CARS

MICHELIN PASSION EXPERIENCE: สวมบทนักแข่งมืออาชีพกับยางรถยนต์ที่ทำให้มั่นใจทุกการขับขี่

By: SPLESS September 17, 2019

สำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบรถยนต์และความเร็ว เมื่อศึกษาศาสตร์เกี่ยวกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวรถหรือวิธีการดัดแปลงและซ่อมบำรุง โดยเฉพาะการเลือกอุปกรณ์ที่ดีที่สุดใส่เข้าไปในรถคันโปรด เราจะรู้ว่าอุปกรณ์ที่ดีจะสามารถดึงสมรรถนะสูงสุดในการใช้งานออกมาได้ รวมถึงมอบความปลอดภัยให้ทุกการขับขี่

ยางรถยนต์ จึงเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญสำหรับรถทุกคัน ที่หากเปรียบรถเป็นคนสักคนแล้ว ยางก็เป็นเหมือนรองเท้าคู่เก่งที่ทำให้เราก้าวย่างได้อย่างเฉิดฉายและมั่นใจ รวมถึงช่วยดูแลความปลอดภัยของการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้ผู้ชายหลายคนต่าง ๆ พิถีพิถันในขั้นตอนการเลือกยางสำหรับรถที่ใช้งานเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตามการศึกษาหาอ่านทำให้เราได้รู้ข้อมูลพื้นฐานคร่าว ๆ ของยางแต่ละตัว แต่คงไม่มีการเรียนรู้ไหนที่ดีไปกว่า “การสัมผัสประสบการณ์ใช้งานด้วยตัวเอง” ที่จะทำให้ทุกรู้ว่ายางทั้ง 4 เส้นคือชุดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถของเราหรือไม่

ขณะเดียวกันค่ายผู้ผลิตยางมืออาชีพอย่าง MICHELIN รู้ดีว่าการทำความรู้จักสมรรถนะด้านต่าง ๆ ในยางรถยนต์ โดยได้รับประสบการณ์การจากขับขี่ด้วยตัวเองสำคัญมาก MICHELIN จึงจัดอีเวนต์ MICHELIN Passion Experience ขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้คนรักความเร็วได้สัมผัสประสบการณ์ใช้งานยางจริงในรถยนต์ที่แตกต่างและสถานการณ์ที่หลากหลาย

ปีนี้ UNLOCKMEN มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย อย่ารอช้า!เราจะพาคุณไปบินตรงไปถึงมาเลเซีย ณ Sepang International Circuit ซึ่งเป็นสังเวียนสำหรับการทดสอบครั้งนี้

MICHELIN เลือกสถานที่จัดงานทดสอบประสบการณ์ความเร็วได้เหมาะสมมากเพราะ Sepang International Circuit เป็นสนามแข่งรถระดับโลกที่มีรายการแข่งขันความเร็วชั้นนำเลือกใช้เป็นสถานที่สำหรับหาผู้ชนะอยู่เสมอ

หนึ่งในนั้นคือสนามกรังด์ปรีซ์ของการแข่งขันรถสูตร 1 (Formula1) ที่แม้จะเพิ่งหมดสัญญาไปในปี 2018 แต่ยังคงมีการแข่งขันมากมายต่อคิวใช้สนามขนาดความจุ 120,000 คนแห่งนี้อยู่ หนึ่งในนั้นคือสุดยอดรายการสองล้ออย่าง Moto GP

หลังจากที่ UNLOCKMEN และผู้เข้าร่วมกิจกรรม MICHELIN Passion Experience 2019 จากทั่วทวีปเอเชียเดินทางมาถึง Sepang International Circuit ก่อนจะได้สัมผัสประสบการณ์ความสนุก เราต้องพูดคุยถึงข้อตกลงและความเหมาะสมต่าง ๆ ในการขับขี่ เพราะความปลอดภัยถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด

ตลอดทั้งวันผู้ร่วมงานจะได้ทดสอบการขับรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่ใช้ยางทุกเส้นจาก MICHELIN โดยมีรายการทดสอบทั้งหมด 4 รายการ คือ Race Of Passion, SUV Passion, Off-Road Passion และ Thrilling Passion โดยหลังจากที่ทุกคนผ่านการตรวจสุขภาพและเปลี่ยนชุดเป็น Racing Suit สุดเท่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาสัมผัสประสบการณ์ที่เหลือกับทุกประสาทสัมผัสของตัวเอง

