Entertainment

ในหลุมมืดมิดมีชีวิตใหม่: ‘BORN AGAIN’โปรเจกต์ดนตรีที่ไม่สิ้นหวังในมนุษย์ผู้เคยผิดพลาด

By: PSYCAT August 23, 2019

“เราทุกคนล้วนเคยผิดพลาด” เรากล้าพูดประโยคนี้ได้เต็มปากเต็มคำ ด้วยเชื่อว่ามนุษย์เราเกิดมาย่อมต้องเคยพลั้งเผลอทำอะไรที่ไม่ควรลงไปกันทั้งนั้น บางคนอาจพลั้งในสิ่งเล็กน้อย ในขณะที่บางคนพลาดจนพาตัวเองดำดิ่งลงไปในหลุมมืดมิดและคิดไม่ได้ว่าจะหาทางออกจากบ่อแห่งความผิดพลาดอันอนธการนั้นอย่างไร

ถ้าเราร่วงหล่นลงไปในหลุมหม่นดำไร้ทางออก

เราก็คงทำได้แค่จมลึกลงไปเรื่อย ๆ

รู้ตัวอีกทีก็ไร้เรี่ยวแรง ดิ่งอยู่ในจุดที่ลึกที่สุดแล้ว

แต่หากปากหลุมคือชีวิตใหม่ คือแสงสว่าง คือเพื่อนมนุษย์ที่เชื่อและยังมีความหวังในตัวเรา ไม่ว่าเราจะทำผิดพลาดไปแค่ไหน แต่มีคนที่พร้อมจะโอบกอด ให้อภัย ให้โอกาสและรับเราเข้าสู่สังคมอีกครั้ง ชีวิตใหม่นั้นจะดีแค่ไหน?

เราจึงอยากชวนทุกคนมารู้จัก “BORN AGAIN” โปรเจกต์ทางดนตรีที่เต็มไปด้วยความหวังและความเชื่อว่ามนุษย์ไม่ว่าจะเต็มไปด้วยร่องรอย บาดแผล เคยต้องโทษ ถูกจองจำในหลุมมืดมิดมานานแค่ไหนก็พร้อมมีชีวิตใหม่อีกครั้ง เพียงทุกคนเปิดโอกาสให้พวกเขา นี่จึงเป็นโปรเจกต์ที่ใช้สื่อกลางอย่างดนตรีสื่อสารกับพวกเขาและคนในสังคมเพื่อบอกว่าทุกคนคู่ควรจะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง

หรั่ง-อัครินทร์ ปูรี, เจย์-สัจจเทพ และ SUNNY DAY (หรือที่เราคุ้นกับเขาในชื่อ เดย์ ไทเทเนียม) คือมนุษย์ 3 คนที่ริเริ่ม BORN AGAIN โปรเจกต์ที่ใช้ดนตรีเป็นสื่อระหว่างโลกที่เราเชื่อว่าสว่างกับบางมุมของโลกที่เราเชื่อว่าแสนมืดมิดอย่าง “ผู้ต้องขังในเรือนจำ” โดยดนตรีของพวกเขาส่งเสียงบอกคนในเงามืดนั้นว่า “คุณมีชีวิตใหม่ได้เสมอ” ด้วยการกระโจนลงไปเล่นดนตรีสด เปิดคอนเสิร์ตเล็ก ๆ ในเรือนจำแต่ละแห่ง ให้ผู้ต้องขังทุกคนได้สัมผัสกับดนตรีและความเชื่อที่จะกลับตัวใหม่

รวมถึงการทำเพลงที่ชื่อเดียวกับโปรเจกต์ บอกเล่าเรื่องราวของหรั่ง ที่นอกจากจะเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มโปรเจกต์นี้ เขายังเป็นอดีตนักโทษชั้นเลวที่กลับตัว กลับใจและกลับมาใช้ชีวิตในสังคมอย่างขาวสะอาด เพื่อให้ชีวิตในมุมมืดของหรั่ง บอกเล่าผ่านเพลงสู่สังคมนี้ว่า “ทุกคนคู่ควรที่จะได้โอกาสกลับตัวและมีชีวิตใหม่อีกครั้ง”

