Music
ทำความรู้จักกับ “YUNGBLUD” ศิลปินตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่ใช้ชีวิตบนความหลากหลายในแบบของตัวเอง
By: JEDDY September 23, 2022 218793
ต้องยอมรับเลยว่าบรรดาเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ ๆ ต่างเติบโตกันมาด้วยมุมมองที่หลากหลายมากกว่าเดิม สาเหตุก็มาจากการเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ง่ายเพียงปลายนิ้วผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน มันสะท้อนออกมาทั้งจากทางความคิด การแต่งตัว และการฟังเพลงด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากเพลย์ลิสต์ที่ไม่ได้ยึดติดกับแนวใดแนวหนึ่งเป็นพิเศษ แต่มันจะคละไปด้วยเพลงดี ๆ ที่แนวทางแทบจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราอาจจะได้ฟังทั้งเพลงป๊อป, เพลงร็อก หรือแม้กระทั่งเพลงสายอินดี้ จากเพลย์ลิสต์เดียวกัน แตกต่างจากคนยุคก่อนที่มักจะยึดการฟังเพลงจากแนวใดแนวหนึ่งที่ชื่นชอบเป็นหลัก
สิ่งที่ได้กล่าวมามันก็ได้หล่อหลอมสร้างศิลปิน/นักดนตรี รุ่นใหม่ขึ้นมาด้วยเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในยุคนี้คงต้องยกให้ Yungblud หนุ่มวัย 25 จากประเทศอังกฤษ หรือชื่อจริงคือ Dominic Richard Harrison ที่สร้างดนตรีจากซาวด์ที่เขาชื่นชอบและเติบโตขึ้นมา ทำให้เราจะได้ฟังสีสันอันหลากหลายจากผลงานของเขา ไม่ว่าจะเป็นป๊อปพังก์, โพสต์พังก์, ฮิปฮอป หรือแม้กระทั่งเมทัล ดังเช่นตัวอย่างเพลงต่อไปนี้
ผลงานจากอัลบั้ม “Weird!” (Digital Edition) ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2020 เพลงนี้โดดเด่นด้วยการร้องแร็ปไปพร้อมกับบีตที่ใช้เป็นเมนหลักแทบทั้งเพลง แต่ก็มีการซ่อนซาวด์กีตาร์ในสไตล์อัลเทอร์เนทีฟร็อกเข้ามาเพิ่มความน่าสนใจ และมันจะพุ่งออกมาให้เห็นได้ชัดในช่วงของท่อนฮุค
เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่า “21st Century Liability” (2018) ส่วนผสมของเพลงนี้มีความหลากหลายมาก ๆ ถ้าฟังเผิน ๆ มันก็คงไม่แตกต่างจากเพลงสายอีโม/แทร็ป แต่หากตั้งใจฟังเราจะได้พบเลเยอร์ของเรกเก้เข้ามาด้วย ซึ่งมาจากจังหวะยกของบีตที่ถูกดีไซน์มาอย่างตั้งใจ และเสียงร้องของ Yungblud ก็คล้อยไปกับดนตรีได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งผลงานจากอัลบั้ม “Weird!” ที่ได้ Machine Gun Kelly และ Travis Barker จาก Blink-182 มาร่วมแจมด้วย แน่นอนว่าซาวด์ของเพลงนี้มันจึงถูกถ่ายทอดออกมาเป็นสไตล์โมเดิร์นป๊อปพังก์ที่เคลือบด้วยซาวด์อิเลกทรอกนิกส์อย่างชัดเจน
ผลงานจากอัลบั้มล่าสุดที่นำชื่อของตัวเองมาใช้ เพลงนี้จะพาทุกคนย้อนไปสู่ยุค 80’s กับซาวด์สไตล์โพสต์พังก์ที่ดูมืดมนแต่ก็สวยงามในเวลาเดียวกัน ความพิเศษของ “The Funeral” คือตัว MV ที่ได้ Ozzy และ Sharon Osbourne มาเข้าฉากด้วย ได้อารมณ์เหมือนหลานชาย ชวนคุณตาและคุณยาย มาร่วมแสดงด้วยเลย
ผลงานเพลงนี้เป็นของวง Bring Me The Horizon ที่ได้ชักชวนให้ Yungblud ไปร่วมแจมด้วย ทำให้เราได้ยินเสียงร้องของเขาผ่านดนตรีเมทัลคอร์อันเกรี้ยวกราด เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่เราได้เห็นจากศิลปินคนนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาก็เติบโตมากับเพลงเมทัลด้วยเช่นกัน
นอกจากตัวดนตรีที่สะท้อนความหลากหลายแล้ว แฟชั่นของ Yungblud ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างมองเห็นเช่นกัน เราได้เห็นการผสมผสานการแต่งตัวทั้ง พังก์, อีโม หรือกรันจ์ เป็นต้น อีกทั้งบางครั้งยังเป็นแฟชั่นแบบ Unisex แสดงออกถึงการเปิดกว้างในยุคความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศด้วยเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาในเพลงของ Yungblud ที่มักจะพูดถึงความรักที่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ชายและหญิง
ปัจจุบัน Yungblud มีผลงานออกมาแล้วทั้งหมด 3 อัลบั้มด้วยกัน และในอัลบั้มล่าสุดก็สามารถทะลุขึ้นไปติดชาร์ตอันดับ 1 ได้ในหลาย ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อังฤษ, สกอตแลนด์, ไอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย และออสเตรีย ยังไม่รวมที่ติดอันดับท็อป 10 ในอีกหลาย ๆ ประเทศ จากกราฟที่พุ่งขึ้นตลอด บอกได้เลยว่า Yungblud หากไม่มีอะไรผิดพลาดเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน