ถ้าเอ่ยถึงชื่อ Ford Mustang พวกเราคงมีรุ่นที่ชอบเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น King Cobra, Bullit, GT หรือ Shelby GT500 รถทุกคันล้วนเป็นสายพันธุ์ม้าป่าตัวแรงที่ได้รับความนิยมข้ามยุคสมัย และแฟนพันธุ์แท้ของมัสแตงหลายคนคงทราบกันดีว่ามีอีกหนึ่งรุ่นคลาสสิกเตรียมกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในปี 2021 ชื่อของมันคือ Ford Mustang “Mach 1” การคืนชีพของ Ford Mustang Mach 1 รุ่นปี 2021 เป็นการสานต่อตำนาน Mach 1 ที่ถือกำเนิดมานาน 52 ปี และเชื่อว่าการกลับมาครั้งนี้ทำให้แฟนมัสแตงหลายคนต้องประทับใจแน่นอน แต่ก่อนที่จะไปพบกับโฉมใหม่ของ Mach 1 ที่ยังถูกปิดบังไว้ วันนี้ไปทำความรู้จักจุดเริ่มต้นของม้าป่าสายพันธุ์นี้ใหัมากขึ้นกันก่อน ย้อนกลับไปในปี 1960 ช่วงเวลาที่ฟอร์ดต้องการเพิ่มรุ่นของในสายการผลิตของ Mustang ซึ่งเน้นเรื่องความเร็วที่มากกว่ารุ่นปกติ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับอเมริกันผู้ชื่นชอบเครื่องใหญ่ม้าเยอะ จึงเริ่มพัฒนารถต้นแบบในเดือนสิงหาคม 1968 และเปิดตัวในปีต่อมา โดยใช้ชื่อว่า Ford Mustang Mach 1 ซึ่งรถยนต์คัน Prototype
การกลับมาอีกครั้งของ Vintage model อย่าง Aston Martin DB5 หลังสิ้นสุดสายพานการผลิตไปเมื่อ 55 ปีที่แล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้มาแค่ DB5 ธรรมดา เพราะมันคือเวอร์ชันพิเศษ ‘Goldfinger’ พกอาวุธและเทคโนโลยีของสายลับ James Bond ใส่มาครบ ๆ ผลิตจำกัดเพียง 25 คัน ในราคาขายที่แพงระยับสมกับความพิเศษ คันละ 3.4 ล้านเหรียญ (120 ล้านบาท) ผลงานสุดพิเศษนี้มาจากทางฝั่ง Aston Martin Heritage Division ซึ่งปัจจุบันหลายค่ายมักจะมีแผนกที่รับผิดชอบด้านการนำรถคลาสสิคมาผลิตขายใหม่แบบนี้ เช่น Jaguar E-type เป็นต้น แต่สำหรับ Aston Martin นี่เป็นโมเดล vintage ลำดับที่ 3 ที่ถูกนำกลับมาผลิต โดยก่อนหน้านี้มี DB4 GT Zagato และ DB4 GT ถูกปลุกชีพมาผลิตขายใหม่แบบจำนวนจำกัด
ต้องขอบคุณ Ferrari และ Lamborghini Miura ในวันนั้น ที่ทำให้ Ferruccio Lamborghini (เฟอร์ลูซิโอ แลมเบอร์กินี) มีวันนี้ เพราะถ้าขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป Mr. Lamborghini คงเป็นได้เพียงแค่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีทางได้เติมเต็มความฝันในการสร้างแบรนด์ Supercars ที่ดีที่สุดในโลกอย่างที่เจ้าตัวใฝ่ฝันเอาไว้ ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า Lamborghini มีจุดเริ่มต้นจากบริษัทผลิตรถไถที่เกิดจากความอัจฉริยะของ Mr. Ferruccio Lamborghini ใช้ทั้งสมบัติเก่าและเศษซากหลังสงครามโลก บวกกับความรู้ด้านเครื่องยนต์ สร้างรถไถที่ไม่มีใครตามทัน ก่อนจะร่ำรวยจนซื้อ Supercars ดี ๆ เก็บไว้ขับเล่นมากมาย รวมถึง Ferrari แต่ระหว่างที่ขับไป ก็พบหลายสิ่งที่เจ้าตัวไม่ชอบ และรู้สึกว่า Ferrari ที่ถือว่าเป็นรถที่ดีที่สุดในยุคนั้นยังไม่สามารถมอบสิ่งที่ Lamborghini ต้องการได้ ระหว่างทางก็นึกได้ว่า ‘กูก็ทำเองซะเลยมั้ยล่ะ” จึงตัดสินใจก่อตั้ง Automobili Ferruccio Lamborghini S.p.A ขึ้นมาในปี 1963 โดยใช้ทั้งความรู้ ความรวยจากการทำธุรกิจมาลงทุนซื้อตัวคนสำคัญจาก Ferrari อย่าง
