เรามักจะจดจำนักแสดงนำเมื่อมีชื่อของเขาโชว์หราอยู่บนโปสเตอร์ ใบหน้าอันแสนหล่อเหลา ความสมาร์ตที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหน หรือชื่อผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์อันชัดเจน สไตล์ภาพยนตร์ที่ใช่ ทั้งหมดนี้อาจเชิญชวนให้ใครสักคนเลือกหนังเรื่องนั้นขึ้นมาดู แต่จะมีสักกี่คนที่จดจำตัวประกอบและเลือกหนังเรื่องนั้นเพราะต้องการดูตัวประกอบคนนี้วาดลีลาการแสดง UNLOCKMEN ขอแนะนำเรื่องราวของ Steve Buscemi ตัวประกอบที่เราคุ้นหน้ากันดีในบทบาทของ Mr. Pink จาก Reservoir Dogs เราอาจเห็นเขาเป็นตัวประกอบหน้าตายียวนคนหนึ่ง แต่สำหรับผู้กำกับหลายคน เขาคือนักแสดงมากความสามารถชนิดที่สร้างบทขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีเขาในภาพยนตร์เรื่องนั้นกันเลย มาดูเรื่องราวของเขา กว่าจะก้าวเข้ามาเป็นตัวประกอบที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัว ตัวประกอบที่เราคุ้นเคย เชื่อว่าคอหนังคงคุ้นเคยใบหน้ายียวนอันเป็นเอกลักษณ์ของ Steve Buscemi ที่มักจะได้รับบทเป็นตัวประกอบที่มาสร้างสีสันให้กับเรื่องนั้น ๆ ด้วยคาแร็กเตอร์อันโดดเด่นอยู่เสมอ บทบาทที่ส่งให้เขากลายเป็นที่รู้จักมากที่สุดคงจะเป็น Mr. Pink จาก Reservoir Dogs ของผู้กำกับตัวแสบ Quentin Tarantino ต่อจากนั้นเรื่อยมา เขาก็ยังคงได้บทตัวประกอบ (ที่แสนจะโดดเด่น) ในภาพยนตร์ยอดฮิตอย่าง Pulp Fiction, Con Air, Fargo, Armageddon และอีกสารพัดหนังอินดี้รายชื่อยาวเป็นหางว่าว แต่สิ่งที่พีคที่สุดในชีวิตวงการจอเงินของเขาคงจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Trees Lounge ที่เขากำกับเอง เขียนบทเอง
คอเพลงป็อปพังก์มีหรือที่จะไม่คุ้นเคยกับเพลงของ Blink-182 ที่ไม่ว่าอัลบั้มไหนเป็นอันต้องมีเพลงฮิตติดหูเราอยู่เรื่อย ๆ เริ่มกันตั้งแต่ Cheshire Cat เมื่อปี 1994 ที่แม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงแต่ก็ยังซ่อนเพลงเจ๋ง ๆ เอาไว้อยู่หลายเพลง เรื่อยมาจนถึงอัลบั้มแจ้งเกิดอย่าง Enema of the State ปี 1999 ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องจดจำปกพยาบาลสุดจี๊ดจ๊าดนี้ได้ นำทัพด้วยเพลงฮิตอย่าง All The Small Things, Adam’s Song และ What’s My Age Again ต่อเนื่องความฮิตกันที่ Take Off Your Pants and Jacket ปี 2001 อย่างเพลง First Date เรื่อยมาจนถึงอัลบั้มล่าสุดอย่าง California แม้จะมีการสับเปลี่ยนสมาชิกในวงอยู่บ้างแต่วงก็ยังคงมีแฟนเหนียวแน่นอยู่เหมือนเดิม มารำลึกถึงความฮิตในวันวานสมัยขาสั้นเสื้อตัวโคร่งไปกับ 20 เพลงจาก Blink-182 ที่เราคัดมาให้ ทั้งเพลงฮิตติดหูและเพลง B-Side ที่อาจไม่คุ้นเคยแต่เราอยากแนะนำ ใครที่สะดวกฟังจาก Spotify เราจัด Playlist ไว้ให้แล้วแบบครบถ้วนทุกเพลง กด Play
