เจ้าของใบหน้าทรงเสน่ห์ที่มาพร้อมร้อยยิ้มมุมปากอย่าง “Brad Pitt” ที่กาลเวลาไม่อาจทำอะไรความหล่อเหลาของพี่เขาได้เลย แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในวัย 55 ปีแล้วก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่ Appearance เท่านั้นที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ใหญ่ของวงการฮอลลีวูด แต่การแสดงและบทบาทที่ได้รับ ยิ่งเป็นคำตอบของศักยภาพที่มีในตัวเขาได้แบบไม่มีข้อกังขา อย่างที่เราคุ้นเคยในเรื่อง Fight Club, Se7en และ Inglourious Basterds อันโด่งดัง เขาตีบทดราม่าและยียวนได้แตกกระจุย UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาดู 5 หนังดราม่าหลากรส มีทั้งรัก เศร้า แอ็กชั่น Sci-Fi แบบครบรส ก่อนจะไปดูทั้ง 5 เรื่อง ทำความเข้าใจกันก่อนว่า WATCHLIST เป็นคอนเทนต์แบ่งหนังกันดู เหมือนเพื่อนแชร์กัน (จึงจำกัดอยู่ที่จำนวน 5 เรื่อง) ไม่ใช่เป็นการจัดอันดับหนังดีในดวงใจ ไม่จำเป็นต้องน้อยใจหากหนังโปรดในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ Babel (2006) Director : Alejandro G. Iñárritu เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับ 21 Grams บ่อยมาก ๆ
จากข่าวลือภายใต้โปรเจค Code-named ‘Greenbrier’ ว่าเป็นความเคลื่อนไหวของภาคต่อ Breaking Bad ที่หลายคนลุ้นอยู่หลายสัปดาห์ ตอนนี้มีข่าวดียืนยันชัดเจนว่าอภิมหาซีรีส์กำลังจะกลับมาจริง ในรูปแบบของเนื้องเรื่องตอนเดียวจบความยาว 2 ชั่วโมง ที่แม้ตอนนี้จะไม่แน่ชัดว่าเป็นภาพยนตร์จอใหญ่ หรือซีรีส์ตอนยาว แต่ที่แน่ ๆ มีความน่าตื่นเต้นจากรายชื่อ Casting ว่าจะมีการกลับมาของตัวละครเบอร์ใหญ่ในซีรีส์ทั้ง Walter White (Bryan Cranston), Jesse Pinkman (Aaron Paul), Jane Margolis (Krysten Ritter) หลังหายดีใจที่จะได้เห็น Mr. White กลับมา หลายคนอาจจะดูรายชื่อและเอะใจขึ้นได้ว่า จะกลับมาได้ยังไง ในเมื่อทั้ง Mr. White และ Jane แฟนสาวของ Pinkman ถึงแก่กรรมไปกันหมดแล้วทั้งคู่ ทำให้คาดเดาได้ยากว่าเนื้อเรื่องของ Breaking Bad เวอร์ชั่นล่าสุดจะเป็นอย่างไร ข้อมูลที่ได้จากนักเขียนและผู้สร้าง Vince Gilligan ยืนยันได้เพียงว่าเนื้อเรื่องจะโฟกัสที่ Jesse Pinkman และการหนีเอาตัวรอดไปประเทศ Maxico
มาถึงตอนที่ 3 กันแล้วสำหรับซีรีส์ 2019 Oscars Predictions ซึ่งผลทำนายของเราก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ เพราะ 2 ตอนที่ผ่านมาเราเขียนก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิง ซึ่งทั้ง 2 สาขาเราทำนายพลาดไปแค่สาขาละชื่อเท่านั้น ส่วนผู้ชนะที่เราทำนายไปจะแม่นยำหรือไม่ต้องรอติดตาม (ย้อนอ่านตอนที่ 1-2 ของซีรีส์ 2019 Oscars Predictions ได้ตามลิงก์นี้เลย นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม) ใน 2 ตอนก่อนหน้าเราได้วิเคราะห์และทำนายผลในสาขานักแสดงไปแล้ว คราวนี้มาถึงอีกหนึ่งสาขาที่สำคัญไม่แพ้กัน ไม่สิ อาจจะสำคัญยิ่งกว่าด้วยซ้ำ เพราะนี่คือรางวัลที่มอบให้ผู้ที่อยู่จุดศุนย์กลางของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ เอาล่ะ ผู้เข้าชิงทั้ง 5 ในสาขา ‘ผู้กำกับยอดเยี่ยม’ ในปีนี้จะมีใครกันบ้าง และใครจะคว้ารางวัลออสการ์ครั้งที่ 91 ไปครอง เชิญอ่านบทวิเคราะห์จาก UNLOCKMEN ได้เลย Pawel Pawlikowski – Cold War กลับมาสู่พรมแดงออสการ์อีกครั้งสำหรับผู้กำกับชาวโปแลนด์วัยเกษียณอย่าง Pawel Pawlikowski ที่เขาเคยประกาศศักดาบนเวทีแห่งนี้มาแล้วด้วยการคว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเรื่อง ‘Ida’ เมื่อปี 2017 การกลับมาครั้งนี้ของเขาถือว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เพราะ ‘Cold War’
ความทรงจำที่หลั่งไหลอยู่ในหัวของเรา สำหรับเรื่องที่ไม่สลักสำคัญอะไร อาจจะกระจัดกระจายไม่ปะติดปะต่อ แต่เรื่องที่มันชัดเจนอยู่ในใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประทับใจหรือสะเทือนใจ มันจะถูกเรียงไว้เหมือนแฟ้มคนไข้ในโรงพยาบาลที่ถูกเรียงลำดับไว้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเราก็ยังคงจำมันได้เสมอแม้เวลาจะผ่านมานาน UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาดูหนัง 5 เรื่องที่เล่นเกี่ยวกับความทรงจำอันแสนพิศวงนี้กัน ก่อนจะไปดูทั้ง 5 เรื่อง ทำความเข้าใจกันก่อนว่า WATCHLIST เป็นคอนเทนต์แบ่งหนังกันดู เหมือนเพื่อนแชร์กัน ไม่ใช่เป็นการจัดอันดับหนังดีในดวงใจ ไม่จำเป็นต้องน้อยใจหากหนังโปรดในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ Memento (2002) Director : Christopher Nolan เมื่อคุณตื่นมาพร้อมกับ Clue มากมาย แต่คุณไม่อาจรู้ได้เลยว่าสิ่งไหนคือเรื่องจริง เช่นเดียวกับ Leonard (Guy Pearce) ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมคำใบ้ปริศนามากมายรอบตัวของเขา ทั้ง Note รอยสัก เบอร์โทรศัพท์ ที่เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันปะติดปะต่อกันอย่างไร เขาพยายามอย่างมากในการลำดับเรื่องราวทั้งหมดด้วยข้อมูลที่มี แต่โชคร้ายตรงที่เขามีความทรงจำแค่สั้น ๆ เท่านั้น ทำให้ทุกอย่างยิ่งยากเข้าไปใหญ่ การเล่าเรื่องราวจะเป็นไทม์ไลน์ของภาพสีและขาวดำ อันนี้แนะนำให้ไปดูเอาเองสนุกกว่า ถ้าบอกตอนนี้เลยเข้าข่ายสปอยล์แน่นอน ถือเป็นผลงานยอดนิยมอีกเรื่องของ Nolan บทดั้งเดิมที่ได้ฝีมือการเขียนของน้องชายของเขาเอง เรื่องนี้ขึ้นชื่อเรื่องความมึนงง แนะนำให้ตั้งใจดูและเก็บรายละเอียดเรื่องนี้แบบถี่ถ้วน แล้วจะอึ้งไปกับความจีเนียสของเขา
