ในบางครั้ง บันทึกหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของโลก ก็เกิดขึ้นจากสิ่งเล็ก ๆ บนพื้นที่เล็ก ๆ แบบที่เราคาดไม่ถึง เช่นเดียวกับโลกของ Hip Hop และ Hennessy สองวัฒนธรรมที่โคจรมาพบกัน มีความสนิทสนมแน่นแฟ้นจนกลายเป็นภาพจำที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เมื่อเห็น Rapper ต้องเห็นขวด Hennessy อยู่ในมือ และมีคำว่า Hennessy อยู่ในท่อนแร็พมาโดยตลอด ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดภายหลังจากจุดเริ่มต้นของ Hip Hop ในอพาร์ทเมนท์ Sedgwick Avenue ห้อง 1520 ย่าน Bronx ณ มหานครนิวยอร์ก ปี 1973 เริ่มจากความต้องการหาเงินเพิ่มของ Cindy Campbell ที่อยากหาซื้อชุดสวยใส่รับเปิดเทอม แต่เด็กที่อาศัยในย่าน Bronx ยุคนั้นไม่ใช่เด็กที่จะแบมือขอเงินพ่อแม่ได้ เธอจึงเกิดไอเดียอยากจัด back-to-school party ในห้องพัก และว่าจ้างน้องชาย Clive aka ที่นั่น DJ Kool Herc ให้มารับบทดีเจสำหรับปาร์ตี้ที่ชื่อว่า
ต้องยอมรับเลยว่าบรรดาเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ ๆ ต่างเติบโตกันมาด้วยมุมมองที่หลากหลายมากกว่าเดิม สาเหตุก็มาจากการเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ง่ายเพียงปลายนิ้วผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน มันสะท้อนออกมาทั้งจากทางความคิด การแต่งตัว และการฟังเพลงด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากเพลย์ลิสต์ที่ไม่ได้ยึดติดกับแนวใดแนวหนึ่งเป็นพิเศษ แต่มันจะคละไปด้วยเพลงดี ๆ ที่แนวทางแทบจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราอาจจะได้ฟังทั้งเพลงป๊อป, เพลงร็อก หรือแม้กระทั่งเพลงสายอินดี้ จากเพลย์ลิสต์เดียวกัน แตกต่างจากคนยุคก่อนที่มักจะยึดการฟังเพลงจากแนวใดแนวหนึ่งที่ชื่นชอบเป็นหลัก สิ่งที่ได้กล่าวมามันก็ได้หล่อหลอมสร้างศิลปิน/นักดนตรี รุ่นใหม่ขึ้นมาด้วยเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในยุคนี้คงต้องยกให้ Yungblud หนุ่มวัย 25 จากประเทศอังกฤษ หรือชื่อจริงคือ Dominic Richard Harrison ที่สร้างดนตรีจากซาวด์ที่เขาชื่นชอบและเติบโตขึ้นมา ทำให้เราจะได้ฟังสีสันอันหลากหลายจากผลงานของเขา ไม่ว่าจะเป็นป๊อปพังก์, โพสต์พังก์, ฮิปฮอป หรือแม้กระทั่งเมทัล ดังเช่นตัวอย่างเพลงต่อไปนี้ “PARENTS” ผลงานจากอัลบั้ม “Weird!” (Digital Edition) ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2020 เพลงนี้โดดเด่นด้วยการร้องแร็ปไปพร้อมกับบีตที่ใช้เป็นเมนหลักแทบทั้งเพลง แต่ก็มีการซ่อนซาวด์กีตาร์ในสไตล์อัลเทอร์เนทีฟร็อกเข้ามาเพิ่มความน่าสนใจ และมันจะพุ่งออกมาให้เห็นได้ชัดในช่วงของท่อนฮุค “PSYCHOTIC KIDS” เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า “21st Century Liability” (2018) ส่วนผสมของเพลงนี้มีความหลากหลายมาก ๆ
