รหัส m79360n-0024 ของซีรีส์ Black Bay คือการตอกย้ำการเป็นเรือนเวลาระดับประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Tudor ซึ่งเป็นการจับส่วนผสมของนาฬิกาดำน้ำระดับโปรเข้ากับ Sports Chronograph ผสมผสานอย่างลงตัวทั้งฟังก์ชันและดีไซน์ นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ Calibre MT5813 (COSC) สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง มาพร้อมกลไก Column Wheel & Vertical Clutch ที่ให้เราใช้งานได้แบบ Everyday Watch ด้วยสายนาฬิกาตัวล็อค TUDOR “T-Fit” สุดปลอดภัยใส่ On Hand ได้ตลอดวัน และด้วยไซส์ซิ่งตัวเคสความกว้างขนาด 41 มม. / ความหนา 14.4 มม. ของนาฬิกา Stainless Steel ตัวนี้ ก็เหมาะกับทุกสไตล์ มาพร้อมฟังก์ชันกันน้ำลึกถึง 200 เมตร ว่ากันด้วยไฮไลต์ความงดงามบนหน้าปัดของ Flamingo Blue ที่เป็นการตอกย้ำจิตวิญญาณแห่งการแหกฏของแบรนด์ Tudor อีกครั้ง
เผลอเพียงพริบตา หน้าปฏิทินก็หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านมาจนถึงแผ่นสุดท้ายของปีเข้าอีกครา และก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าโมเมนต์ปลายปีแบบนี้คือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เป็นสัญญาณการมาถึงของฤดูกาลแห่งความสุข สำหรับใครหลายคนที่กำลังรอทริปเที่ยวรับลมหนาวปลายปี รวมถึงใครที่เฝ้ารอการได้พบเจอพร้อมหน้า ปาร์ตี้กับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรักอย่างใกล้ชิด และแน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ก็คือของขวัญแทนใจเพื่อส่งผ่านความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนสำคัญข้างกาย ซึ่งในวันนี้ UNLOCKMEN ก็ภูมิใจเสนอไอเดียของขวัญทรงคุณค่า ที่ดีต่อใจทั้งผู้ให้และผู้รับ กับ 3 เรือนเวลารุ่นเด่นจาก Rado ที่ไม่ว่าเวลาจะหมุนผ่านไปเร็วแค่ไหน นาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้ง 3 รุ่นนี้ ก็พร้อมมอบความทรงจำแห่งความสุขให้หวนนึกถึงทุกครั้งยามที่หยิบขึ้นมาสวมใส่ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราขอเริ่มต้นกันที่นาฬิกาเรือนแรกที่จะร่วมเดินทางในช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปีนี้ กับนาฬิกาสไตล์สปอร์ตเรือนหรูอย่าง Rado Captain Cook High-Tech Ceramic Skeleton (R32192152) รุ่นใหม่ล่าสุดที่พร้อมสะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น ด้วยตัวเรือนและสายนาฬิกาไฮเทคเซรามิกสีดําด้าน ลงตัวทั้งความเท่ ลุ่มลึก ผสานความแข็งแกร่งอย่างมีสไตล์ เมื่อมองไปถึงรายละเอียดต่าง ๆ ก็จะพบดีเทลอันน่าประทับใจ ทั้งขอบหน้าปัดกับเม็ดมะยมสเตนเลสสีโรสโกลด์ชุบ PVD กระจกหน้าปัดเป็นคริสตัลแซฟไฟร์ ถัดลงไปคือหน้าปัดเปลือยสีรมควัน เผยให้เห็นกลไก R808 ที่บรรจงทําขึ้นอย่างประณีต ขัดลาย Cotes-de-Geneve สามารถสํารองพลังงานได้สูงสุดถึง 80
