ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะได้มีโอกาสพูดคุยกับ เจสัน เพทรี่ (Jason Petrie) นักออกแบบ ที่ทำงานสร้างสรรค์รองเท้าบาสเกตบอลร่วมกับซูเปอร์สตาร์อย่างเลอบรอน เจมส์ (LeBron James) มานานกว่าหนึ่งทศวรรษ ถึงจุดเด่นของรองเท้าบาสเกตบอลตระกูลเลอบรอนรุ่นล่าสุด ซึ่งรวมถึงการเลือกใช้นวัตกรรมเส้นใยไนกี้แบทเทิลนิต (Nike BattleKnit) ที่ช่วยเสริมให้รองเท้าบาสเกตบอลเลอบรอน 15 โดดเด่นไปอีกขั้นหนึ่ง โดยเพทรี่กับเจมส์ได้ร่วมพัฒนารองเท้าบาสเกตบอลตระกูลเลอบรอนหลายรุ่นตั้งแต่รุ่นเลอบรอน 7 (LEBRON 7) รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ตระกูลเลอบรอนโซลเยอร์ (LEBRON Soldier series) และยังคงพัฒนาสุดยอดรองเท้าบาสเกตบอลตระกูลเลอบรอนมาถึงรุ่นที่ 15 (LEBRON 15) ที่พวกเขาก้าวข้ามขีดจำกัดไปอีกขั้น รองเท้าบาสเกตบอลตระกูลเลอบรอนออกวางจำหน่ายมาจนถึงรุ่นที่ 15 แล้ว มีกฎในการสร้างสรรค์ใดบ้างที่คุณต้องปฏิบัติตามอย่าเคร่งครัด และมีกฎข้อใดหรือไม่ที่คุณเลิกให้ความสำคัญไปแล้ว? เรามีกฎสำคัญในการสร้างสรรค์ 3 ข้อ ได้แก่ 1. “ทำให้เท้ามั่นคงเพื่อเอื้อต่อการกระโดด – Lock me down so I can fly” ซึ่งเป็นคำขอของเลอบรอนโดยตรง 2. “ลดการบาดเจ็บได้ – Protect me
หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรานั้นล้วนมีที่มาที่ไป ไม่เว้นแม้แต่แนวเพลง เทรนด์การแต่งกาย วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เช่น ทำไมบางคนถึงมีความรู้สึกคุ้นเคยกับเพลง Grunge อย่างไร้เหตุผล? แต่พอมานึกดี ๆ จึงมารู้ว่า เพราะเราเติบโตขึ้นมาในช่วงยุค 90s ที่ถึงแม้ว่า เราไม่ได้ตั้งใจจะฟัง แต่ด้วยกระแส และเทรนด์ในช่วงนั้น มันประโคมกระหน่ำทั้งเพลงและการแต่งกายให้เราซึมซับเข้าไปอย่างไม่ทันรู้ตัว ดังนั้น วันนี้เราจึงเอาเทรนด์ทั้งดนตรี และแฟชั่นในยุคทองของแต่ละเทรนด์มาให้กับชาว UNLOCKMEN ที่เกิดในทุกยุคทุกสมัยได้เข้าใจ เทรนด์ของคนที่โตมาในยุคสมัยที่แตกต่างกันดู 1960s : British Invasion, Hippies, Woodstock หากคิดถึงแฟชั่นการฟังเพลง และสไตล์การแต่งตัวของศิลปินในช่วงทศวรรษที่ 1960 แน่นอนว่า ทุกคนต้องมุ่งไปที่ Iconic แห่งยุคอย่าง Janis Joplin และ Jimi Hendrix อย่างแน่นอน ในช่วงยุค 1960 ถือเป็นช่วงเวลาที่แฟชั่นการแต่งกาย และดนตรี ได้หลอมรวมกายเป็นหนึ่งเดียว ดนตรี และวิธีชีวิต Hippies ได้เข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในยุคนั้น เช่น
ผู้ชายอย่างเราถ้าพูดถึงเรื่องสุขภาพทางเพศ แล้วไม่พูดถึง Orgasm ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะนี่คือศูนย์รวมความสุขที่ทำให้สุขภาพกายและสุขภาพใจของเราแข็งแรง แต่เราเคยสงสัยไหมว่าคนประเทศนี้กับคนประเทศนั้นเขา Orgasm เหมือนกันหรือเปล่า หรือใครจะเด็ดกว่าใคร (นี่เรากำลังพูดถึง Orgasm นะไม่ใช่เรื่องอื่น) แต่โชคดีที่ไม่ได้มีแค่เราที่สงสัยเรื่อง Orgasm จากคนหลากหลายประเทศทั่วโลก เพราะมีคนเขาสงสัยเรื่อง Orgasm ของคนจากหลายประเทศเหมือนกันกับเรา แต่เขาไม่ได้สงสัยเปล่า ทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจจริง ๆ ขึ้นมา การสำรวจครั้งนี้สำรวจผู้คน 2,200 คน จากหลายประเทศทั่วโลกเกี่ยวกับการ Orgasm หรือการถึงจุดสุดยอดของพวกเขา โดยคำถามก็จะเป็นรายละเอียด เช่น คุณ Orgasm บ่อยแค่ไหน คุณส่งเสียงออกมาดังแค่ไหนเมื่อ Orgasm จนได้ผลการสำรวจออกมา คนนอร์เวย์ Orgasm มากที่สุด อาจจะเป็นเพราะอากาศอันหนาวเหน็บของแถบนั้นที่ทำให้ชาวนอร์เวย์ต้องหากิจกรรมเข้าจังหวะทำยามเหน็บหนาวเสียจนกลายเป็นคนประเทศที่ Orgasm มากที่สุด โดย 35% ของชาวนอร์เวย์เปิดเผยว่าตัวเอง Orgasm อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง แต่โดยเฉลี่ยแล้ว Orgasm ของคนหลายประเทศอยู่ที่ 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์ คนชิลี อิตาลี และสเปนมี
