Entertainment

“Hennessy Urban Night” ค่ำคืนสุดพิเศษที่ตอกย้ำการเติบโตของดนตรีฮิปฮอป และความสัมพันธ์แบบครอบครัวที่มีให้กับ Hennessy ตลอดมา

By: GEESUCH October 10, 2022

ในบางครั้ง บันทึกหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของโลก ก็เกิดขึ้นจากสิ่งเล็ก ๆ บนพื้นที่เล็ก ๆ แบบที่เราคาดไม่ถึง

เช่นเดียวกับโลกของ Hip Hop และ Hennessy สองวัฒนธรรมที่โคจรมาพบกัน มีความสนิทสนมแน่นแฟ้นจนกลายเป็นภาพจำที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เมื่อเห็น Rapper ต้องเห็นขวด Hennessy อยู่ในมือ และมีคำว่า Hennessy อยู่ในท่อนแร็พมาโดยตลอด ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดภายหลังจากจุดเริ่มต้นของ Hip Hop ในอพาร์ทเมนท์ Sedgwick Avenue ห้อง 1520 ย่าน Bronx ณ มหานครนิวยอร์ก ปี 1973

เริ่มจากความต้องการหาเงินเพิ่มของ Cindy Campbell ที่อยากหาซื้อชุดสวยใส่รับเปิดเทอม แต่เด็กที่อาศัยในย่าน Bronx ยุคนั้นไม่ใช่เด็กที่จะแบมือขอเงินพ่อแม่ได้ เธอจึงเกิดไอเดียอยากจัด back-to-school party ในห้องพัก และว่าจ้างน้องชาย Clive aka ที่นั่น DJ Kool Herc ให้มารับบทดีเจสำหรับปาร์ตี้ที่ชื่อว่า “A Kool Herc Party”

ช่วงปี 1973 เป็นยุคแห่ง Disco pop แต่คืนนั้น DJ Kool Herc เลือกที่จะฉีกแนวด้วยการใช้ดนตรี funk and soul กลิ่นอายของ Jimmy Caster Bunce หรือ James Brown เล่นผ่าน  turntables สองตัว ที่ต่อแยก amplifier กัน มีการ Mix จังหวะและทำนองให้เข้ากัน ทำให้ผู้คนมากถึง 300 คนขยับตัวไปตามเสียงเพลงได้ไม่ยาก

เสียงดนตรีที่กระหึ่มจนโดนเจ้าของตึกแบนให้จัดได้ครั้งเดียวในวันนั้น ส่งแรงกระเพื่อมที่ดังยิ่งกว่า แนวดนตรีของเขาถูกเรียกว่าเป็น blueprint for hip hop music จนเกิดเป็นเพลง ‘ฮิปฮอป’ แนวดนตรีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าทึ่ง ทั้งการเปลี่ยนโฉมวงการดนตรีของ New York ซึ่งส่งต่อให้เกิดวัฒนธรรมอย่าง dancing, graffiti, scratching, และ rapping ตามมา ไปจนถึงการสร้างสังคมที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาจนถึงทุกวันนี้

Sedgwick Avenue ห้อง 1520 สถานที่จุดกำเนิดของเพลง Hip Hop

ตลอดระยะเวลาการเดินทางของดนตรีฮิปฮอป เป็นที่รู้กันว่าแม้จะเกิดขึ้นจากข้างถนน แต่ทางเดินเส้นนี้มีความหรูหราจากสร้อยเพชร (Bling Bling) และเงินทองละลานตา แล้วถ้าเราซูมอินดูภาพเหล่านั้นกันอีกครั้ง ก็จะเห็นว่า Hennessy Very Special เป็นอีกสิ่งที่อยู่บนมือของเหล่าแร็ปเปอร์ทุกคนเสมอ ตั้งแต่ Tupac, P Diddy, Drake, Kanye West (Ye) ไปจนถึง Jackson Wang กับยุคสมัยของค่าย 88 Rising (ที่เพิ่งร่วมงานกับ Hennessy เมื่อต้นปี 2022) ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง Hennessy กับดนตรีฮิปฮอปก็ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ แต่มีความหลังอันดีต่อกันมาอย่างยาวนานก่อนช่วงเวลาในปี 1973 ด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าจะเล่าเรื่องนี้ให้ถูกต้อง ก็ต้องขอย้อนเวลากลับไปอีกครั้งนึง

ปี 1950s ในช่วงที่สังคมมีการตั้งคำถามถึงความเท่าเทียมอย่างหนักหน่วง ในขณะที่โลกกำลังหาทางออกผ่านคำตอบ

Hennessy เรียกได้ว่าน่าจะเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่สนับสนุนอิสรภาพ ของเหล่าผู้คนที่เป็นผู้วางรากฐาน “Pround Of Myself” ของวัฒนธรรมฮิปฮอปในเวลาต่อมา โดยการเป็นแบรนด์หรูระดับโลกเบอร์แรก ๆ ที่ใช้คนผิวสีเป็นนายแบบนางแบบถ่ายโฆษณาซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารอย่าง Ebony และ Jet Magazine และหลังจากนั้นก็สนับสนุนแนวคิดนี้มาโดยตลอดทั้งนอกและภายในองค์กรเองก็ตาม

