FASHION

CONVERSATION WITH DAVID GOUTEN CO-FOUNDER MANUFACTURE ROYALE

By: Chaipohn June 13, 2018

เมื่อตอนผมยังเด็ก ผมเคยสงสัยว่าทำไมผู้ใหญ่บางคนถึงต้องใส่นาฬิกา Rolex ราคาแพงไว้บนข้อมือ เพียงเพื่อดูเวลาที่นาฬิกาหลักร้อยบนข้อมือของผมก็ทำได้เช่นกัน

เมื่อผมโตขึ้นมา เริ่มทำงานเก็บเงินได้พอประมาณ จึงเข้าใจถึงคำว่าซื้อนาฬิการาคาแพง เพื่อเป็นรางวัลให้กับตัวเองที่เหนื่อยมานานหลายปี แน่นอนว่าการมีนาฬิาการาคาหลายแสนอยู่กับตัว มันเป็นเหมือนเครื่องหมายที่บ่งบอกว่าเราได้มาถึง Milestone นึงแล้ว เราประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจประมาณนึงแล้ว

จนกระทั่งวันที่ผมได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับบรรดานักสะสมนาฬิกาตัวจริง มีคำถามนึงที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดใจในการหาคำตอบ คำถามมีอยู่ว่า ‘ทำไมคุณถึงเลือกใส่นาฬิกา Rolex เรือนนั้นล่ะ? มันมีความสำคัญยังไง’ ใช่ครับ ผมตอบไม่ได้ เพราะที่ผมรู้คือ มันเป็นสิ่งที่ผู้คนในสังคมยอมรับนับถือ ซึ่งสิ่งที่ทำไปเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ทางเลือกที่เกิดจากเหตุผลของตัวเองเลย

ผมถามผู้ชายคนนั้นกลับไปว่า แล้วทำไมคุณถึงเลือกใส่ Independent Watch ไม่ซิ ทำไมคุณถึงเลือกผลิต Independent Watch ที่ชื่อว่า “Manufacture Royale” ล่ะ? คำตอบที่ได้มานั้นชัดเจนมาก เป็นความชัดเจนแบบเดียวกันกับที่นักสะสมนาฬิกาตัวจริงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน “เพราะมันเป็น Passion ที่จะผลิตสิ่งที่ดีที่สุดมาสวมใส่ มันเป็นสิ่งที่เรามองมันแล้วรู้สึกพิเศษ และแน่นอนว่ามีจำนวนเพียงไม่กี่คนบนโลกที่ได้ครอบครองมัน”  

ใช่ครับ ผู้ชายคนที่ผมกำลังพูดคุยด้วยอยู่ก็คือ Mr. David Gouten, Co-Founder ของ Indy Watch ระดับ World Class “Manufacture Royale”

ชื่อแบรนด์ Manufacture Royale อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูของคนส่วนใหญ่ แต่สำหรับนักสะสมนาฬิกาตัวจริง และคนเล่น Indy Watch น่าจะรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยเรื่องราวที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ตั้งแต่ยุค 250 ปีก่อน

“Manufacture Royale เป็นนาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนกลับไปถึงยุคของ Voltaire นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสชื่อดังในยุคศตวรรษที่ 18 เป็นผู้ริเริ่ม workshop การผลิตนาฬิกาแบรนด์นี้ขึ้นมาในเมือง Ferney ซึ่งอยู่ติดกับเมือง Geneva, Switzerland

ในยุคนั้นตัวของ Voltaire มีความสำคัญกับเมืองนี้มาก ถึงขนาดที่ปัจจุบัน เมืองนี้ถูกเรียกว่า Ferney-Voltaire และหนึ่งในสิ่งที่สร้างชื่อเสียงของ Voltaire ก็คือนาฬิกาที่ส่งมอบให้กับพระราชา ท่านทูต และมหาเศรษฐีทั่วยุโรปในยุคนั้น”

“ในปี 1778 Voltaire เสียชีวิตลง เรื่องราวของนาฬิกา Votaire ก็หยุดอยู่ ณ ตรงนั้น แต่ตำนานของเค้าได้ถูกส่งต่อมายัง GNT Luxury Holding ที่นำตำนาน Manufacture Royale กลับมามีชีวิตอีกครั้งในปี 2010 ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยี Movements อันเที่ยงตรงแม่นยำ โดยเฉพาะ Tourbillon (ตูย์ บิ ยองค์) กลไลที่มีต้นกำเนิดจาก Abraham-Louis Breguet ในปี 1795 ระบบฟันเฟืองที่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งเป็นที่สุดของเทคโนโลยีที่ผลิตยาก ราคาจึงสูงมากตามไปด้วย และที่สำคัญคือมันเป็นศิลปะชั้นสูงที่บอกเล่าความคลาสสิคของประวัติศาสตร์”

แต่เราก็แปลกใจนิดหน่อย เพราะปกติแล้วแบรนด์ทั่วไปน่าจะเคลมไปเลยว่ามี Heritage ต่อเนื่องยาวนานไม่มีหยุดพัก ดังนั้นในกรณีของ Manufacture Royale ถ้าจะเคลมว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่กว่า 250 ปีก็ทำได้ ทำไมไม่เคลมแบบนั้นล่ะ? 