ลองนึกถึงอะไรสักอย่างในภาพยนตร์ที่ทำให้เราจับตาดูซีนนั้นอย่างจดจ่อ ความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง การแสดงที่สะกดสายตา CG ตระการตา อีกอย่างที่สร้างเสียงฮือฮาและทำให้คนดูเฝ้าคอยคือฉาก Long Take เทคนิคการถ่ายแบบไม่คัต ใช้กล้องเดิม Run ไปเรื่อย ๆ หรือใช้เทคนิคการตัดต่อเข้ามาช่วยให้การเปลี่ยนฉากนั้นลื่นไหลยิ่งขึ้น UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาดื่มด่ำเทคนิคนี้กับ 5 หนังที่มีฉาก Long Take ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่ลื่นไหลไม่มีสะดุดจนอยากตามติดไปจนถึงจุดสิ้นสุดของซีนนั้น ๆ ให้ได้เลยเชียว แต่เราจะเฉลยไม่ได้ว่าฉาก Long Take นั้นอยู่ช่วงไหนของเรื่อง เพราะประเด็นสปอยล์หรือไม่สปอยล์มันช่างอ่อนไหวเหลือเกิน ก่อนจะไปดูทั้ง 5 เรื่อง ทำความเข้าใจกันก่อนว่า WATCHLIST เป็นคอนเทนต์แบ่งหนังกันดู เหมือนเพื่อนแชร์กัน ไม่ใช่เป็นการจัดอันดับหนังดีในดวงใจ ไม่จำเป็นต้องน้อยใจหากหนังโปรดในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ Children of Men (2006) Director : Alfonso Cuarón โรคระบาดในปี 2027 ที่คร่าชีวิตทารกทั่วโลกและทำให้ผู้หญิงกลายเป็นหมันกันหมด นั่นหมายความว่าโลกใบนี้จะไม่มีทารกอีกต่อไป ท่ามกลางความวุ่นวายของการเมือง สภาพสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมจนไม่อาจกู้คืนได้ ประเทศอังกฤษเป็นประเทศเดียวที่ยังคงยืนหยัดกับปัญหาเหล่านี้ได้ จนทำให้เหล่าผู้ลี้ภัยแห่แหนกันมาที่นี่ แต่พวกเขากลับไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีนัก ชีวิตของพวกเขาเป็นเพียงผักปลา จนเกิดกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลที่นำทีมโดย Julian
วงการดนตรีในแต่ละยุค มีจุดวัดความสำเร็จที่เปลี่ยนไปตามยุคนั้น ตั้งแต่ยุคล้านตลับจนมาถึงยุคล้านวิว ความสำเร็จที่เปลี่ยนแปลงหน้าตาอยู่เสมอทำให้เราไม่อาจมีสิ่งชี้วัดตายตัว สำหรับกลุ่มคนดนตรีอย่าง Summer Dress ผู้มองว่าตัวเองไม่ได้ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจเอาเสียเลย แต่ก็พอใจที่ตัวเองประสบความสำเร็จในด้านศิลปะแล้ว มีอัลบั้มของตัวเอง มีแฟนเพลงที่ร้องเพลงตามได้ มาพูดคุยกับพวกเขาในเรื่องราวเหล่านี้ไปพร้อมกันกับเรา เพราะบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนในวันนั้น เราจึงต้องนั่งพูดคุยกันในบ้านหนึ่งในสมาชิกของวง บ้านที่เป็นทั้งพื้นที่รวมตัว พูดคุย ทำกิจวัตรประจำวันและซ้อมดนตรีที่ห้องซ้อมด้านบน เราเลือกนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น สมาชิก Summer Dress นั่งพิงโซฟาตัวยาว ที่พอจะนั่งได้เกือบทั้งวง เรียงกันตั้งแต่ แน็ต กีต้าร์, โป้ว เบส, แปม กลอง, เต๊น ร้องนำ กีต้าร์ และ ปอนด์ คีย์บอร์ด แล้วเราเริ่มพูดคุยกันท่ามกลางเสียงหยาดฝนโปรยปรายและ Lullaby อ้อยอิ่งตามแรงลม About Summer Dress สมาชิกทั้งหมดเริ่มต้นวงดนตรีเหมือนวัยรุ่นคนอื่นที่อยากจะมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง รวมตัวกันตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้พวกเขามีความสนิทสนมในอินเนอร์ของเพื่อนที่เป็นเพื่อนในชีวิตจริง ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในวง (สังเกตได้จากการกวนตีนกันเองตลอดการพูดคุย) พวกเขายังคงชื่นชอบและรักในงานอดิเรกนี้ เพลงแพ้ทอมคงจะเป็นเพลงแรกที่เราได้ยินชื่อของพวกเขา จนกำเนิดอัลบั้มมาให้พวกเราได้ฟังแล้วถึงสองอัลบั้ม และกำลังจะมีอัลบั้มที่สามตามมาเร็ว ๆ นี้ โป้ว: เล่นด้วยกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนดุริยางค์ ศิลปากรด้วยกัน ตอนแรกมีเต๊น มีผม มีแน็ต แล้วก็เพื่อนอีกคน
“หวามไหว” ดูไม่ใช่คำศัพท์ที่ผู้ชายอย่างเราจะยกมาใช้ได้บ่อยในชีวิตประจำวัน แต่ละเช้าเราตื่นมาเพื่อทำงานหนัก ตกเย็นสังสรรค์เพื่อพักผ่อน ก่อนจะกลับห้องเพื่อหลับไปแล้วตื่นมาทำกิจวัตรเดิม ๆ วนย้ำซ้ำเก่า “หวามไหว” จึงไม่ใช่คำที่เราจะได้ใช้และอาจถึงขั้นลืมไปแล้วว่าคำนี้มันมีความหมายแบบไหน ชวนให้รู้สึกอย่างไร UNLOCKMEN อาสากระตุกความวาบหวามในหัวใจ กระตุ้นความหวั่นไหวในร่างกายผู้ชายด้วยวรรณกรรมอีโรติก 7 เล่มสุดเย้ายวนรัญจวนใจที่เราชวนอ่านเพื่อเสพเรื่องราว ดื่มด่ำภาษาที่งดงามราวกับมีมนตร์สะกด ที่สำคัญเนื้อหาชวนสุขสมจนผู้ชายอ่านเมื่อไหร่เป็นต้องตื่นทั้งตัวและหัวใจ เนินนางวีนัส Anaïs Nin เนินนางวีนัส แปลจากหนังสือ: Delta of Venus ผู้เขียน: Anaïs Nin ผู้แปล: รังสิมา ตันสกุล สำนักพิมพ์: Library House เซ็กซ์สำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ ไม่ใช่เรื่องลึกลับดำมืดขนาดนั้น แต่จินตนาการดูสิว่าช่วงทศวรรษที่ 1940 ช่วงที่เรื่องราวเซ็กซี่ เย้ายวน ยังไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ ก็พูดถึงได้ขนาดนั้น ความน่าค้นหามันจะยิ่งเพิ่มความรัญจวนเป็นกี่เท่า ? อนาอิส นิน นักเขียนหญิงสายเลือดสเปน ฝรั่งเศส และเดนมาร์ค เขียนเรื่องสั้นเล่มนี้ขึ้นในช่วงทศวรรษ 1940 โดย ณ
มาถึงตอนที่ 2 กันแล้วสำหรับซีรีส์ 2019 Oscars Predictions ของ UNLOCKMEN หลังจากตอนที่แล้วเราได้ฟันธงลงความเห็นไปแล้วว่านักแสดงนำชายที่จะคว้าตุ๊กตาทองไปนอนกอดในปีนี้คือ Christian Bale ที่ยอมลงทุนเพิ่มน้ำหนักหลายสิบปอนด์เพื่อรับบท Dick Cheney อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ใครที่ยังไม่ได้อ่านบทวิเคราะห์ของเราสามารถย้อนไปอ่านได้ที่ 2019 OSCARS PREDICTIONS: ช็อตต่อช็อต นักแสดงนำชายออสการ์ใครจะคว้าตุ๊กตาทองไปครอง ส่วนตอนนี้เราจะพูดถึงรางวัลนักแสดงนำหญิงกันบ้าง ด้วยข้อมูลที่มากขึ้น เพราะล่าสุด Golden Globe รางวัลที่เปรียบเสมือนออสการ์ของฝั่งอังกฤษได้ประกาศผลออกมาเรียบร้อยแล้ว ภาพของ 5 นักแสดงหญิงที่มีลุ้นเข้าชิงตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำหญิงจึงค่อนข้างชัดเจนขึ้น แต่จะมีใครกันบ้าง และใครจะเป็นผู้ชนะ ไปอ่านบทวิเคราะห์จากเราได้เลย Emily Blunt – Mary Poppins Returns นักแสดงสาวเจ้าบทบาทจาก The Devil