CARS

2018 BMW M3 30 Years American Edition ฉลองการปรากฎตัวครั้งแรกของ M3 ที่ USA เมื่อ 30 ปีที่แล้ว

By: HYENA November 1, 2017

BMW M3 เดินทางเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกในปี 1987 และนับตั้งแต่นั้นมาชื่อของรถยนต์ตัวแรงจากเมืองเบียร์ ก็เป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน หรือในสนามแข่งขันก็ตาม เป็นเวลา 30 ปีมาแล้ว ที่ชาวอเมริกัน ได้รู้จักกับพิษสงของรถร่างเล็ก ที่ทำให้เหล่ารถนักกล้ามตัวใหญ่แรงเยอะอย่าง Muscle Car ที่ชาวอเมริกันแสนภาคภูมิใจไม่อยากที่จะเข้าใกล้

และในวันนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 30 ที่ BMW M3 ไปปรากฎตัวอยู่ที่อเมริกาเป็นครั้งแรก BMW จึงได้ทำการสร้าง M3 30 Years American Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษขึ้นมา และจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ SEMA นครแห่งแสงสี Las Vegas


 

M3 รุ่นครบรอบการปรากฎตัวที่อเมริกานี้ เป็น M3 2018 ซึ่งก็คือตัวล่าสุดที่ออกมา พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และจัดเต็มด้วยชุดแต่งตัวแข่งในสนามแบบพร้อมซิ่งออกมาจากประตูโรงงาน เพื่อเฉลิมฉลอง และตอกย้ำถึงจิตวิญญาณ และสมรรถนะระดับรถสนามที่อยู่ในร่างของรถหรู

M3 2018 30 Years American Edition ได้นำเอาสีแดง M Metallic มาใช้เป็นสีเบสของรถ จับคู่กับล้อแม็ก Alloy จาก M Performance สีทอง เสริมความเข้มดุดันด้วยยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจุดที่นำเอาวัสดุ Cabon Fiber เข้ามาใช้ เพื่อลดน้ำหนักของตัวถังให้เบาที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหลังคา, สปอยเลอร์, ชุดกันชนบริเวณด้านข้าง

จุดเด่นที่เห็นได้ชัดสำหรับรุ่นพิเศษนี้ อยู่ที่บริเวณขอบบนหลังคา มีการตกแต่งตราสัญลักษณ์ ///M เพื่อความเป็นเอกลักษณ์ และความสวยงามอีกด้วย ชุดช่วงล่างทั้งหมดเป็น M Performance ทั้งชุด ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือน, จานเบรค รวมไปถึงชุดท่อไอเสียไทเทเนียมล้วนๆ ออกฝั่งละ 2 ซ้าย-ขวา รวมเป็น 4 ท่อ ก็มาจาก M Performance ตั้งแต่คอท่อยันปลายท่อเลยเช่นกัน

การตกแต่งภายใน BMW เลือกใช้ธีมสี ขาว แดง และน้ำเงินมาหุ้มเบาะ บวกกันเติมลวดลายการเย็บเป็นรูปกราฟฟิก สัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปีอันสุดพิเศษนี้ นอกจากนี้ ในส่วนคอนโซลหน้า และแผงประตู ยังเพิ่มความดุดันด้วยชุดแต่งที่โชว์ให้เห็นเส้นใยการทักทอของ Carbon Fiber โดยเฉพาะที่พนักพิงศีรษะ และม่านบังแดด เรียกได้ว่า Limited Edition สุด ๆ

ในส่วนขอมูลด้านสเปคเครื่องยนต์ ตามแหล่งข้อมูลยังไม่มีใครฟันธงออกมาว่า M3 30 Years American Edition จะจัดเต็มมาขนาดไหน แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าหากขึ้นต้นด้วยตัว M แล้ว คงไม่มีอะไรต้องสงสัยเรื่องความแรง และสมรรถนะในการขับขี่อย่างแน่นอน

และสำหรับคนที่สนใจอยากได้อาวุธหนักที่มีความพิเศษ ไม่เหมือนใครมาไว้ในครอบครอง ราคาค่างวดน่าจะอยู่ที่ $128,635 บวกค่าใช้จ่ายปลายทางอีก $995 และอย่าลืมบวกภาษีนำเข้าบำรุงประเทศชาติอีก 300% ถ้าเงินพร้อมใจพร้อมก็สามารถคว้ามันมาขับเล่นได้เช่นกัน ซึ่งถ้ามีเงินระดับนี้แล้ว เราขอแนะนำให้ลองบินไป Las Vegas สัมผัสตัวเป็น ๆ ถอยมาขับเล่นสักวัน 2 วัน แล้วค่อยส่งกลับมา ก็คงจะไม่น่ามีปัญหากับขนหน้าแข้งของท่านหรอกจริงไหม?

 

SOURCE

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line