ใครเป็นเหมือนกันบ้าง ที่ปลื้มใจเสมอเมื่อมีแบรนด์แฟชั่นผลิตสินค้าสักชิ้นด้วยการรีไซเคิลวัสดุ หรือวิธีการใดก็แล้วแต่ที่จะไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และไม่ทำให้เกิด Fast Fashion จนเสียเปล่า เพราะโลกของเรามันจะพังแล้วคุณ! วันนี้ได้ปลื้มใจกันอีกครั้ง เมื่อแบรนด์สตรีท Rose In Good Faith จับมือกับ Doc Johnson แบรนด์ของเล่นเซ็กซ์ทอย คอลแลบทำรองเท้าในแคมเปญ Stop Fucking Mother Earth ที่ทั้งใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเปี่ยมด้วยดีไซน์ในเวลาเดียวกัน รองเท้ารุ่นนี้มีชื่อว่า Plastic Soul เป็นรองเท้าที่ทำขึ้นจากวัสดุเหลือใช้ของ ‘ดิลโด้’ โดยมีจุดเริ่มต้นตรงที่ Chad Braverman ของแบรนด์ Doc Johnson เจ้าของธุรกิจครอบครัวซึ่งรันกิจการตั้งแต่รุ่นพ่อ ย้อนกลับไปไกลตั้งแต่ปี 1976 มีวิสัยทัศน์อยากยกตัวแบรนด์ขึ้นไปอีกระดับ ให้คนได้รู้จักเซ็กซ์ทอยมากขึ้น ไปพร้อม ๆ กับแนวคิดที่ต้องการ upcycled เพราะที่โรงงานของของเขามีของที่ไม่ผ่าน qc ซึ่งจะถูกทิ้งเสียเปล่ารายวันเป็นจำนวนมหาศาลอย่างน่าเสียดาย แต่อีกสิ่งสำคัญคือเขาเองเป็นแฟนตัวยงของ Rose In Good Faith ด้วย
ASTRO Stuffs แบรนด์เสื้อผ้าของนักแสดงรุ่นใหม่อย่าง ไบร์ท วชิรวิชญ์ กับไอเดียแบรนด์สร้างสรรค์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยจุดเด่นของแบรนด์ ASTRO Stuffs คือ ทุกทุกคอลเล็กชันจะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล รวมทั้งวัสดุที่ยั่งยืนอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมเรื่องการใช้ซ้ำ และการลดขยะในโลกใบนี้ CHILLIN’ SPACE COLLECTION เกิดจากแนวคิดที่อยากให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ ผ่านแบรนด์ ASTRO Stuffs เพราะธรรมชาติคือแหล่งกำเนิดของทุกสิ่งและเป็นพื้นที่ผ่อนคลายให้ทุกคนได้พักผ่อนและสร้างสรรค์ความสุข เราจึงคัดสรรวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงดีไซน์ที่สะท้อนแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้สัมผัสธรรมชาติให้มากขึ้น เพราะธรรมชาตินั้นเป็นมิตรกับมนุษย์เสมอ คอลเลคชั่นนี้มีไอเทมที่น่าสนใจ เช่น แก้วซิลิโคนปราศจากสาร BPA พับ และพกพาได้ กระเป๋าผ้าฝ้ายรีไซเคิล 100% และเสื้อยืดลายพิเศษที่ร่วมออกแบบกราฟิกโดย Jonas Heen Haeg ศิลปิน digital collage art ชาวนอร์เวย์ โดยจะจัดจำหน่ายทาง astrostuffs.com และ LINE SHOPPING : ASTRO Stuffs
ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในมังงะที่ดังที่สุดในโชเน็นยุคใหม่ของ Chainsaw Man ที่ล่าสุด ถูกแบรนด์เครื่องประดับไฮคลาสจากญี่ปุ่น Tasaki มาจับมือร่วม collaboration ทำเป็นสร้อยคอ แหวน ต่างหูในคอลเล็กชั่นที่ชื่อว่า DANGER การสร้างคอลเล็กชั่น DANGER ของทาง Tasaki ใช้วัสดุหลักเป็นทองคำขาวประกบด้วยไข่มุกอะโกยาม่า (Akoya pearls) ส่วนไอเดียในการปรับตัวละครจาก Chainsaw Man ให้ลงมาอยู่ในรูปเครื่องประดับนั้น จะใช้รูปทรงของ ‘ฟัน’ เพื่อให้เข้ากับความอันตรายของชื่อคอลเล็กชั่น