Entertainment

รู้จักวงดนตรีรุ่นใหม่ “Nap A Lean” บทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณเข้าใจตัวตนพวกเขามากขึ้น

By: HYENA August 30, 2017

ในวงการเพลงไทย ถ้าหากเราสังเกตดูจะพบว่า วงดนตรีที่ประสบความสำเร็จหลายต่อหลายวงนั้น ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นกันในเมืองกรุงที่แสนวุ่นวายนี้  เพราะเราพบว่าศิลปินหลายต่อหลายวงนั้น มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนล้านนาของประเทศไทยเรา หรือที่ปัจจุบันคือจังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่จึงเป็นเหมือนแหล่งผลิตศิลปินที่มีชื่อเสียงในบ้านเรามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นวง Hum, ETC, Polycat หรือ Sixty Miles  ซึ่งแต่ละวงก็ประสบความสำเร็จมีเพลงฮิตออกมาให้คนไทยร้องตามกันแทบทั้งนั้น

วันนี้เราจึงถือโอกาสแนะนำวงดนตรีที่มีคุณภาพ และมีจุดเริ่มต้นขึ้นทางตอนเหนือของไทยอย่างจังหวัดเชียงใหม่อีกสักวง นั่นก็คือ Nap A Lean ให้กับนักฟังเพลงทั้งหลายได้รู้จักกัน รวมไปถึงบทสัมภาษณ์ของพวกเขา กับคำถามที่แฟน ๆ  หลายคนอาจจะสงสัยมาให้กับชาว UNLOCKMEN  และแฟนเพลงของ Nap A Lean ได้ดูกันในวันนี้

เริ่มต้นกันจากการทำความรู้จักสมาชิกของวง Nap A Lean กันก่อนเลย โดยสมาชิกของวงนั้นมี 4 คนประกอบด้วย โต้ – ธนพล ทองสวัสดิ์ (ร้องนำ), ฮั้ว – พิสิฐ สมบัติพินพง (กีตาร์), บาส – ปณิธิ สุขสายชล (เบส) และ ดอน – นภัสรพี ยาอินทร์ (กลอง) ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ฟังผลงานซิงเกิ้ล 3 ซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกมาของพวกเขากันไปแล้ว โดยล่าสุดนั่นก็คือเพลง ‘หยุดเลยอย่าร้อง’ ซึ่งทางวงได้บอกกับเรามาว่า หลังจากนี้ยังจะมีอัลบั้มเต็มตามมาให้ฟังกันอีกอย่างแน่นอน

ฮั้ว มือกีต้าร์ของวงเล่าถึงจุดเริ่มต้นของวง Nap A Lean ให้ฟังว่า “จริง ๆ แล้ววงเริ่มต้นขึ้นจาก โต้ กับ ผม 2 คน ซึ่งรู้จักกันอยู่แล้ว เคยเจอกันตามงานประกวดวงดนตรี ตอนแรกอยู่คนละวงกัน วงของโต้นี่จะเป็นวงที่ชนะตลอด ในตอนนั้นผมก็สงสัยเหมือนกันนะว่า ทำไมวงไอ้นักร้องคนนี้มันถึงชนะตลอดผมเลยจำหน้าได้แม่น”

“หลักจากนั้น เวลาก็ผ่านไปตัวผมเองก็เกือบจะเลิกเล่นดนตรีไปแล้ว ตอนนี้ก็เปิดร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ด้วยซึ่งบังเอิญว่ามีลูกค้าคนหนึ่งมาทานอาหารที่ร้านตลอด ก็คือโต้ ที่พอมาทานอาหารก็คอยถามไถ่ว่า เป็นไงยังเล่นกีตาร์อยู่รึเปล่า?  ผมก็บอกว่าก็มีเล่นบ้าง มีแต่งเพลงเอาไว้ แต่วงที่เคยเล่นอยู่ด้วยกันมันแยกย้ายออกไปหมด โต้ก็บอกให้ผมลองเล่นเพลงที่แต่งเอาไว้ให้ฟังหน่อย เผื่อจะเอามาทำกันขำ ๆ ปล่อยลง Youtube ผมก็เลยเอาเพลงที่แต่งไว้ชื่อว่า ‘ได้ยินข่าว’ ให้ฟัง ก็เลยเป็นที่มาของการทำเพลงระหว่างผมกับโต้ในปี 2011 เป็นนักดนตรี Duo 2 คนอยู่ที่เชียงใหม่”

