The all-electric Volvo EX30 รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นเล็กสุด ราคาจับต้องได้ง่าย ปะทะ Tesla Model 3 ด้วยราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท มาพร้อมสมรรถนะ 0-100 km/h ใน 3.4 วินาที Volvo EX30 all-electric SUV รุ่นใหม่อาจจะเป็นรถไฟฟ้า subcompact คันแรกของ Volvo และของพวกเราได้ง่ายขึ้น มิติตัวถังกะทัดรัดเหมาะสำหรับใช้งานในเมือง ยาว 4,233 มิลลิเมตร กว้าง 1,837 มิลลิเมตร สูง 1,555 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร แม้จะเล็กแต่ Volvo ออกแบบทุกจุดของตัวรถให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด หากมองจากด้านข้างจะเห็นว่า center of gravity ของ EX30 ค่อนข้างต่ำมาก จึงช่วยในการทรงตัวที่ดีแน่นอน ดีไซน์ภายนอกได้อิทธิพลมาจาก
Mercedes-Benz C111 ผลงานที่สร้างขึ้นเพื่อทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ platform ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1960s – 1970s สำหรับเทสทั้งเครื่องยนต์ 3 rotro / 4 rotor Wankel engines / diesel engines / turbochargers engines ช่วงล่าง multi-link suspension ประตู gull-wing doors เพื่อเฟ้นหาทางเลือกที่ตอบโจทย์สูงสุด แบ่งเป็น C111 I / II / III เป็นบรรพบุรุษของ sports car ค่ายดาวสามแฉกแห่งโลกใหม่ที่น้อยคนจะรู้จัก Version แรกสุดของ C111 เกิดขึ้นในปี 1969 บอดี้ผลิตจาก fiberglass เครื่องยนต์ 3-rotor direct injection Wankel engine ก่อนจะขยับเป็น
“Walt Disney Of Japan” คือคำที่ถูกใช้เรียก Hayao Miyazaki หนึ่งในผู้ก่อตั้งและผู้กำกับคนสำคัญของสตูดิโออนิเมชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น Studio Ghibli นั่นเอง ทุกครั้งที่คุยถึงการ์ตูนจิบลิเรื่องโปรดในดวงใจกับกลุ่มเพื่อน เคยสังเกตุกันมั้ย ว่าทุกครั้งเราจะต้องพูดถึงงานศิลป์ที่สวยงามราวกับเป็นของจริง แต่งดงามเกินชีวิตจริงกันเสมอ นั่นคือเหตุผลว่าทำไม สาวกอนิเมชั่นของจิบลิหลายคนถึงชอบดูคลิปสั้นฉากทำอาหาร ฉากผู้คนเดินขวักไขว่ใช้ชีวิตในเมือง หรือฉากยานพาหนะของสตูดิโอนี้ได้แบบไม่มีเบื่อ เพราะมันเหมือนว่าเราเอาตัวเองไปอยู่ในความฝัน ที่มีภาพความจริงที่เป็นไปได้ซ้อนทับอยู่ ส่วนตัวเราว่ามันทำให้มองโลกนี้น่าอยู่ขึ้น และเมื่อพูดถึงความฝัน วันนี้ก็เลยอยากจะพูดถึง ‘จุดเริ่มต้น’ ของสตูดิโอจิบลิ ซึ่งหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือปู่ฮายาโอะของเรามีแพชชั่นในการทำอนิเมชั่นเพราะว่าอยากวาดรถฝรั่งเศสยี่ห้อ Citroën 2CV ของตัวเองเข้าไปมีชีวิตอยู่ในนั้น UNLOCKMEN ขอพาไปอ่านเรื่องราวความหลงใหลในรถของปู่ฮายาโอะ ที่ทำให้รถยนตร์ทุกคันในการ์ตูนของจิบลิมีความสวยงาม มีความหมาย และมีเรื่องราวของเขาซ่อนอยู่ใน 4 ล้อที่ขับเคลื่อนไปอยู่ตลอดเวลา “ด้วยรถคันนี้ มันทำให้ผมหนาวจนตัวสั่นในฤดูหนาว และร้อนจะเป็นจะตายเมื่อฤดูร้อนมาถึง แต่นั่นคือกระบวนการ ‘ออสโมซิส (Osmosis)’ ที่สมบูรณ์แบบสำหรับธรรมชาติของผม” ขอเล่าประวัติย่อสั้น ๆ กันสักนิด Hayao Miyazaki เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย Gakushuin University จบคณะเศรษฐศาสตร์
