Entertainment

NIHON STORIES: “ชีวิตพวกชนชั้นต่ำเป็นของเผ่ามังกรฟ้า”สังคมบนยอดพิระมิดของ ONE PIECE

By: TOIISAN March 30, 2020

คนที่อ่านมังงะเรื่องวันพีซ (One Piece) มาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จักชนชั้นสูงของโลกที่เรียกว่า “เผ่ามังกรฟ้า” และ UNLOCKMEN เชื่อว่าเกือบทุกคนจะต้องหมั่นไส้ตัวละครกลุ่มนี้มากแน่นอน เพราะพวกเขาไม่เคยแคร์คนอื่น ห้ามใครขัดใจ คิดว่าตัวเองเป็นเทพเจ้า ใครขัดขืนเผ่ามังกรฟ้า ถ้าไม่ถูกเอาไปเป็นทาสต้องพบกับความตาย แล้วเพราะอะไรพวกเขาถึงยิ่งใหญ่คับฟ้าขนาดนี้ ?

เผ่ามังกรฟ้า (Celestial Dragons) ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันพีซตอนที่ 497 พวกเขาเป็นสมาชิกของราชวงศ์เก่าแก่ 20 ตระกูล ที่ร่วมกันสร้างรัฐบาลโลกเมื่อ 800 ปีก่อน เมื่อสงครามใหญ่จบลงพวกเขาพากันไปใช้ชีวิตอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แมรี่โจอาหรือแมรีจัวส์ (Mariejois) ผืนแผ่นดินที่ตั้งอยู่บนยอดของเรดไลน์ พร้อมกับคัดเลือกคนที่เหมาะสมให้มาปกครองดินแดนต่าง ๆ แทนตัวเองที่ย้ายไปอยู่ยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เผ่ามังกรฟ้าตระกูลเนเฟลตาลี (Nefertari) ขอเลือกใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินปกติตามเดิม และลูกหลานของตระกูลนี้เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางกลุ่มตัวละครหลักของเรื่อง

เรื่องราวของเผ่ามังกรฟ้าที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับพระเจ้าถูกอาจารย์โอดะค่อย ๆ สอดแทรกอยู่ในช่องสี่เหลี่ยมของหนังสือการ์ตูน ทำให้คนอ่านตามเก็บรายละเอียด รับรู้เรื่องราวของชนชั้นสูงในโลกวันพีซว่าพวกเขายิ่งใหญ่ ถูกเรียกว่า ‘สายเลือดของพระเจ้า’ และไม่ค่อยสุงสิงกับพวกมนุษย์ชั้นต่ำ

เราจะได้เห็นแฟชั่นของชนเผ่ามังกรฟ้าแบบเต็ม ๆ ครั้งแรกเมื่อพวกลูฟี่มาเยือนยังหมู่เกาะชาบอนดี้ เผ่ามังกรฟ้าจะไม่ใช้อากาศหายใจร่วมกับมนุษย์คนอื่น ๆ พวกเขาแต่งตัวเหมือนกับมนุษย์อวกาศ รวมถึงสัตว์เลี้ยงมีค่ามากกว่าคนทั่วไป ไม่ค่อยออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ถ้าจะลงมาข้างล่างพวกเขามักแวะเวียนมายังหมู่เกาะชาบอนดี้อยู่บ่อย ๆ เพราะเกาะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของโรงประมูลทาสที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

เผ่ามังกรฟ้าเวลาออกจากแมรี่โจอาแต่ละครั้งมักสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน พวกเขามีบอดี้การ์ดกับคนรับใช้ที่เป็นเหมือนพ่อบ้านตามติดเป็นขบวน เมื่อเดินไปไหนประชาชนต้องหยุดทุกสิ่งที่ทำอยู่และคุกเข่าก้มหัวให้พวกเขา ห้ามยืน ห้ามสบตา ห้ามเดินตัดหน้า ห้ามต่อต้านไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร เพราะเผ่ามังกรฟ้าคือกลุ่มคนที่รัฐบาลโลกบอกว่าสืบสายสายเลือดจากพระเจ้าผู้สร้างโลก

นอกจากบอดี้การ์ดกับเหล่าคนรับใช้ในขบวนจะมีสามัญชนถูกลดชั้นเป็นทาสเดินอยู่ด้วย บางครั้งพวกเขาถูกทุบตี ตัดลิ้น หรือทำตัวเป็นสุนัขรับใช้ให้เผ่ามังกรฟ้านั่งอยู่บนหลัง ทาสทุกคนจะถูกสวมปลอกคอระเบิดทำจากหินไคโรเซกิ (หินที่มีคุณสมบัติเหมือนน้ำทะเล ทำให้ผู้มีพลังจากผลปีศาจอ่อนแรงกลายเป็นคนธรรมดา) บังคับให้กินยาระงับประสาทเพื่อให้ทาสที่ไม่เต็มใจไม่สามารถต่อต้านได้ ประทับสัญลักษณ์รอยเท้ามังกรไว้บนร่างกายของทาสที่ซื้อมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนพวกนี้ต่ำกว่ามนุษย์และเป็นสิ่งของของมังกรฟ้า 

หากโจรสลัดเป็นอาชญากรนอกกฎหมายสุดเลวร้าย แล้วทำไมการลักพาตัวและซื้อขายทาสถึงกลายเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่สนใจ ?

