำไป มันน่าจะไปตรงกับชีวิตและประสบการณ์ของนักดนตรีหลายคน ก็เลยมีการแชร์แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พูดคุยเล่นกัน และเริ่มติดตามเพจกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ถือว่าเป็นพรหมลิขิต ที่ทำให้เราได้มาพบเจอกันก็ไม่ผิด  ;)’

‘ให้นึกภาพง่าย ๆ ครับ สำหรับพวกเรานักดนตรี เรื่องการทำงานแล้วทุกคนจะได้ยินเองตอนที่เราขึ้นโชว์อยู่บนเวที หน้าที่หลักของเราคือซ้อมให้เยอะคิดให้เยอะ เพื่อให้งานออกมาดี เพจผมเป็นเหมือนพื้นที่ของนักดนตรีที่ลงจากเวทีครับ เป็นพื้นที่ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ มาแลกเปลี่ยนปัญหา มานั่งหัวเราะนั่งยิ้มมุมปากไปด้วยกัน นักดนตรีจะเป็นคนประเภทที่ด่ากันเล่นได้เพราะสุดท้ายเราก็ไหว้กัน เป็นสังคมที่น่ารักดีครับ เป็นพื้นที่ที่ต้องมีควบคู่กันไป’

เป็นนักดนตรีก็เท่ดี ทำไมต้องโถ! หรือนักดนตรีมีอุปสรรคอะไรที่คนทั่วไปไม่รู้

‘จริง ๆ ปัญหามันมีเยอะมากเลยนะ ทั้งปัญหาบนเวที ปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ปัญหากับคนรอบข้าง แต่อาจจะโชคดีที่เราทำงานด้านดนตรี เพราะเสียงดนตรีมันคือความสุข เสียงดนตรีทำให้พวกเราเป็นคนใจเย็น สบาย ๆ มองโลกในแง่ดีกันอยู่แล้ว พวกเราจึงไม่ค่อยสะสมเอาปัญหารอบตัวมาเป็นเรื่องใหญ่ เรามองมันเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่งในชีวิต เพราะยังไงสุดท้ายแล้ว เมื่อเราต้องขึ้นไปอยู่บนเวที เราก็ต้องพร้อมที่จะยิ้มและบรรเลงเสียงเพลงสร้างความสุขให้ทุกคนเหมือนเดิม ปัญหาทุกข์ใจอะไรเราก็ทิ้งมันเอาไว้ที่อื่น เหมือนเป็นชั่วขณะที่ทำให้เราลืมความทุกข์ได้ เพราะนี่คืองาน และเสียงดนตรีคือชีวิตของพวกเรา’

เป็น Community อารมณ์ดีแบบนี้ เคยเจอปัญหาจนอยากจะเลิกทำซะเลยบ้างไหม?

‘เคยเจอปัญหาหลายรูปแบบครับ แต่ยังไม่มีรูปแบบไหนทำให้รู้สึกอยากเลิกทำเพจ อาจจะเพราะเพจเราไม่ค่อยมีเรื่อง Commercial  อยู่แล้วด้วยมั้ง มันเป็น Community ในการพบปะพูดคุยกันมากกว่า พอได้เจอได้คุยกับเพื่อน ๆ ปัญหามันก็กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย

ปัญหาในช่วงแรกๆที่ผมไม่ค่อยสบายใจที่สุดเลยก็คือ เรื่องของการคัดกรองคนที่มีความคิดคล้ายๆกันให้มารวมอยู่ด้วยกันได้ โดยส่วนตัวผมเป็นคนค่อนข้างคิดบวก คิดฮา จะไม่ค่อยชอบดราม่าเท่าไหร่

การรวมคนที่คิดอะไรมันเหมือนๆกันเข้ามารวมตัวอยู่ด้วยกันได้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร นักดนตรีบางคนเห็นว่าเป็นเพจเกี่ยวกับดนตรี ก็เข้ามาคอมเม้นต์แบบนักดนตรีจ๋าเลย คอมเม้นต์โชว์เหนือโชว์เทพ มาเป็นนักวิชาการไปเลยก็มี เข้ามาแบบไม่ต้องเกรงใจไม่ต้องเคารพใครเลยก็มี’

ไม่เปิดเผยตัวแล้วจะดังได้ไง ถ้าคนให้ไปออกรายการ ออกงาน event จะใส่หน้ากากม้าตลอดไปหรือ?