กล้องในมือมันสั่นไปหมด เมื่อได้เห็นสเปก Leica Q3 full-frame, fixed-lens compact camera ใหม่ล่าสุด จะเรียกว่า Leica M11 ในร่าง compact ก็ไม่ผิด Leica Q3 มากับเลนส์ Summilux 28mm f/1.7 with macro mode ใกล้สุด 6.69 นิ้ว อัพเกรดความละเอียดถึง 60-megapixel sensor เท่ากับใน Leica M11 (Q2 ความละเอียด 47-megapixel) ประมวลผลด้วย Maestro IV processor with 8GB of buffer memory เพิ่มความกว้าง ISO range 50 – 100,000 พัฒนาระบบ autofocus ให้ทำงานได้ดีทั้ง phase
เป็นคู่แข่งที่ดุเดือดมากใน Luxury sedan class ระหว่าง 8-generation BMW 5-Series ที่เปิดตัววันนี้ ปะทะ Mercedes-Benz E-Class ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เรียกว่ามีข้อดีและจุดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเรื่องของดีไซน์ เทคโนโลยี สมรรถนะ ชนิดที่ว่าคนซื้ออาจต้องทำการบ้านหนักพอสมควรเพื่อจะตัดสินใจว่าจะถอยคันไหนดี Exterior Design: ชอบความสปอร์ต หรือเลือกความหรูหรา การออกแบบน่าจะเป็นความแตกต่างและคัดเลือกเจ้าของรถได้ดีที่สุด BMW 5-Series เหมาะกับคนที่รักความสปอร์ต ชอบเส้นสายที่ฉูดฉาด ล้ำยุค โฉบเฉี่ยวกระแทกตามากกว่า ด้านท้ายดีไซน์ให้ดูยาวขึ้นพร้อมไฟท้ายใหม่ที่คล้ายกับของ i7 Mercedes-Benz E-Class ชัดเจนว่านำดีไซน์ของตระกูล EQ มาใช้โดยมี LED DRL แบบใหม่เป็นจุดเด่น แต่ภาพรวมยังให้ความรู้สึกคล้าย E-Class รุ่นปัจจุบันโดยเฉพาะจากมุมด้านข้างที่ลายเส้นเน้นความโอ่อ่า ผ่อนคลายกว่า ไฟท้าย LED ทรง 3D Mercedes star เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ แต่อาจจะต้องใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยสักระยะ Performance: ทั้ง 5-Series และ
993 Generation Porsche 911 เจนที่ 3 ของตำนานเจ้าชายกบมาแทนที่ 964 ชนิดเปลี่ยนใหม่หมดทุกจุด มีรายละเอียดจาก 964 ติดมาเพียงแค่ 20% เท่านั้น รวมถึงเครื่องยนต์ 3.8-liter NA และ 3.6-liter turbo flat-six ก็ได้รับการเพิ่มเรี่ยวแรงตามสมัยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ 993 ยังเป็น air-cooled 911 รุ่นสุดท้าย และเป็น 911 ที่สร้างแบบ hand-built รุ่นสุดท้ายอีกด้วย นอกจาก 993-gen 911 Carrera และ Turbo ก็ยังมีรุ่นหายากอย่าง RS, Speedster, Targa และ GT2 ออกมาตามช่วงเวลาสำคัญต่าง ๆ บางตำราบอกว่า Speedster หายากที่สุดเพราะผลิตออกมาจากโรงงานแค่ 2 คัน แต่นักสะสมหลายคนกลับให้ความสนใจใน 911 Turbo
