Entertainment

Swing Dance กิจกรรมเข้าจังหวะสำหรับสุภาพบุรุษอินดี้ที่มีหัวใจย้อนยุค

By: Chaipohn January 15, 2017

ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า รูปใบเก่า รวมไปถึงดนตรีที่ชวนให้นึกถึงยุคก่อน เป็นมนต์เสน่ห์ของวันวานที่ยังหวานชื่นรื่นรมย์อยู่ในหัวใจใครบางคนทุกครั้งที่ได้เห็น ได้ฟัง ได้นึกถึง Swing Dance  นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่นอกจากจะชวนให้นึกถึงวันเก่า ๆ แล้ว ยังเป็น Community สำหรับคนเคมีเดียวกันที่มีโอกาสได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยไม่จำกัดวัยหรือสัญชาติอีกด้วย

หากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังมองหากิจกรรมใหม่ ๆ เติมสีสันให้กับชีวิต Swing Dance เป็นกิจกรรมหนึ่งที่อาจทำให้คุณค้นพบความเจ๋งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัว ซึ่งมนต์เสน่ห์จากยุคเก่า บัดนี้ ได้ถูกนำมาเล่าใหม่ผ่านกลุ่มคนรุ่นใหม่จากกลุ่ม Bangkok Swing โดย โอ๊ต – ชยะพงส์ นะวิโรจน์ เจ้าของ Bangkok Swing และ The Hop Bangkok และ สุ – สุไลมาน สวาเลห์ ผู้ร่วมถ่ายทอดจังหวะสนุก ๆ ในฟลอร์เต้นรำ ได้บอกเล่าประสบการณ์การเต้น Swing ของพวกเขาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับชายไทยหัวใจอินดี้ที่มีความอินในบรรยากาศเก่า ๆ ผ่านบทความนี้

sw-1

ชยะพงส์ นะวิโรจน์ เจ้าของ Bangkok Swing และ The Hop Bangkok

จุดเริ่มต้นของ Swing Dance จากอเมริกาสู่ประเทศไทย จากความชอบกลายเป็นอาชีพ

โอ๊ต : ผมอยู่กับ Swing Dance มาประมาณ 9 ปี มันเริ่มจากที่อเมริกา 4 ปี แล้วผมก็นำกลับมาเต้นที่ไทยอีก 5 ปี 
ตอนแรกก็เป็นกิจกรรม ซึ่งตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นอาชีพของผมไปแล้ว

สุ : ผมเล่นดนตรีกับโอ๊ตมาก่อน จนวันหนึ่งโอ๊ตบอกผมว่าจะเปิดสตูดิโอซึ่งปัจจุบันคือ The Hop Bangkok ตรงสีลมนี้ ผมงงว่าใครจะมา? แล้ววันหนึ่งโอ๊ตเขาก็จัด Reunion ที่สตูดิโอแห่งนี้ เพื่อน ๆ เชียร์ให้เขาเต้นให้ดู ผมเห็นแล้วมันดูเท่เลยตัดสินใจเรียนเต้น Swing กับโอ๊ต จนวันนี้กลายมาเป็นครูสอนไปด้วยแล้ว จริง ๆ ผมก็มีอาชีพอื่นของผม แต่ Swing Dance ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในชีวิต ที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นอาชีพที่ 2

โอ๊ต : น่าจะกำลังเป็นอาชีพหลักแล้วมากกว่า (หัวเราะ) การเต้น Swing มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และลึกซึ้ง หลายคนจะคิดว่ามาเต้นที่สตูดิโอ แล้วก็กลับบ้าน แต่ Swing Dance ไม่ใช่ มันเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ชอบรอยยิ้มและเสียงเพลงที่มารวมตัวกัน ถึงแม้ผมจะนำมันมาจากอเมริกา แต่คนไทยเรารักเสียงเพลง และรอยยิ้มอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่ยากที่จะคลิกกับสิ่งนี้

