Entertainment

จากกีต้าร์ฮีโร่ สู่การเดบิวต์เพลงในสองวันของ “POST MALONE” เรื่องราวกว่าจะก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ของวงการ

By: unlockmen November 6, 2018

“My mama called, seen you on TV, son.” ประโยคติดหูกันตั้งแต่อินโทรสำหรับเพลงนี้ของ Post Malone ด้วยอายุเพียง 23 ปี แต่ตอนนี้เขาก้าวขึ้นมาเป็นแร็ปเปอร์ที่โคตรจะมาแรงแห่งยุค เจ้าของเพลงฮิตมากมายที่ทำลายสถิติติดชาร์ตแทบทุกสำนัก ภาพลักษณ์สุดทะเล้นนั่นยิ่งทำให้เขาเป็นที่จดจำของคนดู เบื้องหลังของความสำเร็จของเขาใครจะเชื่อว่ามันเริ่มจากเกมกีต้าร์ฮีโร่เท่านั้น มาดูเรื่องราวกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ของวงการ ก่อนจะมาเป็นแรปเปอร์เลือดใหม่ไฟแรงของวงการ เขาเริ่มต้นมาจากอะไร มีแรงผลักดันอะไรให้มาถึงตรงนี้ได้

Post’s Timeline

ความสนใจในด้านดนตรีของเขาได้รับการส่งเสริมตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ เมื่อพ่อของเขาที่มีอาชีพเป็น DJ จุดประกายด้วยการแนะนำเพลงหลากหลายแนวให้กับเขา และดนตรีที่เข้าทางที่สุดในตอนนั้นเป็นดนตรีอีโม (ที่หลายคนคงรู้กันดีว่า Post Malone เองมีวงโปรดทั้งร็อก อีโม และเมทัล)

ในช่วงวัยรุ่นเขาก็เล่นดนตรีเรื่อยเปื่อยตามประสา ไม่ได้เล่นจริงจังอะไรหรือไปตั้งวงเข้าห้องซ้อมแบบชีวิตวัยเด็กของศิลปินคนอื่น เพราะกิจกรรมสุดโปรดของเขาคือการเล่นเกมกีต้าร์ฮีโร่นั่นเอง เขาเล่นมันอย่างบ้าคลั่ง จนเขาได้ห้าดาวในทุกด่านของระดับ Expert เรียกง่าย ๆ คือเล่นจนเวลตันแล้ว เมื่อหมดความตื่นเต้นกับกีต้าร์ฮีโร่ไปแล้ว จุดนี้แหละที่ไปจุด Inspired ให้เขาลุกขึ้นมาเล่นกีต้าร์ของจริงแบบจริงจัง

ในเมื่อเขาเล่นเกมกีต้าร์นี้จนตันไปแล้ว ทำไมถึงไม่เล่นของจริงวะ ? เขาเลยหันมาหยิบจับกีต้าร์แบบจริงจังและกำเนิดเป็นวงเมทัลของเขาเอง แต่แล้วเขาก็เริ่มหันเหไปที่ดนตรี Hip Hop ด้วยการทำ Mixtape ในชื่อแทร็ก “Young and After Them Riches” ซึ่งเป็นแทร็กแรกเป็นของตัวเองตั้งแต่สมัยอยู่ไฮสคูล จนเพื่อนในชั้นเรียนเชื่อว่าหมอนี่จะต้องกลายเป็นคนดังอย่างแน่นอน

พอจบไฮสคูลแล้ว เรียนมหาลัยได้แป๊บ ๆ เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางของเขาสักเท่าไหร่นัก เลยย้ายมาอยู่กับเพื่อนที่ LA เป็น Game Streamer ชื่อดัง ใครมันจะอยากกิน ๆ นอน ๆ อยู่เฉย ๆ เมื่อเพื่อนของคุณกลายเป็น Somebody ไปแล้ว การนอนแห้งเหี่ยวเป็น Nobody ในห้องเช่าไปวัน ๆ แถมต้องนอนในตู้เสื้อผ้าอีกด้วย มันไม่ใช่สิ่งที่ Post ต้องการ

เมื่อปี 2015 เขาทำเพลงเดบิวต์ของเขาที่เขียนและอัดภายในสองวันอย่างเพลง “White Iverson” กับ FKi หลังจากนั้นเขาก็ดังขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว กระแสตอบรับของเพลงนี้ดีจนตัวเขาเองรู้สึกว่าเรื่องนี้แม่งโคตรฟลุ๊กเลย

“I don’t even understand how I got where I am and how I did it”

