CARS
Explore BKK : แนะนำ 5 ปลายทางสุดเจ๋ง Grooming กิน ดื่ม ช็อป ที่กำลังมาแรงทั่วกรุงเทพ
By: Chaipohn July 28, 2016 38886
วันนี้ทำอะไรดี? ไปไหนดี? คำถามโลกแตกที่ใครๆ ก็พูดกัน น่าแปลกที่เรามักจะมีไอเดียอยากไปนู่นไปนี่ แต่พอถึงเวลาว่างจริงๆ กลับนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดีซะอย่างงั้น จริงๆ แล้วกรุงเทพเป็นเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว มีสถานที่น่าสนใจใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา เพียงแต่เราอาจยังไม่รู้เท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะนอกจากจะยุ่งเรื่องงาน ยังต้องเจอข้อมูลข่าวสารมากมายในแต่ละวัน UNLOCKMEN จึงอาสาขับ All New Mazda CX-3 SKYACTIV-D 1.5 อัพเดทปลายทางที่น่าสนใจแบบไม่ซ้ำกิจกรรมทั่วกรุงเทพ ที่เราการันตีเลยว่าดีจนต้องแนะนำให้ไปกัน เป็น 5 ปลายทางที่ไปได้ทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำแบบไม่ต้องคิดเลยทีเดียว
11.00 at Barberford
ร้านตัดผม high-end สไตล์สุภาพบุรุษที่ซ่อนตัวอยู่ใน Erawan Bangkok เหมาะสำหรับหนุ่มๆ ที่พิศสมัยในความหล่อ เนี้ยบ สไตล์หนุ่มอังกฤษแท้ๆ จุดเด่นของ Barberford ที่ต่างจากร้าน Men Barber อื่นๆ คือ จะมีบริการ Relaxation Den การนวดผ่อนคลาย พร้อมบำรุงหนังศีรษะ รวมถึงขนส่วนอื่นๆ บริเวณใบหน้า ด้วยผลิตภัณฑ์ JS Sloane ซึ่งทางร้านนำเข้ามาจากประเทศอเมริกา
บริการของทางร้านแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ Hair & Finish (1,100 บาท) ที่จะมีช่างมากประสบการณ์มาออกแบบทรงผมให้เหมาะกับเอกลักษณ์ของคุณผู้ชายทุกคน ส่วนที่สองคือ Grand Wet Shave (1,100 บาท) หรือบริการโกนหนวดแบบพิถีพิถัน พร้อมการประคบผ้าร้อนเพื่อเปิดรูขุมขน ใส่ฟรีเซฟออยล์เพื่อบำรุงผิว และอาฟเตอร์เชฟที่หอมละมุน ตบท้ายด้วยบริการ Gentlemen Facial Massage (2,500 บาท) ที่ทางร้านใช้ผลิตภัณฑ์จาก Kiehl’s ที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อการบำรุงฟื้นฟูผิวพร้อมกับผ่อนคลายไปในตัว โดยอนาคตอันใกล้นี้ทางร้าน Barberford ก็จะเพิ่ม Service เกี่ยวกับ Nail Spa หรือการตัดแต่งเล็บในสไตล์สุภาพบุรุษที่มีความละเอียดอ่อนแบบที่คุณอาจจะคาดคิดไม่ถึง
สำหรับสุภาพบุรุษท่านใดที่อยากได้รับประสบการณ์ความเนี้ยบแบบฉบับตะวันตก สามารถเดินทางมาที่ร้าน Barberford ชั้น 4 ศูนย์การค้า Erawan Bangkok ชิดลม เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 – 20.00 น
13.00 at Luka
มีเพียงไม่กี่ร้าน ที่เราไปครั้งแรกแล้วรู้สึกอยากไปอีก แต่กับ Luka ร้าน cafe’ แนว Modern Comfort Food ที่ผสานคำว่า Tasty และ Healthy ไว้ด้วยกัน สามารถสร้างความรู้สึกนี้ให้เราได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการตกแต่งร้านที่สวยงาม อาหารและเครื่องดื่มที่รสชาติดี เรียกว่าอิ่มทั้งร่างกายและจิตใจ
สำหรับคอกาแฟรับรองว่าไม่ผิดหวังถ้าได้ดื่มกาแฟจากฝีมือ Barista อย่างคุณ Steven ที่มีประสบการณ์การชงกาแฟจากประเทศอังกฤษกว่า 10 ปี ขอแนะนำให้ลองเมนูขึ้นชื่อ Salted Caramel Ca Phe ที่ดัดแปลงมาจากกาแฟเวียดนาม ใช้ Salted Caramal แทนนมข้นหวาน
ส่วนเมนูอาหารที่เราอยากจะแนะนำนั้นมีสามตัวด้วยกันประกอบไปด้วย Luka Breakfast Burrito (300 บาท) อาหารเม็กซิกันทานง่ายและได้สารอาหารครบ 5 หมู่ เสิร์ฟพร้อมซอส Homemade ที่ทางร้านทำขึ้นเอง อย่างที่สองเป็น Smash Avocado Open Face Sandwich (200 บาท) ทำจากแป้ง Ciabatta ของ Italy เป็นมื้อกลางวันแบบ Healthy และห้ามพลาด Watermelon & Feta Salad with Quinoa Cakes (220 บาท) อาหารเย็นแบบสุขภาพสุดๆ สำหรับคนคุมน้ำหนัก ที่มีไฟเบอร์จากผัก และผลไม้ อย่างเต็มเปี่ยม