Wears Prada และ Edge of Tomorrow ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังกับการรับบทบาทเป็นตัวละครที่ทุกคนคิดถึงอย่าง Mary Poppins ในภาพยนตร์เรื่อง Mary Poppins Returns ซึ่งถือว่าเป็นภาคต่อจาก Mary Poppins ในปี 1964 ภาพยนตร์ระดับตำนานที่กวาดรายได้มหาศาลในยุคนั้น Emily Blunt สานความยอดเยี่ยมของ Julie Andrews Mary Poppins คนก่อนได้อย่างไร้รอยต่อ เธอแสดงให้เห็นว่าตัวละครพี่เลี้ยงผู้มีเวทมนตร์คนนี้เป็นตัวละครที่ไร้กาลเวลา เรียกว่าแทบจะแบกหนังทั้งเรื่องไว้บนบ่า เอาเป็นว่าทุกคนที่ได้ดู Mary
เอ่ยชื่อ Tim Burton ขึ้นมา ความดาร์กก็เข้าปกคลุม (เหมือนสภาพอากาศในตอนนี้ไม่มีผิด) ความแฟนตาซีของตัวละคร คาแร็กเตอร์อันแปลกประหลาด เข้ามาสร้างสีสันในฉากอันหม่นหมอง ทำให้ภาพยนตร์ของเขามัน Weird มากขึ้น จนเราติดภาพว่ามันเป็น Trademark ของเขาไปแล้ว ภายใต้ความแฟนตาซีแบบดาร์ก ๆ เหล่านั้น ยังมีเรื่องราวพลังบวกและข้อคิดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอย่างแยบยล UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาเสพความดาร์กของหนัง Tim Burton 5 เรื่องที่เราคัดมาให้ Big Fish (2003) Will Bloom (Billy Crudup) ผู้เบื่อหน่ายพ่อตัวเองเต็มที เพราะ Edward Bloom (Albert Finney/Ewan McGregor) ผู้เป็นพ่อนั้นชื่นชอบการเล่าเรื่องในวันวาน สมัยที่เขายังเป็นหนุ่มแน่น แต่เรื่องราวเหล่านั้นช่างแฟนตาซีจนเกินที่จะเชื่อว่ามันคือความจริง ผู้คนที่ได้ฟังต่าง Hype ไปกับเรื่องราวเหล่านั้นหมด ยกเว้นลูกชายอย่าง Will นี่แหละ ที่ไม่เคยเชื่อว่าพ่อของเขาจะมีชีวิตวันวานที่แฟนตาซีขนาดนั้น จนถึงขั้นที่อยากจะพิสูจน์ความจริงกับสิ่งที่พ่อเขาเล่าให้ฟัง เพราะอยากจะให้พ่อของเขาเลิกโม้เสียที มาดูกันว่าสุดท้ายแล้วไอ้ที่พ่อเขาโม้ ๆ ไว้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโม้กันแน่ Edward
การฟังเพลงมันเป็นกิจกรรมที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตอนก่อนนอน จริง ๆ ช่วงก่อนนอนก็เป็นเวลายอดฮิตของคนรักการฟังเพลงเหมือนกัน ถ้าหากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ได้เพลงเคลิ้ม ๆ มาบำบัดอารมณ์ให้รู้สึกพร้อมเข้าภวังค์ก็คงจะดีไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่นอนไม่หลับ การฟังเพลงก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้เข้าสู่ห้วงนิทราได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนหลับยาก หลับง่าย หรือคอเพลงหรือไม่ก็ตาม ลองกล่อมตัวเองด้วย Bedroom Pop ที่จะมาขับกล่อมคืนนี้ให้ล่องลอยเข้าสู่ห้วงนิทรา PLAYLIST นี้กันได้ เผื่อจะติดใจการฟังเพลงก่อนนอนเหมือนกับเรา สำหรับใครที่สะดวกฟังบน Spotify ตามไป Follow Playlist ของเราได้เหมือนเดิม Still Woozy – Habit Clairo – Heaven Ralph Castelli – Thinking On My Own Ralph Castelli – Shot Down Omar Apollo – Erase Mac DeMarco – Still Beating