เปิดตัวอย่างเร้าใจ เคล้าเสียงกระซิบบนเนินทรายแห่งความฝันกับงาน “RADO NOVELTIES 2023: Whispers of Dunes and Dreams” งานแสดงประจำปีจาก RADO เผยโฉมเสน่ห์อันเร้าใจเกินต้านของ Rado Centrix ส่งตรงจากสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ อาณาอานันท์รีสอร์ต แอนด์วิลลาพัทยา ที่เพิ่งผ่านกันไปสด ๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้ แม้จะเป็นวันที่ร้อน ปนความชื้นของฝน แต่บอกเลยว่างานนี้มีเสน่ห์อันเร้าใจ จนทำให้ทุกคนลืมอากาศกันไปเลยทีเดียว เป็นประสบการณ์ ล้ำค่าที่ผู้หลงใหลเรือนเวลาต่างจดจำไม่รู้ลืม ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่ RADO ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนาฬิกาจะเปิดตัวผลงานใหม่ล่าสุด Rado Centrix มาในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนจัดแบบนี้ เพราะเสน่ห์อันน่าหลงใหลของนาฬิกาเรือนล่าสุดเปรียบเสมือนสายลมที่พัดผ่านทะเลทราย และความร้อน แต่ให้ความรู้สึกสบายได้อย่างน่าทึ่ง งานในครั้งนี้จึงจะจัดขึ้นที่อื่นไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ริมทะเล เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงกระซิบของสายลม และเนินทรายอันนุ่มนวล ภายในงานครั้งนี้นอกจากการโชว์ตัวนาฬิกาแล้ว ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อป “Scent of Dreams” ให้ทุกท่านได้เปิดประสบการณ์ การครีเอตเครื่องหอม Diffuser ริมชายหาด ร่วมแต่งเติมกลิ่นหอมในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ไปพร้อมกับการทดลองสวมใส่นาฬิกาเรือนหรูที่ให้ความรู้สึกสบายตลอดการสวมใส่ เมื่อถึงช่วงโพล้เพล้พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า Rado
ไม่ได้จูนแค่ AMG เพราะแม้แต่ Mercedes-Benz EQS ก็ยังผ่านมือ Brabus อัพเกรดพลังไฟฟ้าให้โหดสะใจยิ่งกว่าในชื่อรหัส Mercedes-AMG EQS 53 Masterpiece By Brabus แต่หากใครคิดว่า AMG EQS 53 คันนี้จะถูกอัพเกรดจนแรงเท่าตระกูล Brabus 900 ต้องบอกว่าคงมีวันนั้น แต่ไม่ใช่ตอนนี้ อาจจะเพราะการเล่นกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับ Brabus ด้วย เราจึงได้ผลงานที่เน้นดีไซน์มากกว่า โดยได้ชุดแต่ง full aerodynamic upgrade kit แบบ exposed carbon ล้อ monoblock ขนาด 22 นิ้ว ไม่ใช่แค่ใส่ให้ดูเท่ แต่ยังได้ aerodynamic เพิ่มขึ้นถึง 7.2% ผลคือได้ระยะทางในการขับเพิ่มขึ้นอีกราว 7% จากเดิมเคลมไว้ 443 km เพิ่มเป็น 480 km Brabus บอกว่าลิ้นหน้านอกจากจะเพิ่มความสวยงามยังมีส่วนเพิ่มประสิทธิภาพของ
ไม่ถึงขั้น barn find เพราะไม่ได้เจอตามไร่นา แต่เป็นรถที่ถูกเก็บไว้นานจนลืมกว่า 20 ปี และมันไม่ใช่การเจอ Countach ธรรมดา เพราะนี่คือรุ่นท็อปสมรรถนะสูง LP500 S model ซึ่งผลิตครั้งแรกในปี 1982 และคันนี้ก็เป็นคันแรกสุดของ LP500 S ที่ออกมาจากโรงงาน ประวัติของ Countach LP500 S คันนี้ได้รับการยืนยันโดย Valentino Balboni นักขับรถทดสอบของ Lamborghini ที่รู้ทุกรายละเอียดของรถ ได้ระบุจุดสังเกตของคันนี้ว่าแท้ 100% เช่น กันชนหน้า LP400 S, ล้อ Campagnolo magnesium wheels เป็นต้น และยังพบเอกสารที่ระบุว่ารถคันนี้เคยเป็นรถโชว์ที่จัดแสดงในงาน 1982 Geneva Motor Show มาแล้ว และยังเคยถูกใช้ถ่ายในโฆษณา Lamborghini LP500 S brochures ด้วย ความพิเศษยังไม่จบแค่นี้ Countach