นี่คือเรื่องราวของ BORN AGAIN และความเชื่อของพวกเขา มนุษย์ 3 คนที่ไม่สิ้นหวังในตัวมนุษย์ที่เคยผิดพลาด…

 “เรื่องเล่าจากอดีตนักโทษชั้นเลว” จุดเริ่มต้น BORN AGAIN PROJECT

หรั่ง: เริ่มจากผมเป็นอดีตนักโทษมาก่อน เคยใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำเกือบทั้งชีวิต เป็นนักโทษชั้นเลวที่เคยคิดว่าไม่อยากกลับออกมาใช้ชีวิตในสังคมภายนอก วันหนึ่งผมกลับเนื้อกลับตัว กลับใจได้ เลยทำให้ผมมีโอกาสทำความเข้าใจความรู้สึกของนักโทษในเรือนจำว่าเขาต้องการอะไร จนวันหนึ่งผมได้รู้จัก พี่เดย์ พอรู้จักกันผมก็มีโอกาสได้บอกกับพี่เขาว่า

“พี่ครับ ผมอยากชวนพี่ไปเล่นดนตรีในเรือนจำ ไปสร้างกำลังใจให้กับนักโทษ”

เพราะพวกเขาไม่มีโอกาส  พี่เดย์ก็ตกลง ผมก็มีโอกาสไปกับพี่เดย์ 2-3 ครั้ง จนพี่เดย์รู้สึกว่าอยากทำอะไรบางอย่าง เลยหยิบความคิดก้อนนี้มาทำเพลง BORN AGAIN ให้เกิดพลังบวกสู่สังคม แต่ขณะที่เราเล่าเรื่อง เราเล่าจากอดีตนักโทษที่กลับตัวกลับใจ และเราก็ตั้งใจให้เพลงนี้สร้างกำลังใจให้คนอื่น ๆ ด้วย

เดย์: จริง ๆ เพลง BORN AGAIN มาจากหนังสือของหรั่งที่ชื่อว่า ผมเคยเป็นนักโทษชั้นเลวอันนี้ก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมอยากทำเพลงที่ชื่อ BORN AGAIN ขึ้นมา เล่าเรื่องคนที่เปลี่ยนตัวเองจากสีดำให้กลายเป็นสีขาว ซึ่งเป็น Wording ที่คริสเตียนใช้ตลอดเวลา การ BORN AGAIN เป็นคนใหม่จริง ๆ โดยความคิด ร่างกาย จิตใจ

เจย์: ตัวผมเป็นนักธุรกิจธรรมดาคนหนึ่ง แต่พอเห็นพี่เดย์ไปเล่นคอนเสิร์ตในคุก เป็นจังหวะที่ผมอยากให้อะไรคืนสู่สังคม เพราะธุรกิจมันคือการแข่งกับคู่แข่ง คือการขายของ แต่ว่าผมเริ่มอยากแบ่งอะไรสู่สังคม ผมเห็นเลยติดต่อไป เพื่อบอกว่าผมอยากร่วมสนับสนุน หรือช่วยอะไรก็ได้ ถ้ามีอะไรให้ช่วย จากนั้นก็นัดคุยกัน พอคุยกันก็ยิ่งรู้ว่าคลิก

แม้ตกสู่หลุมจะมืดมิด “ชีวิตก็ยังโหยหาดนตรี”

เดย์: เพราะว่าดนตรีอยู่ในหัวใจของทุกคน ถ้าคนเราขาดดนตรีก็เหมือนไม่มีชีวิต ทุกคนต้องการดนตรี แต่โปรเจกต์นี้เราจะเล่าเรื่องของพวกเขา แล้วทำเป็นดนตรี

