Entertainment

NIHON STORIES: ONE PIECE THE MOVIE การเติบโตด้วยก้าวเดินที่มั่นคงของแอนิเมชันโจรสลัด

By: TOIISAN September 20, 2019

“ฉันต้องเป็นราชาโจรสลัดให้ได้เลย!”

สำหรับแฟน ๆ การ์ตูนเรื่อง One Piece ต้องคุ้นเคยกับประโยคแสนมุ่งมั่นของลูฟี่หมวกฟางอย่างแน่นอน การ์ตูนโจรสลัดอารมณ์ดีที่ผู้ชายหลายคนเฝ้าอ่านเฝ้าติดตามดูเรื่องราวของกลุ่มโจรสลัดนี้เรื่อยมาตั้งแต่เด็กจนโต และไม่น่าเชื่อว่าในปี 2019 แอนิเมชันเรื่อง One Piece จะเดินทางมาถึงปีที่ 20 แล้ว พร้อมกับการปล่อยตัวอย่างของแอนิเมชัน The Movie ลำดับที่ 14 ที่จัดเต็มความยิ่งใหญ่สำหรับเรื่องราวกว่า 20 ปี อันแสนยาวนาน

UNLOCKMEN เองก็เป็นแฟนคลับการ์ตูน One Piece ไม่ต่างจากใคร ๆ ดังนั้นเมื่อแอนิเมชันเรื่องนี้เข้าฉายในประเทศไทยแถมยังครบรอบ 20 ปีอีก เราจึงไม่พลาดหยิบเรื่องราวของ One Piece The Movie มาร้อยเรียงให้เห็นถึงการเติบโตมาด้วยกันระหว่างคนดูและตัวละคร พร้อมกับพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความทรงจำ และความประทับใจที่ได้จากการ์ตูนเรื่องนี้ร่วมกัน

 

แต่ละก้าวเดินของ ONE PIECE THE MOVIE 

นับตั้งแต่ One Piece The Movie ภาคแรกออกฉายเมื่อปี 2000 เราจะเห็นพัฒนาการเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบทภาพยนตร์ การกำกับ วิชวลเอฟเฟกต์ และความผูกพันที่ปฏิเสธไม่ได้ระหว่างตัวละครกับคนดู โดยแต่ละภาคก็โดดเด่นไม่เหมือนกัน อย่างภาค Strong World (2009) ก็ชูเรื่องมิตรภาพของกลุ่มหมวกฟางและการต่อสู้กับ ชิกิ ราชสีห์ทองคำ เพื่อพานามิที่ถูกชิงตัวไปกลับมาพร้อมกับหยุดความปั่นป่วนของทะเลอิสต์บลูที่กำลังเข้าสู่วิกฤต 

ส่วนภาค Film Z (2012) โดดเด่นด้วยอุดมการณ์ที่มีมิติของ เซเฟอร์ แขนดำ อดีตพลเรือเอกกองทัพเรือไม่พอใจกับความเหลาะแหละของทหารจึงออกมาตั้งกลุ่มนีโอกองทัพเรือของตัวเองเพื่อกวาดล้างโจรสลัดทั่วทุกย่านน้ำ เห็นมุมมองของแต่ละฝ่ายทั้งทหารเรือผู้แบกคำว่าความยุติธรรมไว้บนบ่า เห็นมุมมองของคนที่โกรธแค้นโจรสลัดไม่พอใจแค่การจับกุมคุมขัง หรือมุมมองของโจรสลัดเองที่ทำให้เราเห็นว่าพวกเขาไม่ใช่คนดีแต่ก็ไม่ได้ชั่วร้ายไปเสียทุกคน

มาจนถึงภาค Film Gold (2016) ที่ทำให้เห็นถึงช่องว่างของสังคม เห็นความมั่งคั่งของเจ้าพ่อคาสิโน กิลด์ เตโซโร บุรุษผู้ถูกเรียกว่าร่ำรวยที่สุดในโลกซึ่งซ่อนปมอดีตอันแสนเจ็บปวดเอาไว้ โดยเนื้อเรื่องรวมถึงตัวร้ายของทุกภาคต่างก็มีภูมิหลังและความน่าสนใจต่างกันไป 

