Entertainment

เปิดประตูสู่มิติคู่ขนาน เจาะตำนานเทรนด์ฮิตของฮอลลีวู้ด “Multiverse Movie” ที่มีมาก่อนกาล

By: Chaipohn May 18, 2022

ตอนนี้ ไปที่ไหนก็มีแต่คนพูดถึง Multiverse หรือในภาษาไทยเรียกกันว่า “พหุจักรวาล” หรือ จักรวาลคู่ขนาน กันเยอะขึ้น โดยเฉพาะโลกของซูเปอร์ฮีโร่ในฮอลลีวู้ดที่ในช่วงปีที่ผ่านมา คำๆนี้ดูจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่คนดูหนังสนใจไปเลย

หากแต่ในฮอลลีวู้ดแล้ว โลกคู่ขนานไม่ได้เพิ่งมาเกิดในยุคนี้ แต่ถือกำเนิดมานานแสนนานแล้ว เรามาดูกันว่าที่มาของเทรนด์นี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร และทำไมถึงกลายเป็นเทรนด์สุดฮิตของภาพยนตร์ในยุคนี้

ต้นกำเนิดของคำว่า “MULTIVERSE”

“Multiverse” คำ ๆ นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงประเดี๋ยวประด๋าว แต่เกิดขึ้นมาแล้วนับร้อยปี เมื่อนักปรัชญาและนักจิตวิทยานามว่า ​​William James ได้บัญญัติคำ ๆ นี้ไว้ในบทความที่ชื่อว่า “Is Life Worth Living” เมื่อปี 1895 เพื่อสนับสนุนแนวคิดที่ว่า “เราไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อย่างโดดเดี่ยว และตัวตนของเราอาจจะกำลังโลดแล่นอยู่ในจักรวาลคู่ขนานที่แตกต่างก็เป็นได้”

แต่คำๆนี้กลับมาฮิตอีกครั้งในยุค 70s เมื่อ Michael Moorcock นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง หยิบคำ ๆ นี้มาใช้ในนิยายแฟนตาซีเรื่อง The Eternal Champion จึงทำให้คำๆนี้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย นับแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่หากจะกล่าวว่า The Eternal Champion นั้นคือผู้นำเทรนด์คำว่า Multiverse ก็คงไม่เป็นความจริงนัก เพราะในโลกของ Comic แม้คำ ๆ นี้จะไม่ได้ถูกใช้ แต่การกล่าวถึงจักรวาลคู่ขนานนั้นมีมาเนิ่นนานนับตั้งแต่ยุค 50s แล้ว


DC Comic เปิดศักราชแห่งจักรวาลคู่ขนาน

และคอมมิคเรื่องแรกที่เล่าเรื่องราวของจักรวาลคู่ขนานนั้นก็คือฝั่ง DC ในเรื่อง Wonder Woman เล่มที่ 59  “Wonder Woman’s Invisible Twin” ที่ตีพิมพ์ในปี 1953 นั่นเอง โดยคอมมิคเล่มนี้ เล่าถึงผู้ช่วยของ Wonder Woman ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือตัวเธอที่ข้ามกาลเวลาเพื่อมาช่วยนั่นเอง

และในปี 1961 The Flash ก็สานต่อทฤษฎีนี้ด้วย “Flash of Two Cities” คอมมิคเล่มที่ 123 ที่เล่าถึง The Flash จากต่างโลก ที่ร่วมแรงร่วมใจกันปราบเหล่าร้าย และใน 2 ปีต่อมา กลุ่มผู้พิทักษ์ความยุติธรรมก็รวมตัวกันในนาม Justice League ต้องมารวมตัวกันเพื่อยับยั้งวายร้ายจากต่างโลก ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน กลุ่ม Justice League Earth 2 นั่นเอง


Marvel ผู้สร้างจักรวาลคู่ขนานให้ชัดเจน

ถึงแม้ว่า DC จะนำเรื่องจักรวาลคู่ขนานก่อนไปหลายสิบปี แต่ Marvel คือค่ายที่ทำให้คำว่า Multiverse นั้นสมบูรณ์แบบขึ้นมาในปี 1977 ด้วยซีรีส์คอมมิคบุ๊คที่ชื่อว่า What If…? ที่ตั้งสมมติฐานว่าหากซูเปอร์ฮีโร่ข้ามจักรวาลจากเรื่องหนึ่งไปยังเรื่องหนึ่งจะเกิดอะไรขึ้น

โดย Spider-Man ได้รับเกียรตินี้เป็นคนแรก โดยข้ามไปยังจักรวาลของ Fantastic Four และหลังจากนั้น ซีรีส์ What If…? ก็กลายเป็นสนามที่ปลดปล่อยไอเดียกันอย่างสนุกมือ ทั้งการให้ Spider-Man กลายร่างเป็นหญิงสาวในชื่อ Spider-Girl ไปจนถึงการสร้างซีรีส์ใหม่ในชื่อ ​​Marvel Two-in-One (1979) เพื่อให้ซูเปอร์ฮีโร่จากโลก 2 ใบที่เป็นตัวแทนจากฝ่ายร้ายและฝ่ายดีมาห้ำหั่นกัน