Hennessy กับโฆษณาของ Ebony Magazine

“Hennessy was one of the first spirit brands to authentically invest in a minority audience,

– Bianca Holman”

แม้บางแหล่งข้อมูลจะบอกว่า เพลง “Pass the Courvoisier” ของ Busta Rhyme เป็นจุดเริ่มต้นของ Hennessy ในหมู่ Rapper แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ย้อนไปไกลกว่านั้น

ความผูกพันระหว่าง Hip Hop กับ Hennessy เป็นอะไรที่แน่นแฟ้นและลึกซึ้งมากในระดับที่ไม่มีสิ่งใดแยกออกจากกันได้ ส่วนนึงเพราะ Hennessy ได้สนับสนุนวัฒนธรรม Hip Hop มาโดยตลอด พูดจริง ทำจริง เข้าไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของโลกนั้นจริง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ Herb Douglass นักกีฬาผิวสีเหรียญทองแดง Olympic ปี 1942 ให้เข้ามานั่งในตำแหน่ง Vice President ฝั่ง Urban Market Development หรือการใช้ศิลปิน Hip Hop มารับตำแหน่ง Brand Ambassador

ในปี 2012 แบรนด์ Hennessy ตัดสินใจให้ Erykah Badu ศิลปินฮิปฮอประดับตำนานเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในแคมเปญชื่อ Wild Rabbit และอีกครั้งในปี 2015 ก็ให้ศิลปินระดับโลกอย่าง NAS เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกครั้งเพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 250 ปีของ Hennessy

Erykah Badu กับแคมเปญ Wild Rabbit

NAS กับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ Hennessy

จุดเชื่อมความสัมพันธ์ครั้งสำคัญที่ทำให้ Hennessy กลายเป็น Hip Hop icon ก็คือ Tupac Shakur สุดยอด Rapper ของโลกจาก West Side ที่เปรียบเสมือนศาสดาแห่งโลก Hip Hop ซึ่ง Pac เป็นคนที่ชื่นชอบ Hennessy มาก เราจะได้เห็นรูปถ่ายของ Tupac ที่ถือขวด Hennessy อยู่ในมือเป็นประจำ ถึงขั้นมีเครื่องดื่มเมนูส่วนตัวเรียกว่า “Thug Passion” ค็อกเทลที่มี Hennessy เป็นส่วนผสมหลัก เป็นเครื่องดื่มที่ Tupac หลงรักมาตั้งแต่สมัยยังไม่ได้ทำ Solo album

หลายเพลงแร็พของ Tupac ก็มักจะมี Hennessy อยู่ใน lyric จนติดปากอยู่เสมอ และหลังจากการเสียชีวิตของ Tupac ในปี 1996 ผ่านไปแปดปี ก็มีการปล่อยเพลงที่ชื่อ “Hennessy” ออกมาในปี 2004 อัลบั้ม Loyal to the Game เป็นอีกสิ่งที่ตอกย้ำความแน่นแฟ้นนี้ในระดับเข้มข้น

และเวลาต่อมา เมื่ออิทธิพลของ Hip Hop ได้กลายเป็น Trendsettter ของโลก ผู้คนอยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์แบบเดียวกับ Rapper ทำให้ Hennessy กลายเป็น Cognac ชั้นนำของโลกที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนพร้อมกันไปด้วยนั่นเอง


ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน Hennessy ได้กลายเป็นภาพที่ตัดไม่ขาดกับวัฒนธรรมของฮิปฮอปไปแล้ว นอกจากไลฟ์สไตล์ที่มีขวด Cognac อยู่ในมือ ยังลงระดับลึกไปจนถึง rhyme ของศิลปิน ราวกับว่าพวกเขาได้ส่งจดหมายรักขอบคุณ Hennessy ที่คอยสนับสนุนเสมอมา ตั้งแต่ยุค Old School อย่าง 2Pac ที่ถึงกับแต่งเพลงชื่อ Hennessy ขึ้น จนถึงยุค New School รุ่นใหม่ที่สุดอย่าง Drake ก็ใส่ชื่อของแบรนด์เข้าไปในเพลงที่ชื่อว่า One Dance ของเขาเองด้วย

คำถามคือ แล้วอะไรที่ทำให้ Hennessy เป็นที่สุดของ Cognac ที่ชาวฮิปฮอปเทใจให้ โดยมี Hennessy Very Special สร้างยอดขายเป็นอันดับของ 1 ในสหรัฐอเมริกาได้?