นอกจากนี้มันก็เป็นกิจกรรมที่ Connect กับคนได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร อายุเท่าไหร่ เป็นคนชาติไหน ตอนกลับมาจากอเมริกา ผมได้เห็นรอยยิ้มและความสุขจากคนเต้น Swing ที่นั่น และอยากแชร์รอยยิ้มและความสุขจากวัฒนธรรมนี้ บวกกับกลับมาแล้วไม่มีเพื่อนเต้นด้วย (หัวเราะ) ก็เลยต้องหาพวกกันหน่อย ก็เลยเริ่มสอน นั่นคือที่มาของ Swing Dance ในไทย และกลายเป็น Community ที่อบอุ่นและเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

 

sw-3

สุ – สุไลมาน สวาเลห์ ครูสอนเต้น Swing Dance ที่ Bangkok Swing กับคู่เต้น น้ำส้ม สุภานันท์

เพลงที่มีรากของดนตรี Swing สามารถนำมาใช้เต้นได้

โอ๊ต : Swing Dance มันคือการเต้นที่มาจากเพลง Swing อะไรที่เต้นกับเพลง Swing หรือเพลง Jazz มันคือ Swing Dance ทั้งหมด แนวดนตรีแต่ละแนวก็จะมีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของมัน เช่น Hip Hop Gathering ก็คือการรวมตัวกันของคนที่ชอบฟังเพลงฮิปฮอป หรือ Rock Culture ก็จะเป็นวัฒนธรรมชาวร็อคที่บางคนคุ้นเคย แน่นอนว่าเขาก็ฟังเพลงหรือมีบางอย่างที่เหมือนกัน เช่นเดียวกันกับ Swing Dance คนมารวมตัวกันเพราะชอบฟังเพลง Swing เหมือนกันนั่นเอง

ปัจจุบันดนตรีก็ถูกพัฒนาจนกลายเป็นเพลงหลากหลายแนว ซึ่งบางครั้งเราก็เปิดเพลงแนว Rock ‘N’ Roll หรือ Rockabilly เต้นกันบ้าง บางทีมี Michael Buble ที่เป็น Jazz สมัยใหม่ ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก Big Band Swing อยู่ดี เพราะฉะนั้นเราก็สามารถเอามาเต้นได้ เพราะมันมีจังหวะที่ชัดเจน และมาจากพื้นฐานเดียวกันนั่นคือจังหวะของเพลง Swing อะไรที่รากเหง้าเป็น Swing นับว่าเอามาใช้เป็นเพลงเต้น Swing Dance ได้หมด

sw-7

สุ : จริง ๆ เพลงสมัยใหม่อื่น ๆ นอกเหนือจาก Swing ก็เอามาเต้นได้ แต่แค่ไม่ Authentic เท่าไหร่ บางทีเราก็นึกสนุกหยิบเพลงของ Taylor Swift มาเต้นบ้าง ไม่ใช่ว่ามันเต้นไม่ได้ แต่มันไม่อิน

โอ๊ต : ถ้าเปรียบเทียบคงเหมือนเวลาเราไปเล่นบาสเกตบอล หรือว่ายน้ำ มันก็จะมียูนิฟอร์มของมัน ถ้าเราใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น หนีบแตะไปเล่นบาส หรือว่ายน้ำ ถามว่าทำได้ไหม ก็ได้แหละ แต่มันขัด ๆ นะ

สุ : อะไรบางอย่างมันไม่ใช่

 

