Entertainment

PLAYLIST ระดับผู้นำ! ชวนคุณมาฟังเพลงเดียวกันกับ ‘BARACK OBAMA’

By: Synthkid August 26, 2019

หากคุณติดตามชีวิตของอดีตผู้นำแห่งสหรัฐอเมริกาอย่าง Barack Obama มานาน คงจะทราบดีว่า เขามักจะพูดถึงเพลงที่ฟัง หนังที่เขาชอบ หรือความสนใจต่าง ๆ ของเขาอยู่เป็นประจำ ซึ่ง ‘เพลย์ลิสต์ ของ Obama’ ก็จะถูกอัปเดตใหม่อยู่เสมอในแต่ละปี แถมยังได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วไปอย่างท่วมท้น ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ปล่อยเพลย์ลิสต์ประจำฤดูร้อนปี 2019 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย

ดูจากรายชื่อก็จะเห็นเลยว่าแนวเพลงส่วนมาก ค่อนไปทาง Hiphop R&B และ Jazz เป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังมีเพลงใหม่และเพลงเก่าปน ๆ กัน เรียกได้ว่าความคลาสสิกก็ไม่ทิ้ง แต่อะไรใหม่ ๆ เขาก็พร้อมจะอัปเดตเช่นกัน สมกับความเป็นผู้นำที่ก้าวทันโลก วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะขอหยิบยกเพลงใหม่ ๆ บางแทร็คในเพลย์ลิสต์นี้มาพูดถึงกัน พร้อมบอกเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจ

Rema – Iron Man

เพลงนี้เรียกได้ว่าเป็นเครื่องพิสูจน์รสนิยมทางดนตรีที่กว้างไกลของเขาเป็นอย่างมาก เพราะ Rema เป็นศิลปินวัย 19 ปี ชาวไนจีเรีย ในขณะที่พวกเราบางคนไม่รู้จักศิลปินจากประเทศนี้เลยแม้แต่คนเดียว (แม้แต่เราเองก็เช่นกัน) หากคุณฟังเพลงนี้แล้วคิดถึงบทสวดอินเดียก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเจ้าตัวบอกเองว่านำเอาเมโลดี้แบบ Bollywood มาใช้

แต่ถึงกระนั้นเพลงอื่น ๆ ของเขาจะมีแกนหลักเป็นเพลงแนว Afro-pop คือนำเอาซาวนด์แบบแอฟริกันสร้างเป็นดนตรีป๊อป โดยผสมผสานกลิ่นอายแบบ Hiphop R&B ลงไป แต่เจ้าตัวเองก็ไม่อยากให้ใครมาตีตราหมวดหมู่งานเพลงของเขาเท่าไหร่ เพราะเจ้าตัวตั้งใจจะทดลอง เพื่อนำเสนอผลงานที่แปลกใหม่ สร้างสรรค์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ช่างเป็นศิลปินที่น่าจับตามองจริง ๆ

Dang! – Mac Miller feat. Anderson .Paak

นี่เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ยอดเยี่ยมของ Mac Miller แรปเปอร์หนุ่มที่ล่วงลับได้ทิ้งไว้ก่อนจากโลกนี้ไป เป็นการผสมผสานดนตรีแนว Neo-Soul เข้ากับ Hiphop ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว ความน่าสนใจของเพลงนี้ (รวมถึงน่าขนลุก) คือจริง ๆ แล้ว Anderson .Paak ผู้ร่วมร้องและแต่งเพลงนี้กับ Mac Miller มีเจตนาแต่งท่อนที่ร้องว่า “I can’t keep on losing you over complications Gone too soon, wait! We was just hangin” (ผมทนขาดคุณต่อไปไม่ไหว มันซับซ้อนเกินไป ช่างจากไปรวดเร็ว รอก่อน! เราเพิ่งจะอยู่ด้วยกันเอง) เพื่ออุทิศแด่เหล่าคนรู้จักของเขาที่เสียชีวิต เพียงแต่ถูกปรับเปลี่ยนให้ดูมีความเป็นป๊อปและเป็นเพลงรักมากขึ้น ช่างน่าเศร้าที่ในตอนนี้ อาจกลายเป็นว่า Anderson ต้องมอบเพลงนี้ให้แด่คนที่ร้องคู่กับเขาเสียแล้ว

Burning – Maggie Rogers

ใช่แล้ว Obama ฟังเพลงป๊อป! แถมเป็นป๊อประดับคุณภาพจากสาว Maggie Rogers ศิลปินสาวชาวอเมริกันวัย 25 ปี เพลงของ Maggie Rogers เรียกได้ว่าต่างจากเพลงป๊อปทั่ว ๆ ไปในตลาดเมนสตรีมของอเมริกา (ค่อนไปทางฝั่งอังกฤษเสียมากกว่า) เธอนำดนตรีแนวโฟล์กมาผสมผสานกับซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างลงตัว และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่ที่น่าสนใจคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้คนรู้จักเธอ เพราะมันเกิดขึ้นจากคลิปเพียงคลิปเดียว

