World

NIHON STORIES: เมื่อ YAMAGUCHI-KUMI แก๊งยากูซ่าอันดับหนึ่งต้องงดประชุมใหญ่เพราะไวรัส

By: unlockmen May 16, 2020

ก่อนหน้านี้ UNLOCKMEN เคยเล่าเรื่องราวการต่อสู้และความทะเยอทะยานจากดินสู่ดาวของแก๊งยากูซ่าที่สุดของเกาะญี่ปุ่น ยามากูจิ-คูมิ (Yamaguchi-Gumi) ไว้ใน NIHON STORIES: YAMAGUCHI GUMI จากอัธพาลย่านคันไซสู่ยากูซ่าผู้ทรงอิทธิพลของญี่ปุ่น  ทำให้เห็นความโหด ความเด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสีย ระบบองค์กรยากูซ่าอันซับซ้อนมีลำดับขั้นไม่ต่างกับสำนักงาน แต่วันนี้ความยิ่งใหญ่ทุกอย่างของแก๊งกลับต้องชะงักอย่างเลี่ยงไม่ได้

สำนักข่าวในญี่ปุ่นพากันตีข่าวใหญ่เกี่ยวกับยากูซ่าอันดับหนึ่งของประเทศ พวกเขาไม่สามารถจัดการประชุมสำคัญซึ่งเป็นธรรมเนียมทำกันมาเป็นประจำทุกปีได้สาเหตุสำคัญ เหตุผลหลักที่ต้องยกเลิกเป็นเพราะสมาชิกระดับหัวหน้าล้วนมีอายุมาก บอสใหญ่ไต่เต้าจากแก๊งสาขานาโกย่ามาเป็นผู้นำสูงสุดรุ่นที่ 6 ของแก๊ง ชิโนดะ เคนอิจิ (Shinoda Kenishi) และเบอร์สองของแก๊งอย่างนายน้อยทากายามะ คิโยชิ (Takayama Kiyoshi) มือขวาที่เปรียบเสมือนคู่หูคู่คิดของชิโนดะ แม้ทั้งสองจะลุยมาทุกสมรภูมิเดือด แต่ปัจจุบันสองคนมีอายุมากทำให้เสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ผลจากการศึกษาไวรัสโควิด-19 ของศูนย์วิจัยหลายแห่งต่างลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ชายสูงวัยมีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส จนทำให้เสียชีวิตง่ายกว่าผู้หญิงหรือคนอายุยังน้อย รวมถึงชายจากยุค 70-80 ที่มีรอยสักเต็มตัวและมีประวัติใช้สารเสพติดจะยิ่งเพิ่มโอกาสติดเชื้อไวรัสมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ เพราะตับที่ทำงานหนักจากรอยแผลทั่วร่าง (รอยสัก) ควบคู่กับการดื่มเหล้าใช้ยาจนร่างกายอ่อนแอ เสี่ยงให้ยากูซ่าระดับบิ๊ก ๆ เข้าใกล้ความตายได้ง่ายขึ้น

ผลคือตอนนี้งานประชุมใหญ่ที่สร้างความตื่นตระหนกให้ผู้คนแถวสำนักงาน สื่อญี่ปุ่น รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องมาคอยเฝ้าระวังทุกปีต้องพับแผนการเดิมทั้งหมดทิ้ง

นอกจากนี้ สำนักข่าวญี่ปุ่นยังรายงานอีกว่า สมาชิกของแก๊งทั้งระดับสูงไปจนถึงระดับล่าง ต่างแสดงความกังวล พวกเขารู้สึกอ่อนไหวกับเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะพวกผู้นำล้วนเป็นชายสูงวัย มีการอ้างอิงถึงคำพูดของสมาชิกแก๊งยามากูจิ-คูมิ บางคนว่า “ทุกวันนี้เดินทางไปทำงานยังสำนักงานแล้วก็กลับ ไม่สามารถไปเที่ยวเตร่ ดื่มเหล้า หรือนัดเจอกับสมาชิกคนอื่นได้เลย”

 

ไม่ใช่แค่ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของกลุ่มผู้นำระดับสูงที่น่ากังวล เรื่องของส่วนแบ่งการตกลงผลประโยชน์ก็สร้างความตึงเครียดให้กับกลุ่มยากูซ่าไม่น้อย แต่เดิมการประชุมที่จัดขึ้นทุกปีจะมีการพูดคุยเรื่องธุรกิจสีเทา สรุปผลประจำปี ปัญหาที่ยากูซ่าในแต่ละย่านพบเจอ และการรับมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทว่าเมื่องานประชุมไม่สามารถจัดขึ้นได้ การบริหารงานของแก๊งก็ดูจะยากขึ้นกว่าเดิมมาก

