ช่วงหลัง ๆ เราอาจจะแนะนำเรื่องสไตล์ที่ออกไปในเชิงสตรีทแฟชั่นเสียเป็นส่วนใหญ่จนลืมไปว่า ก็ยังมีผู้ชายอีกจำนวนไม่น้อยที่เป็นสาย Metrosexual หนุ่มเมืองที่มีความหลงใหลเกี่ยวกับการดูแลรักษาตัวเอง รวมถึงแฟชั่นอย่างมากแต่ไม่ใช่เกย์ ซึ่งอันที่จริงแล้วปัจจุบันผู้ชายในบ้านเราก็ค่อนข้างจะให้ความสนอกสนใจเรื่อง เสื้อผ้า หน้า ผม มากยิ่งขึ้นกว่าสมัยก่อน โดยจะเห็นได้ว่าอย่างน้อยทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์ของเราจะหันมาให้ดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็นสุขภาพที่หันมาออกกำลังกาย หรือการจัดแต่งทรงผม พร้อมเสื้อผ้าที่ดูเนี้ยบอย่างสุด ๆ และผู้ชายสาย Metrosexual ที่แล่นเข้ามาในความคิดเป็นลำดับต้น ๆ ที่เราจะนึกถึง คงจะหนีไม่พ้น Adam Levine นักร้องนำวง Maroon 5 Adam Levin โด่งดังในฐานะนักร้องผู้มากความสามารถการันตีผลงานความสำเร็จมากว่าสิบปี แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเป็นจุดเสริมส่งให้เขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก ก็คือ สไตล์การแต่งตัว พร้อมรอยสักเท่ ๆ ทำให้ Adam Levine มีความเป็นแบดบอย ดังนั้นวันนี้ทีมงานจึงขอนำสไตล์การแต่งตัว Metrosexual แบบฉบับ Adam Levine มาฝากชาว UNLOCKMEN กัน Colourful Rock Star Adam Levine เป็นนักร้องร็อคที่ไม่ได้เดินตามความจำเจที่ต้องใส่เพียงเสื้อผ้าสีโทนดำ ขาว สไตล์นักดนตรีทั่วไป
แม้ว่าบางคนจะชื่นชอบรองเท้าสีขาวเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากสภาพท้องถนนในบ้านเรามันไม่ค่อยเอื้ออำนวยให้สวมใส่รองเท้าสีขาวสักเท่าไหร่ การหันไปพึ่งรองเท้าตระกูลสี Triple Black จึงเป็นทางออกที่น่าสนใจ อีกทั้งข้อดีคือการนำมามิกซ์แอนด์แมทช์เครื่องแต่งกายได้ง่าย ดังนั้น Sneakers of the week ในสัปดาห์นี้จะเป็นรองเท้าสีดำล้วนจัดเน้น ๆ ให้ทุกคนได้ไปเลือกซื้อกัน Lifestyle sneakers Vans Slip On ‘Triple Black’ สำหรับคนที่ไม่ได้มีงบประมาณใช้จ่ายมากมายเราจะขอแนะนำเป็นรองเท้าจากค่าย Vans เนื่องจากคุณภาพที่เกินราคาแล้ว ก็ยังทนทานด้วยพื้นยางแบบ waffle ที่ทำออกมาสำหรับเล่นสเก็ตบอร์ดโดยเฉพาะ ทำให้การนำใส่ในวันปกติรับรองว่าคุณได้เบื่อก่อนที่มันจะพังเสียอีก Nike Air force one ’07 Triple Black เป็นรองเท้าคลาสสิคอีกหนึ่งคู่จากทาง Nike ที่มีราคาไม่ได้สูงมาก แถมที่สำคัญยังมีพื้นแอร์อยู่ด้านล่าง ทำให้สวมใส่เดินเหินได้สบาย ๆ สำหรับไลฟ์สไตล์ปกติได้ไม่ยาก เพราะครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นรองเท้าบาสเก็ตบอล ดังนั้นเรื่องความทนทานวางใจในจุดนี้ Nike Air Hurrache ‘Triple Black’ เป็นอีกหนึ่งคู่ที่เราแนะนำเนื่องจากความคลาสสิค แถมนุ่มใส่สบายราวกับรองเท้ารุ่นใหม่ ๆ อีกทั้งหาซื้อได้อย่างไม่ยากเย็นนัก สำหรับรองเท้า Nike
ถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดไว้เคราหรือกำลังคิดจะไว้อยู่ล่ะก็ เราเชื่อว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณดูแลเคราให้ดูดีมีระเบียบได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาบาร์เบอร์แต่อย่างใด การไว้เคราถือเป็นเทรนด์ที่ฮิตในหมู่ผู้ชายมาทุกยุคทุกสมัยไม่เว้นแม้กระทั่งปัจจุบันนี้ ก็ยังเห็นหนุ่ม ๆ เคราเฟิ้ม สัญจรไปมาอยู่แทบทุกตรอกซอกซอย แต่การไว้หนวดเคราที่เหมาะสม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่อยากจะเพิ่มความดุดันให้กับหน้าติ๋ม ๆ จะได้ดิบเถื่อนขึ้น หรือจะเลี้ยงไรหนวดเอาไว้เพื่อไซ้ซอกคอสาวก็ตาม กลับมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผู้ชายไว้หนวดไว้เครามองข้ามไป นั่นก็คือผู้ชายส่วนใหญ่มักจะคิดแค่ว่าปล่อยให้มันงอกยาวออกมาก็ดูน่าจะเพียงพอแล้ว จะว่าได้มันก็ได้ ถ้าหากคุณไม่แคร์กับลุคมนุษย์ถ้ำ หรือหนวดที่ฟุ้งกระจายสไตล์คนป่า แต่ถ้าคุณยังคงใช้ชีวิตใจกลางเมือง แน่นอนว่าแทบทุกคนยังคงต้องพบหน้าพบตาเพื่อนร่วมงาน พบปะพูดคุยกับลูกค้า ต้องเจอกับพ่อแม่ของว่าที่ภรรยา เราขอแนะนำว่า ลองหันมาทำตามสิ่งที่เรานำมาเสนอต่อไปนี้ดู แล้วจะรู้ว่ามันดีกว่าการปล่อยเซอร์ ทิ้งหนวดเคราให้ขึ้นมั่วซั่วเยอะเลยทีเดียว การดูแลเครานั้นมีกรรมวิธีที่ละเอียดอ่อนพอสมควร คุณอาจจะต้องมีความอดทน และใช้เวลากันสักเล็กน้อย รวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์อะไรบางอย่างเข้ามาช่วยบำรุงรักษา ตั้งแต่น้ำมันใส่เครา โลชั่นใส่เครา อุปกรณ์แต่งเล็ม หรือแม้กระทั่งแชมพูสระเครา เพราะเคราที่ถูกตัดเล็มมาอย่างดี สามารถสะท้อนถึงบุคลิกภาพที่ดีของตัวคุณ อีกทั้งยังเสริมภาพลักษณ์ และทำให้คุณดูเป็นคนมีอะไรมากขึ้นอีกด้วย และนี่คือเคล็ดลับการดูแลเคราให้ดูดีอยู่เสมอเชิญชมกันได้เลย Keep Your Beard Moisturized and Clean เคราก็ไม่ต่างจากเส้นผม ที่เราต้องรักษาความชุ่มชื้น และรักษาความสะอาดเพื่อให้ได้สัมผัสที่นุ่มละมุนมือเวลาสาง และป้องกันไม่ให้เกิดอาการคันต้องมานั่งเกาเสียมาดสุภาพบุรุษเครางาม ดังนั้น คุณควรลง Conditioner ทุกครั้งหลังจากสระทำความสะอาดเคราของคุณ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเคราจากสำนักเขาเหลียงซานได้แนะนำมาว่า ให้ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับสระและนวดเคราโดยเฉพาะ แต่ถ้าคุณคิดว่ามันยุ่งยากเกินไป
ปัจจุบันเทรนด์รองเท้าผ้าใบ หรือที่เรียกกันว่า sneakers กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชาย เนื่องจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปบวกกับแฟชั่น sportwear ทำให้เรามีตัวเลือกมากมายในตลาด และแม้ว่าจะมีตัวเลือกอยู่มาก แต่ราคาค่างวดของมันก็ไม่ได้ถูกตามเลย เพราะแต่ละค่ายรองเท้าต่างพยายามอัดเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไปทำให้รองเท้าผ้าใบในปัจจุบันมีราคาค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับสมัยก่อน ดังนั้นเมื่อมีราคาสูงเราจึงจำเป็นต้องดูแลรักษามันให้ดี ไม่ปล่อยทิ้งสะเปะสะปะ ปล่อยคราบเลอะซึม เพราะไม่อย่างนั้นก็น่าเสียดายที่อุตส่าห์ซื้อมาตั้งแพง ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคน อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริง ๆ รองเท้ามีวิธีการดูแลรักษาของตัวมันเองเหมือนกับ รถ หรือ นาฬิกา วันนี้ UNLOCKMEN จึงได้รวบรวมการเก็บรักษารองเท้าคู่เก่งของคุณให้อยู่ตราบนานเท่านาน 1.