sw-14

เสื้อเชิ้ต ผูกไท ใส่เอี๊ยม แต่งตัวเนี้ยบ ๆ ทำไมคนเต้น Swing ต้องมาแนวนี้กันหมด

สุ : สุว่า Swing Dance มันเป็นวัฒนธรรมที่เจ๋งแล้วก็แมนนะ มัน Gentleman สุด ๆ ซึ่งทุกวันนี้เราก็เห็นน้อยลง สมัยนี้เวลาไปเที่ยวผับ ผู้หญิงจะจัดเต็ม แต่งหน้า ทาปาก ใส่ชุดอีกแบบที่ให้เข้ากับการโยกในผับ ผู้ชายเองก็เช่นกัน ใส่เชิ้ต หรือเสื้อยืดดี ๆ หน่อย ใส่กางเกงขายาว รองเท้าดี ๆ อย่างที่เราเองก็เคยสัมผัสกันมาอยู่แล้ว แต่ในปี 1920 หรือ 1940 ประมาณนี้ ซึ่งเป็นยุคของ Swing Dance คนไปเที่ยวเขาก็ใส่ใจกับการแต่งตัว และการกรูมมิ่งเหมือนกัน ผู้ชายเขาจะใส่เสื้อสูท หรือเสื้อผ้าดี ๆ เพื่อที่จะไปฟังเพลง ไปเต้นที่ผับ ที่ร้าน หรือสตูดิโอ เพราะมันเป็น Social Activity ผู้หญิงเขาก็จัดเต็มกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าผู้ชายไปเที่ยวเขาก็มีจุดประสงค์จะไปขอผู้หญิงคนโน้นคนนี้เต้น ถ้าแต่งตัวไม่ดีเราก็ไม่น่าเต้นด้วย ไม่น่าเข้าหา แต่ถ้าเราแต่งตัวดี ๆ กรูมมิ่งเนี้ยบ ๆ ฉีดน้ำหอมสักหน่อย สาว ๆ ก็จะอยากมาเต้นกับเรา โดยผู้ชายจะเดินเข้าไปขอเขาเต้นโดยการถามว่า “Would you like to dance” แล้วผู้หญิงก็จะตอบรับ

sw-5

โอ๊ต : “Would you like to dance” เราฟังดูตอนนี้เหมือนมันจะ Special มาก ซึ่งจริง ๆ แล้วมันสามารถอยู่ใน Everyday Life ได้ คือ ไปเต้นกัน ไป Enjoy Evening or Night Out นอกเหนือจากการไปดูหนัง ไปผับแล้วไป Grinding กันอะไรแบบนั้น

สุ : คือมัน Gent มากที่เราเข้าไป Escort ผู้หญิงเขามาเต้นด้วย มาสนุกบน Dance Floor ด้วยกัน ซึ่งพอไปสนุกด้วยกันแล้ว เต้นจบเราก็ไม่ได้ทิ้งเขาไว้กลางฟลอร์แบบนั้นนะ เราก็เอาเขากลับมาด้วย (หัวเราะ)

โอ๊ต : ซึ่งจะไปสนุกกันต่อที่อื่น นั่นก็อีกเรื่อง (หัวเราะ) คือมันเหมือนกับการแต่งตัวไปเล่นกีฬาแต่ละประเภท มันก็เหมาะสม แล้วก็อิน เหมือนกันกับ Swing Dance การแต่งตัวมันทำให้อินขึ้นถ้าจะพูดถึงสมัยนี้ มันเป็น Culture อย่างที่บอก
สุ : บางทีที่เรามีการเล่นดนตรีสดที่ The Hop แล้วเพื่อน ๆ เราเขาแต่งตัวกันมาเต็ม ๆ มันก็เป็นอีก Vibe หนึ่งที่มีเสน่ห์ ที่คนข้างนอกเขามาเห็นแล้วก็ทึ่งไปเหมือนกัน เหมือนเป็น Time Machine ที่พาเขาไปอีกโลกหนึ่ง

 

sw-11

ไส้ในของ Swing Dance ยังมีสไตล์การเต้นอีกหลากหลายแบบให้เลือก

โอ๊ต : เพลง Swing สามารถเต้นเป็นคู่ได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีคู่เต้นมาด้วย มาหาเอาที่นี่ได้เลยเพราะเขาจะ Switch กันเพื่อให้ Enjoy กับ Relationship ใหม่ ๆ เต้นเดี่ยวก็จะเป็น Charleston ที่เอามาเต้นได้ เพลง Blues ก็เต้นคู่ อาจจะไม่ใช่ Swing จ๋า แต่ก็ Under Swing เหมือนกัน อย่างที่เรามักเต้นกันที่นี่จะเป็นการเต้นสไตล์ Lindy Hop ซึ่งเป็นสไตล์ที่สนุกที่สุด เพราะมันครีเอทท่าต่าง ๆ ได้เองในสไตล์ของเรา มีพลัง แล้วก็เป็นอะไรที่โซเชียลเพราะเต้นกับใครในนี้ได้หมดเลย

