“ตุ้ย อัฐวุฒิ” จากความหลงใหลในวัยเด็ก สู่คอลเลกเตอร์มือทองผู้ครอบครองเรือนเวลาหายาก

เราเชื่อว่าผู้ชายแทบทุกคนคงต้องมีสิ่งของสักอย่างที่รัก หวง และหลงใหลคลั่งไคล้จนแทบอยากเก็บบูชาเอาไว้บนหิ้ง แต่ถ้านั่งนับนิ้วดูดี ๆ จะรู้ว่าในบรรดาของสะสมทั้งหมด มีไม่กี่อย่างที่มอบทั้งคุณค่าและมูลค่าให้กับเราในเวลาเดียวกัน แล้ว ‘นาฬิกา’ ก็คงเป็นหนึ่งในสิ่งของไม่กี่อย่างที่ว่านั้น เพราะนอกจากจะมีมูลค่าตามราคาแล้ว นาฬิกายังมีคุณค่าพิเศษบางอย่างในสายตาของนักสะสมที่หลงรักมันเสียยิ่งกว่าอะไร

ถึงจะรู้ว่าการเก็บสะสมของสักชิ้นต้องเกิดจากความหลงใหล แต่ความหลงใหลจะพาใครสักคนเดินไปได้ไกลขนาดไหนกัน? เราเลือกเก็บคำถามนี้ไว้ในหัว ก่อนจะเดินไปคุยกับ “ตุ้ย อัฐวุฒิ” ชายที่ใช้ความหลงใหลเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมนาฬิกา และความหลงใหลที่ว่าก็พาเขามาไกลจนถึงขั้นเก็บรวบรวมนาฬิกาหายากไว้กว่า 100 เรือน

ผศ.ดร. อัฐวุฒิ ปภังกร หรือ คุณตุ้ย เป็นหนึ่งในนักสะสมนาฬิกาตัวยง ที่ควบตำแหน่งที่ปรึกษาด้านบัญชีและอาจารย์ในระดับอุดมศึกษา เขาชื่นชอบนาฬิกาตั้งแต่อายุ 16-17 ปี จากนั้นก็เริ่มฝันว่าอยากมีนาฬิกาดี ๆ ใส่สักเรือน เพราะเชื่อว่านาฬิกาบ่งบอกความเท่ สะท้อนตัวตน และช่วยเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

คุณตุ้ยจึงเก็บสะสมนาฬิกาเรือนที่ชอบมาเรื่อย ๆ จากนั้นวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ล่วงเลยมากว่า 20 ปี แต่ความหลงใหลในนาฬิกาของเขาก็ยังหมุนวนรอบหน้าปัดอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เหมือนเข็มวินาทีที่ไม่เคยหยุดเดิน

“นาฬิกาไม่ใช่แค่เครื่องบอกเวลา ผมว่ามันมีคุณค่ามากกว่านั้น”

ผมคิดว่าของสะสมสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่มีแค่สองอย่าง หนึ่งคือรถยนต์ สองคือนาฬิกา แล้วสมัยวัยรุ่นการถือเงินสดมันก็ร้อน มันร้อนมือจนเราอยากเอาไปใช้ซื้ออะไรสักอย่าง แต่ถ้าเอาไปซื้อรถก็คงยังไม่มีปัญญาและถ้าซื้อมาก็ไม่รู้จะเก็บไว้ตรงไหนไม่ให้พ่อแม่รู้

แต่นาฬิกานั้นไม่เหมือนรถ ผมสามารถซื้อนาฬิกาจำนวนมากเก็บไว้ที่บ้านได้โดยไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น และเป็นอีกไอเทมที่บอกตัวตนของผู้ชายทุกคนได้ ต่อให้คุณจะใส่เสื้อเชิ้ตและสูทอยู่ทุกวัน แต่ถ้าเปลี่ยนนาฬิกาเรือนใหม่มันก็ทำให้ลุกของคุณต่างไปจากเดิมได้เหมือนกัน แถมมูลค่าของมันก็ไม่ได้หายไป แต่มูลค่าสำหรับผมไม่ได้หมายถึงเม็ดเงินหรอกนะครับ มันคือความสุขที่เราได้ใส่หรือเสพจากมันมากกว่า

 “คนเรายึดติดว่าตัวเลขต้องใช้วัดมูลค่าเสมอไป ทำให้ความสุขในการสะสมนาฬิกาลดน้อยลง

ทั้ง ๆ ที่ความสุขก็มีมูลค่าเหมือนกัน เพียงมันไม่อาจประเมินออกมาเป็นตัวเลข”

ถ้าเรื่อง Passion Investment หรือ การซื้อนาฬิกาแล้วจะสามารถขายหรือทำกำไรจากมันได้ ผมมองว่ามันอาจไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพราะการขายต่างมีกลไกของมัน แม้ทุกวันนี้แวดวงธุรกิจกำลังหลอกเราว่าการซื้อของสักชิ้นจะขายต่อได้และถือเป็นการลงทุนที่เพิ่มมูลค่า

แต่ผมกลับมองว่าการซื้อนาฬิกามันเกิดจากความหลงใหล มันมอบมูลค่าด้านความดูดีและประโยชน์ใช้สอย มากกว่ามูลค่าที่เป็นเม็ดเงินหรือผลกำไร และบางครั้งมันอาจมี ‘คุณค่า’ มากกว่า ‘มูลค่า’ ที่คนอื่นตีเป็นเงินด้วยซ้ำ

อย่างแรกต้องมีไอคอนิกสามารถบ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ แม้จะปิดโลโก้แต่เราก็ตอบได้ว่ามันคือนาฬิกาแบรนด์ไหน รูปแบบงานดีไซน์ที่ดีของนาฬิกาจึงเป็นกลไกสำคัญที่ชูความโดดเด่นด้านไอคอนิก ส่วนอีกข้อคือต้องไม่เสียง่าย มีมาตรฐานการผลิตที่ดีและมีคุณภาพสมราคา เพราะจุดประสงค์แรกของนาฬิกาคือเครื่องมือบอกเวลา ถ้าซื้อมาใส่ไม่กี่ปีแล้วเสีย คุณก็คงไม่แฮปปี้ถูกไหมครับ

จริง ๆ MIDO เป็นแบรนด์ที่ผมเคยซื้อมานานแล้ว เป็นนาฬิกาสัญชาติสวิสที่อยู่กับประเทศไทยมานานมาก แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนโฉมใหม่ จนนักสะสมนาฬิกาทั่วโลกหรือแม้แต่ผมยังตะลึง

จากที่เคยมองว่าเป็นแบรนด์เฉย ๆ หาซื้อได้ตามช็อปนาฬิกาทั่วไป วันนี้ MIDO กลับมีงานดีไซน์ที่โดดเด่นและนำนาฬิการุ่นเก่ามาประยุกต์ให้เข้ากับสมัยใหม่ โดยไม่ลืมความไอคอนิกที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของแบรนด์ตน

MIDO ตอกย้ำว่านาฬิกาเป็นเครื่องมือบอกเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ด้วยการออกแบบ คุณภาพ และใส่ลูกเล่นในรายละเอียดยิบย่อย พัฒนาตัวเองให้กลายเป็น Functional Watch ที่เหมาะสมกับราคาและความคุ้มค่าเมื่อสวมใส่

ผมไม่ชอบคำว่า “นาฬิกาเรือนเดียวใส่ได้ทั้งวันทั้งคืน” ผมเลยพยายามใส่นาฬิกาไม่ซ้ำเรือน และสะสม MIDO เอาไว้ทั้งหมด 5 รุ่น ซึ่งเป็น 5 รุ่นที่ตอบโจทย์ชีวิตผมอย่างมาก แต่ละเรือนล้วนมีเอกลักษณ์ของมัน บางเรือนเหมาะกับวันทำงาน บางเรือนเหมาะกับวันหยุด ผมเลยเลือกใส่นาฬิกาให้เหมาะกับโอกาสและสถานการณ์นั้น ๆ เสมอ

MIDO COMMANDER BIG DATE

เริ่มที่เรือนแรก ‘MIDO COMMANDER BIG DATE’ เป็นนาฬิกาที่ผลิตตั้งแต่ปี 1959 เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ แต่ไม่มีทางที่จะนำรูปลักษณ์ปี 1959 มาอยู่ในปัจจุบันได้โดยไม่ปรับเปลี่ยนใด ๆ

วันนี้ MIDO นำวัสดุ PDV สีเทามาใช้ ทำให้เรือนนี้ดูทันสมัยและเหนือกาลเวลา มีฟังก์ชัน Big Date เพิ่มช่องบอกวันที่ไว้ตรงตำแหน่ง 6 ทำให้อ่านวันที่ได้อย่างชัดเจน ใช้หน้าปัดโค้งมนเคลือบด้านสะท้อนแสงอาทิตย์และออกแบบเม็ดมะยมมาให้แนบตัวเรือน ไม่เกะกะและเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องตัว

MIDO MULTIFORT PATRIMONY

เรือนต่อมาคือ ‘MIDO MULTIFORT PATRIMONY’ นาฬิกา re-edition ที่เคยผ่านตานักสะสมนาฬิกาเก่ามาแล้วทั้งนั้น เพราะเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 1934 ใช้หน้าปัดสีเหลือบให้ความรู้สึกโมเดิร์น ขณะที่เคสและสายหนังคงความวินเทจเอาไว้