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้สตรีมมิ่งออนไลน์อย่าง ‘Netflix’ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้ว ด้วยจำนวนคอนเทนต์มากมายที่มีให้เลือกเสพ จนบางครั้งเราอาจลืมเพื่อนเก่าอย่างรายการโทรทัศน์ไปเสียสนิท และเมื่อพูดถึง Netflix แน่นอนว่าทุกคนคงต้องนึกถึงซีรีส์หรือละครชุดที่หลายเรื่องโด่งดังจนกลายเป็น Talk of the Town ไม่ว่าจะเป็น Stranger Things, Narcos, Black Mirror และอีกมากมาย แต่จริง ๆ แล้วใน Netflix ยังมีคอนเทนต์อีกประเภทที่หลายคนมองข้าม นั่นก็คือ ‘แอนิเมชั่นญี่ปุ่น’ แม้ช่วงแรกจำนวนแอนิเมชั่นจะมีน้อยมาก แต่ตอนนี้ Netflix ซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาเพิ่ม รวมถึงการออกทุนสร้างเป็น Original Netflix เองด้วย จนตอนนี้จำนวนแอนิเมชั่นก็มีมากจนตามดูไม่ทันแล้ว ในจำนวนแอนิเมชั่นมากมายนี้ เรื่องไหนสนุกคุ้มค่าที่จะเสียเวลาดูบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำทุกคนเอง กับ 5 แอนิเมชั่นญี่ปุ่นโคตรสนุก หาดูได้ง่าย ๆ บน Netflix Baki ปัจจุบัน 1 ซีซั่น 13 ตอน เชื่อว่าผู้ชายทุกคนที่เกิดในยุค 80-90 น่าจะรู้จักมังงะบ้าพลังในตำนานอย่าง ‘บากิ’ เป็นอย่างดี เพราะนี่คือมังงะสายต่อสู้เพียว ๆ
สำหรับปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีที่วงการดนตรีมีความคึกคักมากกว่าปกติ ทั้งศิลปินที่ห่างหายไปนานได้กลับเข้าสตูดิโอเข็นอัลบั้มใหม่แกะกล่องออกมาให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึง หรือแม้แต่ศิลปินที่มีผลงานในขณะนั้นก็ไม่ยอมแพ้ ปล่อยเพลงใหม่ ๆ ออกมาเรียกเสียงฮือฮาเช่นกัน แต่อะไรจะเรียกเสียงฮือฮาได้เท่าการกลับมาของเทศกาลดนตรีเกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งแต่เป็นที่จดจำตลอดไปอย่าง Woodstock 1969 เมื่อ The Bird Of Peace กลับมาโบยบินอีกครั้งหลังจากห่างหายไปถึง 50 ปี มาดูความยิ่งใหญ่ของเทศกาลดนตรีครั้งนี้เมื่อในอดีต The Bird Of Peace เมื่อปี 1969 ช่วงกลางเดือนสิงหาคม Woodstock Music & Art Fair ได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยความตั้งใจของสี่หัวหอกอย่าง Artie Kornfeld, Michael Lang, John Roberts และ Joel Rosenman ผืนแผ่นดินเขียวชอุ่มกว่า 600 เอเคอร์ในฟาร์มของนาย Max Yasgur ณ เมือง Bethel, NY ถูกใช้เป็นพื้นที่ตั้งเวทีและรองรับคนดูที่ต้องตั้งแคมป์สำหรับการกินนอนที่นี่ถึงสามวันสามคืน พื้นที่สำหรับการดื่มด่ำเสียงดนตรีแบบใกล้ชิด
