Entertainment

เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ติดตรึงใจเราในช่วงปี 2014 -2015 ที่ผ่านมา

By: Thada December 14, 2015

การจะดูหนังสักเรื่องนึง นอกจากองค์ประกอบจากบทภาพยนตร์ ภาพ และที่สำคัญอีกอย่างที่จะไม่ได้เลยก็คือบทเพลงประกอบหนัง ที่จะสามารถพาคนดูให้อิน เศร้า ซึ้ง มีความสุข เรียกว่ามันคือโสตประสาทการรับรู้ของคนๆ นึง หรือ Sense of Human Being

ทำไมถึงจะต้องมีเพลงประกอบภาพยนตร์นั้นหรอ ก็เพราะส่วนใหญ่การที่เรามีเพลงชูโรง หรือ เรียกว่า Original Soundtrack (Ost.) เพื่อเป็นการเล่าเรื่องย่อของหนัง หรือบอกอารมณ์ของหนังทางอ้อมผ่านบทเพลง และเพลงเป็นสื่อกลางที่ส่งไปถึงคนดูได้ง่าย และเร็วที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้วเพลงที่จะมาเป็น Ost. นั้นจะเป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ครอบบทของหนัง หรือบางที่อาจจะไปเลือกเพลงที่มีอยู่แล้ว แต่เนื้อหาไปตรงกับตัวหนังแลยนำมาเป็นเพลง Ost. ของหนัง

151214-ost-1

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหนังบางเรื่องเราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำคือหนังเรื่องอะไร แต่กลับจำเพลง Ost ได้ก่อนเสียอีก และเราก็เชื่อว่าสำหรับคอหนังตัวยง คงเคยจัดเพลย์ลิส เพลง Ost ส่วนตัวกันมาแล้วบ้าง วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN เลยมาขอแชร์เพลย์ลิสต์ Ost . ของหนังปี 2014-2015 ในดวงใจของเรา มาแชร์เพื่อให้เป็นทางเลือกให้กับชาว UNLOCKMEN ได้ไปรับฟังกัน

Glory – Selma

เพลงประกอบหนังกึ่งชีวประวัติของนักสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ชาวอเมริกันอย่าง Martin Luther King ซึ่งเขาคือสัญลักษณ์ของความเท่าเทียมกันของมนุษย์ โดยเพลงนี้ได้ John Legend นักร้องนักแต่งเพลง ชาว อเมริกัน และ Common แร๊ปเปอรผิวสีร่วมชาติมาช่วยรรวมถ่ายทอดเพลง เพลงแห่งความหวัง และศรัทธาเพลงนี้

Boom Clap – The Fault In Our Stars

ความจริงเรื่องนี้มีเพลงดีๆ ถึงสองเพลง ที่น่าเลือกแต่เราก็ไม่อยากให้เพลยลิสต์ของเรามีแต่เพลงช้าๆ ดังนั้นเราเลยขอใส่เพลงจังหวะกลางๆ ไม่เศร้ามาก ของ Charli XCX ที่ประกอบหนังรัก Romantic อย่าง The Fault In our Star

Lost Star – Begin Again

เพลงดาวหลงทาง จากหนังนอกกระแสในตอนแรกอย่าง Begin Again แต่เพลง Ost ที่โดนใจ บวกกับหน้าหนัง Feel Good จึงทำให้ หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก และด้วยความเป็นหนังเกี่ยวกับเพลง จึงเป็นหนึ่งในอัลบั้มประกอบภาพยนตร์ที่น่าเก็บที่สุดในปี 2014

Grateful – Beyond the Lights

หนึ่งในเพลงที่เข้าชิง Oscar ในปีล่าสุดที่ผ่านเพลงจากนักร้องสาว Rita Ora ที่ประกอบเรื่อง Beyond The Light เพลงที่สอนเกี่ยวกับการฟันฝ่าอุปสรรคมากมายที่ถาโถมใส่เพื่อให้เราได้ฟันฝ่าไป