สำหรับ One Piece Stampede (2019) ถือเป็นโอกาสดีที่จะทำให้แฟน ๆ แอนิเมชันเรื่องนี้หายคิดถึง ซึ่งเป็นแอนิเมชันฉลองครบรอบ 20 ปีพอดี ทำให้แฟนของเรื่องนี้คาดหวังกันมากถึงความยิ่งใหญ่ เนื้อเรื่องที่หนักแน่น และฉากต่อสู้สุดอลังการของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางและบอสใหญ่ตัวร้าย ซึ่งทางค่ายก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อตัวอย่างแรกถูกปล่อยออกมาคุ้มค่าการรอคอย เหนือกว่าที่ใครหลายคนคาดไว้ เช่น การรวมตัวของโจรสลัดทั่วโลก และการกล่าวถึงสมบัติปลายสุดของทะเลอย่าง One Piece

 

งานชุมนุมโจรสลัดสุดยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

One Piece Stampede (2019) คือชื่อภาคของ The Movie 14 กับเรื่องราวของงานเทศกาลโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมากำลังจะถูกจัดขึ้น ณ เกาะเดลต้า โดย บูเอน่า เฟสต้า เจ้าพ่อแห่งการจัดอีเวนต์ ที่ร่วมมือกับ ดักลาส บาเล็ต ชายอันตรายผู้ได้ฉายาว่า ทายาทปีศาจ อดีตลูกเรือของเจ้าแห่งโจรสลัดโกลด์ ดี โรเจอร์ ซึ่งแหกคุกอิมเพลดาวน์ชั้นเลเวล 6 ออกมา พร้อมกับร่อนบัตรเชิญไปให้โจรสลัดทุกคน ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจในงานมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการประลองเพื่อค้นหาสมบัติของโกลด์ โรเจอร์

การเชื้อเชิญแสนเย้ายวนใจนี้ต่างทำให้โจรสลัดทั่วทั้งมหาสมุทรยอมแล่นเรือเพื่อมาเข้าร่วมเทศกาล เราจึงมีโอกาสได้เห็นโจรสลัดกลุ่มต่าง ๆ เคยปรากฏตัวทั้งหน้าหนังสือการ์ตูนและแอนิเมชันพร้อมกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เหล่าโจรสลัดที่ประกาศตัวว่าเป็นพันธมิตรของกลุ่มหมวกฟาง รุกกี้แห่งยุคสมัยที่เลวร้าย เจ็ดเทพโจรสลัด ซึ่งทั้งหมดมีค่าหัวรวมกันไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านเบรีแน่นอน

ไม่ใช่แค่เหล่าโจรสลัดเท่านั้นยังมีเหล่าทหารจากกองทัพเรือทั้งที่เตรียมสั่งบัสเตอร์คอลหวังจับโจรสลัดที่มาร่วมงาน ไปจนถึงกองทัพปฏิวัติที่แทรกซึมเข้ามาดูความเคลื่อนไหว นักล่าค่าหัวที่หวังเงินจากโจรสลัดที่มาร่วมงาน และ CP-0 สายลับของรัฐบาลโลกผู้ขึ้นตรงต่อเผ่ามังกรฟ้า ทำให้ใครหลายคนที่ได้ไปดูแล้วต้องบอกว่าตัวละครเกือบหมดทั้งเรื่องถูกขนมารียูเนียนอยู่ใน The Movie ภาคเดียว