เรามักจะจดจำนักแสดงนำเมื่อมีชื่อของเขาโชว์หราอยู่บนโปสเตอร์ ใบหน้าอันแสนหล่อเหลา ความสมาร์ตที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหน หรือชื่อผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์อันชัดเจน สไตล์ภาพยนตร์ที่ใช่ ทั้งหมดนี้อาจเชิญชวนให้ใครสักคนเลือกหนังเรื่องนั้นขึ้นมาดู แต่จะมีสักกี่คนที่จดจำตัวประกอบและเลือกหนังเรื่องนั้นเพราะต้องการดูตัวประกอบคนนี้วาดลีลาการแสดง UNLOCKMEN ขอแนะนำเรื่องราวของ Steve Buscemi ตัวประกอบที่เราคุ้นหน้ากันดีในบทบาทของ Mr. Pink จาก Reservoir Dogs เราอาจเห็นเขาเป็นตัวประกอบหน้าตายียวนคนหนึ่ง แต่สำหรับผู้กำกับหลายคน เขาคือนักแสดงมากความสามารถชนิดที่สร้างบทขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีเขาในภาพยนตร์เรื่องนั้นกันเลย มาดูเรื่องราวของเขา กว่าจะก้าวเข้ามาเป็นตัวประกอบที่ใคร ๆ ก็ต้องการตัว ตัวประกอบที่เราคุ้นเคย เชื่อว่าคอหนังคงคุ้นเคยใบหน้ายียวนอันเป็นเอกลักษณ์ของ Steve Buscemi ที่มักจะได้รับบทเป็นตัวประกอบที่มาสร้างสีสันให้กับเรื่องนั้น ๆ ด้วยคาแร็กเตอร์อันโดดเด่นอยู่เสมอ บทบาทที่ส่งให้เขากลายเป็นที่รู้จักมากที่สุดคงจะเป็น Mr. Pink จาก Reservoir Dogs ของผู้กำกับตัวแสบ Quentin Tarantino ต่อจากนั้นเรื่อยมา เขาก็ยังคงได้บทตัวประกอบ (ที่แสนจะโดดเด่น) ในภาพยนตร์ยอดฮิตอย่าง Pulp Fiction, Con Air, Fargo, Armageddon และอีกสารพัดหนังอินดี้รายชื่อยาวเป็นหางว่าว แต่สิ่งที่พีคที่สุดในชีวิตวงการจอเงินของเขาคงจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Trees Lounge ที่เขากำกับเอง เขียนบทเอง
คอเพลงป็อปพังก์มีหรือที่จะไม่คุ้นเคยกับเพลงของ Blink-182 ที่ไม่ว่าอัลบั้มไหนเป็นอันต้องมีเพลงฮิตติดหูเราอยู่เรื่อย ๆ เริ่มกันตั้งแต่ Cheshire Cat เมื่อปี 1994 ที่แม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงแต่ก็ยังซ่อนเพลงเจ๋ง ๆ เอาไว้อยู่หลายเพลง เรื่อยมาจนถึงอัลบั้มแจ้งเกิดอย่าง Enema of the State ปี 1999 ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องจดจำปกพยาบาลสุดจี๊ดจ๊าดนี้ได้ นำทัพด้วยเพลงฮิตอย่าง All The Small Things, Adam’s Song และ What’s My Age Again ต่อเนื่องความฮิตกันที่ Take Off Your Pants and Jacket ปี 2001 อย่างเพลง First Date เรื่อยมาจนถึงอัลบั้มล่าสุดอย่าง California แม้จะมีการสับเปลี่ยนสมาชิกในวงอยู่บ้างแต่วงก็ยังคงมีแฟนเหนียวแน่นอยู่เหมือนเดิม มารำลึกถึงความฮิตในวันวานสมัยขาสั้นเสื้อตัวโคร่งไปกับ 20 เพลงจาก Blink-182 ที่เราคัดมาให้ ทั้งเพลงฮิตติดหูและเพลง B-Side ที่อาจไม่คุ้นเคยแต่เราอยากแนะนำ ใครที่สะดวกฟังจาก Spotify เราจัด Playlist ไว้ให้แล้วแบบครบถ้วนทุกเพลง กด Play
หนังแอ็กชั่นความสนุกของมันอยู่ที่เรื่องราวของการได้ไล่ล่า หลบหนี ลี้ภัย เลยทำให้พล็อตยอดฮิตอย่างการหนีออกมาจากที่ไหนสักที่อย่าง คุกมหาโหด โรงพยาบาลสุดเพี้ยน เกาะนรก โรงงานหุ่นยนต์ อะไรพวกนี้ยังคงมีความสนุกที่ได้วางแผน หลบหนี และที่สำคัญคืออย่าให้ถูกจับได้ หากวันนี้ยังไม่มีหนังในใจ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังชวนหนีสุดมันส์ ให้เราได้ลุ้นกันว่าจะพ้นเงื้อมือของอีกฝั่งได้หรือไม่ The Next Three Days (2010) Director : Paul Haggis เมื่อเมียรักติดคุกไปด้วยการเป็นแพะรับบาปจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด John Brennan (Russell Crowe) ผู้ที่เชื่อว่าภรรยาของเขาเป็นแพะในเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสืบต้องเห็นเมียเดินเข้าตารางไป เขาจึงไม่อาจอยู่เฉย ๆ รอวันพ้นโทษได้ เขาจึงเริ่มวางแผนอันแยบยล หาทางพาภรรยาสุดที่รักให้รอดพ้นจากวังวนคนกลายเป็นแพะนี้ให้ได้ แม้เนื้อเรื่องจะดูน้ำเน่า แต่ถ้าได้ดูจริง ๆ หนังเอาคนดูอยู่มาก แผนของพระเอกแม้จะดูตื้นเขินแต่มันจะมีประโยชน์ในทุกครั้ง เพราะนั่นคือแผนที่คิดมาแล้ว มาช่วยกันลุ้นว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะสามารถพาภรรยาสุดที่รักหนีออกมาได้หรือไม่ Cool Hand Luke (1967) Director : Stuart Rosenberg หลังจากเข้าคุกไปเพราะความห้าวของตัวเอง Luke (Paul Newman) ก็ยังคงความห้าวไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ดูกันแล้วอาจจะคิดว่าถ้าทำตัวแบบนี้ไปตลอดแม่งต้องทำให้เขาโดนตีนเข้าแน่ ๆ
ลองนึกถึงอะไรสักอย่างในภาพยนตร์ที่ทำให้เราจับตาดูซีนนั้นอย่างจดจ่อ ความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง การแสดงที่สะกดสายตา CG ตระการตา อีกอย่างที่สร้างเสียงฮือฮาและทำให้คนดูเฝ้าคอยคือฉาก Long Take เทคนิคการถ่ายแบบไม่คัต ใช้กล้องเดิม Run ไปเรื่อย ๆ หรือใช้เทคนิคการตัดต่อเข้ามาช่วยให้การเปลี่ยนฉากนั้นลื่นไหลยิ่งขึ้น UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาดื่มด่ำเทคนิคนี้กับ 5 หนังที่มีฉาก Long Take ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่ลื่นไหลไม่มีสะดุดจนอยากตามติดไปจนถึงจุดสิ้นสุดของซีนนั้น ๆ ให้ได้เลยเชียว แต่เราจะเฉลยไม่ได้ว่าฉาก Long Take นั้นอยู่ช่วงไหนของเรื่อง เพราะประเด็นสปอยล์หรือไม่สปอยล์มันช่างอ่อนไหวเหลือเกิน ก่อนจะไปดูทั้ง 5 เรื่อง ทำความเข้าใจกันก่อนว่า WATCHLIST เป็นคอนเทนต์แบ่งหนังกันดู เหมือนเพื่อนแชร์กัน ไม่ใช่เป็นการจัดอันดับหนังดีในดวงใจ ไม่จำเป็นต้องน้อยใจหากหนังโปรดในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ Children of Men (2006) Director : Alfonso Cuarón โรคระบาดในปี 2027 ที่คร่าชีวิตทารกทั่วโลกและทำให้ผู้หญิงกลายเป็นหมันกันหมด นั่นหมายความว่าโลกใบนี้จะไม่มีทารกอีกต่อไป ท่ามกลางความวุ่นวายของการเมือง สภาพสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมจนไม่อาจกู้คืนได้ ประเทศอังกฤษเป็นประเทศเดียวที่ยังคงยืนหยัดกับปัญหาเหล่านี้ได้ จนทำให้เหล่าผู้ลี้ภัยแห่แหนกันมาที่นี่ แต่พวกเขากลับไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีนัก ชีวิตของพวกเขาเป็นเพียงผักปลา จนเกิดกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลที่นำทีมโดย Julian