Maggie Rogers ลงเรียนคอร์สดนตรีของ National Outdoor Leadership School (สถานศึกษานอกสถานที่) และจำเป็นต้องส่งเพลงที่เธอทำ เพื่อสอบผ่านระดับ Masterclass โดยเธอใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการเขียนเพลงที่ชื่อ ‘Alaska’ และต้องนำเอาผลงานชิ้นนั้นมาเปิดให้อาจารย์ในชั้นเรียนฟัง โดยเธอไม่รู้มาก่อนว่า Pharell Willams ศิลปินและโปรดิวเซอร์ระดับชั้นนำของโลกจะมานั่งฟังในคลาสด้วย!

เมื่อเขาได้ฟัง เขาถึงกับออกปากชื่นชมผลงานของเธอเสียยกใหญ่ โดย Pharell กล่าวว่า ไม่สามารถให้คะแนนเพลงของเธอได้ เพราะมันเป็นปัจเจก มีเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือน และยอดไปเยี่ยมไปเลยโดยเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกบันทึกเก็บไว้ และโพสต์ลงทาง Youtube ในเวลาต่อมา

ปรากฏว่าคลิปนี้กลายเป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว จนค่ายใหญ่อย่าง Capitol Records จับสาว Maggie เซ็นสัญญาทันที จะเรียกว่าโชคช่วยอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะความสามารถของเธอคือของจริง จนในที่สุดเพลงของเธอก็เดินทางมาอยู่บน Playlist อดีตประธานาธิบดีอย่างที่พวกเราเห็น

Go – The Black Keys

ถึงเพลย์ลิสต์นี้จะเต็มไปด้วย Hiphop R&B และ Jazz แต่ก็มี ‘Go’ ของดูโอ้ Blues Rock/Garage Rock จาก Ohio อย่าง The Black Keys หลุดมา หากย้อนกลับไปช่วงค.ศ. 2000 ต้น ๆ นั้น ไม่มีวงไหนจะเทียบเท่ากับวงระดับตำนานอย่าง The White Stripes ได้เท่าพวกเขาอีกแล้ว

แต่เพลงนี้จัดว่าใหม่มากทีเดียว เพราะเพิ่งจะปล่อยออกมาราว 3 เดือนที่แล้ว ถึง The Black Keys จะมีอัลบั้มมากถึง 9 ชุด แต่ก่อนจะปล่อยอัลบั้มล่าสุดอย่าง Let’s Rock ออกมา พวกเขาหายหน้าหายตาไปนานกว่า 5 ปีทีเดียว โดย Patrick Carney มือกลองของวงได้ให้นิยามอัลบั้มล่าสุดอย่าง Let’s Rock เอาไว้ว่า “อัลบั้มถวายสักการะต่อกีตาร์ไฟฟ้า” ชาวร็อกคนไหน อยากร็อกสไตล์ผู้นำอย่าง Obama ก็อย่าลืมมาฟังวงนี้

นอกจากนั้นใน Playlist ก็ยังมี Happy เพลงร็อกจากคณะหินกลิ้ง The Rolling Stones ที่ Obama เลือกมา หากวิเคราะห์ดี ๆ ก็จะพบว่าทั้ง The Black Keys และ The Rolling Stones แม้ฟังเผิน ๆ จะให้ความรู้สึกต่างกัน แต่ทั้งสองวงล้วนมีกลิ่นอายแนว Blues Rock กันทั้งคู่

Juice – Lizzo

หนุ่ม ๆ อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีว่าเพลงแบบนี้มันเฟียร์สเกินผู้ชายจะฟัง เพราะ Lizzo กำลังจะเป็นศิลปินทรงอิทธิพลคนต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน ไม่เชื่อลองดูคลิปการแสดงโชว์ที่เราแนบไว้ทางด้านบนได้ เธอทั้งร้อง ทั้งแรป ทั้งเต้น จนไปถึงหยิบฟลูตขึ้นมาเป่าบนเวที!

เพลง Juice ที่ Obama เลือกมานี้ นอกจากจะมีทำนองติดหูสนุกสนานแล้ว ยังเป็นเพลงที่กระตุ้นให้ผู้หญิงทุกคน (หรือแม้แต่กระทั่งผู้ชาย) หันมารักตัวเอง มั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างแบบไหน “If I’m shinin’, everybody gonna shine I was born like this, don’t even gotta try” (ถ้าฉันเฉิดฉาย ทุกคนก็เฉิดฉายได้ ฉันเกิดมาเป็นแบบนี้ ไม่เห็นต้องพยายามอะไรเลย)