ต้องเข้าใจก่อนว่าเมื่อเราพูดถึง Hennessy Very Special มันคือ Cognac อันเป็นรูปแบบของบรั่นดีชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ Whiskey และทั้งสองอย่างนี้มีความต่างกันในรายละเอียดอย่างมาก Cognac ของ Hennessy Very Special เป็นเครื่องดื่มที่กลั่นจากการหมักผลไม้ โดยมีองุ่นขาว Ugni Blanc เป็นส่วนผสมหลัก

โดย Hennessy Very Special เป็นรุ่นที่ถูกลั่นขึ้นเพื่อแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของ Hennessy ที่ยูนีคไม่เหมือนใคร และการเป็นตัวจริงของผู้ทำ Cognac มาอย่างยาวนานกว่า 250 ปี ผ่านกระบวนการอันแสนประณีต ใช้การกลั่นมากถึง 2 ครั้งเพื่อทำให้แอลกอฮอลล์สูงขึ้น และเพื่อให้ได้หัวใจของ Cognac ที่เรียกว่า eaux-de-vie ในรูปแบบที่ดีที่สุดออกมา

จากนั้นจึงบ่มในถังไม้ฝรั่งเศสที่ถูกเก็บเอาไว้ในห้องใต้ดินพิเศษของ Hennessy มีอุณหภูมิและแสงสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการผลิต Cognac และการที่โรงบ่มอยู่ติดกับแม่น้ำ Charente River ในฝรั่งเศส ก็ทำให้ตัวรสชาติมีความกลมกล่อมยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อความเป็นผลไม้ขององุ่นผสมเข้ากับน้ำตาลทรายแดง และ Creme Brulee ตัว Cognac ก็จะสร้างกลิ่นของ Bourbon Vanilla, Toast, Almond จนเกิดเป็นรสสัมผัสและสุนทรียแห่งกลิ่นที่ Timeless เหนือกาลเวลา เป็นตัวเลือกแรกสุดของทุกคนเสมอไม่ว่ายุคไหนก็ตาม

ต้องบอกว่าที่ความพิเศษเฉพาะตัวของ Hennessy Very Special เกิดขึ้นได้นั้น เป็นเพราะการใส่ใจในจุดเริ่มต้นกรรมวิธีอย่างมากที่สุด หรือก็คือตัว องุ่นขาว Ugni Blanc ที่คัดสรรเก็บมาอย่างดีจากไร่ Charente คัดเลือกแล้วว่าเหมาะสม แถมยังใส่ใจถึงวิถี Cycle Of Life ดูแลให้ผลไม้ที่มีเถาวัลย์นี้มีชีวิตอยู่อย่างยั่งยืน ไม่ใช่การใช้มาแล้วหมดไป ซึ่งไม่ต่างอะไรกันเลยที่เขาเป็นมิตรที่ดีกับผู้คนอันเป็นต้นกำเนิดของดนตรีฮิปฮอป เพราะเชื่อใจในตัวผู้คนเหล่านี้ ว่าพวกเขาจะพาเราไปสู่โลกที่ดีกว่า ถ้าได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง


ปี 2022 เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของของวงการฮิปฮอปที่เติบโตขึ้นไปอีกขั้น และอยู่ในเทรนด์กระแสหลักของโลกยุคปัจจุบัน Hennessy จึงได้จัดแคมเปญที่ชื่อว่า Hennessy Urban Night #veryspecial ขึ้น ซึ่งเป็นแคมเปญที่จะเปลี่ยนชีวิตยามค่ำคืนของคุณให้พิเศษยิ่งกว่าที่เคย เคล้ากับเสียงบีทของเพลงฮิปฮอปให้หัวใจได้โยกย้ายกันอย่างสุดเหวี่ยง

Hennessy Urban Night #veryspecial

แคมเปญ Hennessy Urban Night #veryspecial ได้จัดขึ้นในประเทศแถบ Southeast Asia มาแล้วตั้งแต่ปี 2019 ตอกย้ำความสำเร็จในซีนดนตรีฮิปฮอปฝั่งเอเชีย ที่เป็นมังกรผงาดอยู่ในซีนดนตรีโลกในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาอย่างเฉิดฉาย

มาคราวนี้ก็ถึงคิวของเมืองไทยบ้าง ที่จะได้มีค่ำคืนสุดพิเศษ Hennessy Urban Night #veryspecial ทั่วประเทศ ในช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าดนตรีฮิปฮอปกำลังเบ่งบานที่สุด และยังเป็นการ Welcome เหล่าศิลปินฮิปฮอปของบ้านเราเข้าสู่ครอบครัว Hip Hop Family ของ Hennessy Very Special อย่างเป็นทางการเสียที

 

หลังจากที่งาน Hennessy Urban Night #veryspecial ในประเทศไทยถูกจัดขึ้นไปแล้ว 2 ครั้ง ในเดือนเมษายน และ กรกฎาคม ชาวฮิปฮอปทั้งหลายเตรียมตัวกันให้ดี เพราะงานครั้งที่ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ กลับมาพร้อมกับเหล่าทัพศิลปินฮิปฮอปชื่อดังของประเทศที่ทุกคนรัก

ดังนั้นชาว Hip Hop หรือเหล่าผู้ชื่นชอบ Cognac ทุกคนต้อง Save The Date กันเอาไว้ก่อน แล้วเตรียมไปพบกับความพิเศษของงาน ได้ตามร้านค้ากินดื่มสไตล์ฮิปฮอปทั่วประเทศเร็ว ๆ นี้

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line