การขับเคี่ยวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้านับวันยิ่งจะทวีคูณความร้อนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๆ ค่ายต่างตื่นตัวทุ่มเทให้กับการพัฒนา-นวัตกรรมแห่งอนาคตที่จะช่วยลดมลพิษที่สร้างผลกระทบต่อโลกใบนี้ได้ แต่นอกเหนือจากตัวระบบเครื่องยนต์แล้ว ดีไซน์, ความแรง และสไตล์ ก็ต่างถูกงัดออกมาห่ำหั่นกันอย่างดุเดือด และหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้ง 3 สิ่งได้อย่างน่าสนใจคงต้องยกให้ MERCEDES-AMG EQS 53 4MATIC+ 2022 เพียงแค่เห็นชื่อ “AMG” ก็ต้องรู้สึกสะท้านแล้ว คำง่าย ๆ แค่ 3 คำ แต่ทรงพลังและบ่งบอกถึงความแรงได้เป็นอย่างดี ผลงานมันสมองของ Hans Werner Aufrecht และ Erhard Malcher ที่ร่วมกันพัฒนาความแรงภายใต้สังกัด Mercedes-Benz มานานหลายทศวรรษ MERCEDES-AMG EQS 53 4MATIC+ มีดีไซน์ภายนอกที่ถูกใจคอรถสปอร์ตโดยแท้จริง ดูเท่ไปในทุกสัดส่วนไล่ตั้งแต่ตัวถังที่ดูโค้งมน, กระจังหน้าที่ดูดุดัน, กันชนที่ดูแข็งแกร่ง, สปอย์เลอร์ที่ดูเข้ากับสไตล์ของรถ, ล้อแบบอัลลอยที่ดูหรูหราแต่ถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่วนดีไซน์ภายในยังมอบทั้งความ Luxury และความล้ำยุค ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น MBUX Hyperscreen ที่ครอบคลุมไปทั่วแผงควบคุม,
รถบินได้ถือเป็นการเดินทางรูปแบบใหม่ที่หลายบริษัทให้ความสนใจ ซึ่งตอนนี้ได้มีการรับรองรถบินได้กันแล้ว สตาร์ทอ้พด้านการพัฒนาอากาศ Skydrive ทำการเปิดตัวยานพาหนะ SD-03 ซึ่งเป็น eVTOL ขนากะทัดรัดสามารถจุนักบินได้ทั้งหมด 1 คน โดยตัวเครื่องจะมาขนาดความยาวอยู่ที่ 4 เมตร กว้าง 4 เมตร และสูง 2 เมตร และมันยังมีสเปคที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วในการแล่น (Cruise speed) 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เวลาบินสูงสุด (Maximum flight time) 5-10 นาที ความสูง (Altitude) 150 เมตร และมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 400 กิโลกรัม นอกจากนี้ พาหนะยังมาพร้อมกับ boom ที่อยู่ตามมุมต่าง ๆ ของอากาศยาน โดยแต่ละ boom จะประกอบไปด้วย 2 ใบพัดไฟฟ้า และ 2 มอเตอร์ไฟฟ้า และโรเตอร์
ถ้า Toyota มีคำว่า GR แปะอยู่ ก็รู้ได้เลยว่ามันต้องแรงและพิเศษเสมอ แต่นี่คือรุ่นที่พิเศษยิ่งกว่าสำหรับโมเดลล่าสุดที่เปิดตัวไปในงาน Tokyo Auto Salon นี่คือ Toyota Yaris GRMN ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คัน และไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจะซื้อได้ เพราะ Toyota จะใช้วิธีการสุ่มหาผู้โชคดีที่จะได้ครอบครองมัน Toyota Yaris GRMN ผ่านการปรับแต่งจากการรวบรวมความต้องการของนักขับมืออาชีพหลายคน ก่อนจะนำไปพัฒนาโดยเริ่มจากการลดน้ำหนักตัวลงอีก 20 กิโลกรัม จากการถอดเบาะนั่งแถวหลังออก ใช้ lightweight carbon มาแทนที่ฝากระโปรงหน้า หลังคา และสปอย์เลอร์หลัง เพิ่มความแกร่งให้ตัวถังด้วยการเพิ่มจุดเชื่อม chassis มากขึ้นอีก 545 จุดเมื่อเทียบกับ Yaris รุ่นธรรมดา ลดความสูงตัวรถลงพร้อมเพิ่มความกว้าง เพื่อให้มันสามารถแหวกอากาศด้วย aerodynamics ที่ดีมากยิ่งขึ้น รถทุกคันจะมาพร้อม Limited-slip Differential สำหรับรถแข่งแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถเลือกปรับระดับความเต็ดได้เอง เกียร์อัตราทดสั้นแบบ 6-speed