แต่พอเราทำดนตรีเสร็จ ก็ต้องมีภาพ เพื่อให้ได้ยินและได้เห็น ทั้งดูและฟังก็จะยิ่งเข้าใจมากขึ้นว่าชีวิตหรั่งเป็นอย่างไร และชีวิตของคนที่เหมือนหรั่งเป็นอย่างไร มีคนที่ไม่ดี เปลี่ยนตัวเองได้ไม่สุด แต่ก็มีหลายคน ที่เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนสุด ๆ ไปเลย เราเลยอยากหยิบยื่นเรื่องนี้มาวางบนโต๊ะ เพื่อให้ทุกคนได้เห็น แล้วทุกคนได้รู้

หรั่ง: ดนตรีมีความที่สุดเลยเพราะไม่ว่าเราจะสร้างดนตรีบวกหรือดนตรีลบก็แล้วแต่ มันจะเข้าไปสู่ความทรงจำของเขาผู้ต้องขังส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบเรื่องหนัก ๆ เขาไม่ได้แคร์ว่าคุณเป็นใคร ประสบความสำเร็จแค่ไหน

แต่ดนตรีทำให้คนห้าพันคนลุกขึ้นเต้นพร้อมกันโดยที่เขาไม่ได้ใช้เหล้า

โดยที่ไม่ได้ดื่ม มันคือการปลดปล่อย

ในเรือนจำทั่วประเทศมันคือสภาวะกดดัน นักโทษทุกคนไม่ได้อยู่ในเรือนจำแล้วสบาย การนำดนตรีเข้าไปถูกจังหวะ เชื่อเลยว่าดนตรีมันเลยสามารถเข้าถึงความรู้สึกของคนในสภาวะที่เขาทุกข์ได้ เหมือนคนปกติ เวลาอกหักแล้วฟังเพลงที่เกี่ยวกับความรัก ก็ร้องไห้ เช่นเดียวกับคนที่อยู่ในความทุกข์ เมื่อได้ฟังเพลงที่กระตุ้นให้เขารู้สึกว่าเขาต้องก้าวต่อไป เพลงเลยเป็นสื่อที่ดีที่สุดของพวกเขา

เดย์: ท้าทายนะ ตอนแรกเราไม่เห็นภาพเลยว่าข้างในจริง ๆ มันเป็นอย่างไร พอได้สัมผัส ไปรู้ ไปเห็น พลังที่เขาให้กับเรามา มันเยอะมาก พอเราออกมาแล้ว มันทำให้เรายิ้มได้ ในพื้นที่สี่เหลี่ยมที่ทั้งอึดอัดและเป็นทุกข์ พอเราสร้างรอยยิ้มให้เขาได้บ้าง ผมขนลุกเลย ความรัก ความยินดี การที่เขาต้อนรับเราขนาดนั้นยิ่งทำให้เรามีความสุข

ดนตรีเป็นจุดเริ่มต้น แต่อาจจะมีภาพยนตร์ คนจะได้เห็นภาพที่เข้าถึงไปอีกแบบ ผมหวังไว้ว่าทุกคนน่าจะเข้าใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น โดยทั้งเพลง ภาพ เสียง หนังสือ เพราะหนังสือที่หรั่งทำ ก็ดีมาก เพราะคนเราเวลาอ่านหนังสือจินตนาการจะเยอะมาก แต่จากจุดนี้เราจะทำเพลง อนาคตอาจเป็นหนัง

เจย์-สัจจเทพ นักธุรกิจและหนึ่งในผู้ริเริ่ม BORN AGAIN PROJECT

3 คนเชื่อ อีกหลายล้านไม่เชื่อ “อะไรทำให้พวกเขาเชื่อว่าคนทำผิดจะกลับใจ?”