และความแหลมคมของฟันตัวเอกในมังงะเรื่องนี้เองก็เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดสายตามาก สำหรับแฟนคลับของมังงะเรื่องนี้ ต่อให้ไม่บอกว่าแบรนด์ Tasaki คอลแลบกับใคร ก็คงจะเดาได้ทันทีที่เห็นตัวเครื่องประดับของจริง อย่าง Power Necklace สร้อยคอเขาสีแดงจากตัวละคร ‘พาวเวอร์’, Chainsaw Pendant & Ear Cuff ต่างหูและสร้อยคอเลื่อยนตร์ประดับมุขจาก ‘เดนจิ’ กระทั่ง Pochita Pendant สร้อยสุดน่ารักที่ถอดคาแรกเตอร์ของ ‘โปจิตะ’ มาเต็ม ๆ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาคือไอเท็มไฮไลต์ของคอลเล็กชั่นนี้ ในวันที่ 29/06/2022 ที่ผ่านมา
ปี 2022 นี้ นอกจากรันเวย์ของเจ้าชายแห่งความมืด Rick Owens ที่ว่าพีคแล้ว พอเจอกับคอลเล็กชั่นล่าสุด AUTUMN-WINTER 2022/23 ของ Vivienne Westwood ราชินีพังก์ (Queen Of Punk) เข้าไป ก็เรียกว่าสุดไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะจับ Courtney Love มาเป็นแบบ วิเวียนยังใช้ช่างภาพชื่อกระฉ่อน Juergen Teller มาถ่ายภาพเหล่านางแบบ/นายแบบในครั้งนี้ด้วย คอนเซ็ปต์ไอเดียของคอลเล็กชั่น AUTUMN-WINTER 2022/23 เกิดขึ้นจากการที่วิเวียนกับสามีของเธอ Andreas Kronthaler ต้องการเฉลิมฉลองให้กับพื้นที่แห่งความสร้างสรรค์รอบ ๆ สตูดิโอของทั้งคู่ที่ Battersea ใน London ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปมากตลอดระยะเวลา 10 ปีตั้งแต่พวกเขามาอยู่ มันรายล้อมไปด้วยพื้นที่ศิลปะแห่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา อย่าง Royal College of Art (RAC) ก็เพิ่งมาเปิดวิทยาเขตใหม่ใกล้ ๆ กับสตูดิโอเลย และสำหรับทั้งคู่แล้วสตูดิโอนี้เปรียบเสมือนบ้าน
The Bulgari Octo Finissimo Ultra เพิ่งจะบันทึกว่าตัวเองเป็นนาฬิกาที่บางที่สุดในโลกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง แต่แล้วก็ต้องฝันสลาย เมื่อแชมป์ใหม่เขาจัดการทุบสถิติแล้วในเดือนกรกฎาคม ด้วยการจับมือระหว่าง Richard Mille กับ Ferrari เกิดเป็น The RM UP-01 Ferrari นาฬิกาที่ถูกบันทึกว่าบางที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน ด้วยความหนาเพียง 1.75mm เท่านั้น! RM เป็นโปรเจ็กต์ที่ใช้เวลาพัฒนาหลายปี และใช้เวลาไปกว่า 6,000 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากจะร่วมมือกับ Ferrari แล้ว ก็เป็นการทำงานร่วมกับ Piguet Renaud & Papi เหมือนเดิม ส่วนเคล็ดลับความบางของ RM นั้น เริ่มต้นตั้งแต่วิธีการที่เขาเลือกเอากลไกทั้งหมดใส่ไว้ในตัวเครื่อง แทนการเพิ่มฝาหลังเป็น 2 ชั้นแบบที่นาฬิกาปกติทั่วไปเลือกทำกัน ในงานออกแบบ RM ถูกดีไซน์ในความบางระดับแบบชิ้นโครงกระดูก (Skeletonized) และเหมือนเดิม แม้ว่าจะบางแค่ไหนก็ไม่อาจหยุดยั้งปณิธานของการเป็นหนึ่งในนาฬิกายี่ห้อที่ทนทานที่สุดในโลกของ Richard Mille ได้ เพราะเขาออกแบบตามมาตรฐานความทนทานระดับรถแข่งเหมือนเดิม