Luka ตั้งอยู่ในซอยถนนปั้น สาทร / สีลม มีที่จอดรถขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง UNLOCKMEN ขอแนะนำให้ไปลองดูสักครั้ง แล้วคุณจะได้ร้านอาหารในดวงใจเพิ่มอีกหนึ่งร้านอย่างแน่นอน
14.00 at 24 Kilated
เราภาวนามาตลอดที่อยากจะให้เมืองไทยมีร้านนำเข้า Sneaker Boutique ที่ไม่ได้อิงกับกระแสตลาด นำเข้ารองเท้า Selected หายากมาขายในบ้านเรา ซึ่งวันนี้เราก็ได้ค้นพบแล้วนั้นคือ 24 Kilated ร้านรองเท้าสัญชาติ Spain ที่มีอีกสาขาอยู่ที่ Barcelona และเพิ่งมาเปิดสาขาที่ 2 ในประเทศไทย
การแต่งร้านถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของที่นี่ โดย Concept ของร้านจะเป็นที่ลับสำหรับ Sneakerhead และสินค้าจะถูกเก็บไว้ในตู้นิรภัยของ Bank เพราะร้านนี้คัดเฉพาะ item รุ่น Exclusive เข้ามาขาย มีเพียงที่ร้าน 24 Kilated ที่เดียวในประเทศไทย ถึงขั้นเคย Collaboration ร่วมกับ Reebok ทำรุ่น Reebok Tuk-Tuk Iconic รองเท้าคู่แรกของโลกที่ดึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยมาเป็นไอเดียในการออกแบบ
และสำหรับสินค้าพิเศษในขณะนี้ของร้าน 24 Kilated ที่เราแนะนำคือ 24 Kilated x Brook Beast 1 (6,500 บาท ) รองเท้า Limited Rare Item สีแดงดำ ที่ได้รับคอนเซ็ปต์มาจาก Le Beastie ภาษาสเปนที่แปลว่าปีศาจ รองเท้าเลยจับสีแดงที่ดูเร้าร้อนมาเป็นสีหลัก เพื่อเชื่อมโยงกับเรื่องราวความน่ากลัว พร้อมสินค้าพิเศษอีกชิ้นสำหรับคนรักรองเท้า คือน้ำยา Crep Protect 24/10 “ Gold Bar” ( 850 บาท ) ที่ทางร้านทำการร่วมโปรเจคกับ Crep เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีของร้าน 24 Kilated จะเป็นสเปรย์ฉีดกันรองเท้าเลอะน้ำ คราบสกปรก ด้วยแพคเกจ Premium พิเศษแบบทองคำแท่ง
ร้าน 24 Kilated ตั้งอยู่บริเวณซอย รามคำแหง 24 แยก 20 ซอย 13 เปิดให้บริการตั้งแต่ 12.00 – 20.00 น. หรือสามารถโทรศัพท์ไปสอบถามที่ 089-333-2424
16.00 at Garage Lounge
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาร้านล้างรถในย่านสุขุมวิทได้ อาจจะด้วยราคาที่ดินที่แพงเกินกว่าใครจะกล้าทำ แต่ร้าน Garage Lounge นี้ตั้งอยู่ริมถนนต้นซอยทองหล่อ โดดเด่นเห็นชัดมาแต่ไกลด้วยการออกแบบที่เน้นความเท่ เหมาะกับผู้ชายอย่างเรา
เรื่องคุณภาพการล้างและความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกที่ล้างรถ ซึ่งที่ Garage Lounge นับว่าตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 ข้อ เราจะเห็น Supercar และสารพัดรถราคาแพงทยอยเข้าไปจอดต่อแถวตลอดเวลาราวกับงาน Motor Show พนักงานที่นี่ทุกคนจึงมีความคุ้นเคยกับรถยนต์ทุกประเภท และการล้างก็ทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ เจอตรงไหนไม่สะอาดก็สามารถบอกได้ พนักงานจะรีบวิ่งมาจัดการให้ทันที
นอกจากล้างรถ ยังมีบริการอื่นๆ อย่างเช่น Glass Coating, Interior Detailing รวมถึงบริการล้างรถ Big Bike ในชื่อ Motorots Bike Motel และมี cafe’ ให้นั่งทานอาหาร ดื่มกาแฟ ขณะรอรถล้างได้ด้วย
แม้ Garage Lounge จะตั้งอยู่บนที่ราคาแพงอย่างทองหล่อ แต่ค่าล้างไม่ได้แพงเวอร์อย่างที่หลายคนจินตนาการ เริ่มต้นที่ 300 บาท สำหรับรถ Size S ไปจนถึง 540 บาทสำหรับรถ Size XXL อย่างรถ pick-up และรถตู้ ซึ่งจะถูกลงไปอีกถ้าซื้อแบบ Package