เจย์: จริง ๆ ผมเชื่อเพราะว่าผมได้เจอกับตัวเอง มีคนหนึ่งที่ตอนนี้เขาทำงานกับผม ตอนเขาออกมาจากเรือนจำ ไม่มีใครให้โอกาสเขาเลย เขาลำบากที่สุด ซึ่งผมทราบว่าก่อนที่เขาจะติดคุกเขาก็เป็นคนที่เก่งมาก ผมเป็นคนแรกที่ให้งานเขา ให้โอกาสเขา

เขากลายเป็นหนึ่งในคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมด้วยซ้ำ ผมเห็นครอบครัวเขาลำบาก เห็นวิธีการสู้ของเขา ด้วยความที่ผมเปิดโอกาสให้เขา ในช่วงที่เขาลำบากที่สุด เขาก็เป็นคนที่มี Loyalty กับผมที่สุดด้วย เพราะฉะนั้นผมเชื่อมาก ๆ ว่าคนควรให้โอกาสคนที่ทำผิด เพราะมันมีคนที่สมควรจะได้รับโอกาสนั้นจริง ๆ

SUNNY DAY แรปเปอร์และหนึ่งในผู้ริเริ่ม BORN AGAIN PROJECT

เดย์: คนไม่เข้าใจเยอะอยู่แล้ว เพราะจากภายนอก เอาแค่พวกเราภายนอกอาจจะดูไม่ดีมาก ๆ แต่ถ้าเข้ามารู้จัก เข้ามาลองให้โอกาสกับตัวเองที่จะเข้าใจพวกเขา คุณจะมีความรู้สึกที่ดี อีกฝั่งก็จะรับรู้ได้ว่าสังคมนี้ยังเชื่อใจและให้โอกาสเขา แทนที่เขาจะกลับไปหาสิ่งเดิม ๆ สิ่งเก่า เพื่อนเก่า การที่เขาเจอคนใหม่ ๆ ที่ให้กำลังใจ คอยหนุนใจ และเชื่อว่าเขาเปลี่ยนได้แน่นอนมันมีความหมาย

หรั่ง-อัครินทร์ อดีตนักโทษชั้นเลวและหนึ่งในผู้ริเริ่ม BORN AGAIN PROJECT

หรั่ง: ผมเป็นนักโทษคนแรกในประเทศไทยที่กล้าออกมาบอกว่าตัวเองเป็นอดีตนักโทษ ทั้ง ๆ ที่เราก็รู้ว่าเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว สังคมไทยไม่ยอมรับ แต่เรากำลังจะพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราเคยเป็นคนที่แม้แต่ตัวเราเองยังมองว่าเรากลับตัวไม่ได้ แต่สุดท้ายเมื่อเราได้รับโอกาสและการให้อภัย ทำให้เรากลับมายืนอย่างคนที่มีศักดิ์ศรีในสังคมได้ และไม่ได้สร้างปัญหาหรือความเดือดร้อนให้ใคร

ผมเชื่อว่านักโทษทุกคนที่อยู่ในเรือนจำนั้นมีหลายกระบวนการ มีหลายเหตุผลที่ทำให้เขาผิดพลาด ไม่มีใครเลวโดยสันดาน ไม่มีใครเกิดมาแล้วเป็นคนเลวเลย แต่ด้วยสถานการณ์หลายอย่างที่ผลักเขาไปตรงนั้น

เวลาคุณทำผิดพลาด คุณต้องการโอกาสไหม? คุณต้องการการให้อภัยไหม?