– คำถาม : เป็นไปได้มั้ยที่รองเท้าผู้ชายแบบ DRESS SHOES ที่มีความเป็น FORMAL USE มากที่สุดชนิดหนึ่งของรองเท้าบนโลก จะสามารถเป็น EVERYDAY SHOES ใส่ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ ? – คำตอบ : ถ้าคุณยังลังเลในคำตอบ อาจจะหมายความว่าคุณยังไม่เคยลองสวม KENNETH COLE ! ปฎิเสธไม่ได้ว่าคำถามข้างบน เป็นหนึ่งในความฝันของผู้ชายที่รักการสวมรองเท้า DRESS SHOES เป็นประจำทุกคนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยความหลงใหลส่วนตัวจากแฟชั่น CLASSIC MEN’S WEAR / SATORIAL หรือเพราะว่าต้องสวม DRESS SHOES ตัวเก่งเพื่อออกไปทำงานทุกเช้า ตกเย็นเข้างานสังคมก็ตาม KENNETH COLE คือแบรนด์รองเท้า Designer Shoes Brand สไตล์ New York Classy ที่มองเห็นว่าผู้ชายทุกคนควรจะสามารถใส่รองเท้าแบบ DRESS SHOES ได้ทุกโอกาส และพยายามที่จะเป็น DRESS
เวลาที่นึกถึงแฟชั่นแบบ Paul Smith เราจะรู้สึกถึงพลังงานของคำว่า “Classic with a Twist” ที่ Sir Paul Smith ได้ทำผ่านเสื้อผ้าซึ่งแสดงถึงความคลาสสิก เรียบหรู และในขณะเดียวกันก็สามารถโลดเต้นอย่างสนุกสนานได้ด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะกับแฟชั่นไลน์สูท Tailoring เสื้อผ้าที่เป็นรากฐานของแบรนด์มาตั้งแต่วันแรกในปี 1970s UNLOCKMEN ได้ลองสวมหนึ่งในสูทของคอลเลกชั่นฤดูกาลล่าสุด Paul Smith Collection AW24 อย่าง The Soho – Tailored-Fit Dark Blue Check Wool Suit Set การนำสูทใน Fit ที่ผู้คนนิยมมากที่สุดของแบรนด์ ทรงสูทที่ถูกตั้งชื่อตามเมืองย่านคึกคัก ณ New York กับ London และ Soho เองก็เป็นสูทที่เล่า Heritage Story ของแบรนด์ตั้งแต่วันที่เซอร์พอลเปิดร้าน ‘Paul Smith Vetements Pour
สำหรับแฟนพันธุ์แท้ G-SHOCK รวมถึงใครที่หลงใหลในนาฬิกาพันธุ์แกร่งดีไซน์เท่ พร้อมขึ้นข้อไปด้วยกันได้กับทุกไลฟ์สไตล์ น่าจะเคยประทับใจในโมเดล GA-2100 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นตระกูลแกร่งอย่าง G-SHOCK DW-5000 กับงานออกแบบที่ผสมผสานระหว่างระบบอะนาล็อก และดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว และต้องบอกว่าความโดดเด่นของ GA-2100 ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ G-SHOCK GM-2110D นาฬิกา G-STEEL ที่ถ่ายทอดทุก DNA มาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ของกรอบทรงแปดเหลี่ยม และงานดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง ขาดไม่ได้กับเทคโนโลยีบอกเวลา 2 ระบบทั้งอะนาล็อก และดิจิตอล พร้อมแสดงข้อมูล World Time ได้มากถึง 31 เขตเวลา ซึ่งใจความสำคัญทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ได้ถูกนำเสนอใหม่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูเรียบหรูล้ำสมัย ด้วยกรอบสเตนเลสสตีลทรงแปดเหลี่ยมที่ได้รับการหลอมและขัดเงาอย่างพิถีพิถัน เข้ากันได้ดีกับสายโลหะดีไซน์เท่ และแน่นอนว่าตัวเรือนภายใน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของความทนทานระดับตำนานนั้นผลิตขึ้นจากเรซินคุณภาพดีเสริมใยแก้วความแข็งแกร่งสูง พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วยคุณสมบัติกันน้ำลึกที่ระดับ 20 บาร์ (200 เมตร) และถึงแม้จะทนทานขั้นสุด แต่ต้องบอกว่า G-SHOCK GM-2110D นั้นไม่ได้มีบอดี้ที่ใหญ่โตเทอะทะจนเกินไป เพราะนาฬิกาเรือนนี้คือเจ้าของตำแหน่งนาฬิการุ่นผสมของ G-SHOCK ที่บางที่สุด กับความบางเพียง 11.8 มม.
สำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์แห่งเครื่องบอกเวลา น่าจะรู้จักถึงชื่อเสียงเรียงนามของ ORIENT เป็นอย่างดี ในฐานะแบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นที่ได้รังสรรค์เรือนเวลาระดับสูงให้กับโลกนี้มาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี กับความโดดเด่นในเรื่องของการผสมผสานกลไกอันละเอียดอ่อนอย่างประณีตให้เข้ากับการออกแบบที่เป็นดั่งนวัตกรรมด้วยตัวเอง พร้อมทั้งนำเสนอคุณค่าในแบบที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งทั้งหมดนี้คือ ความประทับใจและสร้างการจดจำให้กับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาทั้งในประเทศญี่ปุ่น และทั่วโลกเสมอมา และหากพูดถึง ORIENT เชื่อว่าสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง คือหนึ่งในตระกูลซีรีส์นาฬิกาสปอร์ตดำน้ำอย่าง ORIENT Diver Design ที่มีเอกลักษณ์เป็นรูปปลาโลมาประดับอยู่บนฝาหลัง ซึ่งได้รับการขนานนามในอีกชื่อหนึ่งว่า ORIENT Mako ถือเป็นรุ่นที่มีส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1960 พร้อมรับการพัฒนาในส่วนของสีหน้าปัดและรายละเอียดที่หลากหลายมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2004 เป็นต้นมา จนกระทั่งในปี 2023 กลไกระบบโซลาพาวเวอร์พร้อมฟังก์ชั่นโครโนกราฟได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกใน ORIENT Diver Design ซึ่งกลไก in-house ระบบโซล่าพาวเวอร์นี้จะเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือแหล่งกำเนิดแสงต่าง ๆ ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เหมือนนาฬิกาควอต์ซทั่วไป จึงช่วยเพิ่มความสะดวกของการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะกับการใช้ฟังก์ชั่นโครโนกราฟสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ล่าสุดในปี 2024 แบรนด์ ORIENT ได้เปิดตัว ORIENT Diver Design รุ่นพิเศษ Limited Edition เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20
ในปี 2022 MB&F เปิดตัว Legacy Machine Sequential EVO ซึ่งเป็นนาฬิกาโครโนกราฟคู่ที่เปิดประตูสู่การพัฒนากลไกโครโนกราฟให้เหนือระดับ กลไกอันล้ำสมัยได้สร้างนิยามใหม่ เข้าไปครองใจเหล่านักสะสม จนได้รับรางวัล GPHG ‘Aiguille d’Or’ ในปีเดียวกัน ผลงานของ Stephen McDonnell หนึ่งใน MB&F Friends ผู้อยู่เบื้องหลังผลงาน LM Perpetual ที่นำเสนอเมื่อปี 2015 โดย LM Sequential EVO เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มาพร้อมประสิทธิภาพการจับเวลาอย่างครบครัน จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่าทำไมไม่มีใครเคยคิดถึงรูปแบบนี้มาก่อน