สุ : ใช่ อย่าง Lindy Hop มันสามารถใส่จริตของแต่ละคนเข้าไปได้

โอ๊ต : ความพิเศษของมันคือการเต้นสไตล์ Lead and Follow คือผู้ชายจะเป็นคน Lead แล้วผู้หญิงเราจะเรียกว่าเป็น Follower คือตามจังหวะการเต้นของผู้ชาย ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือมันเป็นการเต้นที่เรา Improvise หรือคิดสดเองได้ แต่ก่อนการเต้นคู่มันจะเป็นการเต้นแบบ Close Position อย่างลีลาศ ท่าจะ Fix แต่พอมาเป็น Lindy Hop จะเป็น Open Position ทุกคนสามารถ Styling ของตัวเองได้ ตามอารมณ์และเสียงเพลง ซึ่งตรงนี้แหละที่มันทำให้ Lindy Hop เป็นการเต้นที่สนุกและมีเสน่ห์มาก ๆ โดยที่เราสามารถ Express ตัวเองออกมาผ่านดนตรีนี้

สุ : โดยที่เรามีพื้นฐานมานิดหน่อย ที่เหลือคือเราจะเพิ่มอะไรเข้ามามันแล้วแต่คาแรคเตอร์ของเรา มันแล้วแต่เลยว่าเราจะครีเอทอะไรเพิ่มเอง สำหรับสุมันเป็นอะไรที่ Spontaneous มาก จังหวะนี้ อารมณ์นี้มันมาพอดี ก็ใส่เลย

โอ๊ต : คาแรคเตอร์เป็นอะไรที่ดีนะครับ เพราะบางคนที่เขามาที่นี่ เขาก็มา Discover Character ของเขา สำหรับคนที่อยากจะ Discover อีกด้านหนึ่งของตัวเองไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะ หรือ Social การเข้าสังคม หรือการฟังเพลง มัน Unlock อะไรได้หลายอย่างเลยผ่านการเต้นนี้

 

sw-4

สำหรับคอหนังก็สามารถไปหาดู Swing Dance ที่เต้นประกอบในหนังบางเรื่องได้

โอ๊ต : ถ้าเป็นหนังยุค 30s – 40s มันจะเป็นหนังขาวดำ ซึ่งทำให้เกิด Revival ของการเต้น Swing Dance เพราะจริง ๆ แล้วคนรุ่นใหม่ในยุคเราก็กลับไปดูหนังเก่าในยุคนั้นเพื่อหา Inspiration ในการเต้นเหมือนกัน เพราะมันหายไปหลายทศวรรษเหมือนกันสำหรับการเต้น Swing

สุ : ก่อนที่มี Youtube คนสมัยก่อนเขาก็ไปหาเทปดู ไปกรอเทปว่าท่านี้มันยังไง
โอ๊ต : Hellzapoppin’ เป็นหนังยุค 40s ที่เขาเอามาลงไว้ใน Youtube เป็นหนังเก่าที่เต้น Swing สามารถไปหาดูเป็นแรงบันดาลใจได้

สุ : ถ้าเป็นหนังในยุคปัจจุบัน จะมีเรื่อง Malcolm X และ Swing Kids แต่อาจจะไม่ได้ Swing จ๋าเท่าหนังสมัยก่อนที่ผู้ชายจะจีบผู้หญิงนี่เขาจะชวนกันไปเต้น ซึ่งหนังปัจจุบันก็จะเห็นเป็น Swing Dance ที่เต้นประกอบเรื่องมากกว่า ไม่ใช่ Main Character แต่ก็น่ารักดีเหมือนกัน นอกจากนี้ก็จะมีเรื่อง La La Land ที่เพิ่งออกมาปี 2016 นี้นี่แหละ ลองไปหาดูก็จะ Inspire ได้มากขึ้น แล้วจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของการเต้นสไตล์นี้