19.00 at Thyme (ธาม) Eatery & Bar
สำหรับคนที่เย็นนี้ยังไม่มีร้านในใจ เราขอแนะนำร้าน Thyme Eatery & Bar ร้านอาหารแบบ All Day Restaurant ที่คุณสามารถเดินทางมานั่งพักผ่อน ยก Laptop มานั่งทำงาน หรือกินข้าวกับก๊วนเพื่อนได้ทั้งวันทั้งคืน
ภายในร้านมีที่นั่งให้เลือกหลายโซน สำหรับคนมาทำงาน หรือมานั่งกินกาแฟเบาๆ ก็จะมีเก้าอี้แบบ Long Table Bar พร้อมปลั้กไฟไว้ให้ กาแฟ Signature ของร้านนี้ที่เราแนะนำคือ Choco Espresso (130 บาท) เสิร์ฟกาแฟ Espresso แยกกับ Choco ปั่นและ น้ำแข็งที่ Top ด้วยโฟมนุ่มกับผงโกโก้ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เข้ากันได้ดีกับขนม Churros หรือภาษาบ้านเราคือ ปาท่องโก๋สเปน (200 บาท) เสิร์ฟพร้อมนมข้นหวาน และช็อกโกแลต
ส่วนอาหารมื้อหนัก ทางร้านก็มีเมนู Signature ให้เลือกมากมายทั้งแบบ Sharing Food และ Small Plate โดย Concept อาหารจะเป็นสไตล์ Modern European Style ที่ได้เชฟส่งตรงมาจากสเปน เป็นการนำอาหารต้นตำรับมาดัดแปลงให้เหมาะกับคนไทย อย่างเช่น Chicken & Chorizo Paella (850 บาท) หรือข้าวผัดเครื่องเทศของ Spain ที่รสชาติจะเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์แท้ๆ หรือสำหรับคนที่ทานเนื้อได้ ก็จะมีเมนู Beef Burger (380 บาท) ที่ความพิเศษของร้าน Thyme คือจะใช้เนื้อวากิวทำเอง ชิ้นโต เนื้อหนาแน่น และเราสามารถระบุระดับความสุกของเนื้อได้ เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอด ซึ่งสามารถเป็นมื้อเย็นที่ยอดเยี่ยมอยู่ท้อง
การเดินทางมาร้าน Thyme Eatery & Bar ก็ไม่ยากเลย เพราะร้านตั้งอยู่ริมถนน นางลิ้นจี่ ติดกับศูนย์ Suzuki Big Bike สามารถขับรถมาได้สะดวกสบาย เพราะทางร้านได้จัดเตรียมที่จอดรถรองรับไว้อย่างเพียงพอ ถ้ามาไม่ถูกสามารถโทรศัพท์ไปสอบถาม รวมทั้งการสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 02-678-1333 ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 – 24.00
สำหรับปลายทางทั้ง 5 แห่งที่เรานำมาเสนอนี้ ล้วนได้แรงบันดาลใจจากยานพาหนะของเราในวันนี้อย่างเต็มที่ นั่นคือ All New Mazda CX-3 SKYACTIV-D 1.5 ที่มีบาลานซ์ระหว่างความเท่ โฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตในการออกแบบทั้งภายนอกและภายในด้วย KODO design concept และความแรงที่มาพร้อมความสะอาดจากเครื่องยนต์ SKYACTIV Clean Diesel 1.5L รุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบา แต่ทนทานตามสไตล์เครื่องยนต์ Clean Diesel พร้อมให้อัตราเร่งดี ด้วยแรงบิดสูงถึง 270 นิวตัน-เมตร เทียบเท่าเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ 2.5L และประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร ซึ่งทั้งหมดที่เราขับไป นอกจากวันที่แนะนำ 5 สถานที่นี้ ยังใช้งานต่อไปอีกประมาณ 1 อาทิตย์ ใช้น้ำมันไปแค่ 460 บาทเท่านั้นเอง เป็นข้อดีของเครื่องยนต์ Clean Diesel ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศฝั่งยุโรปและอเมริกา แต่จะให้ดีที่สุด เราแนะนำให้ลองนัด Test Drive ด้วยตัวคุณเองที่ Mazda showroom ทุกสาขา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ All New Mazda CX-3 สามารถดูรายละเอียดได้ที่ :
Website : https://www.mazda.co.th/cars/all-new-mazda-cx-3
Facebook : https://www.facebook.com/MazdaThailandOfficial