ถ้าจะให้พูดถึงแรปเปอร์ชื่อ Kendrick Lamar สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามหรือชื่นชอบดนตรี Hip-Hop เป็นพิเศษ เขาคือศิลปินที่มีรางวัลการันตีตั้งแต่ปี 2015-2022 มากถึง 161 รางวัล! กวาดมาแล้วทุกสาขาในสายดนตรีของตัวเอง ที่เจ๋งมากคือเขาเคยเข้าชิง Grammy ในปีเดียว 11 สาขา จนเกือบทำลายสถิติอัลบั้มเข้าชิงสูงสุดตลอดกาลปี 1982 ของ Michael Jackson มาแล้ว นอกจาก AKA. ที่ทั่วโลกรู้จักกันดี เคนดริกยังถูกเรียกด้วยอีกหลายชื่อซึ่งล้วนมีเพื่อการันตีความเก่งของเขา ทั้ง ‘นักกวี’, ‘อัจฉริยะในรุ่นเดียวกัน’ แต่สำหรับผู้เขียนที่เป็นแฟนคลับติดตามผลงานเคนดริกมาหลายปี จะขอเรียกด้วยชื่อที่ตั้งเองว่า ‘อัจฉริยะผู้อุตสาหะ’ สิ่งนี้รู้สึกได้เลยจากผลงานพาร์ทดนตรีอันน่าทึ่ง เต็มไปด้วยจินตนาการ และ Another Level ศิลปินคนอื่นมากๆ ทั้งการใช้ดนตรีแนวอื่นอย่าง Fast Swing Jazz หรือ Old Funnky ทำบีทฮิปฮอปได้อย่างลงตัว (รีเสิร์ชอย่างหนักหน่วงแน่นอน) ในขณะที่บีทเพลงแบบฮิปฮอปจ๋าๆ ก็เต็มไปด้วยความซับซ้อนตลอดเวลา หลังจากที่หายไป 5 ปี วันนี้เคนดริกกลับมาแล้ว กับอัลบั้มใหม่ชื่อยาว
หากให้พูดถึงศิลปินฮิปฮอปที่มีสกิลการแร็ปอันจัดจ้าน แน่นอนว่าชื่อของ Eminem ต้องปรากฎขึ้นมาชื่อแรกอย่างแน่นอน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันไม่ได้มาจากตัวศิลปินที่มาบอกประกาศเอง แต่คำตอบมันมาจากการตอบรับของแฟนเพลงนั่นเอง และนี่คือ 5 เพลงท็อปฮิตของ Eminem ที่ทำยอดวิวทะลุ 1 พันล้าน จะมีเพลงอะไรบ้าง เรามีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว 1.LOVE THE WAY YOU LIE (FEAT.RIHANNA) TOTAL : 2,375,481,170 VIEWS เข้ามาเป็นท็อปฮิตอันดับแรกแบบไม่ต้องคาดเดาให้ยาก ผลงานเพลงจากอัลบั้ม “Recovery” ที่ถูกนำมาโปรโมตเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ปี 2010 ความพิเศษของเพลงนี้คือการได้ Rihanna ศิลปินตัวแม่สาย R&B มาถ่ายทอดพลังเสียงที่สุดยอดลงตัวเข้ากับการแร็ปของ Eminem ได้เป็นอย่างดี ทั้งคู่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักที่ไม่ยอมแยกจากกันแม้จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดก็ตาม (love–hate relationship) ทาง Eminem เคยให้เหตุผลที่ต้องดึง Rihanna มาร้องเพลงนี้ไว้ว่า “มันเป็นหนึ่งในเพลงที่ผมรู้สึกว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถดึงอารมณ์ของเพลงออกมาได้ดีที่สุด” เท่านั้นยังไม่พอ MV
“My mama called, seen you on TV, son.” ประโยคติดหูกันตั้งแต่อินโทรสำหรับเพลงนี้ของ Post Malone ด้วยอายุเพียง 23 ปี แต่ตอนนี้เขาก้าวขึ้นมาเป็นแร็ปเปอร์ที่โคตรจะมาแรงแห่งยุค เจ้าของเพลงฮิตมากมายที่ทำลายสถิติติดชาร์ตแทบทุกสำนัก ภาพลักษณ์สุดทะเล้นนั่นยิ่งทำให้เขาเป็นที่จดจำของคนดู เบื้องหลังของความสำเร็จของเขาใครจะเชื่อว่ามันเริ่มจากเกมกีต้าร์ฮีโร่เท่านั้น มาดูเรื่องราวกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ของวงการ ก่อนจะมาเป็นแรปเปอร์เลือดใหม่ไฟแรงของวงการ เขาเริ่มต้นมาจากอะไร มีแรงผลักดันอะไรให้มาถึงตรงนี้ได้ Post’s Timeline ความสนใจในด้านดนตรีของเขาได้รับการส่งเสริมตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ เมื่อพ่อของเขาที่มีอาชีพเป็น DJ จุดประกายด้วยการแนะนำเพลงหลากหลายแนวให้กับเขา และดนตรีที่เข้าทางที่สุดในตอนนั้นเป็นดนตรีอีโม (ที่หลายคนคงรู้กันดีว่า Post Malone เองมีวงโปรดทั้งร็อก อีโม และเมทัล) ในช่วงวัยรุ่นเขาก็เล่นดนตรีเรื่อยเปื่อยตามประสา ไม่ได้เล่นจริงจังอะไรหรือไปตั้งวงเข้าห้องซ้อมแบบชีวิตวัยเด็กของศิลปินคนอื่น