ฉากเต้น Swing ในภาพยนตร์เรื่อง Malcolm X


Trailer ภาพยนตร์เรื่อง Swing Kids


Trailer ภาพยนตร์เรื่อง La La Land

โอ๊ต : นอกจากนี้ก็มี Avengers Age of Ultron เป็นซีนของ Captain America ที่ย้อนไปสมัยสงคราม ในช่วงที่เขาเป็นทหาร ก็จะมีเต้น Swing ในงานปาร์ตี้ในเรื่อง หลายคนคงเคยดูเรื่องนี้แล้วแต่คงไม่เคยสังเกตว่ามันคือการเต้น Swing

สุ : แล้วก็หนังเรื่อง Gatsby ที่ Leonardo Dicaprio เล่น ก็จะเป็นการเต้น Swing สไตล์ Charleston
โอ๊ต : ใช่ ๆ หนังเรื่อง Gatsby ก็จะมีฉาก และ MV ที่มาจากการเต้น Swing เหมือนกัน


ซีนปาร์ตี้จากภาพยนตร์เรื่อง The Great Gatsby

 

170115-swingdance-2

เมื่อ King of Swing เจอกับ King of Thailand

โอ๊ต : Oh let me say just to say what I say… อย่างเพลง Oh I Say หนึ่งในเพลงพระราชนิพนธ์ใน ร.๙ ก็เป็นแนว Swing Jazz ซึ่งเป็นเพลงสมัย Big Band

สุ : ซึ่ง ร.๙ ของเรายังเคยเล่นดนตรีกับนักดนตรี Swing เทพ ๆ ในยุคนั้นด้วย อย่าง Benny Goodman

โอ๊ต : ซึ่ง Benny Goodman เป็นคนเล่นและเผยแพร่ดนตรี Swing ในอเมริกา

สุ : สุพอทราบข้อมูลมาว่าท่านเคยไปเคาะประตูอพาร์ทเม้นท์ของ Benny Goodman แล้วขอแจมกับวงเขาด้วย

โอ๊ต : จริง ๆ Swing มันใกล้ตัวเรามากกว่าที่ทุกคนคิด แต่บางทีเราไม่รู้และไม่เข้าใจว่ามันคือ Swing คนไทยได้ยินเพลง Swing เกือบทุกวัน

สุ : แล้วก็… Woody Allen ผู้กำกับคนนี้ ไป Follow ได้เลย เพราะผลงานของเขาจะมีเพลง Swing ประกอบแทบทั้งหมด โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นหนังยุคเก่า

 

งาน Swing Dance ที่น่าจับตามอง

โอ๊ต : งาน Swing จะเป็นการ Gathering อย่างมากก็แค่พันคน มันเป็น Subculture อีกทีหนึ่ง ไม่ใช่ Mainstream Culture ขนาดนั้น เพราะงั้นคนจะเข้าถึงง่าย บรรยากาศจะเป็นกันเองมาก ๆ จริง ๆ งานที่น่าจับตามองคงจะเป็น Diga Diga Doo ของบ้านเราเนี่ยแหละ ที่ต่างชาติก็เข้าร่วมกันเยอะ

งาน Diga Diga Doo ปี 2015

สุ : จริง ๆ ถ้าเปรียบเทียบกับเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ปีนี้ที่งาน Diga Diga Doo เพิ่งจัดกันไปก็ Feedback ดีมาก ๆ อีกงานหนึ่งก็ The Big Bang Swing ที่กำลังจะมีที่นครปฐม

ผู้ร่วมงาน Big Bang Swing ปี 2016 ที่ จ.นครปฐม พร้อมใจกันเต้นท่า Shim Sham

โอ๊ต : ตอนนี้คนนครปฐมเขาคิดว่าเป็นงานประจำปีไปแล้ว หลังจากจัดปีแรกไป (หัวเราะ)

สุ : งานนี้คนที่เต้นไม่เป็นก็ไป Visit ได้ อย่างปีที่แล้วก็มี Big Bike Gang ขับมาจากอยุธยาเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะเลย งานเรา Open คนที่ไม่รู้จัก Swing Dance บางคนเขาก็อยากมา Explore ซึ่งก็สามารถมาได้