แน่นอนว่าชื่อเสียงวิ่งเข้าหาเขา ค่ายเพลงต่างก็ต้องการเขาเข้าไปอยู่ในสังกัดทั้งนั้น ในปีนั้นเองเขาได้เซ็นสัญญากับค่าย Republic Records เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็กลายเป็นคนดังขึ้นมาจริง ๆ อย่างที่เพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมของเขาได้พูดเอาไว้

Post Malone กลายเป็นคนสนิทของเซเลบฯมากหน้าหลายตา ทั้ง Kanye West ที่ชื่นชอบเพลงของเขา หรือศิลปินรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง Justin Bieber สนิทกันจนชนิดที่ว่าได้เล่นเปิดให้ Bieber’s Purpose World Tour ไปเลย ถัดจากแทร็กเดบิวต์เพียงปีเดียว ในปี 2016 เขาก็ได้ปล่อยสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของเขาออกมาในชื่อ Stoney” ที่มีเพลงฮิตระเบิดระเบ้ออย่าง “Congratulations” แน่นอนว่าติดชาร์ต Billboard Hot 100 กันไปตามระเบียบ

และสตูดิโออัลบั้มชุดล่าสุดในปี 2018 “Beerbongs & Bentleys” ก็ยังคงประสบความสำเร็จแบบต่อเนื่อง ไม่น้อยหน้าอัลบั้มที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น “Psycho”, “Better Now”, “rockstar” ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเอาอะไรมาอวยกันเลย เพราะความสำเร็จของอัลบั้มนี้ถูกพิสูจน์ด้วยเพลงฮิตติดหูคนทั่วโลก ยอดวิวถล่มทลาย และล่าสุดเขาได้ทำเพลง Ost. ภาพยนตร์เรื่อง Spider-Man: Into the Spider-Verse ในชื่อเพลง “Sunflower” สามารถหาฟังกันได้บน Music Streaming

 

Power Of Post

ถ้านับตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มนี้ เขาได้ร่วมงานกับศิลปินมากหน้าเกินกว่าจะเป็นเพียงศิลปินเล็ก ๆ ที่มีเพียงสองอัลบั้ม ความประสบความสำเร็จของเขาแม้จะดูเกิดขึ้นในพริบตา ชนิดที่ว่าตัวเขาเองก็ไม่คาดฝัน มันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ เรื่องของความโชคดีอะไร แต่มันเกิดขึ้นเพราะ “การลงมือทำ” ของเขา

ในเมื่อรู้ว่าตัวเองชอบอะไร เขาก็เลือกที่จะทำสิ่งนั้นด้วยตัวเอง ด้วยความสามารถ ด้วยความชอบ ให้มันเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับตัวเอง เหมือนตอนที่เล่นกีต้าร์ฮีโร่จนเลเวลตันแล้วเกิดอยากจะเล่นกีต้าร์จริง ๆ ขึ้นมา เขาก็ลงมือเดี๋ยวนั้นเลย เมื่อเขารู้ตัวตั้งแต่เด็กว่าชอบดนตรี ต่อมาก็ต้องหาว่าดนตรีแบบไหนล่ะที่ใช่ เขาก็ลองทำมันมาเรื่อย ๆ แค่ชอบยังไม่พอ ในเมื่อเขาเลือกที่จะไม่เรียนมหาวิทยาลัย เขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเตะฝุ่นไปวัน ๆ จนมาเจอสิ่งที่มันใช่ที่สุดและทำเงินให้เขาได้อย่าง Hip-Hop, R&B

แต่เขาเองก็ยังไม่ได้ทิ้งเพลงอีโมที่เขารัก เรายังคงเห็นภาพของเขากับการเป็นแฟนเพลงวงเมทัล ทำท่าตาม MV ในเพลงของ A Day To Remember ในห้องแต่งตัว หรืออีกหลายอย่างที่ยังคงเป็นความชอบของเขา เขาก็ยังเลือกให้มันอยู่ในชีวิตของเขาอยู่เสมอ จาก Mixtape จนมาเป็นอัลบั้มที่สองที่ติดชาร์ต Billboard ทุบสถิติของ Michael Jackson ไปด้วยสถิติใหม่ของเขาเอง

อย่าปล่อยให้ความชอบของคุณกลายเป็นเพียงความฝันวัยเด็ก หยิบมันขึ้นมาทำแบบจริงจัง ลงมือทำด้วยความรู้สึกและความสามารถที่ตัวเองมี ต่อให้ไม่ประสบความสำเร็จแบบพลุแตกอย่าง Post Malone แต่การได้ลงมือทำให้มันเป็นจริง นั่นหมายความว่าเราก้าวนำคนที่ยังอยู่เฉย ๆ ไปแล้วอีกหนึ่งก้าว

 

 

SOURCE 1,2

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line