“เราไม่อยากโกหกเรื่องประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ ตามสไตล์ Marketing ที่แบรนด์อื่นนิยมทำ นี่อาจจะเป็นข้อดีของการเป็น Independent Watchmaker ล่ะมั้ง มันไม่ได้แปลว่าเรามีตำนาน 250 ปีแล้วจะนาฬิกามันจะดีหนิ นั่นมันเรื่องราวเอาไว้ทำแบรนด์ให้ดูดีเพื่อขายคุณแพง ๆ เราเป็นแบรนด์รุ่นใหม่ที่สร้างบนตำนานบทเก่า เรามุ่งเน้นแต่การสร้างนาฬิกาที่ดีบน DNA ของเราเอง

แน่นอนว่าเรายังคงเล่นกับ History ของ Voltaire อยู่ เราพยายามคาดเดาว่า ถ้า Voltaire ยังอยู่ วันนี้เค้าจะสร้างนาฬิกาแบบไหน เทคโนโลยีจะไปถึงไหน เราเน้นการสร้างเทคโนโลยีที่เหนือกว่าใคร และเราเชื่อว่าราคาที่เราขายนั้น สมเหตุสมผลกับสิ่งที่ได้ไปแน่นอน”

Mr. David อธิบายคำนิยามของ Indy Watchmaker ให้กับเรา ซึ่งเป็นคนที่ใหม่มากสำหรับเรื่องนี้ว่า

“มันคือนาฬิกาที่มีเกิดจาก Passion ในการผลิตนาฬิกาล้วน ๆ มันคือนาฬิกาที่เกิดจากการออกแบบที่สุดของเทคโนโลยีที่ทำให้ทั้งผู้ผลิตและผู้สวมใส่พอใจ ไม่มีเรื่องอื่นมาเกี่ยว ไม่ใช่เรื่องของผลกำไรในการทำธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องของปริมาณการผลิตหรือยอดขายที่ต้องมีจำนวนมาก ไม่ใช่เรื่องของการตลาด หรือการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่นั่นแปลว่านาฬิกาคุณต้องเจ๋งมากพอ ที่คนจะดูรู้ได้นะว่ามันเจ๋งจริง”

“เอาง่าย ๆ เหมือนคุณมีความสามารถที่จะผลิตสิ่งที่คุณเชื่อว่า แม่ง โคตรดี สุดยอดไปเลย มันเป็นอะไรที่คุณเห็นแล้วยังต้องตื่นเต้นในสินค้าของตัวเอง ในจุดนั้นคุณจะไม่สนใจเรื่องอื่นอีกเลย คุณจะไม่อยากต้องมานั่งอธิบายให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ไอ้ของสิ่งนี้เนี่ย มันเจ๋งยังไง แต่ถ้าเป็นคนที่รู้จริง เป็นนักสะสมนาฬิกา เค้าจะรู้ทันที และราคาจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญอีกต่อไป เราจะไม่สนใจเลยว่าใส่แล้วคนอื่นจะต้องรู้นะ ว่านาฬิกากูแพง ไม่เลย เราไม่อยากจะใส่นาฬิกาซ้ำกับคนอื่น เราต้องการแค่ให้ตัวเองพอใจ เป็นความสุขส่วนตัว และแน่นอน ถ้านักสะสมตัวจริงเห็นข้อมือก็จะรู้กันเองโดยไม่ต้องโอ้อวดอะไร”

จุดเด่นของ Indy Watch ประกอบไปด้วยคุณสมบัติสองสามอย่าง กล้าเจ๊ง ด้วยราคาที่สูงกว่านาฬิกาแบรนด์หรูยอดนิยมในตลาด และปริมาณการผลิตแบบ Hand Crafts ที่ใช้เวลานาน ผลิตจำนวนน้อย แน่นอนว่ามันสวนกระแสการตลาดแน่นอน แต่ถ้าอยากเป็น Indy Watch ก็จำเป็นต้องทำ และที่สำคัญที่สุดคือ Signature ของแบรนด์  Indy Watch จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี DNA ที่ชัดเจนในระดับที่คนดูแล้วรู้เลยว่า จุดเด่นเหล่านี้คือแบรนด์อะไร ถ้าตัวตนของคุณไม่ชัดเจน แสดงว่านั่นไม่ใช่ Indy Watch ที่แท้จริง

