MUSIC

“KORN” และ “ADIDAS” การตลาดโปรโมตแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จที่แลกมาด้วยความเจ็บปวด

By: JEDDY December 22, 2022

การโปรโมตสินค้าไม่ว่ายุคไหน ๆ ก็มักจะใช้พรีเซนเตอร์เป็นบุคคลมีชื่อเสียง ทั้งดารา, ศิลปิน หรือในยุคปัจจุบันก็คือเหล่าอินฟูลเอนเซอร์ทั้งหลาย เพราะเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างเชื่อว่าหากบุคคลเหล่านี้จับต้องสินค้าของพวกเขา ก็ย่อมจะมีโอกาสที่คนจะเลือกซื้อสินค้าไปใช้ตาม ซึ่งกลยุทธ์การตลาดดังกล่าวก็บุกมาถึงวงการเพลงเมทัลด้วยเช่นกัน และมันได้เกิดขึ้นกับวง Korn เจ้าของฉายา “Godfather Of Nu Metal” นั่นเอง


Korn นอกจากจะเป็นผู้เปิดประตูให้กับดนตรีแนวนูเมทัลให้ได้ออกมาเริงร่ากันแล้ว อีกทางหนึ่งพวกเขายังได้สร้างอิทธิพลให้กับเด็กวัยรุ่นในยุคนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว และภาพจำของแฟนเพลงทุกคนล้วนจะต้องมีแบรนด์กีฬาชื่อดังอย่าง Adidas ปรากฏขึ้นมาบนร่างกายของ Jonathan Davis ฟรอนต์แมนของวง จนกลายเป็นเหมือนเอกลักษณ์ของเจ้าตัวไปเลย

Jonathan Davis มักจะมาพร้อมกับชุดวอร์มคู่ใจ ที่ทั้งเสื้อ, กางเกง และรองเท้าสนีกเกอร์ ล้วนเป็นของ Adidas ตั้งแต่หัวจรดเท้า อีกทั้งชุดที่เขาใส่ก็มีหลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีดำ, สีน้ำเงิน, สีม่วง หรือสีเขียว เป็นต้น ด้วยรูปร่างในช่วงนั้นของ Jonathan ที่ยังเพรียว ทำให้รูปทรงของชุดวอร์มรับเข้ากับสรีระเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าใส่แล้วดูเท่โคตร ๆ เอาเรื่องจริง ๆ การจะใส่ชุดวอร์มให้ดูคูลพูดตรง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


นอกจากจะใส่เสื้อผ้าของ Adidas ในการโปรโมตตามสื่อต่าง ๆ หรือรูปที่ต้องใช้พีอาร์แล้ว Jonathan ยังใส่มันไปเล่นคอนเสิร์ตด้วยเช่นกัน และนอกจากตัวฟรอนต์แมน บรรดาสมาชิกวงก็สวมใส่แบรนด์ดังกล่าวเป็นครั้งเป็นคราวในช่วงระหว่างปี 1993-1997

ส่วนที่มาที่ไปทาง Jonathan Davis เองเคยให้สัมภาษณ์ถึงการสวมใส่แบรนด์ Adidas ไว้ว่า

“มันคือการทำลายขนบธรรมเนียมแบบเดิม ๆ หว่ะพวก

มันเกี่ยวกับการต่อต้านทุก ๆ สิ่งจากที่ดนตรีเมทัลเคยเป็นมา”

ขยายความตรงนี้กันซักนิด ขนมธรรมเนียมเดิม ๆ ที่ Jonathan หมายถึงคือ การแต่งกายด้วยเสื้อวงชุดดำ กางเกงยีนส์ และรองเท้าสนีกเกอร์ทั่ว ๆ ไป อาจจะ Vans หรือ Converse เป็นต้น ซึ่งเจ้าตัวต้องการฉีกออกไปจากการแต่งตัวแบบเดิม ๆ นั่นเอง

อย่างไรก็ตามหากวิเคราะห์ตามความจริงในเชิงโครงสร้างของค่ายเพลง ความต้องการแหวกแนวอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของไอเดีย แต่อีกส่วนหนึ่งมันคือการตลาดที่ Adidas ได้ทำสัญญาว่าจ้างกับวง Korn และต้นสังกัดอย่าง Immortal และ Epic Records ด้วยนั่นเอง เพราะการที่ศิลปินที่มีค่ายแล้ว หากจะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับสินค้า นั่นหมายถึงการสร้างมูลค่า ดังนั้นไม่มีทางที่วง Korn จะเลือกใส่เสื้อผ้าให้กับ Adidas ฟรี ๆ อย่างแน่นอน