ผึ่งก่อนเก็บ รองเท้าผ้าใบเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมตัวของกลิ่นเหม็นอับ เนื่องจากลักษณะที่ทึบไม่ระบายอากาศ ดังนั้นเมื่อคุณหยิบรองเท้าคู่เก่งมาใส่ ไม่ควรเก็บรองเท้าใส่กล่องทันที ควรจะผึ่งในที่อากาศโปร่งสัก 1 วันก่อนที่จะเก็บเข้ากล่อง 2. ไม่ควรเก็บในกล่องพลาสติก เราเห็นเหล่า sneakerhead หลายคนมักจะนำรองเท้าไปเก็บไว้ในกล่องพลาสติกปิดมิดชิดเพื่อความสวยงาม แต่ความจริงแล้วเราไม่ควรทำเช่นนั้น เพราะกล่องที่ปิดอย่างมิดชิดจะทำให้อากาศไม่ถ่ายเท ซึ่งถ้าคุณไม่ได้มีห้องแอร์สำหรับเก็บรองเท้าแล้ว ความร้อนก็จะถูกดูดเข้าไป ทำให้รองเท้าอับชื้นแถมเสี่ยงต่อกาวเสื่อม 3. เช็ดคราบสกปรกทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน โดยเฉพาะรองเท้าที่ทำจากผ้าใบ เราไม่ควรที่จะปล่อยคราบสกปรกติดรองเท้านาน เพราะคราบจะฝังตัวติดแน่นไปยังเนื้อผ้าแล้วมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเช็ดไม่ออกสูง ดังนั้นเมื่อรองเท้ามีรอยเลอะให้พยายามรีบเช็ดออกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 4.ควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะสมกับรองเท้า เราเห็นหลายคนเน้นเอาง่ายด้วยการใช้ไม่ว่าจะเป็นผงซักฟอก
ต้องยอมรับว่าที่พักอาศัย คืออีกสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกตัวตน สะท้อนถึงความสำเร็จในชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน ผ่าน Lifestyle ที่เหนือระดับ ซึ่งการใช้ชีวิตภายใต้ความเป็นอยู่แบบ Super Luxury นั้นไม่ได้วัดจากมูลค่าราคาของที่อยู่อาศัยที่เป็นตัวเงินเพียงอย่างเดียว แต่ในขั้นตอนการสร้างสรรค์จำเป็นจะต้องลงลึกไปถึงรายละเอียดความพิถีพิถันของวัสดุ และงานดีไซน์ ให้น้ำหนักกับสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ซึ่งผสมผสานกับความงดงามทางศิลปะได้อย่างลงตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้มีรสนิยมของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี ล่าสุด UNLOCKMEN มีโอกาสได้ไป Exclusive Visit สัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือระดับ จากโครงการ VITTORIO ผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซจากเอพี (ไทยแลนด์) ที่ตั้งใจให้เป็นสถาปัตยกรรมด้านที่พักอาศัยที่ดีที่สุดในย่าน The Em District ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่มีชีวิตชีวาที่สุดในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ โดย VITTORIO ไม่เพียงแค่ตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าดีที่สุด แต่ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์โครงการนี้ ล้วนแล้วแต่คัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมานำเสนอ ซึ่งสิ่งแรกที่สร้างความประทับใจให้กับเราคืองานออกแบบสถาปัตยกรรมที่ถ่ายทอดความงดงาม ส่งมอบอารมณ์ความเป็นอยู่ที่หรูหราของชนชั้นสูงในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งถือเป็นเมืองศูนย์กลางทางศิลปะชั้นยอดของโลก และโดดเด่นในเรื่องราวของสถาปัตยกรรมยุคเรอเนสซองส์ งานออกแบบโดยรวมของ VITTORIO นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากการจัดวางพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ ‘Uffizi Gallery’ พิพิธภัณฑ์ศิลปะด้านจิตรกรรมและประติมากรรมชื่อก้องโลกแห่งเมืองฟลอเรนซ์ ที่ซึ่งรวบรวมงานจิตรกรรมชิ้นเอกของศิลปินชาวอิตาเลี่ยนไว้มากมาย โดยเราสามารถสัมผัสแรงบันดาลใจนี้ได้เริ่มตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปยัง ‘Galleria Medici’ หรือ โถงต้อนรับขนาดใหญ่ สูง 6
เมื่อเอ่ยถึง Hamilton แบรนด์นาฬิกาสไตล์อเมริกัน สัญชาติสวิส สิ่งแรกที่เราเชื่อว่าเหล่าคนรักนาฬิกาต้องนึกถึงนั่นก็คือความเป็นเรือนเวลาที่มีคุณภาพความเที่ยงตรงสูง และชื่อเสียงอันโดดเด่นกับ Pilot’s Watch หรือนาฬิกานักบิน ซึ่งมีบทบาทในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์การบินมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 1919 ด้วยการได้รับเลือกให้เป็นนาฬิกาที่ใช้งานบอกเวลาอย่างเป็นทางการของเที่ยวบินไปรษณีย์สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในความสำเร็จของเที่ยวบินปฐมฤกษ์ในเส้นทางการบินเชื่อมระหว่างสองชายฝั่งของสหรัฐฯ มาจนถึงปัจจุบันนาฬิกา Hamilton ยังคงได้รับความไว้วางใจถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของหลายฝูงบินชั้นนำทั่วโลก รวมถึงรับหน้าที่อุปกรณ์จับเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันเครื่องบินหลบหลีกเครื่องกีดขวาง “Red Bull Air Race World Championship 2017” ซึ่งนอกจากภาพลักษณ์ของเรือนเวลาที่เกี่ยวข้องกับวงการการบินอย่างแนบแน่น แบรนด์ Hamilton ยังได้รับการขนานนามว่า The Movie Brand ซึ่งที่มาของสมญานี้คงเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากการที่นาฬิกาหลายต่อหลายรุ่นของ Hamilton ได้ไปอวดโฉมอยู่ในภาพยนตร์ Hollywood ระดับ Blockbuster หลายต่อหลายเรื่อง The Movie Brand ความสัมพันธ์ของนาฬิกา Hamilton กับแวดวง Hollywood นั้นมีมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ นับตั้งแต่การปรากฏตัวบนจอเงินเป็นครั้งแรกในปี 1951 ด้วยบทบาทบนข้อมือของเหล่าฮีโร่ทหารนักจู่โจมใต้น้ำจากภาพยนตร์ตัวเต็งรางวัลออสการ์เรื่อง The Frogmen ก่อนที่ราชาร็อกแอนด์โรล
ผลวิจัยบอกว่าผู้ชายใส่เสื้อสีชมพู สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้น