ฟังก์ชันจับเวลาหลากหลายโหมดช่วยให้สามารถจับเวลาทุกอย่าง ตั้งแต่การแข่งขันของนักกีฬาสองคน หรือรอบจับเวลาติดต่อกันในสนามแข่ง หรือแม้แต่การจับเวลาในการปรุงอาหารสองจานที่แตกต่างกันในเตาอบ ไปจนถึงการใช้งานจับเวลาอย่างเป็นทางการ การประดับอัญมณีกันสึกภายในคลัตช์แนวตั้งเป็นสิ่งสำคัญของโครโนกราฟแบบ Sequential ทั้งหมด และระบบฟลายแบ็กใหม่ยังจำเป็นต้องมีการประดับอัญมณีกันสึกเช่นกัน หากไม่มีชิ้นส่วนนี้อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ ระบบนี้เป็นระบบที่ละเอียดอ่อนมาก เพื่อลดแรงเสียดทานทั้งหมดให้เหลือน้อยที่สุด มีผลทำให้การตีกลับของเข็มไปยังเลขศูนย์ของกลไกฟลายแบ็กมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ McDonnell ได้บรรจุโรเลอร์อัญมณีเข้ากับกลไกฟลายแบ็ค ส่วนประกอบนี้ต้องสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ดังนั้นสำหรับนาฬิกาต้นแบบเรือนแรก ทาง McDonnell ได้สร้างโรเลอร์อัญมณีขึ้นเองเพื่อพิสูจน์แนวความคิดของกลไกอันล้ำสมัยนี้ (หนึ่งในห้าชิ้นส่วนประกอบที่ได้รับการจดสิทธิบัตร)
ค่อนข้างมั่นใจกับตัวเองเลยล่ะ ว่าการที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งได้ลงในนิตยสารญี่ปุ่น City Boys ที่เราเองก็เป็นแฟนคลับมาตลอดอย่าง Popeye Magazine ในฉบับ April 2023 (#912) คือเหตุผลหนึ่งที่เราตัดสินใจขอให้คุณโปรดิวเซอร์ติดต่อหา ‘โจ้-ณศิพงศ์ วัชรพงศ์ชวลิต’ เด็กหนุ่มคนที่เราเพิ่งพูดถึง เด็กหนุ่มที่เป็นเจ้าของร้านขายเสื้อมือสอง/เสื้อวินเทจชื่อ Sold The World ร้านที่หากเราคุยกันถึงหน้าตาความสนุกของวงการเสื้อวินเทจไทยในปี 2024 นี่คืออีกหนึ่งตัวไฮป์ของวงการที่ลูกค้าและพ่อค้าไม่ต้องพูดกันเยอะ ความรู้สึกดีใจ (ที่ดูจะเจือด้วยความน้อยใจ) จากคำพูดของโจ้ได้ถูกบันทึกเอาไว้ที่หน้า 205 ของนิตยสาร และยังคงถูกบันทึกเอาไว้บนโพสต์ Offcial Instagram ของ Sold The World ณ วันที่ 16 มีนาคม 2566 ถึงเราจะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แต่นิตยสารหน้านั้นสร้างคำถามขึ้นในหัวทันที การทำร้านขายเสื้อวินเทจมือ 2 ที่ไอเทมแทบจะทุกชิ้นในร้านมีราคาไกลลิบจากเสื้อผ้ามือ 1 ต้องใช้ความเชื่อ ความรัก และความพยายามมากแค่ไหนกัน ถึงจะสามารถเดินทางไปถึงจุดที่สปอร์ตไลต์ของโลกส่องหาได้แบบนั้น ผมกับโจ้ได้เจอกันใน 1 อีกอาทิตย์หลังจากที่คุณโปรดิวเซอร์ส่งข้อความหาเขา ณ ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ สถานที่ซึ่งเป็นที่ทำงานปัจจุบัน