‘ผมค่อนข้างจะมีความสุขกับการเป็นคนที่ไม่ต้องเป็นจุดสนใจมากนะ หลัก ๆ คือเพื่อที่จะได้กลมกลืนไปกับเพื่อนร่วมงาน และสังคมดนตรีในทุกแบบ แต่ละสังคมก็จะมีการวางตัวแตกต่างกันออกไป ผมก็จะชอบแอบไปแทรกซึม ล้วงความลับเอามาเป็น content ในเพจอยู่เรื่อย ๆ ถ้ามีคนเชิญไปออกงานจริง ๆ ผมก็คงไปในฐานะพี่สึดเวอร์ชั่นนี้แหละครับ ก็คงจะไม่ได้เปิดเผยตัวอะไร ไม่ซีเรียสครับ ทุกอย่างทำไปเพื่อความสุขล้วน ๆ’

เคยมีคนรู้ไหมว่าพี่สึดตัวจริงเป็นใคร?

‘จริง ๆ มีเยอะเลยครับ เพื่อนร่วมงานในวงการดนตรีส่วนใหญ่รู้กันเกือบหมด มันเกิดจากมีคนรู้คนแรกเพียงหนึ่งคน ซึ่งผมก็กำชับเป็นอย่างดีว่าอย่าไปบอกใครนะ จนทุกวันนี้เพื่อนร่วมงานใกล้ ๆ ตัวก็รู้กันหมดแล้วแหละครับ แต่โชคดีที่ทุกคนดูจะเก็บความลับกันเก่งมาก 555

แต่ยังไงผมก็ยังยืนยันคำเดิมครับ ว่ารู้แล้วก็เหยียบไว้อย่าไปบอกใคร เพราะมันจะทำให้การทำเพจโถฯ ของผมไม่สนุก จากคนที่เคยด่ากันเล่นในเพจ พอรู้ว่าเป็นผมทำเท่านั้นแหละ ไม่เข้ามาคอมเมนต์อีกเลย แถมเจอหน้าผมยังยกมือไหว้ขอโทษผมอีก บอกขอโทษที่หยอกแรงไปหน่อย ไม่อยากให้ใครหายไป อยากให้อยู่สนุกกันเหมือนเดิมแบบชาวโถเนอะ’

พี่สึดเล่นดนตีประเภทไหน ทำไมถึงเลือกเล่นมัน

‘ถ้าเป็นเครื่องดนตรีขออนุญาตไม่เปิดเผยครับ ส่วนแนวดนตรีที่เล่นและชอบมากจริงๆเลยก็จะเป็นพวก Soul,Funk,Jazz ครับ ชอบเพราะมันทำให้ผมต้องศึกษาต่อแบบไม่มีที่สิ้นสุด’

เคยไปเล่นงานใหญ่ที่สุดในชีวิตคืองานอะไร

‘เทศกาลดนตรี Sonic Bang ครับ งานนั้น Jason mraz มาด้วย ซึ่งส่วนตัวแล้วผมปลื้มเขามากๆ เป็นความทรงจำที่ดีครับ’

อนาคตของเพจและพี่สึดจะไปในทางไหนต่อ เป็นศูนย์กลางนักดนตรีไร้ค่าย? ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงอะไรให้นักดนตรีในสังคมไทย?