คำตอบเข้าท่าที่สุดที่ทำให้รัฐบาลโลกหรือกองทัพเรือทำเป็นไม่เห็นโรงประมูลทาส อาจเป็นเพราะชนชั้นสูงของโลกนิยมสะสมทาสเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐี กษัตริย์จากเมืองต่าง ๆ ไปจนถึงเผ่ามังกรฟ้า พวกเขานิยมชมชอบสะสมทาสชายร่างกายกำยำ สาวงาม และนางเงือกหายาก โดยมนุษย์จะมีราคาซื้อ-ขาย เริ่มต้นที่ 500,000 เบรี แต่นางเงือกมีราคาเริ่มต้นที่ 70,000,000 เบรี เพราะพวกเธอว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในโลก แถมพวกล่าทาสส่วนใหญ่ก็ไม่เก่งกาจพอจะว่ายน้ำจับนางเงือกได้ทัน

เมื่อเงือกสาวเคมี่ถูกจับมาเปิดประมูลสามารถสร้างเสียงฮือฮาในหมู่นักประมูลเป็นอย่างมาก เธอถูกเซนต์ ชาลูลอส จากตระกูลเผ่ามังกรฟ้าทุ่มเงินประมูลด้วยราคามหาศาลถึง 500,000,000 เบรี และถ้าไม่ได้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางช่วยเอาไว้ เงือกสาวคนนี้จะหมดสิ้นอิสรภาพกลายเป็นของเล่นว่ายวนอยู่ในตู้ปลาแคบๆ ของคนรวย

“ชีวิตของพวกชนชั้นต่ำเป็นของเผ่ามังกรฟ้า”

“ใครก็ตามที่ทำร้ายเผ่ามังกรฟ้า พลเอกของศูนย์บัญชาการกองทัพเรือจะยกทัพมาที่นี่” ทำให้สมาชิกของเผ่ามังกรฟ้าสามารถทำตามใจตัวเองได้ทุกอย่าง ยิงใครก็ได้ เตะใครก็ได้ เอาใครไปเป็นเมียก็ได้ เพราะพวกเขามีสิทธิขาดในตัวประชาชนทุกคน จนเมื่อลูฟี่ตัวเอกของเรื่องตัดสินใจต่อยหน้าของเผ่ามังกรฟ้า เหล่าพลเอกต้องนำกองกำลังรบที่แข็งแกร่งมายังโรงประมูลทาสอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องสมาชิกเผ่ามังกรฟ้าและจัดการคนที่แตะต้องสายเลือดของพระเจ้า

สมาชิกกลุ่มหมวกฟางต้องชดใช้การทำร้ายเผ่ามังกรฟ้าด้วยการหนีหัวซุกหัวซุน พวกเขาในตอนนั้นยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับพลเอกและแปซิสฟิต้าได้ และท่ามกลางการต่อสู้ที่วุ่นวายพวกเขาถูกเจ็ดเทพโจรสลัดช่วยเหลืออย่างลับ ๆ ด้วยการส่งสมาชิกของกลุ่มหมวกฟางไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วโลก

เผ่ามังกรฟ้าสร้างความเกรงกลัวปนเกลียดชังไปทั่วทุกพื้นที่ แต่ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้เพราะพวกเขามีรัฐบาลโลกหนุนหลังอยู่ ดังเช่นในวันพีซตอน 763 ดองกี้โฮเต้ โฮมมิ่ง ขุนนางโลกจากเผ่ามังกรฟ้าจะขอละทิ้งตำแหน่งพระเจ้ากลับลงสู่โลกไปเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดา ผลของการเลือกที่ผิดพลาดทำให้ตระกูลดองกี้โฮเต้ที่ทิ้งสถานะพิเศษกลายเป็นที่ระบายความเกลียดชังของผู้คน พวกเขาโดนล่าแม่มดแม้จะเป็นคนดี

โฮมมิ่งหัวหน้าครอบครัวดองกี้โฮเต้ประมาทและคิดง่ายเกินไป เขาไม่รู้ว่าผู้คนส่วนใหญ่เกลียดชังเผ่ามังกรฟ้า เมื่อทิ้งทุกอย่างลงมาเป็นคนธรรมดาก็ไม่มีใครต้อนรับ

