Entertainment

‘DOPE สารคดีผงขาว’ ดำดิ่งเรื่องจริงในวงการมืดจากทุกมุมมองของคนขาย คนเสพ และตำรวจ

By: TOIISAN December 17, 2019

ถ้าพูดถึง ‘ยาเสพติด’ เราอาจจะจะคุ้นเคยจากการเรียนเรื่องโทษของมันในชั้นเรียน รู้จักเพราะมีคนใกล้ตัวใช้ หรือรู้จักจากภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง และด้วยความสงสัยใคร่รู้จนอยากลงลึกถึงรายละเอียดให้มากขึ้น UNLOCKMEN ได้พบกับสารคดีเรื่องหนึ่งที่จะพาทุกคนดำดิ่งสู่ด้านมืดของสังคมสุดอันตรายทุกย่างก้าว

ภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือสารคดีบางเรื่องมักนำเสมอมุมมองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง บางเรื่องเจาะลึกเกี่ยวกับพ่อค้ายาชื่อดัง บางเรื่องตามติดทีมปราบปรามยาเสพติด บางเรื่องก็มึนเมาไปพร้อมกับคนเสพยา แต่ซีรีส์กึ่งสารคดีเรื่อง Dope ของ Netflix จะพาเราไปพบกับทุกมุมมองของผู้ขาย ผู้ซื้อ และตำรวจอย่างครบถ้วน 

 

ผงขาว

‘Dope’ หรือในชื่อภาษาไทยว่า ‘ผงขาว’ เป็นซีรีส์กึ่งสารคดีตีแผ่วงการยาเสพติด ถ่ายทำจากเหตุการณ์จริง นั่งสัมภาษณ์พ่อค้ายาในแต่ละย่านจริง ๆ และบางครั้งก็บุกจับคนร้ายไปพร้อมกับตำรวจ ถือว่าเป็นการทำภาพยนตร์ที่ต้องใจกล้าพอสมควรกับการลงไปใช้ชีวิต และเสี่ยงชีวิตนั่งพูดคุยกับพ่อค้ายาอาวุธครบมือ 

ซีรีส์เรื่อง Dope เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่ปี 2017 ตอนนี้ได้ดำเนินมาถึงซีซั่น 3 แล้ว โดยในแต่ละตอนจะพาเราไปทำความรู้จักกับพ่อค้ายาสลับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รับรู้ถึงความคิดรวมถึงมุมมองของคนขายว่าทำไมเขาถึงกระโดดเข้าสู่วงการผงขาว บางคนเติบโตมากับสังคมที่ญาติพี่น้องเป็นคนขายยา สุดท้ายเมื่อโตขึ้นก็มาสานต่อกิจการที่บ้าน บางคนเข้าสู่วงการเพราะอยากมีรถหรูขับเนื่องจากการขายยาสามารถสร้างรายได้ให้เขา 20,000 ดอลลาร์ (ราวหกแสนบาท) ต่อสัปดาห์ และต้องติดตามกระแสอยู่ตลอดว่ายาชนิดไหนกำลังฮิต 

เมื่อดูไปเรื่อย ๆ ผู้ชมจะรับรู้ว่าแท้แล้วคนขายมืออาชีพที่อยู่ในวงการมานานมักไม่เสพยาเสพติดของตัวเองเพราะรู้ดีว่าเสพแล้วจะเป็นอย่างไร พ่อค้ายาเป็นอาชีพที่ต้องตื่นตัวและมีสติตลอดเวลา แถมต้องพัฒนาสารเสพติดสูตรใหม่เสมอเพื่อหาตัวยาที่แรงขึ้น ยิ่งแรงยิ่งราคาแพง ยิ่งแรงยิ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้า ส่วนลูกค้าที่ซื้อยาผสมเองไปเสพแล้วตาย พ่อค้ายาก็ไม่ได้ให้ความสนใจนักเพราะพวกเขาคิดว่าคนซื้อที่เสพยาจนตายเลือกเส้นทางชีวิตเอง จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อการเลือกของลูกค้า 