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลายากลำบากที่สุดยังคงมีแสงสว่างเสมอ พวกเขามองหาลู่ทางทำเงินช่วงไวรัสระบาด ด้วยการเป็นพ่อค้าคนกลางหากำไรจากการขายเวชภัณฑ์ แก๊งยากูซ่าขนาดใหญ่หลายกลุ่มมักมีเส้นสายอยู่แทบทุกวงการ พร้อมกับออกไปแจกอาหารน้ำดื่มให้กับคนไร้บ้านหรือใครก็ตามที่ต้องการอาหารฟรี แถมพวกนักเลงหลายย่านก็แจกหน้ากากอนามัยกับเจลล้างมือให้กับโรงเรียนอนุบาลแบบฟรี ๆ (เบื้องหน้าแจกฟรีแต่เบื้องหลังขายเก็งกำไร) ในเวลาที่ผู้คนไม่สามารถหาซื้อของเหล่านี้ได้ พวกเขายื่นสิ่งที่คนต้องการให้แบบไม่คิดเงิน

 

นอกจากนี้ยากูซ่ายังยื่นมือเข้าไปในสเกลใหญ่ระดับประเทศ อย่างการเสนอตัวช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดเรือสำราญไดมอน ปริ๊นเซส (Diamond Princess) ที่จอดเทียบบริเวณท่าเรือโยโกฮาม่า ไม่อนุญาตให้คนบนเรือลงเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่นจนกว่าจะตรวจสอบแน่ชัดว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ทางรัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอนี้ไปและก็ไม่บอกว่าเป็นยากูซ่าแก๊งไหนกันแน่ที่เสนอทำงานใหญ่ให้กับรัฐ

“คนอย่างพวกเราก็ควรจะทำงานแบบนี้อยู่แล้ว งานสกปรกที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค”

การออกตัวช่วยเหลือสังคมในช่วงเดือดร้อนคือสิ่งที่ยากูซ่าหลายกลุ่มมักทำอยู่บ่อยครั้ง เพราะพวกเขารู้จักกับคนในย่านที่ตัวเองคุมอยู่ หมั่นใช้ช่วงยากลำบากของญี่ปุ่นประชาสัมพันธ์กลุ่มแก๊งของตัวเอง จนนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านยากูซ่า กาโย โอกิตะ (Garyo Okita) ถึงกับต้องออกมาพูดว่า “เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป ยากูซ่าถูกสังคมรังเกียจน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก และเริ่มได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น”

ถึงพอจะกู้ภาพลักษณ์ย่ำแย่กลับมาได้บ้างจากการช่วยเหลือสังคมช่วงวิกฤต พร้อมกับหาเงินจากการขายหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ และเจลล้างมือ แต่ธุรกิจดั้งเดิมที่พวกเขาทำก็รับผลกระทบแบบเต็ม ๆ อยู่ดี การค้ายาเสพติดต้องหยุดชะงักเพราะห้องแล็บผสมยาเสพติดต้องปิดชั่วคราว การทำอุตสาหกรรมบันเทิงยอดฮิตของคนผิดกฎหมายอย่างภาพยนตร์เอวีก็ต้องถูกยกเลิก (NIHON STORIES: “แมวมองดารา AV” ในฮาราจูกุย่านสว่างที่ซ่อนความดำมืดของวงการหนัง)  กลายเป็นว่าตำรวจไม่สามารถห้ามยากูซ่าขายยา ทำหนังโป๊ หรือนัดรวมตัวอาชญากรบิ๊ก ๆ ในงานประชุมใหญ่ แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สามารถยับยั้งการทำงานของพวกยากูซ่าได้เสียอย่างนั้น

 

โอกิตะเคยเขียนหนังสือหลายเล่มที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับแก๊งยามากูจิ-คูมิ พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า พวกเขาต้องการให้ประชาชนอยู่ฝั่งเดียวกับเขา หลังจากเจ็บหนักเพราะการปราบปรามครั้งใหญ่ของรัฐบาล ใช้ผลกระทบจากไวรัสใช้เส้นสายทางการแพทย์ที่ตัวเองมี มอบหน้ากากอนามัยกับกระดาษชำระให้คนเพื่อหวังความรู้สึกขอบคุณเป็นการตอบแทน

ตอนนี้ยามากูจิ-คูมิ หันไปจับธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้แบบฉาบฉวย ยกเลิกการประชุมใหญ่ที่ทำกันทุกปี เปลี่ยนไปเป็นเจรจาผ่านอินเทอร์เน็ต ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชัน Line เพื่อให้ธุรกิจในส่วนที่เหลือสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และพวกเขาก็รู้สึกไม่ชอบใจไวรัสโควิด-19 ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เช่นกัน

Source: 1 / 2 / 3 / 4
Source photo from: Japantime ,phormagberitatrans

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line