คอแฟชั่นที่ชื่นชอบการอ่านมังงะญี่ปุ่นอาจจะคุ้นชินกับการ collaboration กันระหว่างแบรนด์เครื่องแต่งกายกับมังงะเรื่องโปรดอยู่บ่อยครั้ง และตอนนี้มังงะเรื่องดังที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มนินจาซึ่งถูกสร้างเป็นแอนิเมชันก็ปรากฏตัวในโลกของแฟชั่นอีกครั้ง ด้วยการสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่าง Coach กับนักแสดงชื่อดัง Michael B. Jordan ปล่อยคอลเลกชันเท่ ๆ ชื่อว่า Naruto สำหรับใครที่ติดตามเรื่องราวของแวดวงแฟชั่นอยู่ตลอดจะรู้ว่าแบรนด์เครื่องแต่งกายสัญชาติอเมริกาอย่าง Coach ได้เลือกให้นักแสดงหนุ่มผิวสี Michael B. Jordan ให้เป็น Brand Ambassador ของแบรนด์เป็นที่เรียบร้อย (COACH FALL 2019 ตีความแฟชั่นของชายหนุ่มศตวรรษที่ 21 ผ่าน Michael B. Jordan) แต่การร่วมงานของทั้งสองฝั่งไม่ใช่แค่เอานักแสดงมาใส่เสื้อพร้อมถ่ายรูปแล้วจบไป แต่ยังเปิดโอกาสให้ Michael ได้แชร์ไอเดียสร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจอีกด้วย คอลเลกชันที่ว่าของ Coach x Michael B. Jordan คือการหยิบตัวละครจากมังงะชื่อดัง จากปลายปากกาของอาจารย์ Kishimoto Masashi เรื่อง Naruto นินจาจอมคาถา ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1999 ผ่านนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น Shonen Jump โดยได้
กำลังจะเข้าสู่ช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนจบปี หนุ่ม ๆ ที่วางแผนเก็บเงินไว้เที่ยวช่วงปลายปีหรือตุนไว้จ่ายภาษีอาจต้องใจอ่อน แบ่งเงินมาซื้อรองเท้ากันบ้างแล้ว โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบรองเท้าโทนสีดำหรือสีเข้ม ที่ไตรมาสนี้ปล่อยของออกมาไม่ขาดสาย รองเท้าสีดำคือหนึ่งในโทนของรองเท้าที่ผู้ชายอย่างเรานิยมซื้อมาสวมใส่มากที่สุด เพราะตอบโจทย์การแต่งกายหลากหลายรูปแบบและมีวัสดุให้เลือกสรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าตาข่าย(Mesh) ผ้าทอ(Knit) ผ้าใบ(Canvas) ไปจนถึงวัสดุหนังหลากชนิดที่ตอบโจทย์การใช้งานแตกต่างกันออกไป ที่สำคัญคือรองเท้าโทนสีดำจะลดความกังวลเรื่องความสะอาดไปอีกขั้น เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ สายลุยที่ไม่อยากกังวลกับรองเท้ามากเกินไป แต่ช่วงท้ายปีแบบนี้จะมีโทนดาร์กจากค่ายไหน รุ่นอะไรปล่อยออกมากันบ้าง มาชมไปพร้อมกันเลย NIKE AIR MAX 97 ‘Just Do It’ เริ่มกันที่รองเท้าจากค่าย Swoosh โมเดลยอดนิยมอย่าง Air Max 97 ที่ตลอดปีนี้ถูกปล่อยออกมาในหลากหลายสีสันและในที่สุดก็ถึงคิวของสีดำอีกครั้ง แต่คราวนี้ NIKE AIR MAX 97 ‘Just Do It’ เพิ่มความโดดเด่นด้วยโลโก้ Just Do it สีเขียวอ่อนและเข้มวางซ่อนทับกัน คาดว่ารองเท้าคู่นี้จะรวมอยู่ในคอลเลกชัน ‘Just Do It’