ไปได้ทุกที่ที่มีทาง ไม่ใช่แค่สติกเกอร์ติดรถตู้ เพราะวันนี้มันเป็นคำที่สามารถใช้กับบ้านสำหรับนักเดินทางได้แล้ว ด้วยผลงานของ BESS สตูดิโอจากญี่ปุ่น นี่คือ IMAGO iter บ้านไม้เคลื่อนที่สไตล์มินิมอล แต่มากไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ธุรกิจหลักของ BESS คือบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้านไม้เป็นพิเศษ และเมื่อหันมาสนใจเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คนที่นิยมการใช้ชีวิต outdoor ลาก trailers ไป camping ในวันหยุดกันมากขึ้น จึงตัดสินใจหันมานำจุดแข็งด้านการสร้างบ้านไม้มาใช้ปรับดีไซน์ให้เหมาะสำหรับการเดินทางบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก ช่วงล่าง รวมถึงชุดเบรก เพื่อความปลอดภัยและการทรงตัวที่ดี ผ่านการทดสอบร่วมกับ Japan’s Automobile Research Institute รายงานผลทดสอบยืนยันว่าผลลัพธ์ที่ได้อยู่ในระดับ ‘sufficiently stable driving’ IMAGO iter บ้านไม้ทรงสี่เหลี่ยมมีพื้นที่ใช้สอย 6.5 ตารางเมตร ผนังภายนอกตัวบ้านผลิตจากไม้ซีดาร์หนา 70 มิลลิเมตร เพดานสูง 2.4 เมตร ให้ความปลอดโปร่งผ่อนคลาย มีพื้นที่ให้ผู้ซื้อสามารถเลือกปรับการตกแต่งภายในได้ตามต้องการ กำแพงทั้งสี่ด้านของ IMAGO iter มีกระจกที่สามารถเปิดเพื่อรับกลิ่นอายของธรรมชาติรอบ ๆ ได้เต็มที่ ราคาของ
รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นเทรนด์ที่เข้ามาแทนที่รถยนต์น้ำมันแบบเก่า เพราะหลายประเทศเริ่มตระหนักเรื่องปัญหามลพิษ และตอนนี่ก็มีผู้ผลิตรถยนต์หลายเจ้าที่ต้องการสร้างรถยนต์ EV หนึ่งในนั้น คือ Daymak Avvenire บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองโทรอนโต ซึ่งได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 3 ล้อชื่อว่า “Spiritus” เตรียมผลิตและจัดส่งภายในปี 2023 ทาง Daymak ตั้งใจให้ Spiritus เป็นรถสามล้อไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก และมาพร้อมกับจุดขายเรื่องการขุดคริปโตในขณะจอด โดยตัวรถจะมีระบบ nebula crypto mining และกระเป๋าเงินดิจิทัล ไว้ใช้สำหรับการทำภารกิจนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ตัวรถยังมีดีไซน์ที่ดูล้ำหน้า ถ้าเรามองดูรถจากข้างหลังเหมือนจะเป็นมอเตอร์ไซค์ล้อเดียว แต่พอไปดูข้างหน้าเหมือนเป็นรถยนต์ที่พบเห็นกันได้ทั่วไป และรถยังมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 620 กิโลกรัม จึงเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและโฉบเฉี่ยวในทุกพื้นที่ Spiritus จะมาในสองเวอร์ชั่น ได้แก่ Deluxe และ Ultimate ซึ่งมีสมรรถนะที่แตกต่างกัน โดย Deluxe จะให้ top speed อยู่ที่ 137 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเดินทางได้ไกล 290 กิโลเมตร ส่วน Ultimate จะมี