ขวัญใจชาวซูบี้ที่ต้องรีบหามาไว้ในครอบครอง กับตัวแรงรหัสร้อน Subaru WRX S4 STI Sport# ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คัน มากับขุมพลังเดิม 2.0-liter เทอร์โบ 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือการปรับแต่งช่วงล่างให้เหนียวแน่นหนึบพร้อมรับทุกสถานการณ์ และเปลี่ยนอุปกรณ์บางจุดเพื่อให้ขับขี่แบบสปอร์ตได้สนุกสนานมากขึ้น Subaru WRX S4 STI Sport# เป็นรุ่นพิเศษที่อัพเกรดมาจากรุ่นย่อย WRX S4 STI Sport EyeSight ค่อนข้างจะแยกยากถ้าไม่ใช่แฟนซูบี้ตัวจริง ภายนอกมีชุดแต่งใหม่ที่เพิ่มอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น กระจังหน้าสีดำ Dark Clay Silica กันชนหน้าเพิ่มช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ด้านหลังเพิ่มสปอยเลอร์ดำ กันชนหลังเพิ่มรูระบายอากาศและเปลี่ยน rear diffuser ให้โหดขึ้นพร้อมปลายท่อออกด้านละสอง ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วสีดำตามสไตล์นักซิ่ง ภายในมาพร้อมโทนสีดำขรึมทั้งห้องโดยสารสลับตะเข็บด้ายสีน้ำเงิน เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตจาก Recaro ปักโลโก้ STI หุ้มหนังกลับสลับหนังแท้เช่นเดียวกับพวงมาลัย
แม้ผลกระทบจากโควิดจะทำให้ตลาดรถยนต์ทั่วโลกซบเซาไปบ้าง แต่หนุ่ม ๆ ที่รักรถยนต์โดยเฉพาะสาวกของ Porsche 911 ยังคงมีเรื่องให้ได้กระชุ่มกระชวยหัวใจกันอีกครั้ง เพราะโปรเจกต์ที่พัฒนาและผลิตเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวออกมาแล้วกับ Porsche 911 ตัวถังรหัส 992 Targa 4 และ Targa 4S ถ้าพูดถึงรถยนต์อย่าง Porsche 911 ผู้ชายส่วนใหญ่คงนึกถึงรุ่นสองประตู (Coupe) หรือเปิดประทุน (Convertible) มาเป็นภาพแรกในหัว แต่สำหรับ Porsche รุ่นเปิดประทุนดีไซน์คลาสสิกสไตล์ Targa ก็เป็นอีกรูปแบบที่ทุกคนอยากครอบครอง พวกเขาจึงได้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดสร้างมันขึ้นมาให้เกิดใหม่อีกครั้งภายใต้รหัส 992 *Cool Fact: นอกเหนือจาก Porsche ยังมีรถรุ่นอื่นที่ใช้การเปิดหลังคาสไตล์ Targa อยู่ใน Chevrolet Corvette, Lamborghini Aventador Roadster, Ferrari 812 GTS เป็นต้น แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งกันซะทีเดียว เพราะอยู่กันคนละกลุ่มราคา แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Porsche เคยสร้าง 911
ถ้าเราพูดถึง BMW 8-Series ในวันนี้ คนส่วนใหญ่จะนึกถึง BMW แบบ Grand Tourer สปอร์ต 2 ประตู รุ่นใหญ่สุดเก๋าของค่ายที่พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นานในรหัส G14 (Coupe’) และ G15 (Covertible) ที่เรียกได้ว่ามีดีไซน์ที่สุดสวยงามผสมผสานความสปอร์ตและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แน่นอนว่ามันเป็นรถในฝันที่หลายคนต้องอยากได้ไว้ในครอบครอง แต่ถ้าพูดถึงรหัสเลข 8 เราต้องย้อนไปพูดถึงโมเดลที่สร้างมาตรฐานความเป็นที่สุดของ BMW ซึ่งถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1989 