ในช่วงนี้ดูเหมือนแบรนด์สนีกเกอร์ต่าง ๆ มักจะ Collaboration กันอยู่บ่อยครั้ง รวมถึง Vans แบรนด์รองเท้าชื่อดังที่ได้ร่วมงานกับแอปพลิเคชันสัญชาติเกาหลี Kakao และนักวาดการ์ตูน Hyunye ที่มาร่วมปลดปล่อยจินตนาการออกมาเป็นการ์ตูนลวดลายน่ารักกับ Kakao Friends ที่ขนกันมาหมดแก๊ง รองเท้าคอลเลกชันนี้จะมีตัวละครหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Muzi กระต่ายสีเหลือง Apeach ลูกพีชหัวชมพูแต่ตัวดันเป็นสีขาว Frodo หมาหน้ากวนผู้ชื่นชอบการดื่มกาแฟ Neo แมวฟ้ากับผมบ๊อบที่เป็นเอกลักษณ์ Con จระเข้ตัวจิ๋วชอบปลูกหัวไชเท้า Jay-G ถึงจะเป็นสายลับแต่กลับโดดเด่นกว่าใครด้วยผมทรง Afro ฟูฟ่องรวมถึง Tube เป็ดขี้โมโหที่พ่นไฟได้ และ Ryan สิงโตไร้แผงคอเลยทำให้มีหน้าตาเหมือนหมี รองเท้าผ้าใบลายตารางสีฟ้า-ขาว เต็มไปด้วยเรื่องราวของ Tube เจ้าเป็ดขี้กลัวพ่นไฟได้ เมื่อกลัวหรือโมโหสุดขีดจะกลายร่างสีเขียว บริเวณขอบรองเท้าสีขาวจะมีลวดลายของเป็ดอยู่ทั่ว และตรงสันรองเท้าจะมีเจ้าเป็นร่างเขียวกำลังเล่นสเกตบอร์ด ส่วนรองเท้าลายตารางอีกหนึ่งคู่จะใช้สีโทนร้อนคือส้ม-ขาว กับ Ryan สิงโตไร้แผงคอที่เป็นถึงเจ้าชายรัชทายาทของเผ่าแต่รักอิสระเลยหนีออกมาเพื่อใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการ โดยลายรองเท้าทั้งสองข้างจะมีรายละเอียดที่ต่างกันโดยข้างซ้ายจะมีหน้าของ Ryan ส่วนทางด้านขวาเจ้าสิงโตตัวเล็ก ๆ แทรกอยู่ตามลายตารางหมากรุก รองเท้าผ้าใบอีกสามคู่ของคอลเลกชันนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบสีส้มที่มาพร้อมกับ Apeach ตัวละครลูกพีชหัวชมพูที่อยู่ตรงลิ้นรองเท้า กับลวดลายฟอนต์ตัวอักษรสีขาวไม่เป็นระเบียบ
ถือเป็นความอัฉริยะของทีมนักออกแบบ Nike ในการออกแบบและตั้งชื่อรองเท้าดีไซน์แปลกตา ที่ตั้งใจสร้างมาเพื่อฉลองให้กับวันกัญชาโลก 4/20 หรือวันที่ 20 เดือน 4 ด้วยการตั้งชื่อและออกแบบที่ twist ความหมายให้หลายคนงง แต่เป็นการส่งสัญญาณที่คนสายเขียวหัวใจกัญชาโลกรู้กันดี เพราะคำว่า ‘Walk The Dog’ ในที่นี้หมายถึงสายพันธุ์กัญชายอดฮิตในอเมริกา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังออกแบบมาให้ใส่เพื่อฉลองวันพาหมาไปเดินเล่นได้อีกด้วย ‘Walk The Dog’ เป็นกัญชาที่มีลักษณะเฉพาะคือช่อสีเขียว Olive มีขนสีส้มรอบ ๆ เป็นกัญชาที่เพาะขึ้นแบบ Indica-dominant (การผสมพันธุ์ระหว่างสายพันธุ์ Afghani Indica และ Mexican + Columbian Sativa) เป็นสายพันธุ์ที่ผสมได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวสบายใจกำลังดี ดูดแล้วสามารถออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นนั่งคุยกับพ่อแม่หรือพาหมาไปเดินเล่น ขายในต่างประเทศที่กรัมละ $10 – $11 จึงเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์นี้นั่นเอง อย่าพึ่งสับสนว่ากดเข้ามาอ่านผิดบทความหรือไม่ เราเพียงอธิบายเรื่องที่มาของชื่อรุ่นรองเท้าเพลินไปหน่อย กลับมาที่ Nike SB Dunk High ‘Walk The Dog’ ซึ่งไม่ได้บังเอิญชื่อตรงกัน