ขอบหน้าปัดมีมาตรวัดชีพจร เสริมความแกร่งด้วยกระจกแซฟไฟร์ สะท้อนกึ่งกลางระหว่างอดีตและอนาคตด้วยรูปทรงเข็มและหน้าปัดแบบร่วมสมัย เป็นการนำดีไซน์เก่ามาผสมกับกลไกยุคใหม่อย่างลงตัว

MIDO BARONCELLI CHRONOMETER SILICON

‘MIDO BARONCELLI CHRONOMETER SILICON’ เรือนนี้ถือว่าแปลกที่สุดใน 5 เรือนสำหรับผม เพราะบอกความเป็นไอคอนิกของแบรนด์น้อยที่สุด แต่ก็ให้ความรู้สึกกับคนเล่นนาฬิกามากที่สุดเช่นกัน

บนหน้าปัดเรียบหรูซ่อนเข็มนาฬิกาปลายสองด้าน ใช้กลไกโครโนมิเตอร์ระบบออโตเมติก ทำให้ทำงานอัตโนมัติได้มากถึง 80 ชั่วโมง พร้อมซิลิคอนบาลานซ์สปริงช่วยเสริมความแม่นยำในระดับ COSC

MIDO OCEAN STAR TRIBUTE

ส่วนเรือนนี้ ‘MIDO OCEAN STAR TRIBUTE’ เป็นเรือนที่ปิดชื่อแบรนด์แล้วบอกได้เลยว่ามันคือ MIDO เพราะคงไม่มีแบรนด์ไหนกล้าให้กระจกแซฟไฟร์ทรงโค้งนูนในราคาหลักหมื่น นี่เป็นรุ่นฉลองครบรอบ 75 ปีของคอลเลกชัน OCEAN STAR

บนหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มมีเข็มวินาทีสีส้มเด่นเป็นจุดนำสายตา ถอดแบบเอกลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำในช่วงศตวรรษ 1960 มาอย่างแนบเนียน สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร แม้ขนาดตัวเรือนจะอยู่ที่ 43.5 มิลลิเมตร แต่ก็ไม่ได้ดูใหญ่เทอะทะและออกแบบสายนาฬิกาโลหะแนบเนื้อมาให้สวมใส่สบาย

MIDO OCEAN STAR DIVER 600

เรือนสุดท้าย ‘MIDO OCEAN STAR DIVER 600’ ถือเป็นเรือนไฮไลต์สำหรับปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ MIDO นำวัสดุเซรามิกมาสร้างสรรค์นาฬิกา เสริมความแข็งแกร่งทนทานด้วยตัวเรือน Diamond Like Carbon (DLC) ขนาด 42 มิลลิเมตร

ดูเท่ด้วยขอบหน้าปัดที่สามารถกดและหมุนเพื่อจับเวลา ใช้ฝาครอบ Super-LumiNova Grade X และกลไกลโครเมียมจับเวลาที่ผ่านการรับรองจาก COSC เรือนนี้มีพลังงานสำรอง 80 ชั่วโมง และติดตั้งวาล์วฮีเลียมช่วยป้องกันแรงดันใต้น้ำ ทำให้กันน้ำได้สูงสุดถึง 600 เมตร

MIDO WATCH ทั้ง 5 เรือนของคุณตุ้ยล้วนผ่านกาลเวลาและมีเรื่องราวเฉพาะตัว นาฬิกาของแบรนด์นี้จึงโดดเด่นทั้งคุณภาพ นวัตกรรม มูลค่า การออกแบบเหนือกาลเวลา และกลไกความแม่นยำที่เป็นหัวใจสำคัญของเรือนเวลา

“บางครั้งเวลาอาจไม่ใช่สิ่งเดียวที่คุณต้องการจากนาฬิกาเสมอไป แต่การจะสะสมหรือเลือกซื้อนาฬิกาสักเรือนมาใส่ ควรเกิดจากความชอบและความหลงใหลเมื่อได้สัมผัสนาฬิกาเรือนนั้นด้วยมือตัวเอง”

บทสนทนาครั้งนี้จบลงพร้อมกับคำถามมากมายในหัวที่ถูกตอบไปทีละข้อ “ตุ้ย อัฐวุฒิ” พิสูจน์แล้วว่าความหลงใหลพาเขาเดินมาไกลจนถึงขั้นเป็นคอลเลกเตอร์ที่สะสมนาฬิกาหายากไว้ร่วม 100 เรือน แต่เราจะไม่มีทางเชื่อว่านาฬิกาของ MIDO WATCH นั้นยอดเยี่ยม จนกว่าจะได้สัมผัสมันด้วยมือของเราเอง (ตามที่คุณตุ้ยบอก)

PHOTOGRAPHER: Warynthorn Buratachwatanasiri