และปัจจุบัน BMW 8-Series รหัส E31 ซึ่งเป็นผู้สร้างความขลังให้กับตัวเลข 8 ของค่ายใบพัดฟ้าขาว ก็ยิ่งทวีความ Rare เพิ่มมูลค่าในหมู่นักสะสมและผู้คนที่มีโอกาสได้เห็นมัน ส่งผลให้รถ 2-Door Coupe’ ที่มีจุดเด่นคือไฟ Pop-up headlight เพียงหนึ่งเดียวของตำนาน BMW ยังคงเป็นรถที่สวยงามเอาชนะกาลเวลา และไม่ว่าใครก็ต้องหันไปมองกันจนคอเคล็ดเสมอแม้เวลาจะผ่านมากว่า 20 ปีแล้วก็ตาม ในอดีตหลายคนเข้าใจผิดว่า BMW 8-Series คือรถโมเดลที่ต่อยอดมาจาก BMW 6-Series
จากตำนานการแข่งขันในยุค 60s ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่งานดีไซน์ “เวสป้า เรซซิ่ง ซิกส์ตี้” (Vespa Racing Sixties) กับ 2 รุ่นพิเศษ ทั้ง “เวสป้า สปริ้นท์ 150 ไอ-เก็ต เอบีเอส เรซซิ่ง ซิกส์ตี้” (Vespa Sprint 150 i-Get ABS Racing Sixties) และ เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอชพีอี เรซซิ่ง ซิกส์ตี้ (Vespa GTS Super 300 HPE Racing Sixties) ด้วยคาแรคเตอร์สปอร์ตที่ยังคงกลิ่นอายคลาสสิกเอาไว้ ผ่านลวดลายกราฟิก บนตัวรถทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น ลายกราฟิกสีเหลืองและทองบนรถสีเขียวเมทัลลิก (สี Green Racing Sixties) และลายกราฟิกสีแดงและทองบนรถสีขาว (สี White
หลายคนอาจจะคุ้นชื่อ Khyzyl Saleem, Graphic Designer สาย Vehicle Artist ที่ชื่นชอบรถยนต์ และมักจะมีไอเดียดี ๆ สร้างสรรค์รถยนต์ที่ไม่เคยมีใครจินตนาการถึง ให้เป็นจริงขึ้นมาได้ด้วยปลายนิ้ว และผลงานเท่ ๆ มากมายก็เคยถูกสื่อทั่วโลกหยิบไปนำเสนอกันมาแล้วนับไม่ถ้วน และเราเองก็เป็นแฟนคลับของ Saleem ด้วยเช่นกัน วันนี้เราจะขอหยิบผลงานล่าสุด ที่เท่และล้ำจนปล่อยผ่านไปไม่ได้จริง ๆ กับการนำเอา Lamborghini Countach มาดัดแปลงใส่สไตล์จนเหมือนหลุดมาจากยุค Blade Runner โดยที่ไม่ได้มีการดัดแปลงโครงสร้างของ Countach เลยแม้แต่น้อย นับว่าเป็น Designer ที่บริษัทรถยนต์ควรจ้างไปร่วมทีมอย่างแท้จริง ทั้งหมดที่ Saleem ทำเพียงแค่เติมไฟ LED เข้าไปบริเวณด้านหน้าและหลัง ส่วนภายนอกมีการดัดแปลง bodyparts พร้อมเลือกใช้สี aluminium ทำให้ดูโหดขึ้นหลายเท่า ให้อารมณ์กลิ่นอายเหมือน Cybertruck กับ Delorean ผสมผสานกันอย่างลงตัว รายละเอียดทั้งหมดทำออกมาได้อย่างสวยงามจนหวังว่าจะมีใครเอาไปปั้นของจริงออกมาเลยทีเดียว แต่ถ้าใครไม่เชื่อว่านี่คือฝีมือการ Retouch ภาพ เรามีตัวอย่างคลิปวีดีโอ MW
Supercar ที่ทุกสำนักยอมรับว่าออกไปได้สวยที่สุดคันนึง จากัวร์ เอฟ-ไทป์ โฉมใหม่ (New Jaguar F-Type) วิวัฒนาการสู่การถ่ายทอดถึงเอกลักษณ์ความสปอร์ตและความดุดันมากกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์เบนซินซูเปอร์ชาร์จแบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร กำลังสูงสุด 575 แรงม้า ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยการปรับแบบพลศาสตร์ และเครื่องยนต์ Ingenium เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ประกอบด้วย F-Type 2.0 Litre Ingenium Petrol Coupe ราคาจำหน่าย 6,400,000 บาท F-Type 2.0 Litre Ingenium Petrol Coupe R-Dynamic ราคาจำหน่าย 6,900,000 บาท F-Type 2.0 Litre Ingenium Petrol Convertible