ตั้งแต่ปี 1905 เป็นต้นมา บริษัท Rolex SA ก็ได้ผลิตนาฬิกาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และความหรูหราที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของโลกมาโดยตลอด แน่นอนว่า การที่คุณกดเข้ามาดูบทความที่เรากำลังเขียนอยู่นี้ คุณต้องรู้อยู่แล้วว่าเรากำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร ที่เราเขียนบทความนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า ก่อนที่คุณจะนำเงินจำนวนไม่น้อยไปให้กับคนแปลกหน้า เพื่อแลกกับนาฬิกาในฝันมาสักเรือนนั้น คุณจำเป็นต้องมีความชัวร์ และมั่นใจได้ว่า มันเป็นของแท้เท่านั้น เพราะการซื้อนาฬิกาอย่าง Rolex มันไม่ใช่เพียงแค่การซื้อเรือนเวลา แต่มันเป็นการลงทุนที่จะทำให้คุณมีผลกำไรต่อในอนาคต และยังเป็นทรัพย์สมบัติที่คุณสามารถส่งต่อไปให้กับลูกหลานของคุณได้อีกด้วย สรรพคุณของนาฬิกาอย่าง Rolex มีมากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าใครก็ต้องอยากได้เป็นธรรมดา เพียงแต่ว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ว่า Rolex ที่คุณกำลังจะซื้อนั้น เป็นของจริงแน่นอน ไม่ใช่ของปลอมจากเสิ่นเจิ้น ดังนั้นวันนี้ เราจึงนำเอาวิธีง่ายๆ ที่จะบอกได้ว่า Rolex ที่อยู่ตรงหน้าคุณนั้น มันเป็นของเก๊ หรือของจริง มาให้ได้ดูกัน The Weight การที่จะยอมให้ลูกค้าจ่ายเงินจำนวนมากได้นั้น ย่อมต้องแลกมาด้วยคุณภาพที่สมราคาด้วยเช่นกัน ดังนั้น นาฬิกาอย่าง Rolex จึงเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพ และดีที่สุดเท่านั้น ในการผลิตนาฬิกาของพวกเค้า ไม่ว่าจะเป็น อัญมณี, ทองคำ หรือ สแตนเลสสตีล 904L
ถ้าพูดถึงไอดอล girl group ที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่ตอนนี้ คงหนีไม่พ้น 4 สาว จากวง Blackpink ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ให้กับวงการเพลงเกาหลีอยู่เสมอ ครั้งนี้ไอดอลสาวไม่ได้อยู่แค่ในวงการเพลงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะพวกเธอกำลังก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากซิงเกิ้ลล่าสุด Kill This Love ถูกปล่อยออกมา แถมทำลายสถิติโลกเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็นการทำลายสถิติยอดผู้เข้าชม 100 ล้านวิวได้ พร้อมกับทุบสถิติจำนวนยอดวิวสูงสุด 24 ชั่วโมงแรกไปอย่างสูสี ซึ่งแชมป์เก่าคือเพลง Thank U, Next ของ Ariana Grande ด้วยจำนวนยอดวิว 56.7 ล้าน เมื่อได้รับการตอบรับร้อนแรงมากขนาดนี้ ทำให้ค่ายต้นสังกัดอย่าง YG Entertrinment ไม่รอช้า ปล่อยไอเทมแฟชั่นของ Blackpink ออกมาทันที ไอเทมดังกล่าวคือเสื้อฮู้ดแขนยาวสีดำและสีเทา โดยเสื้อสีดำจะประทับตราสัญลักษณ์ของวงไว้ตรงกลางพร้อมกับชื่อเพลงล่าสุดอย่าง Kill This Love ไว้ด้านล่าง ส่วนเสื้อฮู้ดสีเทาจะประฟอนต์แบบกราฟิตี้ที่ได้ต้นแบบสีมาจากกาแลคซี่ไล่สีจากน้ำเงินไปยังม่วงและชมพู แขนเสื้อทั้งสองข้างจะมีชื่อเพลงด้วยเช่นกัน เสื้อยืดแขนยาวสีชมพูสไตล์ชิโรบิ (Shibori) หรือที่คนไทยเรียกกันว่าผ้ามัดย้อมบนเสื้อฮู้ดที่ชาวฮิปฮอปนิยมใส่กัน
ในโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและการสื่อสาร ความคิดแหกคอกและความขบถของเด็กหนุ่มมักถูกหยิบขึ้นมาเล่าเป็นสีสันอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้แบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่าง Vans ก็เลือกหยิบเรื่องราวน่าสนใจจากหลายยุคสมัยมาสร้างความเท่ที่เต็มไปด้วยความขี้เล่นในคอลเลกชัน Galactic Goddess รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ Sk8-Hi และ Authentic ในคอลเลกชันนี้เต็มไปด้วยลายเส้นขยุกขยิกบนรองเท้า แต่ละลวดลายต่างมีเรื่องราวของตัวเองไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์สันติภาพที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องให้อังกฤษปลดอาวุธปรมาณู ต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่กลุ่มฮิปปี้นำไปติดรถตู้หรือนำไปวาดตามสถานที่เพื่อแสดงความต่อต้านสงครามและต้องการสันติภาพ นอกจากนี้ยังมีประโยค “One with the universe” เราคือหนึ่งเดียวกับจักรวาล และ “Made of Stardust” หรือเราทุกคนล้วนถูกสร้างมาจากละอองของดวงดาว ก็ถือว่าเป็นประโยคที่ซ่อนความคลาสสิกและโรแมนติกเอาไว้ รูปหัวกะโหลกพร้อมกับกระดูกขาวสองชิ้นไขว้กันอยู่ด้านล่าง สัญลักษณ์ที่สื่อถึงความตายที่ใช้กันมาตั้งแต่ยุคกลาง ประกอบกับดวงอาทิตย์ตรงด้านหลังของรองเท้า และดวงดาวน้อยใหญ่ ทั้งหมดถูกแสดงออกผ่านลายเส้นสไตล์กราฟิตี้ซึ่งเป็นวัฒนธรรมนอกกระแส เปรียบดั่งความขบถของเหล่าวัยรุ่น ที่ให้ความรู้สึกแสบ ๆ กวน ๆ เวลาได้ขีดเขียนตามกำแพงตามใจ คล้ายกับว่ากำลังท้าทายอำนาจของรัฐหรือผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจ สลับกับลายตารางของหมากรุกที่เป็นสัญลักษณ์ของความคลาสสิกตลอดกาลด้วยสีม่วง น้ำเงิน และสีดำ บริเวณด้านหน้าของ outer sole จะมีเส้นสีนำ้เงินและสีดำกลับกันเป็นลายทาง ส่วนด้านข้างและด้านหลังจะแต้มด้วยจุดสีเหลืองแบบไม่ได้ตั้งใจ คล้ายกับว่านำพู่กันไปจุ่มสีและมาจุดบนรองเท้า และตรง counter ก็ไม่ลืมที่จะประทับสัญลักษณ์ของแบรนด์ด้วยสีแดงโดดเด่น ลวดลายทั้งหมดและสไตล์การแต่งแต้มสีสันสามารถบอกเล่าช่วงเวลาแห่งวัยรุ่น การคิดนอกกรอบและความแสบซ่าไม่ฟังใครผ่านสัญลักษณ์ต่าง ๆ และสีสันที่สดใส ทำให้รองเท้าผ้าใบ Galactic