เมื่อ ‘เจ้าชายแห่งความมืด’ (The Prince Of Darkness) นาม Rick Owen ขึ้นบัลลังก์บนโลกแฟชั่นอีกครั้ง งานแสดงแฟชั่นโชว์ และเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นจึงธรรมดาไม่ได้ UNLOCKMEN จะพาไปดูที่มาในงานล่าสุดของเขากัน แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักชายคนนี้ อ่านประวัติโดยย่อของเขาก่อนได้เลยครับ Richard Saturnino Owens คือดีไซเนอร์คนหนึ่งที่มีผลงานเป็นเอกลักษณ์ที่สุดในโลก และมีฐานแฟนคลับอันเหนียวแน่นที่สุด ถึงขนาดมีชื่อด้อมของตัวเองว่า Tribe โดยงานของโอเว่นให้อารมณ์ที่เต็มไปด้วยความมืดมน ทว่าก็ชวนหลงใหลในเวลาเดียวกัน โอเว่นเป็นเจ้าของงานดีไซน์รองเท้าบาสเก็ตบอลชื่อ The Geobasket และนอกจากจะเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นชื่อตัวเองแล้ว ยังมีแบรนด์ลูกอย่าง DRKSHDW ด้วย ดีไซน์เนอร์งานชุกคนนี้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกมานับไม่ถ้วน เช่น Adidas, Converse, Dr. Martens, BIRKENSTOCK เป็นต้น แต่งานของโอเว่นไม่ได้สวยอยู่แค่ในแพลตฟอร์มของเสื้อผ้าเท่านั้นนะ จินตนาการและความสามารถในการสร้างสรรค์ของเขาแผ่ขยายไปถึงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านด้วย! ซึ่งเป็นงานที่ทำร่วมกับภรรยา Michele Lamy โดยใช้แนวคิดคล้ายๆ กับเสื้อผ้าคือต้องมีสีดำ และต้องไม่เหมือนใคร บางชิ้นนี่มาแบบรูปทรงบังเกอร์ตั้งรับของทหารเลย ด้วยรูปทรงที่ไม่ Cozy เขาจึงเรียกงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ของตัวเองกับภรรยาว่า ‘Anti Cozy’ (ชื่อถูกต้องมาก)
นอกเหนือจากอาการลุ้นเรื่องราวที่ยังค้างคา รอให้ติดตามบทสรุปใน Stranger Things SS4 Vol.2 ซึ่งกำลังจะลงสตรีมมิ่งในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ เราเชื่อว่าสาวก Stranger Things หลายท่าน คงกำลังอินกับแฟชั่นยุค 80s จากพร็อพและคอสตูมต่าง ๆ ของเหล่าตัวละครในซีรีส์ ที่ทีมงานทำการบ้านมาอย่างดี หาไอเทมมากมายมาให้แต่ละคาแรกเตอร์สวมใส่กันแบบตรงยุค และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในไอเทมที่โดดเด้งสะดุดตาออกมาคือนาฬิกาสวย ๆ หลากรุ่นหลายแบรนด์ ที่บอกไปเป็นต้องรู้อายุ เพราะเพียงแค่เห็นโผล่มาในจอแค่ไม่กี่วิ เป็นต้องอุทานด้วยภาษากึ่งไม่ทางการว่า “เชี่ยย นี่มันรุ่นที่เคยอยากได้” หรือ “เฮ้ย เรือนนี้เราเคยมีใส่ไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนนี่นา” งานนี้ใครที่รู้สึกว่านาฬิกาของเหล่าตัวละครใน Stranger Things นั้นมันทัชใจ แต่จำได้แค่คลับคล้ายคลับคลา ไม่ได้รู้ลึกถึงขนาดว่ามันชื่อรุ่นอะไร บอกเลยว่าไม่ต้องไปเหนื่อยค้นหาให้ตาแตก เพราะเราได้รวบรวมลายแทงชื่อรุ่นเด่นจากตัวละครดังเกือบทุกคาแรคเตอร์เท่าที่เราสามารถหาได้ มาให้ชาว UNLOCKMEN ทั้งหลายนำชื่อรุ่นลากเข้า Google เพื่อสะกดรอยไปตามสอยกลับมาครอบครองให้หายคิดถึง ข่าวดีคือมีหลายเรือนที่วางขายมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยได้กลายเป็นงานวินเทจเข้าขั้น Rare Item ที่อาจต้องใช้กำลังกาย บวกกำลังใจ เสริมด้วยกำลังภายในกระเป๋าตังค์ในการตามล่าของดีมาประดับข้อมือ เอาเป็นว่าก่อนจะเวิ่นเว้อไปมากกว่านี้ เชิญไปดูกันเลยดีกว่าว่าตัวละครไหนใส่นาฬิกาอะไรเข้าฉากกันบ้าง เอ้า…