จากที่ทั้ง 2 คน ได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่ชื่อว่า ได้ยินข่าวออกมา ซึ่งในขณะนั้นสมาชิกของวงที่เหลือก็ได้เข้ามาเป็นเบื้องหลังในการทำงานเพลงกันอยู่แล้ว เพียงแต่ยังคงติดภารกิจทั้งการเรียน และการทำงานที่ยังไม่พร้อมมากนักที่จะมาอยู่เบื้องหน้า หลังจากนั้น Nap A Lean ก็มีงานแสดงสดเข้ามาบ้าง

จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปเล่นคอนเสิร์ตงานเดียวกับที่มีศิลปินอย่างวง Mild เล่นด้วย และในวันนี้เองที่บังเอิญทีมงานของค่าย Spicy Disc ได้เห็นแววของวงวงนี้เข้า และชักชวนมาเล่นโชว์บนเวที Melody of Life #7  ที่เป็นงานประจำปีของค่ายเพลง Spicy Disc สุดท้าย Nap A Lean ก็ได้กลายมาเป็นศิลปินสังกัดของพวกเขาอย่างเต็มตัว

จากนั้นวง Nap A Lean ก็ออกซิงเกิ้ลภายใต้การมีสังกัดอย่างเป็นทางการออกมานั่นก็คือ เพลงระวังแตก พร้อมกับเปิดตัวสมาชิกอีก 2 คน ก็คือ บาส และ ดอน ที่ก้าวขึ้นมาสู่เบื้องหน้า เราจึงมีคำถามว่า

หลังจากที่มีค่ายเพลงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงแล้ว การทำงานของทางวงแตกต่างไปจะเมื่อก่อนหรือไม่?

ฮั้ว มือกีต้าร์ของวงตอบว่า “พวกเราทำงานกันเองกันอยู่แล้ว โดยโต้ ก็จะเป็นคนเขียนเนื้อร้องขึ้นมาก่อน” จากนั้นโต้จึงอธิบายถึงรายละเอียดในการเขียนเพลงว่า “โดยปกติเนื้อร้องทั้งหมดจะใช้เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นมาแต่งแทบทั้งหมด เพราะคิดว่าเราจะอินกับมัน และเล่าความรู้สึกนั้นออกมาได้อย่างชัดเจน ผมคิดว่าตัวเองยังไม่เก่งพอที่จะเล่าเรื่องราวที่ไม่เคยเจอมา ไม่เคยรู้สึกให้ออกมาได้แบบชัดเจน ก็เลยไม่เคยที่จะแต่งเนื้อร้องขึ้นมาจากจินตนาการ เพราะรู้สึกว่าทั้งเรา และคนฟังอาจจะสัมผัสถึงอารมณ์นั้นไม่ได้”

“ซึ่งส่วนใหญ่การทำเพลงของพวกเรามักจะเกิดขึ้นจากการซ้อม ซึ่งในตอนนี้เราก็ยังซ้อมอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นก่อนเล่น จะมีงานแสดงหรือไม่มีงานเราก็ซ้อมกันเป็นปกติอยู่แล้ว ไอเดียส่วนใหญ่ในเพลงก็เลยจะออกมาจากตอนซ้อมตอนแจมกันนั่นแหละครับ การทำงานก็เลยเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป”

แล้วยุคสมัย และเทคโนโลยีที่ใหม่ขึ้น มีส่วนเกี่ยวของกับการทำเพลงบ้างรึเปล่า? รู้สึกยังไงกับมันบ้าง?

“เราบอกว่านี่เป็นปี 2017 แล้ว ทุกอย่างมันทันสมัย และเป็นดิจิตอลไปหมด จริงอยู่ที่การทำงานมันอาจจะง่ายขึ้นสะดวกรวดเร็วขึ้น แต่หากพูดกันตรง ๆ  ศิลปินหลาย ๆ คนก็ยังคงพยายามเอาความทันสมัยของยุคดิจิตอลกลับไปหาสิ่งเก่า ๆ อย่างเช่น Sound ดนตรีสมัยก่อน ยังหาความ Vintage กันอยู่ เราเลยมองว่า เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยเพิ่มสีสันมากกว่า เช่น กีต้าร์ อาจจะไม่ได้ทำได้แค่เสียงกีต้าร์อีกต่อไป กลองอาจจะเพิ่มเติมแต่งเสียงสังเคราะห์ได้มากขึ้น เทคโนโลยีช่วยให้ซาวด์ดนตรีมีหลากหลายขึ้น แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการใช้ความคิดอยู่ดี”

สำหรับการทำงานทุกสายอาชีพมักจะต้องมีแรงบันดาลใจเป็นแรงผลักดันทั้งนั้น ทางวง Nap A Lean ส่วนมากได้รับแรงบันดาลใจในการทำเพลงมาจากอะไร?

