Entertainment

OTAKU 101: BAKUMAN วิ่งตามความฝัน ไขว่คว้าความรัก ท่ามกลางความเจ็บปวดของวงการการ์ตูนญี่ปุ่น

By: PERLE March 22, 2019

บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของการ์ตูนเรื่อง Bakuman

‘วงการการ์ตูน’ คือหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศญี่ปุ่น ในแต่ละปีสร้างรายได้ให้กับประเทศนับล้าน ๆ เยน นับเป็นสิ่งหอมหวานที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าหา แต่ภายใต้ฉากหน้าที่สวยหรู แท้จริงแล้ววงการนี้ก็มีความโหดร้ายที่คร่าชีวิต ทำลายความฝันของผู้คนมาแล้วมากมาย เพียงแต่ไม่ได้ถูกถ่ายทอดออกมาให้ภายนอกรับรู้

แต่ในปี 2008 ‘Bakuman วัยซนคนการ์ตูน’ มังงะผลงานของอาจารย์ สึงูมิ โอบะ และ ทาเกชิ โอบาตะ ที่เคยฝากฝีมือไว้ในมังงะชื่อดังอย่าง Death Note ก็ตีพิมพ์ออกมา นี่คือมังงะที่กล้าจะนำเสนอเรื่องราวของอุตสาหกรรมการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างเจาะลึก ทั้งด้านดีและร้าย ตีแผ่ทุกแง่มุม เนื่องจากมังงะเรื่องนี้เปรียบเสมือนบันทึกชีวิตของอาจารย์ผู้เขียนทั้ง 2 ทุกอย่างในเรื่องจึงออกมา ‘จริง’ และ ‘เชื่อถือได้’

นอกจากนั้นยังมีการผสมผสานธีมการวิ่งตามความฝันของเด็กหนุ่มเข้าไปได้อย่างลงตัว Bakuman จึงออกมาเป็นมังงะที่กลมกล่อม สุข เศร้า เหงา ซึ้ง มีครบทุกรสชาติของชีวิต

ทำลายกำแพงความกลัวด้วยความกล้า

Shueisha

มาชิโระ โมริทากะ เป็นเด็กหนุ่มวัยมัธยมต้นปีสุดท้าย เขาเป็นคนจืดชืด ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย ไร้ความฝัน มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เขาชัดเจนคือความรักที่มีต่อ อาซึกิ มิโฮะ เด็กสาวเพื่อนร่วมห้องที่เขาแอบชอบมานาน แต่ก็ไม่กล้าบอกเธอเนื่องจากอาซึกิเปรียบเหมือนดาวประจำโรงเรียน มีแต่หนุ่ม ๆ รุมล้อม ส่วนเขาเป็นเพียงคนไร้ตัวตน อย่างไรก็ตามหนึ่งสิ่งที่คนธรรมดาอย่างเขาทำได้ดีคือ ‘การวาดรูป’

ทาคากิ อาคิโตะ คือขั้วตรงข้ามของมาชิโระโดยสิ้นเชิง ถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แต่ทาคากินั้นเพียบพร้อมไปด้วยพรสวรรค์ ทั้งเรียนดี กีฬาเยี่ยม แถมยังหน้าตาดี เป็นหนุ่มป๊อปประจำโรงเรียน แต่เขากลับวาดรูปได้ห่วยสุด ๆ เป็นข้อด้อยอย่างเดียวของทาคากิก็ว่าได้

ความฝันของทาคากิคือการเป็น ‘นักเขียนการ์ตูน’ และลูกบ้าของเขาก็มีเต็มที่ เขาอยากเริ่มทำมันให้เป็นจริงตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งที่ถ้าจะเอาจริงด้านการเรียนเขาก็สามารถเข้าคณะที่ดีที่สุดในประเทศได้แบบสบาย ๆ แต่สิ่งที่เขาขาดในตอนนี้คือ ‘คู่หู’

ทาคากิบังเอิญได้รู้ว่ามาชิโระเพื่อนร่วมชั้นของตัวเองมีพรสวรรค์ด้านวาดรูปที่ยอดเยี่ยม เขาจึงไม่ลังเลที่จะชวนมาชิโระมาร่วมเดินตามความฝันด้วยกัน แต่มาชิโระกลับปฏิเสธเสียงแข็งเนื่องจากอาของเขาเคยเป็นนักเขียนการ์ตูน แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝัน เสียชีวิตคาโต๊ะทำงานเนื่องจากโหมงานหนักเกินไป

ทาคากิจึงตัดสินใจหลอกมาชิโระมาที่หน้าบ้านของอาซึกิ ก่อนที่จะเรียกเธอออกมาแล้วบอกว่า ‘อาซึกิ อยากเป็นนักพากย์ใช่มั้ย พวกเรา 2 คนก็ตั้งใจจะเป็นนักเขียนการ์ตูนเหมือนกัน โดยผมจะเป็นคนคิดเรื่อง มาชิโระจะเป็นคนวาดรูป’

อาซึกิได้ยินแบบนั้นก็ดีใจมาก เธอจ้องหน้ามาชิโระแล้วยิ้มก่อนพูดว่า ‘คิดอยู่แล้วว่ามาชิโระจะต้องเป็นคนวาดภาพ’

มาชิโระสับสนกับความรู้สึกตัวเอง แต่ก็พลั้งปากออกไปว่า ‘ถ้าการ์ตูนที่ผมเขียนได้เป็นแอนิเมชั่น แล้วคุณอาซึกิได้เป็นนักพากย์ ถึงวันนั้นเรามาแต่งงานกันได้มั้ย?’