1994 BMW 850CSi 6-Speed นี่คือ rare gems หนึ่งใน 225 คันที่ส่งขายในอเมริกา ถือเป็นรุ่น top-of-the-range ของตระกูล 8-Series หากไม่นับรวม Alpina B12 5.7 ซึ่งต่อยอดมาจาก M8 Prototype ที่ถูกพับโปรเจคไปกลางคัน และคันนี้สั่งคัสตอมพิเศษผ่าน BMW Individual program ภายนอกตัวถังสีฟ้า ภายใน two-tone ฟ้าตัดดำที่หาดูได้ยาก แม้จะใช้ขุมพลังเดียวกับ 850i แต่ผ่านการจูนจนมี output ต่างกันมากจนต้องใช้ engine code ใหม่เป็น S70B56 เพิ่มความจุจาก 5.0 liter เป็น 5.6-liter V12 375 horsepower 550 Nm of torque 0-100 km/h in 5.9
ข้อได้เปรียบที่ผู้ชายทุกคนได้จากการดูภาพยนตร์มันส์ ๆ คือความตื่นเต้นทุกครั้งที่เราเห็นยานพาหนะคันงามของตัวละครหลักในเรื่อง อารมณ์ตื่นเต้นนี้ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นมาจาก The Fast & Furious แต่พวกเราหลงใหลความงามของรถยนต์ในหนังมาตั้งแต่ James Bond ว่าภาคนี้ 007 จะขับอะไร รวมถึงอีกหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะภาพยนตร์ดัง รถเลยได้รับความนิยม หรือรถยนต์ดัง เลยยิ่งส่งเสริมให้หนังประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ารถยนต์ 10 คันนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราจดจำได้ไม่แพ้เรื่องราว หรือตัวละครในหนังเลยทีเดียว Eleanor 1967 Shelby Mustang GT500 (Gone in 60 Seconds) หนึ่งในภาพยนตร์เกี่ยวกับรถซิ่งที่โด่งดังจากยุค 2000 ก่อนตระกูลหนังบ้าพลังอย่าง The Fast & Furious จะถือกำเนิดขึ้นมา พวกเราต้องเคยตื่นเต้นกับรถยนต์สวย ๆ ใน Gone in 60 Seconds นำแสดงโดย Nicolas Cage (Randall
นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ BMW ในการสร้างโมเดล flagship รุ่นใหม่อย่าง i7 ขึ้นมา มันมีความแตกต่างจาก 7-Series ในอดีต รวมถึงคู่แข่งใน segment เดียวกันได้อย่างสิ้นเชิง มันเป็นรถที่ไม่ได้มีแค่ความหรูหราที่ส่งผ่านออกมาทางดีไซน์อย่างชัดเจน แต่มันยังมีความเร้าใจที่ล้ำหน้ากว่าใครซ่อนอยู่รอบคัน สมรรถนะที่น่าตื่นเต้นจากพลังงานไฟฟ้า 100% การออกแบบที่แตกต่างและห่างไกลจากคำว่า conservative เราจะพบเจอฟีเจอร์ที่ควบคุมสั่งงานผ่านหน้าจอได้เกือบจะทุกจุดรอบคัน รวมถึงจอ Theatre Screen 31.3 นิ้ว ที่ปรับระดับใกล้ ไกล และองศาได้จากห้องโดยสารด้านหลัง มันจึงตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้บริหารรุ่นใหม่ รวมถึงลูกค้ากลุ่ม luxury ที่มองหาความแปลกใหม่โดยที่ราคาไม่ใช่อุปสรรค มองไปรอบตัวยังไม่เจอคู่แข่งของ BMW i7 แบบตรง ๆ แม้แต่รุ่นเดียว เช่นในด้านราคาตัวเริ่มต้นราว 7.5 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่ามีทุกอย่างให้ครบจนไม่จำเป็นต้องซื้อตัวท็อปกว่านี้ ดีไซน์ภายนอกถือเป็นอีกจุดเด่นของ BMW i7 ได้เลย หากคุณขับไปบนถนน คุณจะรู้สึกได้ว่าตกเป็นจุดสนใจจากคนรอบข้าง มันเป็นดีไซน์ที่เตะตาและบอกคาแรคเตอร์ของผู้ขับและผู้โดยสารได้ชัดเจนมาก ไฟหน้าคริสตัล Iconic Glow และกระจังหน้าไตคู่เรืองแสงช่วยเพิ่มความน่าเกรงขามในยามค่ำคืน มิติตัวถังของ i7