“เรามีการออกแบบรูปทรงนาฬิกาที่เป็น Iconic Design ชัดเจนมาก แม้คนจะดูไม่รู้ว่าเป็นยี่ห้ออะไร แต่แค่สังเกตบริเวณข้อสายและรูปทรง บวกกับความสวยงามสมบูรณ์แบบของกลไก Tourbillon บนหน้าปัดที่พัฒนาได้ล้ำหน้ากว่าใคร ก็บอกได้ทันทีว่านี่คือ Manufacture Royale ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพิเศษหรือ Classic ก็ตาม”

Manufacture Royale 1770 Micromegas Revolution Double Flying Tourbillon

ใช่แล้วครับ ความท้าทายที่ต้องการเอาชนะขีดจำกัดของเทคโนโลี น่าจะเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่สุดของ Manufacture Royale คำนี้เป็นประโยคคลาสสิคที่ผู้บริหารทุกคนพูดกันติดปาก ต่างกันตรงที่ Mr. David พูดพร้อมหยิบนาฬิการุ่นที่เรียกว่า The Manufacture Royale 1770 Micromegas Revolution Double Flying Tourbillon ซึ่งมี Toubillon ถึง 2 กลไลบนหน้าปัดเดียว และแต่ละกลไกมีความเร็วไม่เท่ากัน แต่สามารถนำมาทำงานร่วมกันได้ นับว่าเป็นที่สุดเทคโนโลยีการผลิตที่ทาง Watchmaker ภาคภูมิใจ เมื่อเราถามว่า ทำไมต้องทำอะไรให้ยากขนาดนั้น คำตอบที่ได้คือ

“มันสนุกกว่า มันท้าทายกว่า มันเป็น Internal Challenge จาก Passion ของเราที่ต้องการทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ และนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากนาฬิกาเรือนอื่น”

Manufacture Royale Androgyne Flying Tourbillon

นอกจาก Micromegas Double Flying Tourbillon ที่เป็นพระเอกของแบรนด์แล้ว Mr. David ยังแนะนำอีก 2 โมเดลน่าสนใจ และนับว่าเป็น Iconic Piece ที่นำเสนอ DNA ของ Manufacture Royale ได้ชัดเจน เรือนแรกคือ Androgyne Flying Tourbillon ด้านหลังเปลือยโชว์ Black skeleton movement ที่สวยงาม กระจก Sapphire glasses, กันน้ำลึก 30m. เครื่อง MR06 manual mechanical calibre, 15 jewels, 108 hours of power reserve

Manufacture Royale Haute Voltige

เรือนต่อมาคือ Haute Voltige เรือนเวลาที่ออกแบบให้มีความคลาสสิคและเรียบง่ายมากขึ้น แบ่งเวลาเป็น 2 Time Zone แต่ละ Time Zone แยกกลไลออกจากกัน ไม่ใช่แค่กลไกเดียวแล้วแชร์หน้าปัดกันเหมือนที่เราเคยเห็นมา ดังนั้นแต่ละเข็มของแต่ละ Time Zone จึงสามารถปรับแยกกันได้อย่างอิสระ หน้าปัดกระจก sapphire glasses, กันน้ำ 30m. เครื่อง MR07 automatic mechanical calibre, 31 jewels, 40 hours of power reserve

Manufacture Royale ADN Spirit

และรุ่นสุดท้ายที่ขอแนะนำ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายในชื่อ Manufacture Royale ADN Spirit หน้าปัดขนาด 46mm ได้รับการออกแบบให้หรูหรา ล้ำสมัย และมีความฉูดฉาดจากความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด แสดงถึงมุมมองในโลกอนาคตในแบบฉบับของแบรนด์ ด้วยดีไซน์ 3D architecture of sculptural forms ตัวเรือนทำจาก Steel-DLC และ forged carbon หน้าปัดกระจก sapphire glasses ประกบหน้าหลัง กันน้ำ 30m. เครื่องไขลาน MR010 hand-wound caliber, 48 hours of power reserve

ถ้าราคานาฬิกาเรือนละเฉียดล้าน ไปจนถึงหลายล้าน ไม่ใช่ปัญหาของคุณ และคุณไม่อยากใช้ของที่ซ้ำกับใคร อยากจะได้อะไรที่พิเศษจริง ๆ ในครอบครอง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ตัวเองรู้ว่าเรามาได้ไกลแค่ไหน การทำความรู้จักกับ Indy Watch อย่าง Manufacture Royale น่าจะตอบโจทย์ให้คุณค้นหาตัวเองเจอได้เจอเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะคนที่ซื้อของระดับนี้ เรื่องของมูลค่าหรือการขายต่อเป็นเรื่องรอง มันเป็นการปลดล็อคให้กับ Passion ของตัวเองได้อย่างแท้จริงครับ

More Information : Visit Manufacture-royale.com

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line