อาซึกิเขินอาย วิ่งหนีกลับเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะพูดผ่านอินเตอร์โฟนออกมาว่า ‘จะให้สัญญา ถ้าฝันเป็นจริงแล้วจะแต่งงานด้วย แต่ว่ามีข้อแม้คือ จะไม่พบหน้ากันอีกจนกว่าจะถึงตอนนั้น คุยกันผ่านทางเมลเท่านั้น’

แล้วความฝันของหนุ่มสาว 3 คนก็เริ่มขึ้นที่ตรงนี้

นักเสี่ยงดวง

Shueisha

‘นักเขียนการ์ตูน ถ้าไม่มีพรสวรรค์จริง ๆ ก็เป็นแค่นักเสี่ยงดวง’

คาวางูจิ ทาโร่ หรือ โนบุฮิโระ มาชิโระ อาแท้ ๆ ของมาชิโระมักพูดประโยคนี้เสมอ ซึ่งสุดท้ายเขาเองก็พ่ายแพ้ให้กับวงการนี้ เป็นแค่นักเสี่ยงดวงที่ไปไม่ถึงฝัน

มาถึงรุ่นหลาน ทั้งมาชิโระและทาคากิต่างก็ประสบความยากลำบากในโลกแห่งการ์ตูน ทั้งในแง่การเรียนที่พวกเขาจำเป็นต้องเรียนในโรงเรียนที่ไม่ดีนักเพื่อที่จะมีเวลาในการเขียนการ์ตูนมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการ์ตูนในช่วงแรกของพวกเขาก็ไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากพวกเขาตัดสินใจเขียนการ์ตูน ‘สายมาร’ หรือการ์ตูนนอกกระแส

เป็นช่วงชีวิตที่ทั้งคู่โดนบีบคั้นจากทุกสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการ์ตูนที่ดูโหดร้ายเกินกว่าเด็กมัธยมปลายจะรับไหว การประคับประคองชีวิตที่ยุ่งเหยิงไปหมดทั้งเรื่องงานและการเรียน ความมั่นคงในความรักที่ต้องอาศัยความเชื่อใจกันอย่างสูง

ทั้งหมดนี้คือราคาที่พวกเขาต้องจ่ายสำหรับการออกมาไล่ล่าความฝันก่อนคนอื่น ผู้อ่านเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าพวกเขาได้เตรียมใจมามากขนาดไหน รู้แค่ตอนนี้พวกเขาถอยไม่ได้แล้ว

ตัดสินกันที่ความนิยม

Shueisha

สิ่งที่โหดร้ายที่สุดของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นคือ ‘ความนิยม’ การ์ตูนของคุณต้องได้รับความนิยม ไม่เช่นนั้นคุณก็จบ ไม่ได้ไปต่อ

อธิบายให้เข้าใจโดยง่าย นิตยสาร Weekly Shonen Jump ซึ่งเป็นนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และพระเอกของเราก็ตีพิมพ์การ์ตูนกับที่นี่

ในทุกสัปดาห์จะมีการจัดอันดับการ์ตูนที่ตีพิมพ์ทุกเรื่องโดยการโหวตของคนอ่าน ซึ่งถ้าการ์ตูนเรื่องไหนได้รับความนิยมอันดับท้าย ๆ ติดต่อกันหลายสัปดาห์ก็จะโดนตัดจบทันที เป็นความโหดร้ายที่นักเขียนทุกคนต้องพยายามเต็มที่เพื่อหนีมันให้พ้น

ในช่วงแรก ถ้าเปรียบเป็นทีมฟุตบอล การ์ตูนของมาชิโระและทาคากิก็เปรียบเหมือนทีมหนีตกชั้น ในทุก ๆ สัปดาห์พวกเขาต้องรอผลโหวตอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อจะได้รู้ว่าจะได้ไปต่อหรือจบแค่นี้

ไม่มีใครสนใจว่านักเขียนแต่ละคนลำบากขนาดไหนกว่าจะสร้างสรรค์การ์ตูนออกมาในแต่ละตอน ทุกอย่างอยู่ที่ความนิยมเท่านั้น ถ้าคุณคว้ามันมาไม่ได้ คุณก็จบ ไม่มีคะแนนสงสารในวงการนี้

ความรัก ความฝัน ความเชื่อใจ

Shueisha

‘จะให้สัญญา ถ้าฝันเป็นจริงแล้วจะแต่งงานด้วย แต่ว่ามีข้อแม้คือ จะไม่พบหน้ากันอีกจนกว่าจะถึงตอนนั้น คุยกันผ่านทางเมลเท่านั้น’

มุมหนึ่งก็ดูเป็นคำสัญญางี่เง่าของหนุ่มสาวที่ไม่ประสาเรื่องความรัก แต่อีกมุมก็เพราะคำสัญญาบ้า ๆ นี่แหละที่ทำให้ทั้งเขาและเธอรอช้าไม่ได้ ต้องทำความฝันให้เป็นจริงโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นภาพฝันสวยงามที่วาดไว้อาจจะพังทลายเข้าสักวันด้วยเงื่อนไขแห่งเวลา

ทั้งคู่ได้แต่งงานกันหรือไม่เราไม่ขอเฉลย แต่สิ่งที่เราได้จากความสัมพันธ์ของมาชิโระกับอาซึกิคือนิยามความรักอีกรูปแบบ

‘ขอแค่รับรู้ว่ามีใครสักคนหนึ่งเป็นกำลังใจให้เราเสมอ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว’

ไร้เดียงสาหรือเปล่าเราไม่รู้ แต่เราว่ามันสวยงาม

 

สำหรับใครที่กำลังวิ่งไล่ตามความฝันอย่างเอาเป็นเอาตาย ลองหยุดพักแล้วหยิบมังงะเรื่องนี้มาอ่าน น่าจะได้รับกำลังใจในการเดินหน้าต่อไม่น้อยเลย

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line