ลูกของชาวบ้านบางคนอายุเพียง 2 ขวบ กับ 5 ขวบ วิ่งชนเผ่ามังกรฟ้าเลยถูกลงโทษด้วยการระดมยิง 16 ครั้ง จนเด็ก ๆ ตายคาที่ ชายคนหนึ่งตะโกนด่าตระกูลดองกี้โฮเต้ว่าตัวเองเคยเป็นทาส โดนควักลูกตาทั้งสองข้างเพียงเพราะสนองความบันเทิงของเผ่ามังกรฟ้า ลูกสาวของแม่บ้านคนหนึ่งถูกส่งกลับมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในสภาพยับเยิน หมดสิ้นความเป็นมนุษย์โดยไม่บอกว่าเธอโดนอะไรมาบ้าง แต่สุดท้ายแม้หลุดพ้นจากการเป็นทาสกลับมาเป็นมนุษย์ชั้นต่ำสามวันให้หลังเธอฆ่าตัวตาย

ทั้งหมดเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวความเจ็บปวดของคนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของพวกมังกรฟ้า ไม่แปลกใจที่พอคนรู้ว่ามีคนจากเผ่ามังกรฟ้าลงมาอาศัยปะปนอยู่กับคนธรรมดา แล้วไม่มีใครอยากเป็นมิตรด้วยแม้ว่าเขาจะเป็นคนดีแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายประชาชนจับโฮมมิ่งและลูกน้อยสองคนขึงหน้าต่างพร้อมสาปส่งความแค้นที่ตัวเองได้รับ

“พวกมังกรฟ้าอย่างแกเคยหิวบ้างรึเปล่า เคยเจ็บปวด เคยโศกเศร้าบ้างไหม ?”

กรณีของโฮมมิ่งจากตระกูลดองกี้โฮเต้แสดงให้เห็นถึงจุดจบของคนที่ถอดสถานะ ‘พระเจ้า’ แล้วลงมาใช้ชีวิตกับคนมันไม่ง่ายเหมือนอย่างจินตนาการ แสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำไม่มีวันต่อกันติดระหว่างประชาชนกับชนชั้นสูง หรืออย่างกรณีเจ้าหญิงจากดินแดนใต้สมุทรขึ้นมาร่วมงานประชุมโลกที่จัดขึ้นทุก 4 ปี ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แมรีโจอา ก็เกิดความวุ่นวายเพราะเธอเป็นที่ต้องตาของสมาชิกเผ่ามังกรฟ้า เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากความพึงพอใจของตัวเอง

เจ้าหญิงเงือกถูกเซนต์ ชาลูลอส ชายบ้าคลั่งสะสมทาสจากเผ่ามังกรฟ้าทำการอุกอาจจ้องจับเจ้าหญิงเงือกเป็นสัตว์เลี้ยงโดยไม่สนเรื่องการทูต ไม่แม้แต่เฉลียวใจว่าการกระทำตามใจตัวเองอาจก่อให้โลกเกิดสงคราม และไม่มีใครสามารถต่อต้านเผ่ามังกรฟ้าได้นอกจากเผ่ามังกรฟ้าด้วยกันเอง

วันพีซตอนที่ 907 อาจารย์โอตะแสดงให้เห็นมิติที่ซับซ้อนมากขึ้นของพวกชนชั้นสูงที่ถูกเรียกว่าพระเจ้า ผ่านตัวละครที่ชื่อว่า ดองกี้โฮเต้ มิยอส์การ์ด ชายจากเผ่ามังกรฟ้าที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเจ้าหญิงเงือก เขาเคยเป็นคนที่มีทัศนคติไม่ต่างจากเซนต์ ชาลูลอส แต่สุดท้ายกลับตัวกลับใจ เข้าใจโลกมากขึ้นจากการได้ไปเยือนโลกภายนอกและถูกมนุษย์เงือกที่พวกเขามองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำช่วยชีวิตเอาไว้ ทำให้เห็นว่าจิตใจของคนเราสามารถเปลี่ยนได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นคนดีได้เหมือนอย่างที่คนอ่านวันพีซส่วนใหญ่มั่นใจว่าเซนต์ ชาลูลอส คงไม่มีวันเป็นคนดี

วันพีซถือเป็นมังงะที่ซ่อนเรื่องราวลึกซึ้งผ่านลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ การเล่าเรื่องราวแต่ละอย่างสะท้อนถึงวิถีชีวิต ชนชั้น สังคม และการเหยียดเชื้อชาติ รวมถึงเรื่องราวของเผ่ามังกรฟ้าที่เผยให้เห็นว่าการเปิดหูเปิดตามารับฟังเสียงของประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากนี้วันพีซยังไม่ยอมเฉลยสักทีว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง “ร้อยปีแห่งความว่างเปล่า” ที่ทำให้เผ่ามังกรฟ้าสามารถขึ้นมามีอำนาจคับฟ้าได้ขนาดนี้ หรือแท้จริงแล้วคนพวกนี้อาจเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่มีไว้ควบคุมสังคมเท่านั้น ? ปริศนาคาใจกับตัวละครที่คนอ่านอย่างพวกเราแสนจะเกลียดยิ่งกว่าโจรสลัดตัวร้ายคงจะถูกเปิดเผยในสักวันหนึ่ง หวังว่าชนชั้น ทาส และความไม่เท่าเทียมจะหมดไปจากโลกของวันพีซเสียที

 

SOURCE 1 / 2

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line