การโปรโมตแบรนด์ Adidas ยังไม่จบแค่เครื่องแต่งกาย แต่มันถึงขึ้นมีเพลงออกมาเลยทีเดียว และเพลงนั้นก็คือ “A.D.I.D.A.S.” ไม่มีอะไรชัดไปกว่านี้แล้ว แม้ว่าความหมายในตัวย่อแท้จริงแล้วคือ “All Day I Dream About Sex” ก็ตาม

ผลงานเพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม “Life Is Peachy” ผลงานชุดที่ 2 ของวง Korn วางจำหน่ายเมื่อปี 1996 และแน่นอนว่าเพลง “A.D.I.D.A.S.” ก็ถูกนำมาใช้เป็นเพลงโปรโมตเป็นลำดับที่ 2 ซึ่งมันก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากแฟนเพลง จนกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงของวง Korn ที่มักจะถูกหยิบมาพูดถึง


อย่างไรก็ตามเนื้อหาของเพลงนี้ไม่ค่อยจะมีสาระอะไรซักเท่าไหร่นอกจากการพร่ำเพ้อเรื่องเซ็กของ Jonathan Davis โดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า “I don’t know your fu**ing name / So what? Let’s f**k!” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “กูไม่รู้จักชื่อของมึงหรอก แล้วไงหล่ะ มาอีึบกันเถอะ!” แม้ว่าจะได้ใจแฟนเพลง แต่เหรียญย่อมมี 2 ด้าน เพราะมีคนอีกกลุ่มที่ออกมาต่อต้าน เพราะมองว่าวง Korn เป็นพวก “อนาจารและหยาบคาย” ถึงขนาดตราหน้าว่าใครก็ตามที่ใส่เสื้อที่มีโลโก้วง Korn ก็ไม่ต่างจากสัญลักษณ์นิ้วกลางเลยทีเดียว

เนื้อเพลงดังกล่าวไม่ได้กระทบแค่เพียงคนภายนอก แต่มันยังส่งผลต่อคนในวงด้วยเช่นกัน และเขาคนนั้นคือ Brian “Head” Welch มือกีตาร์ของวงที่ดันบังเอิญไปได้ยินลูกสาววัย 5 ขวบร้องเพลงนี้เมื่อปี 2003 และตอนที่เขากลับมาร่วมวงในปี 2013 เขาได้ร้องขอให้วงยุติการเล่นเพลงนี้ในคอนเสิร์ตด้วยเช่นกัน

“ตอนนั้นเธอมีอายุ 5 ขวบ ผมกำลังนั่งเล่นและได้เห็นลูกสาวของผมร้องขึ้นมาว่า ‘All Day I Dream About Sex’ นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลย ผมไม่สนใจเลยว่าเธอจะรู้ความหมายตามที่เธอร้องมันออกมามั้ย

มันทำให้ผมรู้สึกวิตกกังวลมาโดยตลอด

มันไม่ถูกต้องเลยที่จะเห็นพ่อของเธอไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และมันไม่ถูกต้องที่เธอต้องมาร้องเพลงนี้

มันเหมือนผมได้ขโมยความเป็นเด็กหรืออะไรประมาณนี้จากเธอไปเลยครับ”


อะไรที่มันแหลมคมย่อมมีผลกระทบทั้งต่อคนรอบข้างและตนเองได้เสมอ แม้ว่าการโปรโมตของแบรนด์ Adidas กับวง Korn จะประสบความสำเร็จ แต่มันก็มาพร้อมกับความเจ็บปวดด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามการฟังเพลงไม่ว่าจะแนวไหนก็ตามก็ควรใช้วิจารณญาณด้วยเช่นกัน เพราะอย่าลืมว่าเพลงก็คือสื่อความบันเทิงอีกหนึ่งรูปแบบ เพราะเหตุนี้ยุคก่อนจึงมีการติดป้าย “Parental Advisory Explicit Content” หรือ “มีเนื้อหาที่ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ” ควบคู่อยู่เสมอนั่นเอง

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line