หลังจากก่อนหน้านี้เกิดข่าวลือมากมายเกี่ยวกับภาคต่อของหนัง Sci-Fi ที่คนทั่วโลกรู้จักอย่าง The Matrix ว่าจะสร้างภาคต่อหลังจากห่างหายไปนานถึง 20 ปี หลายสำนักข่าวคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ จนเกิดข่าวลือว่าจะมีตัวละครเอกเป็นชายผิวสีบ้าง หรือข่าวว่าสองพี่น้อง Wachoski จะกลับมาเขียนบทและกำกับอีกครั้งจนทำให้แฟน ๆ The Matrix ทั่วโลกหัวหมุนไปตาม ๆ กันว่าอะไรคือความจริงกันแน่ ท้ายที่สุดก็ได้รับการยืนยันกันเสียทีว่า The Matrix ภาค 4 จะถูกสร้างอย่างแน่นอนในปี 2022 แถมยังมีโอกาสสูงมาก ๆ ที่พระเอกของเรื่องอย่าง Keanu Reeves กลับมารับบทเป็น Neo อีกครั้ง และในตอนนี้โรงภาพยนตร์ของประเทศไทยก็นำหนังเรื่องนี้กลับเข้ามาฉายอีกครั้งด้วยความชัดระดับ 4K ทำให้ UNLOCKMEN ไม่พลาดหยิบแฟชั่นจากเรื่อง The Matrix มาเล่าสู่กันฟังเผื่อหนุ่ม ๆ คนไหนอยากจะแต่งตัวสไตล์นี้ไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ THE MATRIX’S STYLE The Matrix ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี
ย้อนไปวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้สิ้นสุดลง Georges Schaeren (จอร์จ แชเรน) ก่อตั้งแบรนด์ Mido ขึ้นมาและถือเป็นวันสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลและเปี่ยมด้วยความกล้าแกร่งของผู้นำในการมองไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ จนกระทั่งปี 2018 นับเป็นปีสุดพิเศษที่ Mido มีอายุครบ 100 ปี ที่ยังคงเดินหน้านำเสนอเรือนเวลาที่เป็นคอลเล็กชันใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งแต่ละรุ่นจะยังคงคุณค่าที่มีอยู่ใน DNA ของแบรนด์ Mido ตลอดช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องของการออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา การเลือกใช้วัสดุที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ และนวัตกรรมทางด้านเทคนิค ปรัชญาของ Mido ตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดในการผสมผสานระหว่างนวัตกรรม การสร้างสรรค์ และประโยชน์ในการใช้งานที่ถูกหล่อหลอมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดย Mido ได้นำเสนอถึงคุณค่าเหล่านี้ผ่านทางงานออกแบบในนาฬิกาแต่ละคอลเล็กชันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของโลกแต่ละแห่งซึ่งมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นบนบกหรือแม้แต่ในโลกใต้น้ำ ซึ่ง Mido Ocean Star กับสัญลักษณ์ปลาดาว ได้พิสูจน์ความสำเร็จของเทคโนโลยีชั้นสูง ในราคาที่สมเหตุผมที่สุดเท่าที่เราจะหาซื้อได้ ซึ่งถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลากว่า 75 ปี และการฉลองครั้งนี้ก็ยิ่งใหญ่สมกับความเป็น Mido เพราะได้ร่วมมือกับ