เป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษแล้วที่ทาง Consumer Technology Association (CTA) จัดงานอีเว้นท์ประจำปีชื่อว่า Consumer Electric Show (CES) ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมที่มีสเกลใหญ่ระดับโลก โดยบริษัทด้านเทคโนโลยีและยานยนต์ชื่อดังจากหลายที่ จะมานำเสนอนวัตกรรมของตัวเอง สำหรับงาน CES ประจำปี 2022 ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ตั้งแต่วันที่ 5 – 8 มกราคม ก็มีบริษัทรถยนต์เจ้าใหญ่หลายเจ้ามาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น BMW, Mercedes-Benz หรือ Cadillac ซึ่งได้เปิดตัวรถยนต์แห่งอนาคตที่เราเห็นแล้วต้องร้อง “ว้าว” กันเลยทีเดียว UNLOCKMEN ได้รวบรวมรถยนต์คอนเซ็ปท์ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังในบทความนี้ BMW iX Flow เริ่มกันที่ BMW iX Flow รถยนต์ไฟฟ้าคอนเซ็ปท์ที่มาพร้อมกับ ‘ปุ่มพิเศษ’ ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนสีของรถยนต์ได้ตามอารมณ์ของคนขับ และยังช่วยรักษาพลังงานของรถได้ด้วย ฟังก์ชันนี้จะพึ่งพาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า ‘E Ink’ ซึ่งพบได้ในหน้าจออุปกรณ์อ่านอีบุ๊กและนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ โดยตัวรถได้ถูกห่อหุ้มด้วยไมโครแคปซูลขนาดเล็กจำนวนหลายล้านที่รวมกันแล้วเหมือนเป็นกระดาษดิจิทัลแผ่นใหญ่ โดยในแต่ละแคปซูลจะประกอบไปด้วยพลาสติกสีขาวและดำที่สามารถเกิดปฏิกริยากับไฟฟ้าและเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ภายนอกของรถจึงเปลี่ยนจากขาวเป็นดำ หรือ
เป็นยุคสมัยที่วงการยานยนต์ขับเคี่ยวแข่งขันกันอย่างหนักด้วยเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาให้ได้ติดตามกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสัญญาณอันดีในการหลีกหนีจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงแบบไม่เกรงใจเงินในบัญชีเลยซักนิด โดยล่าสุดบริษัทรถยักษ์ใหญ่จากประเทศเยอรมนีอย่าง Mercedez-Benz ก็ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากับ “VISION EQXX” ที่มาพร้อมระยะทางวิ่งได้มากถึง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เรียกว่า Tesla ยังไม่กล้าสบตา กับปรัชญา “Sensual Purity” และยังคงดีไซน์ที่คงความสปอร์ต, หรูหรา และโฉบเฉี่ยว กับทุกสายตาที่เฝ้ามอง ประหยัดพลังงานแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน VISION EQXX โดดเด่นด้วยระยะทางในการวิ่งที่ไกลมากถึงเกือบ 1,000 กิโลเมตร (ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง) มีค่าแรงเสียดทานที่ต่ำได้ใจเพียง 0.17 เท่านั้น (น้อยกว่ารุ่น EQS อยู่ที่ 0.03) ตอบสนองผู้ที่รักการเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี และอีกหนึ่งจุดที่ทาง Mercedes-Benz ชูโรงอย่างภาคภูมิใจคือการใช้ไฟเพียง 10 กิโลวัตต์ต่อ 100 กิโลเมตร, ใช้แรงดันไฟฟ้าขนาด 900 โวลต์, ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งกำลังไดัสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 204
การขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ สามารถบ่งบอกรสนิยมความชอบและสไตล์ของแต่ละบุคคลได้ ไม่ต่างจากแฟชั่นเสื้อผ้าหรือแนวเพลงที่ชอบฟัง บางคนชอบความโมเดิร์น ตามกระแส ตามเทรนด์ ต้องทันยุคทันสมัย แต่บางคนกลับชอบว่ายน้ำทวนกระแส หันไปหลงใหลความวินเทจย้อนยุคราวกับว่าต้องการพาตัวเองย้อนเวลากลับไปหาความรุ่งเรืองในอดีต และถ้าคุณรู้ตัวว่าเป็นคนแบบนั้น แถมยังชื่นชอบการขับขี่จักรยานยนต์ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาทำความรู้จักกับ “Nmoto Golden Age BWW C400X Scooter” สำหรับรูปทรงดั้งเดิมของ BWW C400X Scooter ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นสุดล้ำราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ Sci-Fi แต่ด้วยไอเดียสุดบรรเจิดของทาง Nmoto บริษัทคอสตอมรถของทาง BWW จึงจัดการพลิกโฉมด้วยชุดแต่งในชื่อ Golden Age ให้มันกลายเป็นสกู๊ตเตอร์สไตล์วินเทจแบบที่ไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้ได้นึกถึงกันเลย การออกแบบชุดแต่งตัวนี้มีความสะดุดตาเป็นอย่างแรงด้วยรูปทรงโค้งมนดูอวบอิ่ม ดูมีน้ำหนักมาก แต่นั่นมันเป็นเพียงสิ่งที่สายตาภายนอกได้ตัดสิน เพราะความจริงแล้วตัวบอดี้ถูกผลิตมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบา แถมยังครอบคลุมทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งคันด้วยส่วนประกอบเพียง 7 ชิ้นเท่านั้น อีกทั้งยังมีหลายเฉดสีให้ได้เลือกจับคู่ได้ตามความชอบ Nmoto Golden Age BWW C400X Scooter ยังโดดเด่นด้วยไฟหน้าขนาดใหญ่ระบบ LED พร้อมทั้งมีไฟเลี้ยวในตัว เติมความสมบูรณ์แบบสไตล์วินเทจด้วยเบาะหนังคู่ที่ถูกสั่งทำพิเศษ ซึ่งเหมาะกับคนรู้ใจให้ได้ซ้อนร่วมเดินทางกันไป อีกทั้งยังอุ่นใจได้กับระบบเบรกแบบ ABS ที่มาพร้อมกับระบบทรงตัวแบบอัตโนมัติ
เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าออกมาแบบรัว ๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว สำหรับ BMW ที่พัฒนาโมเดลใหม่ ๆ ในกลุ่ม high-performance ออกมาเพียบ ไม่ว่าจะเป็น BMW i4 M50 หรือ XM และล่าสุดก็ได้เผยข้อมูลของรถที่หลายคนเฝ้ารอ BMW iX เวอร์ชั่นแรงสะใจกับรหัส M60 ที่แรงเทียบเท่าขุมพลัง twin-turbo V8 เป็น Electric SUV ที่แรงเกือบเท่า M5 Competition BMW iX M60 มาพร้อมสมรรถนะที่น่าประทับใจ แหล่งพลังงานจาก dual electric motors ใน Sport Mode จะมีความแรงมากถึงระดับ 610 แรงม้า แรงบิด 1,100 นิวตันเมตร มีม้าน้อยกว่า M5 Competition เพียงแค่ 7 ตัว แต่หากอยู่ในโหมดอื่นจะเหลือแรงม้าให้ใช้ 532
ปกติแล้วถ้าเห็นชื่อ Manhart เรามักโฟกัสไปที่สมรรถนะหลังผ่านการอัพเกรดเป็นสิ่งแรก แต่สำหรับ Manhart RQ 800 คันนี้ ต้องบอกว่านอกจากจะมีบอกใบ้แรงม้าเอาไว้แล้ว ยังมาในดีไซน์ที่ขรึมและโหดสุด ๆ แม้จะแรงไม่เท่าผลงานในอดีต ‘Manhart RQ 900’ แต่ด้านความหล่อ ต้องยกให้ RQ 800 คันใหม่ไปครอบครอง ในโลกของรถยนต์ SUV ชื่อของ Audi RS Q8 นั้นไม่ทำให้ใครผิดหวัง ด้วยขุมพลัง 4.0-liter twin-turbo V8 ให้สมรรถนะเดิม ๆ จากโรงงานมากถึง 591 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร แม้จะน้อยกว่า Lamborghini Urus ก็เคยไปสร้างสถิติ Production SUV ที่เร็วที่สุดใน Nurburgring มาแล้ว แต่สำหรับ Manhart RQ 800 สามารถปรับจูนจนได้แรงม้ามากถึง 807 ตัว