“คือความตั้งใจก็คงเหมือนกับศิลปินแขนงอื่น ๆ อย่างเช่น นักวาดภาพก็จะวาดภาพใส่ความรู้สึกลงไปในผลงานเพื่อให้มันสื่อสารกับคนที่ได้พบเห็น แต่เราเป็นนักดนตรีเราก็ต้องการจะสื่อสารความรู้สึก หรือบอกเล่าเรื่องราวที่เราอยากนำเสนอผ่านเสียงเพลงให้คนได้ฟัง แรงบันดาลใจส่วนใหญ่ก็เลยมาจากสิ่งที่เราได้เจอมาในแต่ละวัน ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ซึ่งเราใช้เทคนิคนี้มาเป็นแรงบันดาลใจตลอด เวลาที่เราร้องมันออกไปเนี่ย มันจะเห็นภาพอยู่ในหัวชัดเจนเลยว่า เรื่องราวนี้มันเป็นแบบนี้ความรู้สึกแบบนี้ เลยคิดว่านี่คือ แรงบันดาลใจที่ดีในการทำเพลง”

ฟังดูแล้วก็ทำให้รู้สึกได้เลยว่าวง Nap A Lean มีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดความรู้สึกผ่านบทเพลงของพวกเขาไปสู่คนฟังที่อาจจะเคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ กัน อยู่ในความรู้สึกคล้าย ๆ กันกับที่พวกเขาเจอมา นั่นจึงอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมกลุ่มคนฟังของพวกเขาจึงขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อย แต่อยากจะถามทางวงดูบ้างว่า

ตอนนี้คิดว่าวง Nap A Lean อยู่ที่จุดไหนของวงการเพลง และหวังว่าในอนาคตจะไปถึงจุดไหนในวงการเพลงไทย?

“หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพเลยก็คงจะเป็นเหมือนทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง ในตอนแรกวงเรายังไม่มีค่าย ยังทำงานกันเอง ปล่อยซิงเกิ้ลกันเอง พอเริ่มมีคนชอบ มีแฟนเพลงที่คอยติดตามผลงานเรา เราก็รู้สึกดีใจ และพอใจในลำดับหนึ่งแล้ว แต่พอตอนนี้เราขยับขึ้นมาเป็นศิลปินที่มีสังกัด มันก็เหมือนกับทีมฟุตบอลที่เลื่อนชั้นขึ้นมา เราก็เป็นแบบนั้นเราเข้ามาในวงการเพลงเต็มรูปแบบในตอนนี้ ก็เหมือนกับทีมน้องใหม่มาเริ่มที่ท้ายตาราง แล้วก็คงค่อย ๆ พัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ แต่ให้พูดว่าหวังจะสุดที่ตรงไหน เราเชื่อว่าการพัฒนาคงไม่มีวันสิ้นสุดหรอกครับ”

แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้พวกเขาก็ยอมรับว่า มันต้องมีวินัยในตัวเองสำหรับในการใช้ชีวิต และการทำงานมากขึ้น ซึ่งฟังแล้วอาจจะดูเหมือนทำง่าย ๆ แต่มันค่อนข้างจะยาก แต่ถ้าทำได้ด้วยความมีวินัยก็ทำให้ได้ประโยชน์อะไรหลาย ๆ อย่างกลับคืนมาเช่นกัน

“มันไม่ใช่สายอาชีพนักดนตรีที่จะต้องมีวินัยอย่างเดียว จริง ๆ มันก็ทุกอาชีพนั่นแหละครับ อย่างเราถ้าไม่มีวินัย ไม่แบ่งเวลามาซ้อมให้เพียงพอ เราก็ไม่มีวันเก่ง ที่ว่ากันว่าเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็เล่นดนตรีได้แค่ดู Youtube ก็เจอคนสอนเอามาฝึกเองก็ได้ง่ายจะตาย แต่ถึงแบบนั้นก็เถอะ ยังไงถ้าอยากเก่งมันก็ยังคงต้องใช้วินัย และเวลาอยู่ดี ดังนั้นวินัยนี่เป็นสิ่งสำคัญมาก และมีประโยชน์ไม่เคยมีโทษกับใคร”

สังเกตว่า เพลงของ Nap A Lean ส่วนมากนั้นเป็นเพลงที่อารมณ์ และเนื้อหาค่อนข้างเศร้า อยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วเป็นคนดราม่ากันรึเปล่า?

“ก็จริง ๆ มีหลากหลายอารมณ์ครับ ก็เรื่องจริงของคนนั้นคนนี้ของเราที่ได้ฟังมาทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ใช่ว่าชีวิตจะมีแค่เรื่องดราม่าอย่างเดียว เพราะเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มที่จะตามมาก็มาเนื้อหาค่อนข้างหลากหลาย ยังไงก็ต้องรอติดตามฟังกันดูครับ”

มีเพลงสไตล์ไหนที่อยากลองทำอีกบ้างไหม?