ถ้าพูดถึงโมเดลรองเท้าตัวแทนจาก Adidas Original ชื่อของ Stan Smith คงเป็นโมเดลที่หลายคนนึกถึง เพราะนี่คือรองเท้าที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันค่ายสามขีดให้ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน และทุกวันนี้ผู้คนยังนิยมอยู่เสมอจากความสวยงามที่แสนคลาสสิกของมัน แม้จะวางขายมานานกว่า 50 ปีแล้วก็ตาม ขณะเดียวกันเมื่อยุคสมัยและทิศทางของตลาดรองเท้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไป Adidas ก็เริ่มปรับเปลี่ยนและพัฒนา Stan Smith ให้เข้ากับกระแสความนิยม รวมถึงทำเทคโนโลยีให้ล้ำสมัยมากขึ้น โดยพวกเขาหวนกลับไปทำงานกับแบรนด์เสื้อผ้าที่เน้นฟังก์ชันของวัสดุและเทคโนโลยีอย่าง GORE-TEX หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จร่วมกันเมื่อครั้งทำ Stan Smith GORE-TEX ในปี 2017 ด้วยการนำโมเดลเดียวกันนี้ มาเคลือบนวัตกรรมกันน้ำในรองเท้า จนขายหมดทุกสต็อก วันนี้ทั้งสองค่ายกลับมาร่วมงานอีกครั้งกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าเดิม แถมยังเลือก Back to Basic ด้วยการใช้ Stan Smith สี OG อย่างขาว-เขียวมา ส่วนงานออกแบบปรับดีไซน์เล็กน้อย โดยตรงส่วนลิ้นจะไม่มีรูปคุณปู่แสตนในรุ่นนี้ รวมถึง Heel Tap สีเขียวซึ่งจะไม่มีโลโก้ Adidas Original แต่ด้านข้างก็มีตราพิมพ์แบบยุบลงไปของ GORE-TEX และป้ายที่เขียนถึง GORE-TEX Infimium เย็บติดเอาไว้
บ่อยครั้งที่โลกของแฟชั่นนิยมหยิบตัวแทนของศาสนาอย่างศาสดามาอยู่บนไอเทมแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นสไตล์หรูหราแบบชนชั้นสูงไปจนถึงแฟชั่นของเหล่าวัยรุ่นชาวสตรีต และตอนนี้ก็มีคนนำ ‘จีซัส’ หรือหลายคนรู้จักในนามของ ‘พระเยซู’ มาอยู่บนแฟชั่นคูล ๆ ของชาว Hiphop อีกครั้ง ดีไซเนอร์ผู้เอาจีซัสมาอยู่บนไอเทมแฟชั่นที่ว่าก็คือ Kanye West นักร้องนักแต่งเพลงและดีไซเนอร์ที่ใคร ๆ ก็ต้องเคยได้ยินชื่อของเขา ล่าสุดเขากำลังจะออกอัลบั้มใหม่ชื่อว่า Jesus is King พร้อมกับรายชื่อเพลงที่เกี่ยวกับพระเจ้าทั้งหมดอย่าง God is, Baptized, Sunday หรือ Sweet Jesus แต่ก่อนจะปล่อยเพลงเขาก็ปล่อยแฟชั่นไอเทมเรียกน้ำย่อยเหล่าสาวกกันก่อน คอลเลกชันเครื่องแต่งกาย Jesus is king ของ Kanye West ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะคริสเตียนหรือ Christian art ภาพวาดในโบสถ์คาทอลิกต่าง ๆ สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูจากพันธสัญญาใหม่ ศิลปะทรงคุณค่าที่ข้ามผ่านกาลเวลาพร้อมกับความศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์และหัวใจของการวาดภาพเรื่องราวของเทพเจ้าและพระเยซู West จดจำศิลปะที่พบเห็นจากโบสถ์ต่าง ๆ กลับมาประยุกต์ด้วยลายเส้นและสไตล์ของตัวเอง จนในที่สุดก็เกิดคอลเลกชันเสื้อผ้าเท่ ๆ ชื่อว่า Jesus is king โดยไอเทมจะมีทั้งเสื้อยืดสีพื้นอย่างขาว