“FASHION CHANGES, STYLE ENDURES” เมื่อสักประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมาทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้ดูคลิปตัวหนึ่งของผู้ก่อตั้งบริษัทขายอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง ที่มีการนำเอาเสื้อราคากว่า 150,000 บาท มาฉีก พร้อมให้แง่คิดในเรื่องของวัตถุปรุงแต่ง ซึ่งเราก็ได้แง่คิด และรู้สึกเหมือนกันตรงจุดนี้ วันนี้จึงอยากนำแง่มุมสิ่งที่คิดมาแชร์ถึงผู้อ่านทุกคน แม้ว่าก่อนหน้านี้เราเองจะเคยแนะนำไอเทมใหม่ต่าง ๆ ไปมากมาย แต่สิ่งที่เราคอยเน้นเสมอในเรื่องของแฟชั่นคือการที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อของราคาแพงมากมาย เพราะเรามีแนวคิด และความเชื่อที่ว่าคนแต่งตัวดี ไม่เกี่ยวกับว่าของที่คุณใส่มีมูลค่าเท่าไหร่ หรือจำนวนไอเทมว่ามากมายสักแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้สอยของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่า ซึ่งเราก็รู้สึกว่าคนในยุคปัจจุบันนั้นถูกหล่อหลอมด้วยการโชว์ โอ้อวด ทางออนไลน์ เพราะบางคนอาจจะแคร์สายตาของคนอื่นมากกว่าสายตาตัวเองเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่เราพบเจอบ่อยคือการอยากครอบครองของ Hype โดยที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมัน ไม่ได้คิดว่ามันสวยงามขนาดนั้นเมื่อเทียบกับราคา ลึก ๆ ในใจอาจจะไม่ได้ชอบมันด้วยซ้ำ แต่เห็นว่ามันกำลังเป็นที่นิยม ก็เลยจำเป็นต้องอยากได้ตาม ๆ กัน เพราะแฟชั่นชิ้นนั้นเป็นการการันตีให้คนใส่ได้มั่นใจว่า เป็นคนคูลที่ทันสมัย บางครั้งเราก็ทำอะไรตาม ๆ กันไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชอบหรือไม่ รวมถึงมันเหมาะสมกับเรามากน้อยสักเท่าไหร่ ตัวอย่างชัด ๆ คือรองเท้า NMD , Yeezy ที่เอาจริงเราเชื่อว่าวินาทีแรก หลาย ๆ คนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับภาพของ ปรียวิศว์ นิลจุลกะ หรือ “ปาล์ม Instinct” ในบทบาทของนักร้องขวัญใจวัยรุ่น ในฐานะฟร้อนท์แมนของวง “Girl” ก่อนจะมาฟอร์มวงใหม่ “Instinct” เจ้าของเพลง “โปรดส่งใครมารักฉันที” ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในฐานะเพลงประกอบภาพยนตร์ “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” แต่น้อยคนจะรู้ว่าในอีกด้านหนึ่ง ปรียวิศว์สนใจงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะตัดสินใจศึกษาด้านศิลปะอย่างจริงจังที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ (วิชาเอกจิตรกรรม) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน “ตั้งแต่เด็กก็ชอบศิลปะ ชอบวาดรูปแล้วครับ เรียนศิลปะ ทำงานศิลปะควบคู่กับการร้องเพลงมาตลอด ไม่ใช่ทำแบบงานอดิเรกหรือเป็นนักร้องว่าง ๆ แล้วมาวาดรูปนะครับ การทำงานศิลปะเรียกว่าก็เป็นอีกด้าน อีกสถานะ อีกอาชีพของผมเลย” กับนิทรรศการศิลปะล่าสุด “Siam Rangers” ปรียวิศว์ เล่าว่า ผลงานในนิทรรศการครั้งนี้มีที่มาจากเรื่องราวที่เป็นทั้งประสบการณ์ตรงและสิ่งที่ได้พบเห็นจากการท่องโลกโซเชียล นั่นก็คือเรื่องของ “ตำรวจ” อาชีพที่ผูกพันกับคนไทยตลอดมาและตลอดไป “พอไปทำงานเพลงที่จีนี่เร็คคอร์ด ทางค่ายมีนโยบายให้ศิลปินเล่น social media เราก็เลยได้อ่าน ได้เห็นเรื่องราว เห็นประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมบ้านเรา ซึ่งเรื่องของตำรวจก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทุกคนได้รับรู้อยู่ตลอดเวลาทั้งแง่บวกและแง่ลบ เพราะตำรวจเป็นอาชีพที่เข้าถึงคนไทยมากที่สุดอาชีพหนึ่ง ทุก ๆ คนเคยมีประสบการณ์บางอย่างกับตำรวจ