ดีเซลเผยคอลเลคชันแคปซูลใหม่ล่าสุดที่ประกอบไปด้วยไอเทมลิมิเตดทั้งหมด 12 รุ่นตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการทำงานร่วมกันครั้งพิเศษกับ Fedez แร็พเปอร์ชาวอิตาลี โดยคอลเลคชันนี้มีทั้งแจ็คเก็ตเดนิม สเวตเชิ้ต เสื้อยืด ถุงเท้า หมวก และแน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้ย่อมต้องเป็นงานเดนิมสุดพิถีพิถันชิ้นเอกลักษณ์ของดีเซล คอลเลคชัน Diesel x Fedez จะมีวางจำหน่ายทั่วโลกผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซของดีเซล และที่บูติคสำคัญของดีเซลในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก คอลเลคชันแคปซูล Diesel x Fedez ได้แรงบันดาลใจมาจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่มีจำหน่ายหลังเวทีคอนเสิร์ตวงร็อคในอดีต เรื่อยไปจนถึงการแต่งกายของนักร้องแร็พและฮิปฮอปในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงงานศิลปะสุดโดดเด่นที่ก่อรูปขึ้นด้วยแสงของหลอดฟลูออเรสเซนต์ของ Dan Flavin สเวตเตอร์และเสื้อทีเชิ้ตที่มีรายละเอียดของการฟอกและย้อมสี ดูสะดุดตาและให้ความรู้สึกที่เบาสบายน่าสวมใส่ ด้วยเอกลักษณ์แบบวินเทจของการที่สีดำค่อย ๆ ซีดจางลงจนกลายเป็นสีเทา โดยมีการใช้โลโก้ในรูปแบบของการวางโลโก้ของสปอนเซอร์ในอีเวนต์ต่าง ๆ บนเสื้อผ้า แจ็คเก็ตเดนิมมีรายละเอียดของงานกราฟิติมือด้วยสีนีออน ส่วนกางเกงยีนส์มีการใช้เทคนิคการฟอกและการทำให้รุ่ยตลอดช่วงขา เผยให้เห็นรายละเอียดของการใช้สีนีออนและงานผ้าปะติดไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เสื้อผ้าที่เหมาะกับนักร้องนักดนตรีรุ่นใหม่ในปี 2019 ที่ออกทัวร์ไปพร้อมกับคิดคำนึงถึงเหล่าศิลปินในอดีตที่ส่งอิทธิพลต่อตัวตนของพวกเขาภายใต้บริบทร่วมสมัยของยุคปัจจุบัน ด้วยแรงบันดาลใจจากสไตล์การแต่งตัวและเพลงของ Fedez เสื้อผ้าในคอลเลคชันนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะสวมใส่ไปสนุกกับคอนเสิร์ตดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปชมคอนเสิร์ตกลางสเตเดียมสุดยิ่งใหญ่ในช่วงค่ำ หรือจะย่ำเท้าไปในเทศกาลดนตรีกลางแจ้งตลอดช่วงกลางวัน เพราะรายละเอียดของการย้อมสีผ้าของเสื้อผ้าในคอลเลคชันนี้สามารถทำให้คุณดูโดดเด่นได้เสมอเมื่ออยู่ในอีเวนต์เหล่านี้ มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่
Drake แรปเปอร์หนุ่มจากแคนาดาที่สร้างชื่อจากเพลงฮิตติดชาร์ตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hotline Bling หรือ In my Feelings รวมถึงคอลเลกชันรถยนต์สุดหรูของเขาที่ UNLOCKMEN เคยนำเสนอไปแล้ว (ย้อนอ่านได้ที่ Drake’s Collection: ส่องรถหรูรุ่นหายากของแรปเปอร์หนุ่มที่กำลังมาแรงตอนนี้) นอกจากนั้นเขายังสร้างความฮือฮาให้วงการแฟชั่นด้วยเครื่องแต่งกายราคามหาโหดผ่าน Youtuber ช่อง The Unknown Vlogs UNLOCKMEN จะพาไปดูแฟชั่นของหนุ่ม Drake ที่ถูกพูดถึงว่าช่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้นจะมีไอเทมอะไรบ้างที่น่าสนใจเพื่อเป็นไกด์การแต่งตัวให้กับหนุ่ม ๆ ที่ต้องออกงานสังคม คลิปที่ทุกคนเห็นอยู่นี้คือหลังเวทีของคอนเสิร์ต Assansination Tour ณ กรุงลอนดอน จะเห็นว่าไม่ได้มีเพียงแค่ Drake คนเดียวเท่านั้น แต่มีทั้งนักออกแบบท่าเต้น สไตล์สิสต์ แดนเซอร์ ที่ปรากฎตัวพร้อมไอเทมแฟชั่นเท่ ๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่บรรดาคอแฟชั่นสนใจมากที่สุดคือไอเทมแฟชั่นของหนุ่ม Drake ที่เรียบหรูแต่ก็ยังคงความเท่แบบดิบ ๆ ไว้ด้วย ไอเทมชิ้นแรกที่ Drake ภูมิใจนำเสนอคือเสื้อสูทสั่งตัดพิเศษจากแบรนด์สัญชาติอิตาลี Brioni ที่ก่อตั้งในปี 1945 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงพอดิบพอดี สูทสั่งตัดของแรปเปอร์หนุ่มจะเป็นสูทยาวสีน้ำตาลอมเทา
เขื่อว่าหนุ่ม ๆ แฟนซีรีส์ของมหาศึกชิงบัลลังก์ Games Of Thrones คงเริ่มนับถอยหลังรอคอยกันแล้ว หลังจากเหลือเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่ซีรีส์เรื่องนี้จะออกฉายสู่สายตาผู้ชม โดยช่องเจ้าของลิขสิทธิ์สาขาโลกตะวันออกอย่าง HBO Asia ก็ได้ปล่อยโมเดลคัสตอมรองเท้ารุ่นยอดนิยมจากค่ายสามขีด ออกมาเรียกกระแสจากแฟน ๆ เป็นการเรียกน้ำย่อยแล้ว ใครที่เป็นแฟนของทั้ง Games Of Thornes และ Adidas มีโอกาสได้รองเท้าและของสะสมเพิ่มอีกครั้งหลังจาก HBO Asia เตรียมฉลองการเปิดตัวซีซันสุดท้ายของซีรีส์สุดฮิตที่หลายคนตั้งตารอมาเป็นเวลานาน ด้วยการจับโมเดลรองเท้าจากค่ายสามขีดมา Custom 4 รุ่น 4 คู่ด้วยกัน เริ่มจากโมเดล Continental 80’s ในโทนสี Black, Gold , Red ที่ใช้แรงบันดาลใจจาก House Lannister ต่อด้วยโมเดล Stan Smith มาในลวดลาย Dessert-Camo เป็นตัวแทนของ House Targaryen ตามด้วยโมเดล Micro R1 ในโทนสี
BEAMS แบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์รีเทลเลอร์ มุ่งเน้นการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายสวมใส่สบายสำหรับทุกวันคุณภาพระดับโลกจากญี่ปุ่นที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “Basic & Exciting” โดยนำเทรนด์ที่หลากหลายจากทั่วโลกมาใช้ในการออกแบบเสื้อผ้าแน่นอนว่าคอลเลคชั่นใหม่จาก BEAMS ใน SPRING SUMMER 2019 ไม่ทำให้สาวกที่รอคอยต้องผิดหวัง กับการออกแบบในแนวคิดหลักของคอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ 2019 นี้ ในแต่ละไลน์สินค้าเสื้อผ้าคุณภาพจากแบรนด์ระดับแนวหน้าอย่าง BEAMS ในแต่ละแบรนด์มีแนวคิดอย่างไรบ้างสำหรับคอลเลคชั่นนี้ BEAMS “California Dreamin’” BEAMS เป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายสไตล์ลำลองสำหรับผู้ชาย โดยมีแนวคิดหลักคือ ‘เรียบง่ายและน่าตื่นเต้น’ คอลเลคชั่นสปริงซัมเมอร์ 2019 นำเสนอในธีม California Dreamin’ ซึ่งเป็นการตีความชุดลำลองสไตล์อเมริกันในอดีต ที่ถือกำเนิดจากแคลิฟอร์เนียในแบบฉบับของ BEAMS ไอเท็มเด่นในคอลเลคชั่นนี้บ่งบอกถึงสไตล์แคลิฟอร์เนียที่ทุกคนรู้จัก อาทิ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน เสื้อเชิ้ตอเมริกันฟุตบอล กางเกงขาสั้นแบบชายทะเลและรองเท้ากีฬา VANS ซึ่งได้รับการปรับให้ดูลำลองแบบอเมริกันสมัยใหม่ด้วยทรงที่หลวมขึ้น และการใช้เนื้อผ้าที่มุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยในขณะที่ยังคงความเป็นต้นฉบับไว้ คอลเลคชั่นนี้เลือกใช้โทนสีที่แสดงถึงจิตวิญญาณอันสดใสของรัฐแคลิฟอร์เนีย อาทิ สีฟ้าของท้องฟ้าโปร่ง สีส้มที่มีชีวิตชีวาเหมือนแสงอาทิตย์สาดส่อง สีฟ้าอ่อนเหมือนน้ำในสระที่ทอประกาย และสีเขียวหญ้าของต้นปาล์ม BEAM PLUS “ALL YOU NEED IS IVY”