นี่คือต้นแบบพาหนะ 2 ล้อที่สร้างโดย 2 สหายค่ายผู้สร้าง Custom Motorcycle จากแคลิฟอร์เนีย ได้ร่วมมือกันสร้างซูเปอร์ไบค์พลังไฟฟ้า โดยมีแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Blade Runner UMC-036 XP ZERO คือชื่อของมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการร่วมมือของ Untitled Motorcycles และ Zero Motorcycles สองสำนักที่มีความชอบใน Blade Runner เหมือนกัน ตัดสินใจจับมือร่วมสร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมดีไซน์และรูปแบบการใช้งานล้ำสมัย ออกแบบโดย Hugo Eccles, Co-founder and Design Director of Untitled Motorcycles รถคันนี้พื้นฐานมาจากโมเดล Zero SR/F รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ใช้ทุนถึง $300 ล้านเหรียญ และเวลาถึง 13 ปีกว่า Zero จะผลิตมันขึ้นมาได้ เดิม ๆ พละกำลังของ Zero SR/F มาจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 82 kW
พึ่งจะพาดหัวข่าวไปอย่างร้อนแรง สำหรับของขวัญฉลองวันเกิดครบ 28 ปีให้ตัวเองด้วย hypercar เบอร์ใหญ่ Bugatti Chiron มูลค่าราว 90 ล้านบาทไปหมาด ๆ สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมด้านรถยนต์ที่ไม่ธรรมดาของ Rapper ที่กำลังมาแรงกว่าใคร ทำสถิติจำนวนผู้เข้าชม Concert ในเกม Fortnite แถมล่าสุดยังมีข่าวการ Collaboration กับ Nike ในโปรเจค Travis Scott x Nike SB Dunk Low งานเยอะขนาดนี้ ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่ารถยนต์ใน Collection ของ Scott จะโหดแค่ไหน วันนี้เราจะพาไปเปิดรถยนต์สุดหรูของศิลปินที่มีทรัพย์สินรวมเกือบสองพันล้านบาท แต่บอกให้ก่อนได้เลยว่า Scott น่าจะเป็นสารหรูมากกว่าสายสะสม เพราะเต็มไปด้วย Hypercars และ Supercars รุ่นใหม่ ๆ เพียบ Bugatti Chiron Hypercar มูลค่า 90 ล้านบาท
Suzuki Jimmy เป็นรถที่ขายหมดภายในพริบตา เครื่องยนต์ K15B 1.5 ลิตร 102 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ แม้จะตั้งราคาไว้สูงถึง 1.6 ล้านบาทจนหลายคนบอกว่าไม่สมเหตุผล แต่ด้วยจำนวนที่เอาเข้ามาขายแบบจำกัด และหน้าตาภายนอกที่ดูดีมีเสน่ห์คล้าย Mercedes-Benz G-class และ Land Rover Defender 90 สามารถปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนและจุดประสงค์การใช้งานได้ง่าย ทำให้มันขายหมดเกลี้ยงภายในชั่วพริบตา และมันก็เป็นรถที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศด้วยเหตุผลนี้เอง Jimmy คันที่เรากำลังดูอยู่นี้ก็เป็นตัวอย่างการปรับแต่งสำหรับ Blogger สายลุยป่าที่ต้องค้างคืนนอนในรถเป็นประจำ มันมีชื่อว่า ROAM Overlanding ของ Adrian Abrahams blogger ชาว South Africa ที่เน้นผจญภัยแบบหนัก ๆ ข้ามป่าเขาและทะเลทราย โดยยานพาหนะคันล่าสุด ได้ซื้อ 2019 Suzuki Jimmy มาโมดิฟายและใช้มันเป็นคู่หูลุยป่าประเทศบอตสวานา (Botswana) ในแอฟริกาใต้ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของมันอย่างถึงพริกถึงขิง พร้อมความสามารถในการ Camping