ไม่ต้องตั้งตารอคอยหรือเดินทางไปเสาะแสวงหาชมกันตามมิวเซียมหรืองานแฟชั่นทั่วทุกมุมโลก วันนี้ แสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาฯลักซ์ชัวรี่ระดับประเทศ ได้รวบรวม Trunk วินเทจสุดหายากจากทั่วทุกมุมโลก รังสรรค์ขึ้นโดยแบรนด์ดังอย่าง Louis Vuitton และ Goyard ที่ยังคงสร้างปรากฏการณ์มูลค่าพุ่งแรงไม่หยุดทุกวินาที ชนิดที่ว่าประเมินมูลค่าไม่ได้ มานำเสนอให้ทุกคนได้ร่วมชมความงามแบบเอ็กซ์คลูซีฟกันถึงที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยงานนี้ถือเป็นโชว์เคส Collectible pieces ทรังก์ของรักของสะสมอันคลาสสิก Rare Item จากการเดินทางทั่วโลกของผู้บริหารแสนสิริอย่าง ‘คุณเศรษฐา ทวีสิน’ ที่ได้รับเกียรติให้นำมาจัดแสดงแบบเอ็กซ์คลูซีฟอย่างสง่างาม ตกแต่งในแต่ละมุมพื้นที่ของโครงการ DEMI Sathu 49 แบรนด์ใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินไพร์มโลเคชั่นใจกลางเมืองเชื่อมต่อ CBD สาทร ตั้งแต่บ้านตัวอย่างทั้ง 2 หลัง รวมถึงคลับเฮาส์ส่วนกลาง เพื่อส่งมอบสุนทรียะประสบการณ์ในการชมโครงการอย่างเหนือระดับ ซึ่ง Trunk แต่ละใบนั้นจะมีเรื่องราว มีความพิเศษ และความสวยงามมากน้อยแค่ไหน เราได้เก็บภาพมาให้ชาว UNLOCKMEN ดูเรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะหาโอกาสไปชมด้วยตาของคุณเอง เพราะต้องบอกเลยว่าเห็นในภาพว่างามแล้ว แต่ของจริงนั้นเป็นอะไรที่งามยิ่งกว่า Louis Vuitton x Supreme Malle Courrier Trunk
กว่า 2 ปีที่ แบรนด์ THEATRE ห่างหายจากการทำแฟชั่นโชว์ครั้งใหญ่ ล่าสุด คุณจ๋อม – ศิริชัย ทหรานนท์ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ THEATRE (เธียเตอร์) ที่อยู่คู่วงการแฟชั่นมานานกว่า 37 ปี กลับมาจัดแฟชั่นโชว์เปิดคอลเลกชั่นสำหรับบุรุษ สะท้อนความเป็นเฟมินิน มัสคิวลีน ของสุภาพบุรุษช่วงต้นศตวรรษที่ 20 (ระหว่างปี 1900-1920) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความก้าวหน้า และวิทยาการ ผสานกลิ่นอายของวัฒนธรรมและเทคโนโลยี หลอมรวมกับความ Sustainability เพื่อตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ซีซั่นนี้ยังคงสะท้อนความเป็นเฟมินินและมัสคิวลีนตามแบบฉบับของแบรนด์เอาไว้ การห่มและสวมทับ ความพลิ้วไหว ความสบายในฤดูร้อน คือคอนเซปต์หลักของคอลเลกชั่นนี้ นำมาผสานเข้ากับเทคนิคการตัดเย็บที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งคือการเลือกย้อมสีผ้าด้วยสีธรรมชาติ ในสีเอิร์ธโทน อย่าง โทนสีน้ำตาลไล่ไปจนถึงสีครีม และการนำเศษวัสดุที่มีอยู่ หรือ ผ้าสีต่างๆ มาทักทอ ตัดต่อ วางลายผ้า ด้วยเทคนิคเดรปปิ้ง มัด และผูก กลายเป็นซีลูเอตใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ สะท้อนถึงตัวตนของผู้สวมใส่ สำหรับแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ไม่ทำให้ผิดหวังกับความอลังการ ภายใต้ธีม DIVERSOLOGY โดยมี