ชีวิตวัยรุ่นของแต่ละคนอาจมีรสชาติที่แตกต่างกันไป อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนตอนนี้สักนิดก็ได้ บางคนเป็นเด็กเนิร์ดไม่สนใจใคร บางคนเป็นเด็กแสบซ่า หัวโจกของกลุ่มเพื่อน บางคนเป็นหนุ่มฮ็อตที่สาว ๆ พร้อมใจกันเข้าหาแบบไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มแบบไหนมาก่อน ลองกลับไปสัมผัสชีวิตวัยคะนองไปพร้อมเราใน 5 ซีรีส์ชีวิตวายป่วงของชาว TEENAGER ที่จะกลับมาปลุกความทรงจำของเราในสมัยกางเกงขาสั้นแบบครบทุกรสชาติ ทั้งหนุ่มเนิร์ด หนุ่มแสบ หนุ่มฮ็อต มีพร้อมให้ได้เลือกดูตามความชอบหรือตามคาแร็กเตอร์ของตัวเองในสมัยวัยกระเตาะ อาจไม่เชิงเป็น Coming Of Age แบบเต็มตัวนัก แต่รับประกันความวายป่วงของแต่ละเรื่องที่เราคัดมาให้ ว่าเด็กเหล่านี้แสบไม่แพ้เราในสมัยวัยรุ่นเช่นกัน American Vandal เปิดซีซั่นแรกด้วยเจ้าโลกแบบเต็มตา แต่เป็นเจ้าโลกที่ถูกพ่นอยู่บนรถของอาจารย์โรงเรียนมัธยม Hanover คันแล้วคันเล่าที่โดนประทับตราเจ้าโลกสีแดงเด่นเต็ม ๆ คัน ต้องมีใครสักคนที่รับผิดชอบเรื่องราวน่าขายหน้านี้ และทุกอย่างก็ชี้มาที่ Dylan Maxwell เด็กแสบประจำโรงเรียน ที่แสบทั้งผลการเรียนและพฤติกรรม ผลคือเจ้าหนูโดนเด้งออกจากโรงเรียนไป แต่กลับมีกลุ่มนักเรียนที่เชื่อว่าทุกอย่างมันช่างเหมาะเหม็ง เจาะจงลงไปที่ Dylan แบบผิดสังเกต จึงสวมวิญญาณนักสืบ หาต้นตอความผิดปกติของเรื่องนี้และเพื่อพิสูจน์ว่าไอ้เด็กแสบ Dylan กลายเป็นแพะแบบเต็ม ๆ Elite คอซีรีส์ไฮสกูลอย่าได้พลาดเรื่องนี้ เรื่องราวโรงเรียนไฮโซของสังคมชั้นสูงอย่าง Las Encinas จะได้เห็นเรื่องราวเสียดสีของสังคมคนรวย การเหยียดชนชั้น หรือแม้แต่เชื้อชาติ ครบรสชีวิตวัยรุ่นเลือดร้อน
เวลาเราซุ่มทำบางอย่าง กลั่นกรองความคิดให้มันตกตะกอนออกมาเป็นไอเดียที่เข้าท่า ลงมือทำด้วยทักษะที่เรามี แต่พอถึงเวลาที่ต้องงัดของมาเรียกแขก มักมองไม่เห็นลู่ทางที่ชัดเจนหรือแตกต่างจากสิ่งเดิม ๆ มากนัก ได้แต่เดินทางเดิม ตามสิ่งที่คนอื่นเคยทำมาแล้ว จนของที่เราตั้งใจทำกลายเป็นของที่จมอยู่ท่ามกลางของชิ้นอื่น ไม่มีวี่แววที่จะโดดเด่นขึ้นมาได้ แต่เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับ “คุณวิน – วินัย กิจเจริญจิรานนท์” ที่มองลู่ทางในการนำเสนอผลงานของตัวเองในรูปแบบอื่น ๆ ในคติที่ว่า “กล้าทำก็กล้าขาย” กับผลงานเพลง Nerd Pop ของเขาในชื่อ “The Dumbs” เมื่อทุกอย่างที่สร้างมาด้วยสมอง ทำไมเราถึงไม่กล้าขายด้วยสองมือของเรา พูดคุยกับเขาในประเด็นการมองหาโอกาสและลงมือทำในสิ่งที่รักในตอนที่ยังมีเวลา เห็นชื่อ Garage มาอาจมองหาเรื่องราวดนตรีเน้น ๆ แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องราวการทำเพลงเพียงเท่านั้น เพิ่มโฟกัสเรื่องความพยายามในการทำเพลงแบบไม่มีค่าย หรือแม้แต่ทำการตลาดด้วยตัวเองด้วย คุณวิน ทำงานเป็น Content Creator เพจ TypeThai ไม่ได้มีดนตรีเป็นอาชีพหลักมาตั้งแต่แรก เป็นเพียงแค่งานอดิเรก แต่เขาเลือกที่จะทำมันในตอนที่เขายังมีโอกาส เขาลงมือทำสิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในใจอย่างดนตรี ออกมาเป็น “The Dumbs” ที่มี 5 แทร็กออกมาให้เราได้ฟังกัน จากคนฟังเปลี่ยนเป็นคนทำดนตรี ตอนทำเพลงเองคนเดียวเนี่ย ส่วนมากได้แรงบันดาลใจจากไหน ? “โดยส่วนตัวชอบดนตรีอยู่แล้ว แต่ส่วนมากจะเป็นคนฟัง บวกกับเล่นดนตรีได้นิดหน่อย