Race Of Passion: ห้วงอารมณ์การขับขี่รถฟอร์มูล่า 1

เริ่มต้นอุ่นเครื่องกันด้วย Race Of Passion กับประสบการณ์การขับรถ Formula 4 ซึ่งถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ๆ โดยรถสูตร 4 (Formula 4) ถือเป็นขั้นแรกในการแข่งขันที่สูงขึ้นมาจากโกคาร์ตสำหรับคนที่ต้องการจะไต่เต้าไปถึงระดับนักแข่งรถสูตร 1 ( Formula 1) ในเวลาต่อมา โดยค่าความเร็วสูงสุดสามารถวิ่งได้ถึง 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง

หลังจากที่ได้รับคำแนะนำเบื้องต้นจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญ ก็ไม่รอช้าถึงเวลากระโดดลงไปสัมผัสมุมมอง Onboard จากรถด้วยตัวเอง โดยเรามี Porsche Cayman S รถเซฟตี้คอยนำทางเพื่อสร้างความคุ้นเคยต่อการเข้าไลน์ในสนามแข่ง ก่อนจะเริ่มชินมือชินเท้าและทำความเร็วทั้งในทางตรงและเข้าโค้ง ซึ่งความเหนียวของยางรถแข่งจาก Michelin ก็ทำให้เราได้ประสบการณ์ด้านความเร็วจากสเตชันนี้อย่างน่าประทับใจ

SUV Passion: สัมผัสยางที่ออกแบบมาเพื่อ Sport Utility Vehicles โดยเฉพาะ

มาถึงสเตชันที่ 2 ของวันหลังจากอุ่นเครื่องกับของแรงมาแล้ว ก็ถึงคิวสัมผัสอารมณ์ของการควบคุมรถยนต์กันบ้าง สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ครอบครองรถยนต์ในเซกเมนต์ SUV อยู่ละก็ไม่ควรพลาด เพราะนี่คือการทดสอบใช้ MICHELINE Pilot Sport 4 SUV ยางเส้นล่าสุดจากตระกูล Pilot Sport ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานใน Sport Utility Vehicles โดยเฉพาะ โดยรถยนต์ที่ใช้ทดสอบคือ BMW X3 ยนตรกรรมเอสยูวีสุดแรงจากค่ายใบพัดสีฟ้า

การทดสอบแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ฐานด้วยกันโดยขับเปรียบเทียบความรู้สึกกับ BMW X3 ทั้งหมด 2 คัน คันแรกจะเป็น X3 ที่ใช้ยางรถยนต์ชั้นนำในท้องตลาด และคันที่ 2 คือ X3 ที่ใช้ยาง MICHELINE Pilot Sport 4 SUV เริ่มกันที่ฐาน Slalom โดยแบ่งออกเป็นการควบคุมในสองสถานการณ์ที่แตกต่างหรือ Wet และ Dry หรือพื้นถนนแห้งและพื้นถนนเปียก

การควบคุมรถเข้าช่องกรวยด้วยความเร็วประมาณ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้เรามองเห็นความแตกต่างระหว่างการใช้ยางทั่วไปในท้องตลาด กับความรู้สึกในการใช้ MICHELINE Pilot Sport 4 SUV ที่ให้ความมั่นใจในการควบคุมมากกว่า รถไม่มีอาการสะบัดให้เห็นทั้งในพื้นแห้งและเปียก ที่สำคัญคือให้ความรู้สึกนุ่มสบายในการขับขี่มากกว่า รวมถึงอายุการใช้งานและความทนทานเป็นอีกหนึ่งความยอดเยี่ยมของยางรุ่นนี้

ต่อด้วยฐานทดสอบการเบรกที่แบ่งการทดสอบออกเป็นรถที่ใช้งานยางทั่วไปและ MICHELINE Pilot Sport 4 SUV โดยการเบรกทันทีที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในพื้นแห้งนั้นรถที่ใช้ยางทั่วไป UNLOCKMEN ได้ระยะเบรกอยู่ที่ประมาณ 35 เมตร ส่วนรถที่ใช้ยาง MICHELINE Pilot Sport 4 SUV ใช้ระยะเบรกอยู่ที่ 30 เมตรเท่านั้น

ด้านการทดสอบกับพื้นเปียกยางทั่วไปที่ต้องเบรกด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยางทั่วไปได้ระยะเบรกที่ประมาณ 33 เมตร ส่วนรถที่ใช้ยาง MICHELINE Pilot Sport 4 SUV เราทดสอบด้วยตัวเองได้ระยะเบรกเพียง 28 เมตร ทำให้เห็นถึงความแตกต่างและความสำคัญของใช้ยางรถยนต์คุณภาพที่จะช่วยให้ระยะการเบรกของคุณสั้นลงในสถานการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน

Off-Raod Passion: อยากขับลุยต้องมียางที่ตอบโจทย์​การลุย

 

สเตชันที่ 3 หรือ Off-Road Passion ที่เปลี่ยนอารมณ์จากการจับทางเรียบมาเป็นเส้นทางวิบากที่โหดมากขึ้นเพื่อทดสอบยางจาก BFGoodrichในกระบะสายพันธุ์ลุยอย่าง Ford Ranger และ Ranger Raptor โดยยางที่ใช้ในคราวนี้คือหนึ่งในรุ่นยางที่ตอบโจทย์การลุยทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็น ดิน ทราย หิน อย่าง BFGoodrich Mud-Terrain และ All-Terrain

เส้นทางการทดสอบมีทั้งหมด 3 เส้นทางด้วยกัน โดยทั้งหมดถูกออกแบบโดยนักขับและนักแข่งรถออฟโรดที่มีประสบการณ์ ทั้งขึ้นเนินสูง ขับผ่านหลุมเล็ก-ใหญ่ ขับผ่านทางหินเพื่อทดสอบการยึดเกาะและความแข็งแรงของยาง ก่อนปิดท้ายด้วยการวิ่งทำความเร็วในสนามฝุ่นแบบ HotLap โดยนักแข่งแรลลี่ระดับโลก ที่ทำให้เราได้เห็นลีลาการขับขี่สุดโลดโผนและการควบคุมอาการของรถได้อย่างมีคุณภาพจากยางรถยนต์ที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่

Thrilling Passion​: สัมผัสแรง G กับความแรงในสนามแข่ง

มาถึงสเตชันสุดท้ายและหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของอีเวนต์นี้ กับการสัมผัสประสบการณ์ HotLap จากรถสุดแรงอย่าง Porsche Cayman และ Seat Leon MK3 TCR ที่ใช้ยาง MICHELIN Pilot Sport ในฐานะผู้โดยสาร โดยโชว์เฟอร์ของเราเป็นนักขับมืออาชีพที่จะพาคุณทัวร์รอบ Sepang International Circuit ในความเร็วสูงทั้งทางโค้งและทางตรง งานนี้ต้องบอกเลยว่าแรง G ที่เจอทำให้ปวดตัวไม่น้อยเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือประสบการณ์ความเร็วแบบหาที่ไหนไม่ได้แน่นอน

หลังจากทดสอบประสบการณ์ด้านความเร็วมากมายมาเกือบตลอดทั้งวัน พร้อมพิธีมอบรางวัลจากการเก็บคะแนนระหว่างวันแล้ว ก็มาถึงช่วงเวลาอาหารค่ำที่ถือเป็นอีกไฮไลต์ที่ผู้ร่วมงานทุกคนรอคอยกับมื้ออาหารที่รังสรรค์โดยเชฟ Ryuki Kawasaki จาก Mezzaluna Restaurant ร้านอาหารมิชลินตาร์ 2 ดาว ที่ทำให้งานเลี้ยงมื้อค่ำเต็มไปด้วยความสุขและความอร่อย พร้อมรับกล่องอาหารที่ระลึกที่จัดเตรียมโดยร้าน Mezzaluna มิชลินตาร์ 2 ดาวและร้าน Saawan มิชลินตาร์ 1 ดาว เป็นการปิดท้ายกิจกรรมดี ๆ ของ MICHELIN Passion Experience ของปีนี้แบบอบอวลไปด้วยความสุขและรอยยิ้มจากผู้มาร่วมงานทุกคน

ต้องขอบคุณของ MICHELIN Passion Experience ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมดี ๆ ที่จัดมานานกว่า 2 ทศวรรษจากทาง MICHELIN ที่เปิดโอกาสให้ UNLOCKMEN ได้สัมผัสประสบการณ์ด้านความเร็วที่เหนือชั้น รวมถึงประสบการณ์การใช้งานยางรถยนต์ที่หลากหลายของทาง MICHELIN พร้อมได้ลิ้มรสอาหารซึ่งผ่านการคัดสรรอย่างเอาใจใส่

ในความเห็นของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยางหรืออาหารก็ตาม ล้วนแล้วแต่ทำให้เห็นมุมมองที่สำคัญที่สุดของทาง MICHELIN คือความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดทุกขั้นตอนจนออกมาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนบนโลกใบนี้

 

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line