เมื่อพูดถึงแฟชั่นวินเทจเราจำเป็นที่จะต้องยกคำว่า Timeless และ Unique ขึ้นมาด้วยทุกครั้ง เสื้อผ้าและไอทมที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่สามารถตอบโจทย์ ‘ความรู้สึก’ และเรื่องราวของวันเก่า ๆ ไม่ว่าจะการตัดเย็บที่มีความคราฟต์มาก ๆ ก็ดี หรือจะสตอรี่ของคนที่ครอบครองก่อนหน้านี้ก็ตาม ใครที่กำลังอินกับเสื้อผ้าวินเทจอยู่ UNLOCKMEN รวม 8 ร้านวินเทจทั่วกรุงเทพที่อยากให้ลองไปปักหมุดสักครั้ง บอกเลยว่าแต่ละร้านคือ Selected มาแบบพร้อมจะละลายทรัพย์ได้ทุกเมื่อ สวยทุกชิ้น ถึงช่วงนี้อากาศไม่เป็นใจก็ไม่มีปัญหา IG ของร้านเหล่านี้ก็พร้อมให้คุณเสียเงินแม้อยู่ที่บ้านก็ตาม 𝐌𝐄𝐌𝐎𝐑𝐈𝐄𝐒𝐁𝐑𝐀𝐍𝐃 หนึ่งในร้านวินเทจที่ป๊อปที่สุดของไทย (และดังไกลไป Global) ร้านของวินเทจที่เชื่อว่า “Everything Has Its Own Story” ร้านที่เป็นบ้านในรัชดาภิเษกซอย 10 แห่งนี้ คือสวรรค์ของคนรัก Military / Work Wear / Sukajan และอีกหลากของวินเทจที่เกิดจากการ Selected ด้วยความหลงใหลของคุณเต๋าเจ้าของร้านที่บินไปทั่วโลกเพื่อหาของวินเทจเพื่อส่งต่อเรื่องราวให้กับคนที่รักในสิ่งเดียวกัน Location : 276 Soi Ratchdaphisek10 (แยก 11-4)
ขึ้นชื่อว่าเป็นเสื้อผ้ามือ 2 แฟชั่นเก่าจากอดีตก็จะมีชั้นเลเยอร์มากมายบนเนื้อผ้าให้เราเห็นเต็มไปหมด รอยเปื้อนจากไอติมของแฟนตอนมัธยม เขี้ยวของน้องหมาที่บ้านกระชากเพราะคิดว่าขนม หรือรอยน้ำมันจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่หลบยังไงก็ไม่พ้น บางคนรวมถึงคุณเองอาจจะเรียกว่า ‘ความสกปรก’ หรือจะรอยตำหนิในรูปแบบไหนก็ตาม แต่สำหรับ ‘เต๋า–นพเก้า เหมวิจิตร’ สิ่งนี้คือเรื่องราวอันน่าหลงใหลเสมอ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เราได้มาคุยกับเต๋า และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำหนึ่งของเขา ซึ่งเต๋าบอกว่าการได้เจอกับผู้คนใหม่ ๆ คือหมุดหมายในใจที่เขาเลือกเปิดร้านเสื้อผ้าวินเทจชื่อ Memoriesbrand ร้านในรัชดาภิเษกซอย 10 ที่ไม่ได้มีเพื่อแค่อ้าแขนรับคนรักของวินไทยในไทย แต่ชาวต่างชาติก็ถึงขั้นต้องบินมาเลือกของจากที่แห่งนี้อยู่เสมอ และบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้จะเป็นการคุยกับเต๋าเรื่องที่ยังไม่ค่อยเห็นใครคุยกับชายหนุ่มคนนี้มากนัก Japanese Vintage Fashion เสื้อผ้าวินเทจญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์ความประณีตระดับที่เรามักใช้คำว่า “โคตรญี่ปุ่น” กันได้แบบไม่รู้จักเบื่อ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Memoriesbrand มาก่อน อย่าเอานิ้วเลื่อนไวจนเกินไป ค่อย ๆ อ่านบรรทัดถัดไป ให้ UNLOCKMEN ได้พาคุณไปรู้จักกับชีวิตของผู้ชายคนนี้กัน ทุกคนเชื่อเรื่องโชคชะตาที่ชีวิตพร้อมจะเหวี่ยงเราไปเจออะไรก็ตามที่คาดไม่ถึงมั้ยครับ หลังจากคำพูดข้างบนที่มีความทรงจำในวันเก่า ๆ ปนออกมากับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของเต๋า เขาบอกเราว่าวันหนึ่งตัวเองก็ต้องการเสื้อผ้าที่ใส่แล้วรู้สึกได้แสดงออกถึงความเป็นตัวเองชัดเจนมากขึ้น ในตอนนั้นเอง ณ ตลาดนัดรถไฟ ร้านเสื้อเวินเทจแห่งหนึ่งได้ต้อนรับชีวิต (แฟชั่น) บทใหม่ของเต๋า ด้วย French Workwear