“จริง ๆ อะไรใหม่ ๆ มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแหละ อย่างไม่แน่เราไปเที่ยวประเทศจีนกลับมา เราอาจจะไปเอากู่เจิ้งมาเล่นในเพลงก็ได้ ไปเชียงใหม่อาจจะได้รับแรงบันดาลใจเอาซออู้มาสีก็ได้เช่นกัน เราไม่เคยไปตีกรอบว่าเราอยากทำเพลงแนวไหน สไตล์อะไร แค่อยากจะลองทำอะไรใหม่ ๆ ออกมาเป็นผลงาน ๆ ดี มีการพัฒนาให้ทุกคนได้ฟังกันเรียกว่าแบบนั้นจะดีกว่า”

เห็นศิลปินสมัยนี้นิยม Ft. กับศิลปินคนอื่น ๆ อยู่บ่อย ๆ สำหรับว่า Nap A Lean เอง แต่ละคนจะอยากเลือกใครมี Ft. กันบ้าง?

โต้ : จริงๆ แล้ว อยากให้เป็น โต ซิลลี่ฟูล แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ถ้างั้นขอเป็นคุณ ปาล์มมี่ ละกันครับ เพราะเขาคือ นักร้องหญิงที่ผมชอบมากที่สุด

บาส : ขอเลือก วง Soul After Six ครับ คือ วงนี้นี่ถือเป็นไอดอลเลยชอบที่สุด

ฮั้ว : สำหรับผมเลือกวง Modern Dog  ครับ เพราะผมเป็นมือกีต้าร์เลยอยากเล่นกีต้าร์กับ พี่เมธี สักหนึ่งดอก

ดอน : ผมเอา John Mayer ละกัน แต่ถ้าเป็นวงไทยขอเป็น SillyFools เพราะเพลงของเขาไม่ว่าฟังกี่ยุคกี่สมัยก็ยังใหม่ ดูล้ำอย่างกับศิลปินต่างประเทศเลยนะ

เมื่อเป็นนักดนตรีเราเชื่อว่า ต้องมีเพลงดี ๆ ฟังกันอย่างแน่นอน เราจึงอยากให้พวกเขาช่วยจัด Playlists เพลงเจ๋งๆ ให้กับชาว UNLOCKMEN สักหน่อย และนี่คือเพลงทั้งหมดที่สมาชิกวง Nap A Lean เลือกมาให้เราฟังกัน

พื้นที่ว่างเปล่า – The Wanderers

Rosie – John Mayer

อย่าสัญญา – ธาริณี

Spark – Coldplay

วันนี้เมื่อปีก่อน – Modern Dog

The Scientist – Coldplay

ผู้ยิ่งใหญ่ – Sillyfools

Call You Mine – Jeff Barnat

หลังจากที่เราได้ฟังเพลงที่ทางวง Nap A Lean ได้เลือกมาให้กันทุกๆ คน กันไปแล้ว ก็มาถึงคำถามสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เราอยากรู้ว่า วง Nap A Lean ยังมีอะไรที่อยากจะ UNLOCK ตัวเองอีกไหมในอนาคต?

“น่าจะเป็นการเป็นไปเล่นต่างประเทศครับ แบบเล่นแล้วมีคนต่างชาติเข้ามาดู โดยเฉพาะถ้าเป็นที่ประเทศ ญี่ปุ่น อเมริกา และ อังกฤษ ด้วยนี่ผมถือว่า UNLOCK โคตร! คือ เขาบอกว่า ภาษาดนตรีมันเป็นภาษาสากล เราก็อยากจะให้คนต่างชาติได้เข้าใจ และได้เห็นภาษาของเราซึ่งก็คือ ดนตรีที่พวกเราทำ มันจะเจ๋งมากถ้าเราใช้ภาษาของเราไปพูดคุย หรือเล่าเรื่องราวให้ชาวต่างชาติเข้าใจได้ โดยเฉพาะ 3 ประเทศที่บอกไปสักครู่นี้ ซึ่งเป็นที่ที่ดนตรีของเขาได้รับการยอมรับไปทั่วโลกแล้วด้วย มันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก”

หากใครที่ชื่นชอบในผลงานของพวกเขาวง Nap A Lean ก็เข้าไปติดตามผลงานใหม่ ๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวของวงได้ที่ Facebook ของวง หรือจะผ่านทาง Facebook Page ของค่าย SPICYDISC ก็ได้เช่นกัน ถ้าหากว่าพวกเขามีงานเล่นที่ไหน ก็อย่าลืมแวะไปชมไปเชียร์กันได้นะครับ

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line