“พวกเราพยายามหาเงินเพื่อความอยู่รอด มันเป็นเรื่องของทุนนิยม เพราะถ้ามีเงินคุณจะได้รับการยกโทษ”

Dope พาเราไปทำความรู้จักกับพ่อค้ายาหลายเมืองทั้ง ‘บัลติมอร์ เมืองหลวงแห่งเฮโรอีนของสหรัฐอเมริกา’ หรือไปยัง ‘ชายแดนตอนใต้ของสหรัฐฯ’ เมื่อพ่อค้ายาพยายามลักลอบส่งกัญชาข้ามประเทศ เดินทางไป ‘ชุมชนชายขอบของรัฐอินดีแอนา’ ที่ผู้คนต่างมีปัญหาติดยา หรือการเดินทางข้าม ‘ทะเลแคริบเบียน’ ของแก๊งมาเฟียใหญ่ที่หน่วยงานรักษากฎหมายของสหรัฐฯ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พวกเขาขึ้นฝั่งได้ คล้ายกับว่า Dope พาเราท่องเที่ยวไปทั่วสหรัฐฯ ในแบบฮาร์ดคอร์กว่าการท่องเที่ยวปกติ 

การถ่ายทำของฝ่ายพ่อค้ายาเสี่ยงกว่าทางฝั่งเจ้าหน้าที่ เพราะไม่มีการบอกโลเคชั่น พ่อค้ายาต้องปิดหน้ามิดชิดทุกครั้งที่ถ่ายทำ ครั้งหนึ่งขณะผู้สัมภาษณ์นั่งคุยกับพ่อค้ายา จู่ ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่พังประตูเข้ามา จ่อปืนใส่หน้าและสั่งให้ปิดกล้อง บางครั้งพวกเขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปกับพ่อค้ายา หรือข้ามชายแดนพร้อมผงขาวจำนวนมากเพื่อให้เรื่องราวทั้งหมดดำเนินต่อไปอย่างไม่ติดขัด

ทางฝั่งผู้รักษากฎหมายอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพบเจอกับงานสุดหินแทบทุกวัน ช่างภาพที่ตามถ่ายเรื่องราวของฝั่งเจ้าหน้าที่ได้เห็นการวางแผน ระบบการทำงานต่าง ๆ และสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือผู้พิทักษ์มักเดินเกมช้ากว่ากลุ่มพ่อค้ายาเสมอ ทำให้ตำรวจต้องคิดแยบยลแบบคนร้ายและต้องรู้ให้ได้ว่าพวกเขาจะเดินไปทางไหนเพื่อก้าวตามให้ทัน 

บางครั้งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแก๊งค้ายา ยึดยาเสพติดและอาวุธปืนได้ พวกเขาคิดอยู่เสมอว่าแม้วันนี้ยืดปืนได้หนึ่งกระบอก จับแก๊งได้หนึ่งแก๊ง วันพรุ่งนี้ยังคงมีปืนอีกหลายร้อยกระบอกที่พร้อมลั่นไกใส่ผู้บริสุทธิ์ และยังมียาเสพติดอีกเป็นตันพร้อมส่งไปทั่วสหรัฐฯ ดังนั้นงานของเจ้าหน้าที่จึงไร้วันหยุด เพราะยาเสพติดจะไม่มีวันหายไปจากสังคม หน้าที่การลดจำนวนมันลงจึงเป็นงานสำคัญของเจ้าหน้าที่

“ผมออกจากบ้านทุกวันและไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านไหม”