‘ก็คงทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆครับไม่ได้คาดหวังเรื่องการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ตอนนี้โลกและเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปตลอดเวลา จนบางทีรู้สึกว่าสังคมเดิม ๆ มันหายไป ผมแค่อยากให้สังคมน่ารัก ๆ แบบเดิมยังคงอยู่ไม่ตึงเครียดไปกับเทคโนโลยีและกาลเวลามากนัก พอถึงเวลาถ้ามีอะไรที่มันจะต้องเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริง ๆ ถ้าสังคมเราดีอยู่แล้วทุกอย่างมันก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีเองแหละครับ’

เทียบกับยุคก่อน พี่สึดคิดว่าช่องทางออนไลน์แบบในปัจจุบัน มีประโยชน์หรือมีโทษกับนักดนตรีมากกว่า? 

‘ส่วนตัวผมคิดว่าปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่เปิดกว้างมาก ๆ สำหรับนักดนตรี โดยเฉพาะคนที่มีผลงานและอยากแสดงตัวตนของตัวเองออกมา ตอนนี้ไม่ต้องรอแมวมองไม่ต้องรอค่ายเพลงเหมือนเมื่อก่อน เราสามารถสร้างฐานแฟนเพลงได้เอง โชว์ฝีมือลงพื้นที่สื่อโซเชียลส่วนตัวจนมีผู้ติดตามมากมาย หรือแม้กระทั่งสร้างคอนเสิร์ตเล็ก ๆ ของตัวเองก็ทำได้ไม่ยาก

ทุกวันนี้การเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ อยู่ที่ไอเดีย ความพยายาม และความสามารถล้วน ๆ เรื่องนี้ผมค่อนข้างให้เกียรติทุกคนนะ และผมก็รู้สึกเสมอว่าเขาคือศิลปินจริง ๆ’

จะแนะนำคนที่อยากเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จว่าอะไร

‘อันดับแรกต้องศรัทธาในสิ่งที่ทำก่อนเลย แล้วทุกอย่างจะค่อยๆตามมาเป็นขั้นเป็นตอนของมันเอง’ ดนตรีไม่มีทางลัด ถ้ารักเขาทุ่มเทให้เขา เขาก็ไม่ทรยศเรา ถ้าอยากประสบความสำเร็จให้ไปคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จ แล้วสิ่งที่เค้าแนะนำให้เรามาจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆพาเราไปสู่ความสำเร็จได้ เรียนรู้ไปให้สุด เพราะทุกสิ่งที่เรียนรู้มันเพิ่มคุณค่าในตัวเราและสามารถสร้างราคาให้งานของเรา ควรให้เกียรติทุกๆอาชีพ เพราะทุกอาชีพทำให้โลกเกิดสมดุลครับ’

‘เพจโถชีวิตแฟนนักดนตรี’ นี่เป็นแฟนกันจริงไหม

‘จริงๆเป็นอีกเพจของผมเองครับ 5555 สร้างไว้เล่นๆแต่ไม่มีเวลาทำเลยโอนให้น้องคนนึงไปดูแลแทน สร้างสังคมดนตรีฮาๆเพิ่มขึ้นอีกเพจครับ ที่สำคัญ ไม่ได้เป็นแฟนกันนะ’

คุยกันมาขนาดนี้แล้ว ในชีวิตถึงจุดนี้ ยังมีอะไรที่พี่สึดอยาก UNLOCK ตัวเองอีก

‘เราก็อยู่บนเส้นทางดนตรีมาขนาดนี้ สิ่งที่อยากทำคงเป็นการสร้างงานเพลงดี ๆ ทิ้งไว้ให้โลกจดจำครับ’

ก่อนพี่กลับไป อยากขอ playlist ในดวงใจของนักดนตรีอย่างพี่สึดสัก 5 เพลง

‘ได้เลยครับ จัดไปเอาที่นึกออกตอนนี้เลยละกัน ไม่ได้เรียงตามความชอบอะไรนะครับ แต่เป็น 5 เพลงที่ฟังบ่อยสุด ๆ คือ

A Beautiful mess – Jason Mraz

Fix you – Coldplay

Overjoyed – Stevie Wonder

Another brick in the wall – Pink Floyd

Sweetest love – Robin Thicke

 

 

 

 

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line