คนในเรือนจำต้องการเหมือนที่คุณต้องการทุกอย่าง

ผมเชื่อเสมอว่าพวกเขาคือมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน

เพราะความผิดพลาด คือส่วนหนึ่งของการเติบโต

เจย์: ผมเคยทำผิดกับพ่อแม่ ผมก็เกเร การที่พ่อแม่ให้อภัยผม ผมถึงกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ ผมถึงเชื่อในคำว่า “Born Again” มาก เชื่อว่าแค่การมีคนมาให้อภัย ก็ทำให้เราอยากกลับตัวใหม่แล้ว

ผมอยากให้มองคนในเรือนจำเป็นคนที่ทำพลาด บางความผิดเกิดขึ้นเพราะสถานการณ์ ซึ่งเขาได้รับโทษซึ่งคือระบบการลงโทษที่สังคมกำหนด ดังนั้นถ้าเขาชดใช้แล้ว ก็ควรมีกลไกการให้โอกาสเขากลับมายืนได้ใหม่

หรั่ง: ผมเชื่อว่าไม่มีมนุษย์สักคนบนโลกใบนี้ที่สมบูรณ์แบบ ผมเชื่อว่าทุกคนผิดพลาดได้ แต่ถ้าผิดคุณต้องลุกขึ้นมาแก้ไขมัน ล้มแล้วต้องลุก จะล้มสักกี่ครั้งก็ได้ แต่ต้องลุกขึ้นมา อย่าถอดใจ คุณต้องแก้ไขมัน ทุกวันนี้ผมก็ยังผิดพลาด และผมต้องแก้ไขเสมอ

เมื่อคุณอยู่ในที่สว่างกว่า เราเอื้อมมือไปให้โอกาสเขาดีกว่า ดีกว่าการตีตราว่าคนพวกนี้เลว กลับตัวไม่ได้หรอก มันไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่ถ้าคุณยื่นมือไปให้โอกาสเขา วันที่คุณได้คนจากที่มืด ๆ กลับตัวมายืนข้างคุณในสังคม คุณจะภูมิใจมาก

เดย์: คนเรายังต้องมีหวังถ้าคนเราหมดหวังมันก็ไร้ความหมาย ต้องคิดเสมอว่ายังมีคนที่ยังรักเราอยู่ อาจจะมีคนที่ไม่รักเราเยอะ แต่ขอแค่คนเดียว เพียงคนเดียวที่รักเรา เราจะมีกำลังใจ ดังนั้นถ้ามีเพื่อนหรือใคร ถ้าเขากำลังจะหมดหวัง ถ้ามีคนที่หนุนใจเขา มันจึงช่วยเขามาก

ถ้าคนเราไม่มีการเจ็บปวดก็คงจะไม่รู้ว่าความสุขเป็นยังไง เอาใจเขามาใส่ใจเราดู

เมื่อบทสนทนากับพวกเขาทั้ง 3 จบลง เราไม่อาจล่วงรู้ใจคนอื่นได้ว่าจะคิดอย่างไรกับ “การให้อภัย การให้โอกาสและชีวิตใหม่” แต่เราเชื่อมั่นอย่างหมดจิตหมดใจ แต่เราก็เชื่อไปพร้อม ๆ กันว่าคงไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดเหมือนกันกับเราหรือพวกเขา 3 คน

แต่อย่างน้อยที่สุดการเปิดใจทำความรู้จัก BORN AGAIN PROJECT ทำความรู้จักวิธีคิดของพวกเขาผ่านเสียงดนตรีไปพร้อม ๆ กัน จะช่วยให้คุณเห็นชีวิต เห็นโลกในแง่มุมใหม่ จนกระทั่งวันที่เราทุกคนเชื่อเรื่อง “การมีชีวิตใหม่อีกครั้ง” หลังความผิดพลาดในหลุมมืดมิดได้อย่างหมดจด

“ลองเข้าไปฟังเพลง ลองดู Music Video คุณจะรู้ว่ามีอะไรดี ๆ ในสังคมอีกเยอะ ชีวิตหรั่งจะสะท้อนว่า BORN AGAIN เป็นยังไง การเกิดใหม่เป็นยังไง เพราะคนทุกคนเปลี่ยนได้”

เดย์ กล่าวทิ้งท้ายไว้แบบนั้น…

 

PHOTOGRAPHER: Krittapas Suttikittibut

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line