ผู้ชายหลายคนในโลกนี้มีความคิดว่า สรีระของหญิงสาวที่ซ่อนอยู่ภายใต้เครื่องแต่งกายเป็นความสวยงามทางธรรมชาติ น่ามอง และเต็มไปด้วยเสน่ห์ แต่ภายใต้ทรวงอกที่ใครหลายคนหลงใหลก็มีปัญหาด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้แบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่าง Vans ขอเป็นตัวแทนบอกเล่าปัญหาดังกล่าวในแบบของตัวเอง ไอเทมแฟชั่นคอลเลกชันนี้ของ Vans ที่ว่าด้วยหน้าอกของหญิงสาว ไอเดียดังกล่าวเกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของ Vans กับ CoppaFeel! องค์กรของประเทศอังกฤษ เพื่อให้ชายหญิงตระหนักถึงปัญหามะเร็งเต้านมที่ใครหลายคนมองข้าม แต่ถ้าจะมานั่งเล่าให้ผู้ชายพาแฟนไปตรวจหน้าอกที่โรงพยาบาลก็คงจะน่าเบื่อจนไม่มีใครฟัง Vans จึงทำให้ผู้คนตระหนักด้วยศิลปะอาร์ต ๆ บนเครื่องแต่งกายแทน คอลเลกชันหน้าอกของหญิงสาวจาก Vans บอกเล่าผ่านศิลปะบนไอเทมหลากหลาย เช่น รองเท้า 3 แบบของแบรนด์ทั้ง Sk8-Hi, Slip-On, Era รองเท้าแตะ เสื้อเชิ้ต ฮู้ด เสื้อยืด หมวก และกระเป๋าเป้สะพายหลัง โดยจะใช้ลายกราฟิกหน้าอกของผู้หญิงแต่งแต้มอยู่ในไอเทมต่าง ๆ รองเท้าหุ้มข้อสีดำตัวชูโรงของคอลเลกชัน ประทับลวดลายของหญิงสาวสัญชาติต่าง ๆ ทั้งสาวผิวขาวผมทอง สาวผิวแทนผมดำ สาวเอเชีย และผู้หญิงผิวสีเพื่อความหลากหลายทางเผ่าพันธุ์ หญิงสาวทุกคนในภาพจะเปลือยอก บางคนก็เอามือมาปิดป้องหน้าอกบ้าง เพื่อเน้นย้ำถึงคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมที่เท่แถมยังไม่น่าเบื่อ รองเท้าผ้าใบอีกสามคู่ทั้งก็ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันลวดลายเท่ ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างรองเท้าจะเป็นช่องสี่เหลี่ยมสีครีมและสีส้มแดง คล้ายกับว่าสี่เหลี่ยมทั้งหมดบนรองเท้าคือการเบลอเพื่อเซนเซอร์หน้าอกของผู้หญิง
ตลาดรองเท้าที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งกระตุ้นให้แบรนด์ต่าง ๆ คลอดรองเท้าโมเดลใหม่ ๆ ออกมาเพื่อหวังผลกำไร แต่เมื่อแบรนด์มีกำลังการผลิตที่สูงขึ้น ก็ต้องใช้วัสดุเพิ่มขึ้นซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดที่จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ค่ายรองเท้าสุดคลาสสิกอย่าง Converse เล็งเห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้น จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ออกคอลเลกชันรองเท้าสุดรักษ์โลกอย่าง Renew Denim และ Renew Panel Denim โดยคราวนี้เลือกใช้โมเดลรองเท้าสุดเก๋าอย่าง Converse Chuck Taylor ‘70 Converse Chuck Taylor ’70 “Renew Denim” เป็น 1 จาก 3 คอลเลกชันในโปรเจกต์ Converse Renew ที่ประกอบไปด้วย Renew Canvas ที่ใช้วัสดุผ้าใบต่อด้วย Renew Cotton ที่ใช้ส่วนประกอบของผ้าฝ้ายและสุดท้ายคือ Renew Denim ที่มีรองเท้าผ้าทั้งหมด 3 คู่ด้วยกันประกอบไปด้วยโมเดล Chuck Taylor ’70 Low ที่มาพร้อมกับอัปเปอร์จากผ้ายีนรีไซเคิลสีอ่อนและสีเข้มอย่างละ 1