เพราะกิจกรรมสุดโปรดของเขาคือการเล่นเกมกีต้าร์ฮีโร่นั่นเอง เขาเล่นมันอย่างบ้าคลั่ง จนเขาได้ห้าดาวในทุกด่านของระดับ Expert เรียกง่าย ๆ คือเล่นจนเวลตันแล้ว เมื่อหมดความตื่นเต้นกับกีต้าร์ฮีโร่ไปแล้ว จุดนี้แหละที่ไปจุด Inspired ให้เขาลุกขึ้นมาเล่นกีต้าร์ของจริงแบบจริงจัง ในเมื่อเขาเล่นเกมกีต้าร์นี้จนตันไปแล้ว ทำไมถึงไม่เล่นของจริงวะ ? เขาเลยหันมาหยิบจับกีต้าร์แบบจริงจังและกำเนิดเป็นวงเมทัลของเขาเอง แต่แล้วเขาก็เริ่มหันเหไปที่ดนตรี Hip Hop ด้วยการทำ
ช่วงนี้เปิดเพลงฟังในเว็บยักษ์ใหญ่อย่าง Youtube เราคงพอคุ้นหูคุ้นตากับ Channel ที่มีเพลงพวก Chill Out, Lo-Fi Hip hop, Lo-Fi Music ที่เป็นเพลงสุดชิลความยาวนับชั่วโมง ที่ไม่มีเนื้อเพลงโผล่มาแม้แต่คำเดียว หลายคนเอาไว้ฟังตอนทำงาน ทำอะไรที่ต้องใช้สมาธิ เปิดคลอทิ้งไว้ให้เราดำดิ่งลงไปในบีทนุ่มลึกของมัน UNLOCKMEN ชวนหนุ่ม ๆ มาทำความรู้จักกับ ดนตรี Lo-Fi ที่นอกจากความชิลล์ของมันแล้ว มันมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้เรา Relax เหลือเกินในตอนที่กดปุ่ม Play แกะรอย Lo-Fi Music มันคืออะไรกันแน่ ? เมื่อเทคโนโลยีก้าวไกลไปมากขึ้นทุกวัน ของวงการเพลงก็ด้วย ที่เรามี Platform การฟังเพลงที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่แผ่นเสียง เทป แผ่นซีดี จนมาหยุดที่ Music Streaming ในยุคนี้ และอาจจะมีอะไรล้ำ ๆ ก้าวไกลไปกว่านี้ก็ได้ แค่ Platform ยังก้าวกระโดดไปไกลขนาดนี้ คุณภาพของการทำเพลงยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยิ่งเทคโนโลยีการทำเพลงไปไกลเท่าไหร่ เรายิ่งทำให้เพลงมีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้น เสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในห้องอัด
ไม่รู้ว่านี่คือปรากฏการณ์ Butterfly Effect การอุปทานหมู่ หรือวงล้อยุคสมัยแห่งดนตรีเวียนมาบรรจบพอดี แต่ที่แน่ ๆ คือสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่านี่คือปีทองของวงการ Hip-Hop ไม่ใช่แค่ในไทย แต่กระแสทั่วทั้งโลกก็กำลังมาไม่ต่างกัน เห็นได้ชัด ๆ จาก Billboard Chart ชาร์ตเพลงอันดับ 1 ของโลก 100 อันดับแรกมีเพลง Hip-Hop เกินครึ่ง หรือถ้าเป็นในไทย รายการโทรทัศน์เกี่ยวกับ Hip-Hop ก็ได้รับความนิยมอย่างสูงจนเป็น Talk of the Town นอกจากนั้นคลับบาร์แนว Hip-Hop ที่เมื่อก่อนแทบจะนับจำนวนคนในร้านได้ แต่ตอนนี้ต้องไปรอต่อคิวเข้าตั้งแต่หัวค่ำ เพราะฉะนั้นคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่ากระแส Hip-Hop กำลังมาแรงจริง ๆ แต่ในทุกความเจริญก้าวหน้าย่อมมีสิ่งไม่ดีซ่อนอยู่เสมอ วงการ Hip-Hop ก็เช่นเดียวกัน แน่นอนว่าความขัดแย้งนั้นมีเนิ่นนานแล้ว แต่เมื่อประชากรในวงการเยอะขึ้น แสงสปอร์ตไลท์ส่องเข้ามาในวงการมากขึ้น ความขัดแย้งก็ดูจะเด่นชัดและเป็นสาธารณะมากขึ้น Hip-Hop เป็นแค่คำนิยามกว้าง ๆ ซึ่งสามารถแบ่งประเภทแยกย่อยออกไปอีกได้มากมาย และนี่คือต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง เพราะรสนิยมของคนเราย่อมไม่เหมือนกัน จึงเกิดการแบ่งฝ่าย พูดจาข่มกันไปมาว่าแนวนี้ดีกว่าแนวนี้
เปิดใจสองแร็ปเปอร์เลือดใหม่แห่งวงการ Underground HipHop บนทางเดินที่แตกต่างเพื่อจุดหมายเดียวกัน