ในวันครบรอบ 60 ปี การเดินทางของยานอวกาศ Aurora 7 (ออโรร่า เซเว่น) นาฬิกาในตำนานที่มาพร้อมกับหน้าปัดบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ที่ถูกนำกลับมาผลิตอีกครั้ง เพื่อระลึกถึงภารกิจสำคัญในประวัติศาสตร์ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญครั้งนี้ Breitling (ไบร์ทลิ่ง)ได้ นำเสนอนาฬิกา Cosmonaute (คอสโมนอต) รุ่นดั้งเดิม ที่เคยเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1962 และได้บอกเล่าเรื่องราวอันน่าทึ่งของนาฬิกาเรือนนี้ ในยุค 1960s นาฬิกา Navitimer (เนวิไทเมอร์) ของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) คือนาฬิกาสำหรับนักบินแบบไร้ที่ติแต่ในขณะแนวโน้มของโลกที่กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว นอกจากการเดินทางและสำรวจอวกาศ และนั่นหมายความว่าโครงการสำรวจอวกาศอื่น ๆ ก็กำลังดำเนินการไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ผู้ผลิตนาฬิกาต่างพากันแข่งขัน เพื่อจะเป็นผู้ผลิตนาฬิกาเรือนแรกบนข้อมือของนักบินอวกาศ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนาฬิกาที่เกี่ยวข้องกับการบินของ Breitling ทางให้แบรนด์กลายเป็นผู้นำของกลุ่มผู้ผลิตนาฬิกา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1962 Breitling ได้อ้างสิทธิ์อย่างเป็นทางการว่า “นาฬิกาข้อมือจากสวิสเรือนแรกในอวกาศ” หลังจากที่นักบินอวกาศ ScottCarpenter โคจรรอบโลก 3 ครั้งในขณะที่สวมนาฬิกา
เชื่อว่ามีแฟน ๆ ของ TAG Heuer Monaco อยู่ไม่น้อย แต่ถึงจะไม่ใช่แฟน ก็น่าจะต้องประทับใจในเรือนเวลารุ่นพิเศษล่าสุด Monaco Special Edition for the Fomula 1 Monaco Grand Prix “Dark Lord” ที่สุดแห่ง chronograph ระดับไอคอนที่เคยสร้างตำนานบนข้อมือของ Steve McQueen ในปี 1971 ดีไซน์สุดเท่ขรึมแบบ all-black-evertyhing เคสทรง classic square ขนาด 39mm ผลิตจาก grade 2 titanium สีดำจาการเคลือบ DLC-coated กลไก Calibre Heuer 02 Automatic มาพร้อม monochromatic dial design จากยุค ’70s หน้าปัดผ่านการปรับรายละเอียดให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เช่นการขัดด้านหรือการเพิ่ม grain
เรือนเวลาสำหรับนักลงทุน Crypto ที่สะท้อนความสำเร็จในรูปแบบศิลปะบนข้อมือ Jacob & Co. Astronomia Solar Bitcoin นาฬิการุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ JCAM19 ผ่านการสร้างสรรค์หน้าปัดเพื่อ Bitcoin โดยเฉพาะ ตัวเรือนขนาด 44mm เคลือบสีดำด้านสุดเท่ Full black DLC coating บน titanium frame งานศิลป์บนหน้าปัด three-armed platform ออกแบบเพื่อเชิดชูความแข็งแกร่งของ Bitcoin ผู้นำแห่ง cryptocurrency ด้วย currency symbol ขนาดใหญ่สามารถหมุนได้ จรวดสีดำบ่งบอกถึงการ “to the moon” โดย Moon ในที่นี้คือเพชรที่ผลิตจาก 1Ct spherical Jacob cut diamond อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ Yellow sapphire ด้านบนมี One-minute flying tourbillon แบบ