การบุกจับฐานของพ่อค้ายาเต็มไปด้วยความกดดัน เสียงลั่นกระสุนจริงดังสนั่น กลุ่มควันฟุ้งกระจายไปทั่วท่ามกลางเสียงโหวกเหวกของพ่อค้ายาและเจ้าหน้าที่ ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าฝ่ายไหนต่างยืนอยู่บนความเสี่ยง ไม่มีใครสามารถรับประกันความปลอดภัยของชีวิตได้เลย แถมบางครั้งกลับกลายเป็นเจ้าหน้าที่เองที่หันกระบอกปืนใส่เจ้าหน้าที่ด้วยกันเอง เพราะผลประโยชน์กับกลิ่นเงินแสนยั่วยวนที่ทำให้บางคนยอมทิ้งอุดมการณ์ตั้งต้นของตัวเอง

ส่วนมุมมองของคนกลุ่มสุดท้ายที่ซีรีส์เรื่อง Dope นำเสนอให้ผู้ชมได้รับรู้คือมุมมองของผู้ติดสารเสพติด ลูกค้าของพ่อค้ายามีหลากหลายประเภท บางคนเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา บางคนเป็นฮิปปี้ หลายคนเป็นเยาวชน ผู้เสพจำนวนหนึ่งสั่งซื้อยาเพื่อต้องการเพิ่มความสนุกแบบสุดเหวี่ยงในงานปาร์ตี้ หรือซื้อนำใช้กับคนอื่น และมีกลุ่มผู้เสพจำนวนไม่น้อยที่ใช้ยาจนถึงขั้นขาดไม่ได้ 

เราอาจมองว่าคนเสพยาเหล่านี้เลือกเส้นทางเดินเอง ทว่าในวัฎจักรที่หลายคนเลือกพลาดและอยากก้าวออกมา เราพบว่าบางคนสามารถอดทนพาตัวเองออกมามีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นได้ แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังไม่อาจเริ่มชีวิตใหม่โดยทิ้งยาเสพติดไว้เบื้องหลัง สำหรับคนติดยาขั้นหนัก พวกเขาไม่ได้เสพเพราะอยากมึนหรือเข้าสู่ภวังค์ แต่เสพเพื่อความอยู่รอดเนื่องจากขาดยาไม่ได้

“ยาคือสิ่งสำคัญในชีวิต เป็นคนรัก เป็นเพื่อนรัก”

ทั้งหมดคือเรื่องเล่าของคนที่ยืนอยู่คนละฝั่ง มุมมองแตกต่างทำให้ผู้ชมได้รู้จักด้านมืดของสังคมมากยิ่งขึ้น ได้รู้สึกตื่นเต้นสลับหดหู่ บางคราวก็สะเทือนใจ และทำให้รู้ว่า ‘ยาเสพติดไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้คนคิดยาแก้ แต่มันสร้างมาเพื่อสาปคุณ’

สำหรับใครที่สนใจอยากรู้จักเรื่องราวของวงการยาเสพติดทั้งฝั่งคนขาย คนเสพ และฝั่งเจ้าหน้าที่สามารถดูซีรีส์เรื่อง Dope ได้ทางระบบสตรีมมิงของ Netflix โดยแต่ละซีซันจะมีทั้งหมด 4 ตอน ตอนละประมาณครึ่งชั่วโมง แต่เชื่อเถอะครับว่าครึ่งชั่วโมงที่อยู่กับพวกเขา เราอาจจะอึ้งกับโลกสีดำจนหลงลืมเวลาเลยก็ได้ 

 

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับยาเสพติดของ UNLOCKMEN:

THE PROFILES: ‘ความล่ำซำอันพังพินาศ’ 5 พ่อค้ายาที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์ 

NARCOS COLOMBIA: ย้อนรอยสงครามยาเสพติดโคลอมเบีย เมื่อรสขมของโคเคนนำมาสู่อำนาจหอมหวาน

ดมแล้วมันส์ แต่อันตราย ทำความเข้าใจ ‘โคเคน’ ยาเสพติดที่หลายคนพกติดตัวเพื่อความบันเทิง

 

SOURCE

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line