Entertainment

LIAM GALLAGHER จากตัวร้ายกลายเป็นคนดี คว้ารางวัลจากฟรีคอนเสิร์ตช่วยผู้ป่วยโควิด-19

By: JEDDY February 24, 2022

Liam Gallagher ฟรอนต์แมนสุดห้าวเป้งอดีตวง Oasis เขาคือฮีโร่ของวัยรุ่นแห่งยุค 90s ที่ถวายจิตวิญญาณให้กับดนตรีบริตป๊อป หลายคนตัดผมแต่งตัวตาม บางคนก็ลักจำเอาท่ามือไขว้หลัง ตั้งไมค์สูง ๆ เชิดหน้าชูคางร้องเพลงตาม หรือบางคนก็ชอบเดินโยกแกว่งแขนตามก็มีเช่นกัน

ในช่วงนั้นนอกจากความสามารถในการร้องเพลง อีกหนึ่งความสามารถที่โดดเด่นคือสกิลปากที่พร้อมจะด่ากราดใส่ทุกคนเพื่อสร้างไวรัลบนพื้นที่สื่อแบบที่ไม่ต้องเสียเงินโปรโมตเลยแม้แต่ปอนด์เดียว (วิธียอดฮิตของดาราและบรรดา KOL ไทยวันนี้ชัด ๆ)

แต่หลังจากที่วง Oasis แยกย้ายกันไปในปี 2009 สาเหตุจากปัญหาผิดใจกันระหว่าง Liam กับ Noel Gallagher ก็ดูเหมือนว่าบทบาททางสื่อของ Liam ดูจะถดถอยลงไปด้วย ถึงแม้ว่าจะมาทำวงที่ชื่อว่า “Beady Eye” แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

รวมไปถึงเสียงร้องของเขาก็ดูจะดรอปลงไปมาก จนไม่สามารถกลับมาร้องคีย์สูง ๆ ที่เคยแตะถึงได้อีกต่อไป สุดท้ายวงใหม่ของเขาก็ต้องแยกย้ายกันไปในปี 2014


ด้วยปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมาตลอดเส้นทางอาชีพศิลปิน ทำให้ภาพจำของ Liam ในสายตาคนทั่ว ๆ ไป คือชายที่หยิ่งยะโสโอหัง, เอาแต่ใจตัวเอง, หาเรื่องทะเลาะกับคนอื่นไปทั่ว และทำอะไรไม่ค่อยแคร์แฟนเพลง นึกอยากจะลงจากเวทีตอนไหนก็ลงหายไปดื้อ ๆ แบบคนดูงงกันทั้งคอนเสิร์ต แม้บางคนจะบอกว่านี่คือสไตล์ของสาย Rock & Roll แต่ความรู้สึกรวม ๆ จะออกไปทางด้านลบซะมากกว่า

ดูเหมือนว่าเส้นทางอาชีพทางดนตรีของ Liam Gallagher กำลังจะดับมอดลงไป แต่ Debbie Gwyther แฟนสาวคนล่าสุดที่ช่วยเยียวยาคอยให้กำลังใจด้วยการผลักดันให้เขาลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักอีกครั้ง จนสุดท้ายเขาก็ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีก็กลับมาประกาศให้ทั้งโลกได้รู้ว่า “กูกลับมาแล้วโว้ย”

และในวันที่ 1 มิถุนายน 2017 แฟนเพลงก็ได้ยินเสียงร้องของเขาอีกครั้งกับเดบิวต์ซิงเกิ้ลในฐานะศิลปินเดี่ยวชื่อเพลงว่า “Wall Of Glass” กับสไตล์ดนตรีที่มีความใกล้เคียงกับ Oasis มากเลยทีเดียว และเสียงร้องของ Liam เองก็กลับมาเข้ารูปเข้ารอยมากยิ่งขึ้น แม้จะไม่เท่าช่วงพีคแต่ก็เป็นอะไรที่น่าพอใจไม่น้อย

การกลับมาในรอบนี้เขาได้ปรับเปลี่ยนความเป็นชายเกรี้ยวกราด ลดระดับลงมาเป็นเพียงชายวัยกลางคนที่น่าคบหามากยิ่งขึ้น มีทิฐิที่ลดลงไป เริ่มเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และดูเป็นคนที่มองโลกบวกมากขึ้น สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ได้จากงาน One Love Manchester ที่จัดขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2017 เพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองแมนเชสเตอร์ ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2017 ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 800 คน และบาดเจ็บสาหัสอีกกว่า 116 คน