หลังจากห่างหายไปพักหนึ่ง ในที่สุดแบรนด์แฟชั่นที่คนทั่วโลกรู้จักอย่าง Louis Vuitton ก็พร้อมเปิดตัวกระเป๋าหนังสำหรับสุภาพบุรุษคอลเลกชันใหม่ชื่อว่า New Classics ภายใต้การนำของ Virgil Abloh ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ LV และเจ้าของแบรนด์สตรีตแวร์ Off-White ที่เข้าไปอยู่ในใจของผู้ชายหลายคน กระเป๋าคอลเลกชันนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราต้องผิดหวังด้วยกระเป๋า 4 แบบ กับการดีไซน์เท่ ๆ หยิบเอาเรื่องราวสุดคลาสสิกกับโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton มาผสมผสานกับค่านิยมสมัยใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของเหล่าหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบความทันสมัยเต็มไปด้วยเรื่องราว ถ้าใครรู้จัก Virgil Abloh หรือเคยเห็นไอเทมแฟชั่นแต่ละชิ้นที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมาก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าสไตล์ชัดเจนของเขาคือการรวมแนวสตรีตของเด็กวัยรุ่นผู้เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจเข้ากับสินค้าไฮเอนด์ อย่างคราวก่อนเขาจับกระเป๋าหนังของ Louis Vuitton ย้อมสีให้กลายเป็นสีเงิน หยิบยืมความจัดจ้านในคลับยามค่ำคืนอย่างสีนีออนมาอยู่บนกระเป๋าที่มีเรื่องราวยาวนาน จากนั้นตกแต่งด้วยสายโซ่ย้อมสีซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอเทมเด็ดขาดไม่ได้ของชาวสตรีต ทำให้ใครหลายคนเอ่ยปากว่าเขาทำให้ Louis Vuitton ดูเป็นวัยรุ่นมากขึ้น ครั้งนี้ก็เช่นกันกับกระเป๋าคอลเลกชัน New Classic ดีไซเนอร์หนุ่มได้ตีความคลาสสิกใหม่ โดยหยิบกระเป๋าเดิมของ Louis Vuitton ทั้ง 4 ใบ ไม่ว่าจะเป็น Steamer PM กระเป๋าถือดีไซน์เรียบหรู
แฟชั่นถือเป็นกระแสที่ไม่เคยหยุดนิ่ง บางครั้งผ่านมาแล้วก็หายไป หรือบางทีภาวะ Nostalgia (หวนระลึกอดีต) ก็เปิดโอกาสให้แฟชั่นวันวานกลับมาฮิตอีกครั้ง แต่ใช่ว่าทุกสไตล์จะได้กลับมาเป็นกระแสเสมอไป ด้วยคลื่นกระแสของแฟชั่นที่น่าสนใจทำให้ในวันนี้ UNLOCKMEN เลือกพูดถึงแฟชั่นญี่ปุ่นอันเต็มไปด้วยเป็นเอกลักษณ์ โดยหยิบเรื่องราวของแบรนด์ดังอย่าง HOMME PLISSE ISSEY MIYAKE กับคอลเลกชันล่าสุดอย่าง Autumn/Winter 2019 ที่นำไลฟ์สไตล์ยุคเอโดะปัดฝุ่นมาเล่าใหม่ ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าเท่ ๆ ให้สวมใส่ได้ลงตัวในยุคนี้ แต่ก่อนจะก้าวไปสัมผัสกับคอลเลกชัน Autumn/Winter 2019 คงต้องขอเท้าความถึงตัวแบรนด์กันก่อน โดย HOMME PLISSE ISSEY MIYAKE (ออมม์ พลิซเซ่ อิซเซ่ มิยะเกะ) เป็นแบรนด์เสื้อผ้าน้องใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2013 โดดเด่นเรื่องไอเทมการจับจีบสุดประณีตที่ถูกคิดค้น ดีไซน์อย่างสร้างสรรค์ และพัฒนาด้วยทีมดีไซเนอร์มากความสามารถของ Issey Miyake แบรนด์แฟชั่นตัวพ่อที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1988 สไตล์อันชัดเจนของ HOMME PLISSE ISSEY MIYAKE คือการเน้นดีไซน์เสื้อผ้าให้สวมใส่สบาย เคลื่อนไหวได้คล่องตัว ซัพพอร์ตสรีระของผู้ชาย เนื้อผ้าไม่ยับ แห้งง่ายระบายอากาศได้ดี แถมยังน้ำหนักเบาเพราะใช้ยูนิฟอร์มพลีต (uniform plests) เสื้อผ้าจึงไม่เสียดสีกับผิวกาย คุณสมบัติเหล่านี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายของเหล่าชายหนุ่มยุคปัจจุบัน เพราะคนรุ่นใหม่ต่างต้องการแต่งตัวตามสไตล์ของตัวเองพร้อมกับทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ ตัวตนภายนอกที่ไม่ขัดกับการแสดงออก แต่ส่งเสริมให้ดูดีทุกท่วงท่าเป็นหัวใจสำคัญที่ทุกคนมองหา