See you again – Fast and Furious 7

เพลงนี้ถ้าจะบอกว่าเป็นการแต่งเพื่อระลึกถึง Paul Walker พระเอกผู้ล่วงลับก็คงไม่ผิด เพราะนี้คือหนังฟอรม์ยักษ์เรื่องสุดท้ายของเขา ที่เขาได้สร้างตำนานมันขึ้นมาเองด้วยตัวเขา โดยเพลงนี้ก็พูดการที่เราต้องจากลา แต่สักวันนึงเราก็ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง

Sam Smith – Writing’s On The Wall

เหมือนจะเป็นของถนัดของหนัง 007 อยู่แล้วที่มักจะเลือกนักร้องตัวเป้งๆ พลังเสียงคุณภาพมาร้องเพลงประกอบหนังแฟรนไชส์ ของพวกเขา ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ Sam Smith เจ้าของเสียงทรงพลังที่จะส่งเพลงนี้ไปเข้าชิง Oscar ปีหน้าสาขาประกอบเพลง Soundtrack แน่นอน

Love Me Like You Do – Fifty Shade of Grey

หนังที่ทำสร้างมาจากนวนิยายยอดฮิตของฝรั่งอเมริกา ที่ต้องบอกว่าเรื่องรายได้ ของหนังก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ที่พีคกว่าคือเพลงที่แทบจะส่งให้ Ellie Goulding ขึ้นไปเป็นนักร้องแถวหน้าอีกหนึ่งคนเลยทีเดียว

Flashlight – Pitch Perfect 2

จากหนังกลุ่มนักร้อง Acapella สาวอย่างเรื่อง Pitch Perfect ที่รอบนี้กลับมาได้ Jessie J มาร่วมถ่ายทอดเพลง Flashlight เพลงที่พูดกับในที่ๆ มืดมิดไร้แสงไฟ แต่ขอมีเธอกับฉันเพียงเท่านั้นก็เป็นดั่งแสงไฟสว่างนำทางกันไป ความหมายมันใช่อะ

Smell Like Teen Spirit – Cobain: Montage of Heck

สุดยอดอมตะเพลงกรันจ์ร๊อค อย่าง Smell Like Teen Spirit แต่กลับมาคราวนี้มันถูกนำมาถ่ายทอดในหนังชีวประวัติของ Kurt Cobain เอง ที่มีการ Cover ใหม่โดยใช้ Violin ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ เรียกได้ว่าเพลงอมตะที่ดีจะเอาไปเล่นใหม่แบบไหนก็ดีไปหมด

King Never Die – Southpaw

เพลงฮิปฮอปจากแร๊ฟเปอร์อย่าง Eminem ที่ได้ Gwen Stefani มาร่วม Feat เพลงนี้อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสมกับเยาวชน แต่มันเป็นเกี่ยวกับต่อสู้ที มีจังหวะสนุกๆ และดุดัน สไตล์ Eminem

Desire – We Are Your Friends

ขอเอาใจคอ EDM ด้วยเพลงจังหวะสนุกๆ ซักหนึ่งเพลงจากหนังพร๊อตเรื่องแนวดนตรี EDM เช่นกัน โดยเพลงนี้ต้นฉบับอาจจะเป็นเพลงที่ไม่ตี้ดอะไรมากมายอย่างเพลง Desire ต้นฉบับของ Years & Years ที่มาคราวนี้ได้ Gryffin มา remix ใหม่ได้สนุกเร้าใจจริงๆ

และนี้ก็เป็นเพลย์ลิสเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เราคัดมาเองไม่ได้อิงจากที่ใดๆ จะเห็นได้ว่ามีเพลงจะมีหลากหลายสไตล์ซึ่งเราก็หวังว่าน่าจะเหมาะกับผู้ชาย UNLOCKMEN ที่มีอยู่หลายๆ สไตล์ เช่นกัน เอาไว้ไปฟังเล่นๆ เวลาว่าง ขึ้นรถไฟฟ้า ขับรถ หรือยิ่งกว่านั้นถ้าเกิดพอฟังเสร็จแล้วได้อารมณ์ ก็อาจจะกลับไปหยิบหนังเรื่องนั้นกลับมาดูอีกครั้งก็เป็นได้

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line