สำหรับคนที่เป็นแฟนคลับของแบรนด์รองเท้าจากเยอรมันอย่าง BIRKENSTOCK อยู่แล้ว ก็คงไม่ต้องอธิบายเยอะว่านี่คือรองเท้าที่ใส่ดีขนาดไหนสำหรับสายเดินตลอดวัน ที่ต้องการความสไตล์ลิ่งเท่ไม่เหมือนใคร ปี 2024 นี้ BIRKENSTOCK กลับมาตอกย้ำความหมาย ‘รองเท้าของคนเมือง’ อีกครั้ง ด้วยรุ่น ZURICH TECH และ SHINJUKU รองเท้าที่ผลิตขึ้นเพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนในเมืองใหญ่โดยเฉพาะ ความเจ๋งของรองเท้าทั้ง 2 รุ่นไม่เหมือนกับ BIRKENSTOCK รุ่นที่ผ่านมา UNLOCKMEN ได้สัมผัสมาแล้ส BIRKENSTOCK ZURICH TECH ก้าวเดินครั้งใหม่จากรองเท้ารุ่นคลาสสิกปี 1964s ถ้าลองพิมพ์คีย์เวิร์ดใน Google ด้วยชุดคำสองคำนี้ ‘1964s’ และ ‘Shoes History’ คำตอบที่อินเทอร์เน็ตมอบให้ จะมีชื่อของแบรนด์รองเท้าจากเยอรมันนี BIRKENSTOCK ขึ้นมาด้วย เพราะช่วงเวลานั้นเป็นปีเดียวกันกับที่ ZURICH รองเท้าซึ่งถูกเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นสำคัญของแบรนด์ได้ถือกำเนิดเป็นครั้งแรก BIRKENSTOCK ตั้งชื่อรุ่นรองเท้าของตัวเองด้วยการ Country & City Name จากรอบโลกทุกครั้ง จะ BOSTON / KYOTO
หมุนเข็มวินาทีตีเวลากลับไปตอน ปี 1949 ความงาม มนต์เสน่ห์ ความหลงใหล คือคำนิยามที่ใช้เรียกถึงเรือนเวลารุ่นหนึ่งของ OMEGA ที่มีชื่อว่า ‘Trésor’ เรือนเวลาซึ่งถูกให้ความหมายเอาไว้ว่า ‘ขุมสมบัติ’ ที่ซ่อนอยู่ในตัวนาฬิกา เวลาล่วงเลยผ่านไปจากช่วงเวลาข้างต้นหลายร้อยชั่วโมงต่อมา ชื่อของ Trésor มีความหมายเปลี่ยนไปอีกครั้ง ด้วยการใช้อธิบายถึงรูปทรงอันสง่างามของเรือนเวลาในรุ่นต่อจากโมเดลแรก มีการประดับด้วยเพชร ดีไซน์ด้วยตัวเลขโรมัน วางให้มีไซส์เล็กกระทัดรัดลง ตกแต่งด้วยสิ่งต่าง ๆ มากมาย และแล้ววันแห่งความรักปี 2024 นี้ ชื่อของ Trésor จะสะกดให้ทุกสายตาให้ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง กับเรือนเวลารุ่นล่าสุด OMEGA Mini Trésor ที่มีทั้งหมดถึง 5 รุ่น ประกอบขึ้นจากวัสดุสุดเลิศหรู ซึ่งจะนิยามคำว่า ‘มนต์เสน่ห์’ ใหม่อีกครั้งนึง OMEGA Mini Trésor มาด้วยขนาดกระทัดรัด 26 มม. ซึ่งเป็นไซส์ที่ถูกวางมาแล้วว่าเมื่ออยู่บนข้อมือจะทำให้ทั้งคนสวมใส่และคนที่มองรู้สึกถึงความละเอียดอ่อนอันแบบบางของรุ่นนี้ หน้าปัดถูกประดับอย่างแววาวด้วยเพชรโอบร้อมลอบเรียงเม็ดเป็นรูปทรงเว้าโค้ง (Diamon Curves) เข้าคู่กันไปอย่างดีกับตัวเลขหลักโรมัน พลิกดูที่ฝาหลังของทุกรุ่นจะเห็นงานดีไซน์ดอกไม้ ‘Her Time’