วงการดนตรีในแต่ละยุค มีจุดวัดความสำเร็จที่เปลี่ยนไปตามยุคนั้น ตั้งแต่ยุคล้านตลับจนมาถึงยุคล้านวิว ความสำเร็จที่เปลี่ยนแปลงหน้าตาอยู่เสมอทำให้เราไม่อาจมีสิ่งชี้วัดตายตัว สำหรับกลุ่มคนดนตรีอย่าง Summer Dress ผู้มองว่าตัวเองไม่ได้ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจเอาเสียเลย แต่ก็พอใจที่ตัวเองประสบความสำเร็จในด้านศิลปะแล้ว มีอัลบั้มของตัวเอง มีแฟนเพลงที่ร้องเพลงตามได้ มาพูดคุยกับพวกเขาในเรื่องราวเหล่านี้ไปพร้อมกันกับเรา เพราะบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนในวันนั้น เราจึงต้องนั่งพูดคุยกันในบ้านหนึ่งในสมาชิกของวง บ้านที่เป็นทั้งพื้นที่รวมตัว พูดคุย ทำกิจวัตรประจำวันและซ้อมดนตรีที่ห้องซ้อมด้านบน เราเลือกนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น สมาชิก Summer Dress นั่งพิงโซฟาตัวยาว ที่พอจะนั่งได้เกือบทั้งวง เรียงกันตั้งแต่ แน็ต กีต้าร์, โป้ว เบส, แปม กลอง, เต๊น ร้องนำ กีต้าร์ และ ปอนด์ คีย์บอร์ด แล้วเราเริ่มพูดคุยกันท่ามกลางเสียงหยาดฝนโปรยปรายและ Lullaby อ้อยอิ่งตามแรงลม About Summer Dress สมาชิกทั้งหมดเริ่มต้นวงดนตรีเหมือนวัยรุ่นคนอื่นที่อยากจะมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง รวมตัวกันตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้พวกเขามีความสนิทสนมในอินเนอร์ของเพื่อนที่เป็นเพื่อนในชีวิตจริง ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในวง (สังเกตได้จากการกวนตีนกันเองตลอดการพูดคุย) พวกเขายังคงชื่นชอบและรักในงานอดิเรกนี้ เพลงแพ้ทอมคงจะเป็นเพลงแรกที่เราได้ยินชื่อของพวกเขา จนกำเนิดอัลบั้มมาให้พวกเราได้ฟังแล้วถึงสองอัลบั้ม และกำลังจะมีอัลบั้มที่สามตามมาเร็ว ๆ นี้ โป้ว: เล่นด้วยกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนดุริยางค์ ศิลปากรด้วยกัน ตอนแรกมีเต๊น มีผม มีแน็ต แล้วก็เพื่อนอีกคน
“หวามไหว” ดูไม่ใช่คำศัพท์ที่ผู้ชายอย่างเราจะยกมาใช้ได้บ่อยในชีวิตประจำวัน แต่ละเช้าเราตื่นมาเพื่อทำงานหนัก ตกเย็นสังสรรค์เพื่อพักผ่อน ก่อนจะกลับห้องเพื่อหลับไปแล้วตื่นมาทำกิจวัตรเดิม ๆ วนย้ำซ้ำเก่า “หวามไหว” จึงไม่ใช่คำที่เราจะได้ใช้และอาจถึงขั้นลืมไปแล้วว่าคำนี้มันมีความหมายแบบไหน ชวนให้รู้สึกอย่างไร UNLOCKMEN อาสากระตุกความวาบหวามในหัวใจ กระตุ้นความหวั่นไหวในร่างกายผู้ชายด้วยวรรณกรรมอีโรติก 7 เล่มสุดเย้ายวนรัญจวนใจที่เราชวนอ่านเพื่อเสพเรื่องราว ดื่มด่ำภาษาที่งดงามราวกับมีมนตร์สะกด ที่สำคัญเนื้อหาชวนสุขสมจนผู้ชายอ่านเมื่อไหร่เป็นต้องตื่นทั้งตัวและหัวใจ เนินนางวีนัส Anaïs Nin เนินนางวีนัส แปลจากหนังสือ: Delta of Venus ผู้เขียน: Anaïs Nin ผู้แปล: รังสิมา ตันสกุล สำนักพิมพ์: Library House เซ็กซ์สำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ ไม่ใช่เรื่องลึกลับดำมืดขนาดนั้น แต่จินตนาการดูสิว่าช่วงทศวรรษที่ 1940 ช่วงที่เรื่องราวเซ็กซี่ เย้ายวน ยังไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ ก็พูดถึงได้ขนาดนั้น ความน่าค้นหามันจะยิ่งเพิ่มความรัญจวนเป็นกี่เท่า ? อนาอิส นิน นักเขียนหญิงสายเลือดสเปน ฝรั่งเศส และเดนมาร์ค เขียนเรื่องสั้นเล่มนี้ขึ้นในช่วงทศวรรษ 1940 โดย ณ