และเพื่อไม่ให้โลกปกติของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่เชื่อมโยงกันมายาวนานต้องถูกจักรวาลคู่ขนานมาขโมยซีนจนจำสับสนอลหม่านจนเกินไป ทาง Marvel จึงต้องสร้างรหัสของจักรวาลต่างๆเอาไว้ โดยจักรวาลปกติของตัวละครใน Marvel จะอยู่ในโลกที่ชื่อ EARTH 616 นั่นเอง


Multiverse ในโลกภาพยนตร์

ถึงแม้หนังโลกคู่ขนานจะถูกเล่ามาอย่างยาวนาน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Multiverse Movies ถูกกล่าวถึงอย่างคึกโครมมากในยุคนี้ ด้วยองค์ประกอบหลายประการดังต่อไปนี้…

การหาทางออกใหม่ๆให้กับหนังซูเปอร์ฮีโร่

ไม่ต่างกับคอมมิค เมื่อหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่นับตั้งแต่ Batman มาจนถึง The Avengers เริ่มพบทางตันในการเล่าเรื่อง การเชื่อมโยงโลกของซูเปอร์ฮีโร่เริ่มมีให้เห็นจนชาชินตา ทั้ง 2 ค่ายจึงหาทางออกให้กับตัวละครนี้ด้วยการสร้างจักรวาลใหม่ ที่เห็นได้ชัดเจนคือ Spider-Man: Into the Spider-Verse แอนิเมชั่นที่เชื่อมโยงโลกของไอ้แมงมุมในมิติต่างๆได้อย่างกลมกลืน และยอดเยี่ยม หรือ Spider-Man: No Way Home ที่นำไอ้แมงมุม 3 ยุคมาเจอกัน ให้แฟนๆได้กรีดร้องกันลั่นโรง

 

โลกเสมือนจริงค่อยๆรุกคืบขึ้นมา

เพราะโลกความจริงนั้นแสนโหดร้ายจนหลายคนต่างมองหาโลกอันแปลกใหม่ การได้พบตัวละครข้ามจักรวาล หรือการได้พบการดัดแปลงตัวละครที่ผิดแผกไปจากขนบดั้งเดิมของอัตลักษณ์นั้นๆจึงเป็นสิ่งที่คนดูหนังต้องการพบเห็นเพื่อแก้เลี่ยนแก้เบื่อในโลกอันเส็งเคร็งจากโรคระบาดและภาวะสงครามที่กำลังเผชิญ ซีรีส์อย่าง What If…? / Loki จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีของโลก Multiverse ที่หลายคนต่างชื่นชอบ เมื่อการตั้งสมมติฐานกลับสร้างจักรวาลหน้าใหม่ให้กับโลกของซูเปอร์ฮีโร่ได้อย่างเหนือชั้น

Doctor Strange ผู้เปิดประตูสู่จักรวาลคู่ขนาน

และแน่นอนว่าหมอแปลก หลังจากที่ทำจักรวาลบิดเบี้ยวจนเปิดประตูรับไอ้แมงมุม 3 ยุคให้มาเจอกันแล้วใน Spider-Man: No Way Home แต่มิติจักรวาลนั้นยังไม่ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ ซ้ำการมาของ America Chavez สาวปริศนาที่เที่ยวท่องล่องจักรวาลคู่ขนาน ก็นำเรื่องราวน่าปวดหัวมาให้หมอแปลกต้องก้าวข้ามมิติแห่งจักรวาลไปช่วยเหลือเพื่อให้พ้นเงื้อมมือของ Wanda Maximoff ที่กลายร่างเป็น Scarlet Witch ตามล้างตามเช็ดเขาในทุกมิติจักรวาล ในหนัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่คนดูต่างตื่นตาตื่นใจไปกับการเห็นโลกมิติคู่ขนานพร้อมตัวละครที่คุ้นชินจากหนังเรื่องอื่นๆมาร่วมจอในหนังเรื่องนี้มากมาย

ส่วน DC เองก็ไม่น้อยหน้า เพราะ The Flash ที่ตอนนี้เลื่อนโปรแกรมฉายไปในปี 2023 ก็ได้เผยตัวละครอย่าง Batman ทั้งในยุค 90s และยุค Justice League รวมไปถึง Supergirl มาแล้วเรียบร้อย ซึ่งเรามาคอยดูกันว่า โลก Multiverse ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จะพาเราหลุดจากจินตนาการไปมากน้อยแค่ไหน

จากที่เห็นเทรนด์หนังมัลติเวิร์สอาจจะอยู่คู่จอหนังไปอีกนาน เพราะอย่างน้อย มันคือการลับสมองและสร้างไอเดียแปลกใหม่ให้กับผู้สร้าง และมันก็ท้าทายไม่ใช่น้อยว่ามิติของจักรวาลคู่ขนานนี้จะแตกแขนงไปได้ไกลขนาดไหน

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line