ด้วยจำนวนตัวละครที่มากมายยากจะนับหมดว่ามีใครบ้าง ทำให้การกระจายบทจะต้องถูกสับแบ่งอย่างละเอียด ถึงแม้จะออกมาคนละนิดละหน่อย บางตัวที่รอดูดันออกมาน้อยเกินไปบ้างก็เชื่อเถอะครับว่าแค่ได้เห็นชั่วครู่ก็สามารถทำให้ยิ้มได้และหายคิดถึงแน่นอน และนอกจากนี้งานเทศกาลที่ว่าเป็นเพียงแค่ฉากหน้าของบูเอน่าและดักลาสเท่านั้น ภายใต้งานรื่นเริงพวกเขากำลังวางแผนที่จะกระทำบางสิ่งกับเหล่าโจรสลัดที่มาร่วมงาน 

สำหรับสาวก One Piece บางคนอาจจะพลาดเรื่องราวก่อนเข้าสู่ The Movie 14 ไป เราจึงขออนุญาตแนะนำคนที่กำลังเตรียมตัวไปดูในโรงภาพยนตร์ว่าหากคุณมีเวลาก็ลองแวะดู One Piece ตอนที่ 895-896 กันก่อน เพราะสองตอนนี้เป็นเนื้อเรื่องเสริมที่เอ่ยถึงเทศกาลโจรสลัด เราจะได้เห็นการพบกันของลูฟี่กับจักรพรรดินีโจรสลัดโบอา แฮนค็อก ที่เกาะแห่งหนึ่งพร้อมกับรู้เรื่องของเทศกาลโจรสลัดที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเนื้อเรื่องเสริมทั้งสองตอนอาจจะเพิ่มอรรถรสก่อนไปดูภาค The Movie ในโรงหนังได้ไม่มากก็น้อย

 

การเติบโตในแง่ของรายได้ 

One Piece ถือเป็นหนังสือการ์ตูนและแอนิเมชันที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนทุกเพศทุกวัยต่างก็รู้จักการ์ตูนโจรสลัดเรื่องนี้ ด้วยการรู้จักที่เป็นวงกว้างมากขึ้นทำให้ One Piece The Movie แต่ละภาคมีรายได้ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

หากจะให้เริ่มนับตั้งแต่ One Piece The Movie ตั้งแต่ภาคแรกอาจจะต้องร่ายกันยาวเหยียดและไม่มีท่าทีว่าจะจบง่าย ๆ ในคอนเทนต์เดียว ดังนั้นเราจึงขอเริ่มที่ภาค Strong World (2009) ซึ่งเป็นภาคแรกของ The Movie ที่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของประเทศไทย เพื่อให้เห็นการเติบโตอย่างมั่นคงของแอนิเมชันเรื่องนี้ แอนิเมชันภาค Strong World ออกฉายวันแรกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2009 เก็บรายได้วันแรกไป 553 ล้านเยน และทำรายได้ช่วงสุดสัปดาห์ไว้ที่ 1,038 ล้านเยน พร้อมกับรายได้ตลอดการออกฉายในโรงภาพยนตร์ 4,800 ล้านเยน

Film Z (2012) แอนิเมชันฉลองครบรอบ 15 ปี สามารถทำยอดขายตั๋วหนังวันแรกได้ 600,000 ใบ จากโรงฉายทั้งหมด 300 โรงทั่วญี่ปุ่น และทำรายได้ไป 750 ล้านเยนในวันแรก ซึ่งหลังจากเข้าฉายวันแรกยอดขายตั๋วก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิน 4 ล้านใบ ภายในเวลา 20 วันโค่นสถิติของ Strong World (2009) ภาคก่อนหน้าที่ทำยอดขาย 3.85 ล้านใบ ด้วยเวลา 20 วัน ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ที่จำหน่ายตั๋วได้เร็วที่สุดประจำปี 2012 สามารถทำรายได้รวม 6,840 ล้านเยน สูงกว่าภาค Strong World (2009) มากถึง 145.6%