Pro-Keds แบรนด์รองเท้าผ้าใบเจ้าแรก ๆ ที่เลือกหยิบยาง rubber มาทำเป็นพื้นรองเท้า แถมเป็นรองเท้าคู่ใจของ Geoge Lehman นักบาสเก็ตบอลในตำนานของยุค 70 ที่สวมใส่ Pro-Kids ชู้ตลูกลงห่วงกว่าสองร้อยลูกโดยไม่พลาดสักครั้ง ครั้งนี้แบรนด์รองเท้าที่มีเรื่องราวยาวนานก็กลับมาอีกครั้งพร้อมสีสันใหม่ ๆ ของฤดูใบไม้ผลิ สำหรับคอลเลกชัน Spring 2019 ของ Pro-Keds ไม่ได้มีแค่รองเท้าทรงคลาสสิกเท่านั้น แบรนด์ยังนำรองเท้ารุ่นไฮไลต์อย่าง Royal ที่สร้างสรรค์ออกมาเพื่อนักกีฬาบาสเก็ตบอลโดยเฉพาะ พร้อมรูปทรงดั้งเดิมของแบรนด์มาปรับแต่งใหม่เพื่อผสมผสานความวินเทจและแฟชั่นแบบปัจจุบันเข้าด้วยกัน Pro-Keds เลือกใช้เฉดสีมาแรงของฤดูใบไม้ผลิ 2019 อย่างสีชมพูกุหลาบที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก สีเขียวมะนาวให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาและเย็นสบาย สีดำที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยตกยุค รวมถึงลายพรางของทหารที่ขนกันมาต้อนรับอากาศร้อนที่ใกล้เข้ามาทุกที ส่วนรองเท้าผ้าใบรุ่น Royal Plus ที่ต่อยอดจากรุ่น Royal โดยพัฒนาเรื่องวัสดุและความนิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับเท้าของนักกีฬาเมื่อสวมใส่รองเท้าลงสนามได้มากขึ้น พร้อมกับสีเท่ ๆ อย่างสีน้ำเงินโคบอลต์ คาดด้วยแถบสีเหลืองทองคล้ายกับมะม่วงสุก สัมผัสได้ถึงความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสีชมพูกุหลาบคาดแถบสีขาวให้ความรู้สึกสบายตาตามสไตล์สีพาสเทล รองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิกที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานของ Pro-Keds วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดย Royal Plus Suede สี Cobalt
Nike และ Paul George นักบาสเกตบอลซูเปอร์สตาร์จากทีม Oklahoma City Thunder ร่วมกันสร้างสรรค์สนีกเกอร์สุดเท่ที่มีชื่อเรียกว่า Nike PG ครั้งนี้เพิ่มความพิเศษขึ้นไปอีกขั้นด้วยการ collaboration กับองค์การ NASA เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จจากการส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกเมื่อ 50 ปีที่แล้ว แบรนด์เครื่องกีฬากับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือ NASA ไม่ได้เพิ่งร่วมงานกันเป็นครั้งแรก เพราะผลงานปีก่อนของ Paul George ก็ได้ใช้เรื่องราวจากอวกาศมาสร้างสรรค์เป็นสนีกเกอร์สีส้มสะดุดตารุ่น Nike PG3 “NASA” ถึงจะเคยนำคอนเซปต์ของ NASA มาเล่าไปแล้ว แต่ครั้งนี้ Nike เลือกเรื่องราวความสำเร็จของ Apollo Missions