ปัจจุบันรองเท้าแต่ละแบรนด์ก็มีการแบ่งเกรดราคารองเท้าให้เลือกตั้งแต่ราคา 2000-3000 บาทสำหรับผู้เริ่มต้น จนไปถึงราคาเหยียบหมื่น โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องซื้อของละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่อไป ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำรองเท้าผ้าใบ ราคาไม่แพง แต่คุณภาพเกินตัว สามารถนำไปใส่ได้หลากหลายสถานการณ์ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของหนุ่มเมืองในยุคนี้ *หมายเหตุ รองเท้าที่เราจะแนะนำต่อไปนี้เกิดจากความรู้สึกในการสวมใส่ของผู้เขียน ซึ่งแต่ละคนอาจจะได้รับความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป* Nike Tanjun สำหรับรองเท้าคู่นี้นับว่าเป็นโมเดลที่ราคาถูกลำดับต้น ๆ ของแบรนด์ Nike ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของความเรียบง่าย เพราะคำว่า ‘Tanjun’ ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่าเรียบง่าย ซึ่งเปรียบเหมือนรองเท้าไลน์เริ่มต้นตระกูลเดียวกับ kaishi และ roshe สำหรับรองเท้าคู่นี้มีเอกลักษณ์คือพื้นกลางที่ใช้โฟมเป็นพื้นแผ่นเดียวกัน เพื่อความนุ่มเบาในการสวมใส่ และหน้าผ้าจะเป็นผ้าตาข่ายพร้อมรูล้อมรอบ ดังนั้น Nike Tanjun จึงสามารถใส่วิ่งเล่น ออกกำลังกายเบา ๆ ได้ หรือจะใส่เที่ยวลำลองก็ดีไม่แพ้กัน Price : 2,300 บาท adidas campus เป็นรองเท้ารุ่นเก่าที่ทาง adidas ได้นำกลับมาทำใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่เบื่อรองเท้าสาย performance หรือ lifestyle ซึ่ง adidas
หากพูดถึงแหล่งช็อปปิ้งอันดับต้น ๆ ของโลก อย่างไรก็ต้องมีชื่อของโตเกียวเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักที่เราเชื่อว่าแทบทุกคนต้องอยากจะเดินทางไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง เนื่องจากญี่ปุ่นคือผู้กำหนดทิศทางแฟชั่นของฝั่งเอเชียมาช้านานแล้ว ด้วยสไตล์ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บวกกับความใกล้กันของลักษณะสไตล์ กับบ้านเรา เมืองหลวงอย่างโตเกียวจึงเหมือนเป็นแลนด์มาร์คแห่งแรก ๆ ที่คนต้องนึกถึงในเรื่องของแฟชั่นการแต่งตัว แบรนด์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ราคาย่อมเยาอย่าง Uniqlo ยันไปโดยแบรนด์ไฮโซ อย่าง COMME des GARCON’s แต่สิ่งที่สอดคล้องกันและเหมือนเป็นลายเซ็นของแบรนด์จากญี่ปุ่นคือเรื่องงานคราฟท์สุดประณีต ในการผลิต ทำให้หากพูดถึงของดีอย่างไรก็ต้องญี่ปุ่นเป็นอันดับ 1 สำหรับแหล่งที่เป็นหัวใจของเทรนด์ และ Subculture ของญี่ปุ่นนั้นก็คือ ชิบูย่า ฮาราจูกุ แต่ไฮไลท์คงจะเป็นย่านกินซ่า ที่รวมเอาเหล่าร้านค้ามากมาย และเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานของเหล่าดีไซเนอร์ชื่อดัง แถมการไปช้อปปิ้งที่นั้น พวกเรายังสามารถทำเรื่องของ Tax Refund (ขอคืนภาษี) ได้ถึง 8% เมื่อเราซื้อสินค้าภายในร้านเดียวกันรวมมูลค่าตั้งแต่ 10,000 เยน (ราว ๆ 3,xxx บาท) ขึ้นไป ซึ่งจะช่วยเราประหยัดเงินได้อีกเป็นมากโข ดังนั้นวันนี้ทีมงานจึงมี Shopping Guide ว่าหากมีโอกาสได้ไปโตเกียวสักครั้งมีร้านไหนบ้างที่หนุ่ม ๆ UNLOCKMEN ไม่ควรพลาด
หากจะเล่าถึงคอลเลคชั่นสุดท้ายที่ Riccardo Tisci อดีต Creative Director ได้ฝากไว้แห่ง GIVENCHY แบรนด์แฟชั่นชั้นสูงจากกรุงปารีส คงจะหนีไม่พ้นความผสมผสานที่ลงตัว ความฝันและความหลงไหลในวัยเด็กของทิชชี่ที่มีให้กับความเป็นอเมริกันตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของวัฒนธรรมและชมพื้นเมือง รวมไปถึงสเน่ห์และความเท่ในโลกสมัยใหม่ เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกผสมผสานและถ่ายถอดออกมาเป็นคอลเลคชั่นเสื้อผู้สุภาพบุรษที่ เปี่ยมไปด้วยพลัง ความลุ่มลึกและความโรแมนติก คอลเลคชั่นถูกนำเสนอด้วย ชุดสูทวูลคัทติ้งคม ตกแต่งด้วยกระดุมไม้แฮนเมดชิ้นใหญ่ จับคู่สไตลลิ่งกับกระโปรงวูล และเสื้อยืด ให้อารมณ์เนี้ยบ เน้นรายละเอียด แต่คล่องตัวสูง จากนั้นธีมชุดสูทถูกยกระดับโดยการใช้เครื่องเงินประดับเพรชมาตบแต่งเป็นกระดุม กลายเป็นชิ้นงานที่โดดเด่นเอาใจสุภาพบุรุษที่ชอบความหรูหรา จากนั้นคอลเลคชั่นถูกเพิ่มเติมจังหวะจากเรียบโก้ เป็นสตรีท-ลักซ์ชัวรี่ โดยการเติมสีสันดา แดง และน้าเงินในแพทเทิร์นการพิมพ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลายขวาง และลายทาร์ทันที่เป็นอีกหนึ่งลายเซ็นต์ถนัดของทิชชี่ สีสันเหล่านี้ถูกนามาจับคู่กับชิ้นงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตแบบดีคอนสรัคชั่น เสื้อเชิ้นตกแต่งระบาย จัมเปอร์คอวีขนาดใหญ่ และจั๊มป์สูท เมื่อคอลเลคชั่นกาลังพูดถึงวัฒนธรรมอเมริกันตะวันตก ทิชชี่นั้นก็ยังคงสนุกในการหยิบยกแรงบันดาลใจต่างๆมาใช้เป็นลายพริ้นท์ประจำคอลเลคชั่นอยู่เสมอ ในครั้งนี้เขาได้หยิบเอาเสาโทเทมที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของชาวอินเดียแดงมาประยุกต์เป็นกราฟฟิคอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีการนาภาพถ่ายและภาพวาดของหญิงสาวชาวพื้นเมืองอเมริกันมาพิมพ์ประดับเสื้อผ้าจับคู่กับสไตลิ่งฮู้ดดี้โอเวอร์ไซส์ให้เข้ากับยุคสมัยให้อารมณ์สตรีทดิบๆ และตัดอารมณ์ด้วยการใช้ผ้าผันคอสีผืนเล็กมาเติม บาลานซ์ให้สไตลลิ่งยิ่งชัดเจนอีกด้วย สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือรองเท้าดำตัดขาว ซึ่งเป็นการนำเอารองเท้าที่นิยมในวัฒนธรรมสตรีทจากฝั่ง west coast มาตีความใหม่ เป็นรองเท้าแฮนเมด ใช้วัสดุราคาสูงและคราฟและตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน แต่คงไว้ซึ่งสไตล์ที่ชัดเจน เพื่อเน้นอารมณ์แห่งสตรีท ลักชูรี่ที่แท้จริง