Liam Gallagher ปรากฎตัวขึ้นบนเวทีพร้อมกับ Chris Martin และ Johny Buckland สองสมาชิกจากวง Coldplay (ซึ่งเป็นวงที่ Liam เคยเจิมบวกมาก่อนหน้านี้) ทั้ง 3 คนได้ร่วมกันบรรเลงผลงานสุดคลาสสิคของวง Oasis นั่นคือเพลง “Live Forever” ผลงานจากอัลบั้ม Definitely Maybe เรียกเสียงเฮจากคนดู 55,000 คนในคอนเสิร์ตได้อย่างท่วมท้น

โดยงานในวันนั้นนอกจากทั้ง 3 คนที่กล่าวมายังมี Justin Bieber, The Black Eyed Peas, Katy Perry, Take That และศิลปินชั้นนำอีกมากมาย โดยงานนี้ได้รับเงินบริจาครวมกันจากทั่วโลกมากถึง 17 ล้านปอนด์


หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป เส้นทางของ Liam Gallagher ก็กลับเข้าสู่วงการดนตรีอีกครั้ง จนถึงปัจจุบันมีผลงานออกมาแล้วทั้งหมด 2 อัลบั้ม ได้แก่ “As You Were” (2017) และ “Why Me? Why Not” (2019) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถขึ้นไปติดชาร์ตอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักรได้ทั้ง 2 อัลบั้ม และกำลังจะมีอัลบั้มที่ 3 “C’mon You Know” ที่กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 27 พฤษภาคม 2022

และล่าสุดอีกหนึ่งเครื่องหมายการเปลี่ยนแปลงตัวตนของ Liam ก็ชัดเจนยิ่งขึ้น จากการถูกเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลจากทาง BandLab NME Awards 2022 ในสาขา “Music Moment Of The Year” โดยเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลนี้มาจากฟรีคอนเสิร์ต NHS Workers ณ O2 Arena ในกรุงลอนดน ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2021

เป็นคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นให้บุคลากรที่ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดให้เข้ามาชมกันฟรี ๆ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคคลเหล่านี้ ซึ่งเฮดไลน์ในงานก็คือ Liam Gallagher พร้อมด้วย Primal Scream ที่มาเล่นเป็นวงเปิดให้ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมผิดหวัง ซัดมาด้วยเซตลิสต์ที่เต็มไปด้วยเพลงฮิตของตัวเองและ Oasis 


หลังจากจบงานในวันนั้น Liam Gallagher ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในวงกว้าง ได้รับคำชื่นชมมากมาย ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มสร้างภาพจำใหม่ ๆ ของชายคนนี้เข้าไปได้มากเลยทีเดียว

อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นคนที่คอยช่วยรณรงค์เรื่องการสวมหน้ากากอนามัย, ฉีควัคซีน และการล้างมือ ถึงขนาดที่เขาเคยทำคลิปร้องเพลงล้างมือโดยการแปลงเนื้อมาจากเพลง “Wonderwall” ลงในโซเชียลมีเดีย เรียกรอยยิ้มให้กับแฟนเพลงทั่วโลกกับมุมน่ารักของอดีตนักร้องผู้เคยห้าวเป้งที่สุดในสามโลก


สำหรับพิธีมอบรางวัล “Music Moment Of The Year” ในงาน BandLab NME Awards 2022 จะจัดขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม 2022 ณ O2 Academy Brixton กรุงลอนดอน ซึ่ง Liam Gallagher ได้เผยความรู้สึกที่คว้ารางวัลนี้ว่า

“ผมอยากจะขอขอบคุณทาง NME สำหรับรางวัล Music Moment Of The Year Award และผมอยากจะอุทิศรางวัลนี้แด่เจ้าหน้าที่ NHS ทุกท่าน…”

วันเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน ประโยคนี้คงชัดเจนมาก ๆ สำหรับ Liam Gallagher ผู้เคยเป็นฮีโร่สายแบดบอย และกลับตัวเปลี่ยนสายกลายเป็นฮีโร่ผู้สร้างคุณงามความดีให้กับสังคมได้อย่างน่าประทับใจ

นี่แหละครับที่มาที่ไปของคำว่า “Hero To Hero” และขอแสดงความยินดีกับรางวัล “Music Moment Of The Year” ด้วย เพราะมันเหมาะสมกับคุณ Liam เป็นอย่างยิ่งเลยครับ

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line