ส่วนภาค Film Gold (2016) เปิดตัววันแรกด้วยผู้ชม 478,528 คน คิดเป็นเงินราว 675 ล้านเยน ซึ่งถือว่าน้อยกว่าภาคก่อนหน้า ถึงแม้ว่ารายได้เปิดตัวจะน้อยกว่าแต่ Film Gold ก็สามารถล้มแชมป์เก่าด้วยการทำลายสถิติยอดเปิดตัววันแรกประจำปี 2016 ของญี่ปุ่น ที่ยอดนักสืบจิ๋วโคนันจาก Detective Conan: The Darkest Nightmare (2016) เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ และทำรายได้ตลอดการเข้าฉายทั้งหมดไป 5,100 ล้านเยน

One Piece Stampede (2019) สามารถทำยอดซื้อตั๋วจากการเข้าฉายวันแรก 356,052 ใบ นับเป็นอีกครั้งที่ยอดขายวันแรกน้อยกว่าภาค Film Z (2012) ที่เคยทำไว้สูงถึง 600,000 ใบ ถึงแม้จะเริ่มต้นได้ไม่เท่าภาคก่อนแต่ตอนนี้ถือว่า One Piece Stampede กำลังอยู่ในช่วงแรงดีไม่มีตกกวาดรายได้ไปทั่วเกาะญี่ปุ่นสูงถึง 1,960 ล้านเยน ตั้งแต่ 5 วันแรกที่ออกฉาย แซงสถิติ 5 วัน ของแอนิเมชันภาพสวยอย่าง Your Name (2016) ผลงานจากผู้กำกับชื่อดังมาโกโตะ ชินไก และก็ทำเงินเพิ่มขึ้นไม่หยุดจนครบ 7 วันก็ทำรายได้สูงถึง 2,555 ล้านเยน 

หลังจากออกฉาย 9 วัน One Piece Stampede ก็สามารถทำลายสถิติรายได้ทะลุ 3,000 ล้านเยน ขึ้นเป็นแอนิเมชันที่ทำรายได้ 3,000 ล้านเยน เร็วที่สุดของบริษัทเทโอตั้งแต่ปี 2000 พร้อมกับยอดจำหน่ายตั๋วกว่า 2.31 ล้านใบ และล่าสุดทำรายได้ผ่านหลัก 5,000 ล้านเยน (ประมาณ 1.4 พันล้านบาท) แซงกำแพงของตัวเองอย่าง Film Z ไปแล้วเรียบร้อย แต่ก็ยังคงต้องสู้กับแอนิเมชันเรื่องอื่น ๆ ที่เข้าฉายพร้อมกันอย่าง The Lion King (2019) และ Weathering with You (2019) 

ถือว่ากระแสดีมาก ๆ สำหรับ The Movie ภาคล่าสุด ที่ยังไม่สามารถเคาะรายได้ทั้งหมดในตอนนี้เพราะแอนิเมชันยังคงตีตลาดทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง แต่แฟน ๆ หลายคนต่างก็ลุ้นว่า One Piece Stampede จะสามารถพาแฟรนไชส์โจรสลัดไปถึง 10,000 ล้านเยน ได้หรือไม่ก็คงต้องคิดตามและลุ้นไปพร้อมกัน

หนุ่ม ๆ คนไหนที่โตมากับการ์ตูนเรื่องนี้อย่าลืมไปดู One Piece Stampede ผลงานจากผู้กำกับทากาชิ โอตสึกะ ที่เกิดจากลายเส้นสุดสร้างสรรค์ของอาจารย์เออิชิโร โอดะ กันนะครับ

ถึงแม้ว่าบางเรื่องอย่างเสียงพากย์หรืออะไรก็ตามอาจไม่ถูกใจเรา แต่การเข้าไปพบกับการ์ตูนที่ชอบร่วมกับคนอื่นที่ชอบเหมือนกันก็เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจไม่น้อย และใครที่ไปดูมาเรียบร้อยแล้วสามารถกระซิบบอกได้ว่าให้กันกี่คะแนน มีอะไรที่ชอบและไม่ชอบในเรื่องนี้บ้าง แต่จะห้ามอย่างเดียวคือห้ามสปอยล์กันนะครับ!

 

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line