บ่อยครั้งที่เรามีโอกาสเห็นการ์ตูนหรือแอนิเมชันชื่อดังเข้ามาวนเวียนจับคู่กับแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือรองเท้าก็ตาม และในครั้งนี้ Reebok ก็ได้จับมือกับ Sanrio ออกรองเท้าผ้าใบคอลเลกชันพิเศษที่เต็มไปด้วยความน่ารักแบบกวน ๆ เพราะไข่ขี้เกียจที่หลายคนรู้จักจะมาอยู่บนรองเท้าผ้าใบ Sanrio เป็นชื่อของบริษัทออกแบบและครอบครองลิขสิทธิ์ลายเส้นของตัวการ์ตูนดังของญี่ปุ่นจำนวนมากทั้ง Hello Kitty, My Melody, Bad Badtz-maru, Little Twin Stars รวมถึงไข่ขี้เกียจแสนคุ้นตาอย่าง Gudetama หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นเจ้าไข่หน้าตาง่วงนอนผ่านตาอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะแฟนชอบดู หรือเห็นแล้วจำได้เพราะหน้าตาของไข่มันน่ารักแบบกวน ๆ โดย Gudetama เป็นชื่อตัวการ์ตูนที่เกิดจากการรวมกันของคำว่า Gudegude (ぐでぐで) ที่แปลว่า ทรงตัวไม่ได้ และคำว่า Tama (たま) แปลว่าไข่ ตรงกับคาแรกเตอร์ของตัวละครเป๊ะ เพราะเราแทบจะไม่เคยเห็นไข่ขี้เกียจยืนทรงตัวดี ๆ ได้สักครั้ง แต่ใครจะคิดว่าไข่หน้าโง่ไม่ยอมทำอะไรสักอย่างจะเกิดจากไอเดียพร้อมจิกกัดสังคมทุนนิยมของ Amy ผู้สร้างตัวการ์ตูน Gudetama เพราะไข่ขี้เกียจ หมดเรี่ยวหมดแรงไร้ความกระตือรือร้น เปรียบเหมือนกับเหล่าวัยรุ่นผู้สิ้นหวังกับสังคมและเศรษฐกิจจนไม่อยากจะลุกออกไปไหนหรือทำอะไรทั้งที่ตัวเองก็มีความสามารถ (ว่าไปนั่น) ด้วยเรื่องราวสะท้อนสังคมที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาเมา ๆ ของไข่ขี้เกียจ
REV RUNNR (เรฟ รันเนอร์) ร้านค้ามัลติแบรนด์รันนิ่งสโตร์ (Multi Brand Running Store) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กีฬาวิ่งที่มีมากกว่าแค่รองเท้าโดยมาพร้อมอุปกรณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าสำหรับนักวิ่งทุกระดับและพนักงานที่ผ่านการอบรมพร้อมความรู้ ความเชียวชาญที่สามารถให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างดี ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์ และพัฒนาศักยภาพการวิ่งของคุณในทุกก้าว ด้วยการรวบรวมสินค้า อุปกรณ์ และบริการ ที่ตอบโจทย์นักวิ่งได้ครบครัน เพื่อต้อนรับครึ่งปีหลัง 2019 ด้วยรองเท้าวิ่งสุดฮอตที่ UNLOCKMEN คัดสรรมาเอาใจนักวิ่งทุกประเภททั้งหมด 7 คู่ จาก 7 แบรนด์ สร้างความท้าทายให้กับการวิ่ง HOKA ONE ONE Clifton 6 เริ่มต้นกันที่กลุ่มรองเท้าสำหรับวิ่งระยะไกลอย่าง HOKA ONE ONE Clifton 6 ที่ปรับปรุงหน้า ผ้าให้มีความกระชับและสวมใส่สบายมากขึ้น และรองรับแรงกระแทกสูง เหมาะกับการวิ่งทุกระยะ ในราคา 4,990 บาท Nike Air Zoom Pegasus 36 สุดยอดรองเท้าวิ่ง