Entertainment

การล็อคดาวน์อยู่บ้าน สร้างประวัติศาสตร์แห่งการฟังเพลง เมื่อยอดขายแผ่นเสียงไวนิล กำลังแซงหน้า CD

By: unlockmen April 1, 2021

นับตั้งแต่การมาของประดิษฐกรรมที่ชื่อว่า Compact Disc หรือ CD ตั้งแต่ยุค 80s นับแต่นั้นสิ่งๆนี้ก็ได้ทำลายฟอร์แมทการฟังเพลงเก่าๆไปอย่างราบคาบ ด้วยทั้งความสะดวกสบาย คุณภาพเสียงที่ชัดใส ไปจนถึงราคาที่ถูกกว่า ทำให้ฟอร์แมท CD อยู่คู่กับคนฟังเพลงมานานนับ 4 ทศวรรษ ตั้งแต่ปี 1987 ที่เป็นครั้งแรกที่ยอดขายซีดีนำหน้าฟอร์แมทอื่นๆไม่ว่าจะเป็นคาสเซ็ทท์ หรือแผ่นเสียงไวนิล แต่บัลลังก์แชมป์กำลังถูกสั่นคลอนในอีกไม่ช้า เมื่อผู้สันทัดกรณีของประเทศอังกฤษได้กล่าวว่า “ปี 2021 นี้ CD จะมีแนวโน้มถูกโค่นแชมป์ ซึ่งสิ่งที่มาสั่นคลอนนั้นไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่อะไร แต่เป็นแผ่นไวนิล หรือแผ่นเสียงนั่นเอง”

Geoff Taylor ผู้บริหารระดับสูงของ British Phonographic Industry (BPI) ได้กล่าวถึงปรากฏการณ์อันน่าสนใจนี้กับ The Guardian ว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่แนวโน้มของแผ่นเสียงจะกลับมาชนะ CD ในปลายปีนี้ เนื่องจากพฤติกรรมการฟังเพลงของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป จากยอดขายโดยรวมที่ปีที่แล้วที่ไวนิลได้ทำไว้คือ 86.5 ล้านปอนด์ ซึ่งนับเป็นยอดขายที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา ซึ่งถือได้ว่าทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 30% เลยทีเดียว”

ซึ่งเหตุผลสำคัญของการกลับมาของไวนิลนั้นมีนัยยะสำคัญอยู่ 4 ประการดังต่อไปนี้

1 – การครองตลาดอย่างเต็มกำลังของ Music Streaming 

แน่นอนว่ายุคสมัยนี้ การฟังเพลงผ่านฟอร์แมท Streaming ไม่ว่าจะเป็น Spotify / Apple Music / YouTube Music / TIDAL หรือบ้านเราจtฟังผ่าน JOOX ก็ตาม แม้ Streaming จะยืนหนึ่งเรื่องความสะดวก แต่คนฟังเพลงกลับมองว่ามันจับต้องไม่ได้เลย แผ่น CD แม้จะมีความสะดวกรองลงมา แต่ถ้าเทียบความเต็มไม้เต็มมือของอาร์ตเวิร์คแล้ว แผ่นเสียงไวนิลกลับให้ความรู้สึกที่เข้าถึงมากกว่าสำหรับคนฟังเพลงรุ่นใหม่ แม้ว่าราคาของไวนิลนั้นจะแพงกว่า CD เป็นเท่าตัว ไหนจะเสน่ห์ของแผ่นเสียงในเอดิชั่นต่างๆที่มีให้เลือกหลากหลายกว่า ไม่ว่าจะเป็นสีของแผ่นที่แตกต่างสำหรับนักสะสมระดับคลั่งไคล้ ที่มักจะออกมาเรื่อยๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย อาทิเช่นของ Taylor Swift อัลบั้ม Folklore ที่ออกมาเป็น 10 สี 10 ปก ในเวลาจำกัด ไม่แปลกใจเลยที่แผ่นไวนิลนั้นยอดขายจะสูงขึ้นทุกปี ขณะซีดีนั้นต่อให้คุณภาพเสียงและความสะดวกเหนือกว่า แต่เมื่อเทียบกับ Streaming แล้ว CD ก็แพ้พ่ายในทุกๆทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

2 – โรคระบาดและการล็อคดาวน์ 

แม้การล็อคดาวน์จากวิกฤติ COVID-19 จะทำให้หลายคนพลาดโอกาสมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรือการชมคอนเสิร์ต แต่เวลาที่เหลือมากกว่าปกติเมื่อคุณอยู่บ้าน ไม่ว่าจะเรียนผ่าน Zoom หรือ Work from Home ก็ทำให้คุณมีเวลามากพอที่จะปัดฝุ่นหยิบแผ่นเสียงที่จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟังเนื่องจากเลือกแทร๊คค่อนข้างลำบาก ได้ดื่มด่ำแผ่นเสียงที่คุณซื้อมาเนิ่นนานแต่ไม่เคยหยิบมันมาลงเข็มเสียที เพราะก่อนหน้านี้ไวนิลคือนวัตกรรมสำหรับคนสโลว์ไลฟ์ที่สวนทางกับไลฟ์สไตล์เร่งรีบของคนยุคปัจจุบัน แต่เมื่อทุกอย่างถูกฟรีซให้เวลาชีวิตช้าลง ก็เลยมีเวลามากพอที่จะได้ฟังเพลงจากศิลปินที่ชื่นชอบ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะในปี 2020 ที่ผ่านมา มีการสำรวจพบว่า คนอยู่บ้านเลือกฟังเพลงจากไวนิลมากกว่าซีดี ซึ่งเมื่อคลายล็อคดาวน์แล้ว พวกเขากลับพบเสน่ห์ของการฟังเพลงผ่านไวนิลกันมากมาย การฟังเพลงผ่านไวนิลจึงเป็นหนึ่งในวิถี New Normal ที่เปลี่ยนพฤติกรรมการฟังเพลงไปตลอดกาล