โอ๊ต : นอกจากงานในประเทศ มันจะมีงานต่างประเทศด้วย ซึ่งไม่แนะนำสำหรับคนที่เต้นไม่เป็น มันต้องมีสกิลติดตัวหน่อย เพราะมันไม่ได้เหมือนงาน EDM ที่ไป Enjoy Music เพราะอันนี้ไปฟังเพลงแล้วเขาก็เต้นกันด้วย แคมป์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่สวีเดน ชื่อ Herrang รู้สึกจะเป็นแคมป์ที่อยู่มา 30 ปี มีประวัติยาวนานมาก ส่วนงานระดับเอเชียที่น่าจับตามอง เรียกว่าใหญ่สุดในเอเชียได้แล้วมั้ง อยู่ที่เกาหลี ชื่อ Camp Swing It ซึ่งก็มีวงจากหลายประเทศมา Join อยู่เหมือนกัน

 

sw-13

ผับที่เข้าไปเต้น Swing สมัยนี้มันไม่มี เราเลยต้องมาสนุกกันที่สตูดิโอแห่งนี้

สุ : ผับสมัยนี้ก็อย่างที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี มาฟัง Live Band หรือมาฟังเขาเปิดแผ่น เป็นเพลงสมัยใหม่มันส์ ๆ แล้วคนก็มาเต้นกัน Freestyle แต่สมัยก่อนในผับเขาจะมี Floor อยู่ตรงกลาง มี Live Band เล่น ซึ่งในยุคนั้นที่ฮิตกันก็เป็น Swing Jazz จริง ๆ Jazz Bar ในไทยก็มีนะ แต่มันไม่ได้มีฟลอร์เต้นรำ แล้วคนก็ไม่ค่อยลุกขึ้นมาเต้นกัน

sw-9

โอ๊ต : Bangkok Swing นับว่า เป็น Community เดียวในกรุงเทพ ที่ทุกคนช่วยกันสร้างขึ้นมาจนเป็น Community ที่ใหญ่ขึ้นทุกปี แล้วที่แห่งนี้ ที่ The Hop Bangkok ก็เป็นสถานที่รวมตัวกันของพวกเราชาว Bangkok Swing รวมถึงทุกคนที่สนใจอีกด้วย โดยเราจะมีทั้งที่เป็น Class เรียนสอนเต้น แบ่งเป็นหลายเลเวล ตั้งแต่ Beginner ไปจน Advance หน่อย

sw-8

สุ : สามารถติดตามรายละเอียดได้ใน Facebook – Bangkok Swing หรือ The Hop Bangkok และเว็บไซต์ thehopbangkok.com สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดย Inbox มาใน Facebook ของ Bangkok Swing ได้เลยครับ

Swing Dance นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้คุณผู้ชายทั้งหลายมีโอกาสได้ใกล้ชิด ถูกเนื้อต้องตัวสาว ๆ อย่างมีสไตล์ นอกจากคุณจะดูหล่อขึ้นแล้ว เผลอ ๆ อาจได้เหน็บสาวกลับบ้านไปสักคนใครจะรู้ แถมยังได้ฝึกการเข้าสังคมทั้งในคนไทยและเพื่อนต่างสัญชาติอีกด้วย สำหรับใครที่กระเป๋าหนัก ใจรัก Swing มีหัวด้านธุรกิจ อาจมองว่านี่คือโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่หรือพัฒนาธุรกิจเดิมของตัวเองก็เป็นได้ เพราะเขาใบ้มาซะขนาดนี้ว่า Jazz Bar ในไทยเรามีเบาบางเหลือเกิน Floor เต้นรำก็ไม่มี คงจะดีไม่น้อยถ้าจะเปิดเป็น Jazz Bar ที่มี Floor เต้นรำตรงกลาง ถือเป็นจุดขายที่ไม่เหมือนใคร และเรียกแขกได้ดีอยู่เหมือนกัน

sw-12

sw-10

sw-6

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line