นอกจากนั้น Lizzo ยังเป็นศิลปินที่เดินหน้ารณรงค์ทั้งเรื่อง คุณภาพชีวิตคนผิวสี และความหลากหลายทางเพศ ซึ่งก็ตรงกับนโยบายที่ Obama เคยขับเคลื่อนสมัยตัวเองยังครองเก้าอี้อยู่ทุกประการ ไม่แปลกเลยที่เขาจะเลือกสนับสนุนผลงานของศิลปินคนนี้

Koffee – Toast 

นอกจาก Obama จะฟังนักร้องไนจีเรียแล้ว เขายังฟัง Koffee ศิลปินสาวแนว Reggae จากจาไมกาอีกด้วย เธอคือสาวน้อยที่ต้องการจะขับเคลื่อนเพลงแนว Modern Reggae ให้โด่งดังและเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับโลกใบนี้ เพลงของเธอมีจังหวะสนุกสนาน ฟังง่าย และมีความสดใสแบบวัยรุ่น

ชื่อจริงของเธอคือ Mikayla Simpson และมีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น เธอเป็นที่รู้จักจากเพลงที่ชื่อว่า Legend ที่เธอแต่งขึ้นเพื่อยกย่อง Usain Bolt นักวิ่งชาวจาไมกา เจ้าของฉายา “สายฟ้าแลบ” อีกทั้งยังเป็นเจ้าของสถิติโลกวิ่ง 100 เมตร ที่เวลา 9.58 วินาที และสถิติโลกวิ่ง 200 เมตร เวลา 19.19 วินาที!

Usain Bolt ได้นำวิดีโอเพลง Legen ของเธอ มาโพสต์ซ้ำทาง Instagram ของเขา ทำให้ Koffee กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะในบ้านเกิดตัวเอง นอกจากนั้นเพลง Toast ที่ Obama เลือกมานี้ ยังเคยได้รับรางวัล Single Of The Year จาก Jamaica Music Industry Association awards อีกด้วย

Seventeen – Sharon Van Etten

Seventeen มีความแตกต่างจากเพลงอื่น ๆ ใน Playlist อย่างชัดเจน จนเราอดหยิบยกขึ้นมาพูดถึงไม่ได้ Sharon Van Etten คือนักร้องสาววัย 38 ปี จาก New Jersy เอกลักษณ์ของเธอคือเสียงแหบ ๆ นุ่ม ๆ และไลน์กีตาร์ที่แปลก แหวกขนบจากศิลปิน Folk-Rock คนอื่น ๆ

อัลบั้มล่าสุดอย่าง Remind Me Tomorrow ก็ได้คะแนนวิจารณ์เชิงบวกท่วมท้นจากสื่อหลายเจ้า อีกทั้งแนวเพลงยังมีส่วนผสมของความเป็นอัลเทอร์เนทีฟร็อกมากขึ้น ตัว Sharon Van Etten เองได้กล่าวว่า เพลง Seventeen นี้ เป็นบทเพลงแห่งมหานคร New York สำหรับเธอ เพลงจะเล่าผ่านมุมมองคนที่อยู่ที่ใดที่หนึ่งมานานจนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง และการเติบโตของผู้คนรอบตัว เพลงที่อัดแน่นไปด้วยบรรยากาศแห่ง New York ขนาดนี้ ไม่แปลกที่คนรักอเมริกาอย่าง Obama จะรู้สึกชื่นชอบ

Old Town Road Lil Nas X feat. Billy Ray Cyrus

เพลงฮิตอย่าง Old Town Road ของ Lil’ Nas X เจ้าของสติถิครองอันดับ 1 Billboard Hot 100 ยาวนานถึง 17 สัปดาห์ ก็เป็นอีกเพลงที่อยู่ใน Playlist ของ Obama เช่นกัน แต่ให้เล่าในนี้คงจะไม่พอ เพราะเส้นทางสู่ความสำเร็จของเพลงนี้ มันเจ๋งจนเราไม่สามารถบรรยายเพียงสั้น ๆ ได้ แต่! คุณสามารถอ่านประวัติความเป็นของ Lil Nas X และเพลง Old Town Road แบบจัดเต็มได้ที่นี่ >> คลิก

บางครั้งความหลากหลายทางแนวเพลงของ Barack Obama ก็สามารถสะท้อนวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของเขาออกมาได้อย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว วันนี้ UNLOCKMEN ก็ต้องขอพูดถึงเพียง 8 เพลงนี้ก่อน เพราะถ้าหากเล่าครบถึง 44 เพลง เห็นจะไม่จบภายในวันนี้แน่ ๆ สำหรับใครที่รักกันจริง อยากจะตามฟังให้ครบทุกเพลง ก็มีคนใจดีจัดเรียงไว้ให้แล้วเรียบร้อยทาง Spotify คุณสามารถเข้าไปฟังเพลงทั้งหมดนี้ได้ที่ >> คลิก ไว้พบกันใหม่ในวันที่ Obama อัปเดต Playlist ครับ!

Source: 1 / / 3 / 4

Synthkid
WRITER: Synthkid
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line