ที่สั่นสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์และสร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ให้กับโลก โดยเฉพาะโครงการ Apollo 11 ที่สามารถส่งนักบินอวกาศขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จในปี 1969 โดยมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เหยียบพื้นผิวของดวงจันทร์เป็นคนแรกคือ Neil Alden Armstrong โดยรองเท้า Nike PG3 “Apllo Missions” จะร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการเหยียบดวงจันทร์ครั้งนี้ สนีกเกอร์
ตัวตนของผู้ชายไม่ได้มาจากลักษณะนิสัยและความคิดภายในเท่านั้น แต่การเลือกข้าวของเครื่องใช้สามารถนิยามตัวตนของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะ “นาฬิกา” ที่อยู่บนข้อมือของเรา ไม่ว่าจะไปติดต่องานหรืองานเลี้ยงสังสรรค์ที่ไหนก็เป็นปราการด่านแรกที่ทุกคนมองเห็น การเลือกนาฬิกาที่เหมาะสมจึงไม่ได้เป็นเพียงการเลือกเครื่องบอกเวลาเท่านั้น แต่นาฬิกาสามารถบอกตัวตนของผู้สวมใส่ได้อีกด้วย จึงไม่แปลกที่ในภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ตัวละครแต่ละตัวจะมีนาฬิกาคู่ใจเพื่อใช้บ่งบอกคาแรกเตอร์อันโดดเด่นที่ผู้กำกับหรือผู้สร้างต้องการสื่อให้ผู้ชมเห็น ดังนั้นนาฬิกาใดที่จะถูกนำมาใส่จึงต้องมีความสมจริงกับคาแรกเตอร์ในภาพยนตร์ และตัวนักแสดงต้องโอเคกับนาฬิกาเรือนนั้นด้วย ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจะเข้ามาปรากฎตัวในหนังระดับโลกได้ง่าย ๆ Hamilton จึงถือเป็นอีกแบรนด์นาฬิกาที่มีหลากรุ่น หลายซีรีส์ มีเรื่องราวและประวัติอันยาวนาน เดินทางผ่านหน้าประวัติศาสตร์มากว่า 127 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งแบรนด์ขึ้นที่เมืองแลงคาสเตอร์ รัฐเพนซิลวาเนีย ในปี 1892 ด้วยความคลาสสิกและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Hamilton ทำให้ตั้งแต่ปี 1932 เป็นต้นมามีนาฬิกา Hamilton สารพัดรุ่นถูกนำไปปรากฏโฉมอยู่บนจอเงินในภาพยนตร์มากถึง 500 เรื่อง เพราะนอกจากการเป็นอุปกรณ์บอกเวลาแล้ว นาฬิกา Hamilton แต่ละรุ่นยังเป็นเครื่องบ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่อย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ฟังก์ชันความเที่ยงตรง แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ร่วมและเรื่องราวมากมาย เสริมคาแรกเตอร์ตัวละครในภาพยนตร์แต่ละเรื่องให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ที่สำคัญแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของ Hamilton ที่ Hollywood อุตสาหกรรมความบันเทิงระดับโลกไว้วางใจ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือยังไง แต่ภาพยนตร์จำนวนมากที่มี Hamilton อยู่บนข้อมือตัวแสดง มักจะประสบความสำเร็จอย่างมากเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นระดับ Oscar Nominations หรือกระทั่งคว้ารางวัล Oscar