เรื่องเทคโนโลยีของ Tesla เป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับ แต่เรื่องคุณภาพการผลิตที่มีปัญหา ก็เป็นสิ่งที่หลายคนรับรู้ ซึ่ง Tesla มักจะกระซิบเจ้าของให้นำรถเข้าไปรับการแก้ไข แต่ในกรณีนี้เกี่ยวข้องกับการเรียกรถมากถึงเกือบ 500,000 คัน ซึ่งครั้งนี้ Tesla ต้องร่วมมือกับ National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รถยนต์ทั้งหมดที่ Tesla ทำการ recall ในครั้งนี้เกิดจากปัญหาการผลิตที่เสี่ยงให้เกิดอันตรายรุนแรงบนทางหลวงได้ ประกอบไปด้วย Model 3 ที่ผลิตในช่วงปี 2017 – 2020 จำนวน 356,309 คัน เนื่องจากการวางตำแหน่งสายเชื่อมต่อ rearview camera อาจเกิดความเสียหายจากการเปิดปิดฝาท้าย จนไม่สามารถแสดงผลได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าคือ Model S จำนวน 119,000 คัน เนื่องจากเป็นปัญหาเกี่ยวกับตัวล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งหากปล่อยเอาไว้ไม่แก้ไข อาจจะทำให้ฝากระโปรงหน้ารถหลุดเปิดขึ้นมาบังทัศนวิสัยของผู้ขับจนเกิดอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตาม Tesla ออกมารายงานว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากสองปัญหานี้ ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง
พูดถึงชื่อ Lexus ภาพที่เรานึกถึงคือความหรูหรา นุ่มนวลสะดวกสบาย คงไม่มีใครคาดคิดที่จะได้เห็นค่ายรถสุดหรูจากญี่ปุ่นจะออกมาดีไซน์ยานพาหนะสไตล์ Buggy สำหรับลุยป่าลุยเขาที่ดูดิบโหดพร้อมลุย เรียกว่า Lexus ROV (Recreational off-highway vehicle) นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา จุดเด็ดที่สำคัญที่สุดของรถคันนี้ต้องยกให้เทคโนโลยีเครื่องยนต์เผาไหม้ที่ใช้ไฮโดนเจนเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน ทำให้มันปล่อยไอเสียในระดับ “near-zero emissions” ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Lexus ต่างจากใน LF-FC concept ที่ใช้เทคโนโลยี fuel cell electric vehicle (FCEV) เพราะใน Lexus ROV จะใช้การฉีดไฮโดนเจนเข้าไปจุดระเบิดในเครื่องยนต์ 1 ลิตรแทนที่น้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง โดยมีถังแรงดันสูงสำหรับบรรจุไฮโดนเจนอยู่ด้านหลัง ซึ่งเป็นหลักการทำงานของรถยนต์ปกติ ที่เปลี่ยนเชื้อเพลิงและลดมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเหตุผลในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้มีข้อดีคืออารมณ์การขับขี่ที่ได้ฟิลลิ่งการขับขี่ การตอบสนอง และเสียงเครื่องยนต์เหมือนรถยนต์ปกติที่ทุกคนคุ้นเคย ต่างจากการใช้พลังงานไฟฟ้า ที่ทุกประสาทสัมผัสจะถูกทิ้งหายไปหมด “the exciting sound of an ICE and the responsive rise in torque