3 – การสนับสนุนศิลปินโดยตรง

การระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ร้านซีดีแผ่นเสียงมากมายปิดตัวลง แต่อุตสาหกรรมดนตรีกลับสวนทาง เมื่อเหล่า FC ของศิลปินแต่ละราย เลือกที่จะสนับสนุนผ่านช่องทางออนไลน์โดยตรง ซึ่งสิทธิพิเศษที่ร้านค้าปลีกให้ไม่ได้ ก็มักจะมาในรูปแบบของ เอดิชั่นที่แตกต่างกันไป ศิลปินบางคนก็บรรจงจรดลายเซ็นเพื่อเป็นการกำนัลแฟนๆที่ให้การสนับสนุน ซึ่งแฟนๆต่างยอมควักเงินเพื่อให้ศิลปินมีกำลังใจ ที่ตอนนี้หยุดนิ่งไม่สามารถสร้างรายได้จากการออกทัวร์คอนเสิร์ต ให้ในการทำเพลงต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต นับเป็นอีก 1 การตลาดที่ส่งผลให้ยอดขายไวนิลเพิ่มมากขึ้นเพราะในรอบปีที่ผ่านมา แม้ยอดขายจากอัลบั้มเก่าๆจะยังคงขายได้ดี แต่ศิลปินยุคใหม่ที่ออกอัลบั้มอย่าง Harry Styles ก็สามารถทำกำไรจากการขายแผ่นเสียงได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเช่นกัน

4 – ราคาแผ่นที่มีโอกาสจะพุ่งสูงขึ้นในอนาคต 

ไม่มีใครคาดคิดว่าจู่ๆแผ่นเสียงที่ตนซื้อจะมีราคาพุ่งขึ้นทันทีเมื่อศิลปินบางท่านได้เสียชีวิต หรือตัดสินใจยุบวงไป เช่นแผ่นลิมิเต็ดอัลบั้มชุดสุดท้ายของ David Bowie ที่ชื่อ Blackstar ราคาพุ่งสูงถึง 400% ทันทีเมื่อข่าวการเสียชีวิตของเขาปรากฏขึ้น หรือล่าสุดกับ Daft Punk ที่เมื่อแยกวงปุ๊บ ราคาแผ่นเสียง First Release ของทุกอัลบั้มก็ถีบตัวสูงขึ้นทันที นักเก็งกำไรทั้งหลายจึงพากันแห่จับจองแผ่นเสียงเผื่อวันใดวันหนึ่งแผ่นที่อยู่ในมือจะกลายเป็นทองที่มีมูลค่าสูงขึ้น เพราะแผ่นไวนิลนั้นคงทนถาวรในการเก็บประวัติศาสตร์เอาไว้ และกลายเป็นตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายที่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่างกับรถ / นาฬิกา หรือว่าทอง เลยทีเดียว

กล่าวโดยสรุป  การเปลี่ยนพฤติกรรมการฟังเพลงกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากพบว่าคนฟังเพลงโหยหาการฟังเพลงที่สามารถจับต้องได้ การฟังเพลงที่ง่ายเพียงปลายนิ้วอาจจะตอบโจทย์การฟังเพลงของคนรุ่นใหม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าของเก่านั้นจะล้มหายตายจากไป หลายสิ่งต้องใช้เวลาอันเหมาะสมเพื่อรอเวลาคืนกลับมา และไวนิลคือนวัตกรรมสุดเก่าที่ในที่สุดก็กลับมาทวงบัลลังก์อันดับ 1 ในการฟังเพลงอีกครั้ง เชื่อว่าหลายๆคนเมื่ออ่านบทความนี้จบน่าจะออกไปหาเครื่องเล่นแผ่นเสียงราคาย่อมเยาว์และเหน็บแผ่นเสียงของศิลปินคนโปรดมาฟังกันอย่างแน่นอน

และขอทิ้งท้ายด้วย 20 อันดับอัลบั้มแผ่นแผ่นเสียงที่ขายดีในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นไกด์ในการศึกษาและหาฟังสำหรับนักเล่นแผ่นมือใหม่ที่หลงไหลการฟังเพลงแบบอนาล็อก

 

  1. FLEETWOOD MAC – RUMOURS
  2. OASIS – WHAT’S THE STORY MORNING GLORY
  3. AMY WINEHOUSE – BACK TO BLACK
  4. NIRVANA – NEVERMIND
  5. HARRY STYLES – FINE LINE
  6. KYLIE MINOGUE – DISCO
  7. QUEEN – GREATEST HITS
  8. AC/DC – POWER UP
  9. ARCTIC MONKEYS – LIVE AT THE ROYAL ALBERT HALL
  10. IDLES – ULTRA MONO
  11. LIAM GALLAGHER – MTV UNPLUGGED
  12. BOB MARLEY & THE WAILERS – LEGEND
  13. PINK FLOYD – THE DARK SIDE OF THE MOON
  14. BILLIE EILISH – WHEN WE ALL FALL ASLEEP WHERE DO WE GO
  15. THE BEATLES – ABBEY ROAD
  16. LEWIS CAPALDI – DIVINELY UNINSPIRED TO A HELLISH EXTENT
  17. FONTAINES DC – A HERO’S DEATH
  18. LADY GAGA – CHROMATICA
  19. BRUCE SPRINGSTEEN – LETTER TO YOU
  20. GERRY CINNAMON – THE BONNY

 

 

 

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line