มาถึงตอนที่ 2 กันแล้วสำหรับซีรีส์ 2019 Oscars Predictions ของ UNLOCKMEN หลังจากตอนที่แล้วเราได้ฟันธงลงความเห็นไปแล้วว่านักแสดงนำชายที่จะคว้าตุ๊กตาทองไปนอนกอดในปีนี้คือ Christian Bale ที่ยอมลงทุนเพิ่มน้ำหนักหลายสิบปอนด์เพื่อรับบท Dick Cheney อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ใครที่ยังไม่ได้อ่านบทวิเคราะห์ของเราสามารถย้อนไปอ่านได้ที่ 2019 OSCARS PREDICTIONS: ช็อตต่อช็อต นักแสดงนำชายออสการ์ใครจะคว้าตุ๊กตาทองไปครอง ส่วนตอนนี้เราจะพูดถึงรางวัลนักแสดงนำหญิงกันบ้าง ด้วยข้อมูลที่มากขึ้น เพราะล่าสุด Golden Globe รางวัลที่เปรียบเสมือนออสการ์ของฝั่งอังกฤษได้ประกาศผลออกมาเรียบร้อยแล้ว ภาพของ 5 นักแสดงหญิงที่มีลุ้นเข้าชิงตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำหญิงจึงค่อนข้างชัดเจนขึ้น แต่จะมีใครกันบ้าง และใครจะเป็นผู้ชนะ ไปอ่านบทวิเคราะห์จากเราได้เลย Emily Blunt – Mary Poppins Returns นักแสดงสาวเจ้าบทบาทจาก The Devil Wears Prada และ Edge of Tomorrow ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังกับการรับบทบาทเป็นตัวละครที่ทุกคนคิดถึงอย่าง Mary Poppins ในภาพยนตร์เรื่อง Mary Poppins Returns ซึ่งถือว่าเป็นภาคต่อจาก Mary Poppins ในปี 1964 ภาพยนตร์ระดับตำนานที่กวาดรายได้มหาศาลในยุคนั้น Emily Blunt สานความยอดเยี่ยมของ Julie Andrews Mary Poppins คนก่อนได้อย่างไร้รอยต่อ เธอแสดงให้เห็นว่าตัวละครพี่เลี้ยงผู้มีเวทมนตร์คนนี้เป็นตัวละครที่ไร้กาลเวลา เรียกว่าแทบจะแบกหนังทั้งเรื่องไว้บนบ่า เอาเป็นว่าทุกคนที่ได้ดู Mary
เอ่ยชื่อ Tim Burton ขึ้นมา ความดาร์กก็เข้าปกคลุม (เหมือนสภาพอากาศในตอนนี้ไม่มีผิด) ความแฟนตาซีของตัวละคร คาแร็กเตอร์อันแปลกประหลาด เข้ามาสร้างสีสันในฉากอันหม่นหมอง ทำให้ภาพยนตร์ของเขามัน Weird มากขึ้น จนเราติดภาพว่ามันเป็น Trademark ของเขาไปแล้ว ภายใต้ความแฟนตาซีแบบดาร์ก ๆ เหล่านั้น ยังมีเรื่องราวพลังบวกและข้อคิดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอย่างแยบยล UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาเสพความดาร์กของหนัง Tim Burton 5 เรื่องที่เราคัดมาให้ Big Fish (2003) Will Bloom (Billy Crudup) ผู้เบื่อหน่ายพ่อตัวเองเต็มที เพราะ Edward Bloom (Albert Finney/Ewan McGregor) ผู้เป็นพ่อนั้นชื่นชอบการเล่าเรื่องในวันวาน สมัยที่เขายังเป็นหนุ่มแน่น แต่เรื่องราวเหล่านั้นช่างแฟนตาซีจนเกินที่จะเชื่อว่ามันคือความจริง ผู้คนที่ได้ฟังต่าง Hype ไปกับเรื่องราวเหล่านั้นหมด ยกเว้นลูกชายอย่าง Will นี่แหละ ที่ไม่เคยเชื่อว่าพ่อของเขาจะมีชีวิตวันวานที่แฟนตาซีขนาดนั้น จนถึงขั้นที่อยากจะพิสูจน์ความจริงกับสิ่งที่พ่อเขาเล่าให้ฟัง เพราะอยากจะให้พ่อของเขาเลิกโม้เสียที มาดูกันว่าสุดท้ายแล้วไอ้ที่พ่อเขาโม้ ๆ ไว้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโม้กันแน่ Edward