คิดว่าหลายคนคงได้เห็นนาฬิกา Smart Watch กันมากมายหลายรุ่นกันอยู่แล้ว เพราะตอนนี้ไม่ว่านาฬิกาแบรนด์ไหนก็เริ่มหันหน้าพัฒนาออกมาอยู่เนือง ๆ เสมอ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังทำงานได้ด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนเป็นหลักอยู่ดี จนไม่นานมานี้มีการเปิดตัวของ Apple Watch 3 ที่กำลังเริ่มนำเทคโนโลยี eSIM สำหรับการใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อกับสมาร์ทโฟนเข้ามาลุยในตลาด Smart Watch บ้างแล้ว ทางฝั่ง Android Wear 2.0 ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะล่าสุด Huawei ได้เปิดตัว Huawei Watch 2 Pro ที่ใช้งานเทคโนโลยี eSIM ได้เช่นเดียวกัน ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่าการปรับตัวของ Huawei ตั้งแต่สมาร์ทโฟน P9 เป็นต้นมา ได้สร้างความตื่นตัวให้กับผู้ใช้ในตลาดเป็นอย่างสูง เพราะกระแสส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันแบบไม่มีตก อย่างการเปิดตัว Huawei Watch 2 Pro ตัวล่าสุดก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะทาง Huawei ได้พัฒนาให้นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นนี้ สามารถใส่ซิมได้เหมือนมือถือทั่วไปและยังสามารถใช้งาน เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนอีกด้วย จากเดิมที่ตัวซิมการด์มีขนาดค่อนข้างใหญ่เกินตัวนาฬิกา ทำให้เสียพื้นที่ในการใช้งานไปเกินกว่าครึ่ง ทำให้หลายแบรนด์เริ่มหันมาแก้เกมด้วยการใช้เทคโนโลยีแบบ eSIM แทน
โรคมะเร็งเต้านม (Breast Cancer) เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่ส่วนใหญ่พบได้ในที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ซึ่งการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงนั้นจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละเชื้อชาติและภูมิประเทศ ในเอเชียจะพบได้ประมาณ 18-26 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน และในรายงานล่าสุดปี พ.ศ. 2553-2555 พบว่าโรคมะเร็งเต้านมเกิดขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในหญิงไทย โดยคิดเป็น 28.6 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน และแน่นอนว่าต้องมีอัตราการเสียชีวิตและอัตราการเกิดโรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ข้อมูลอ้างอิง : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี) BRCA1 และ BRCA2 เป็นกลุ่มยีนที่สร้างโปรตีนช่วยซ่อมแซม DNA จึงมีบทบาทช่วยให้ DNA ในเซลล์มีความเสถียร เมื่อมีการกลายพันธุ์ (Mutation) ของยีน BRCA จะส่งผลให้เซลล์มีโอกาสเกิดความผิดปกติของพันธุกรรมได้สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่การกลายเป็นมะเร็ง โดยพบว่าการกลายพันธุ์ของยีน BRCA มีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมและรังไข่แบบถ่ายทอดทางพันธุกรรม ดร. พงศธรณ์ ไชยทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) กล่าวว่า สำหรับโอกาสที่จะเกิดเป็นโรคมะเร็งเต้านมในคนปกติมีประมาณ 12% (120 คนในประชากร 1,000 คน)
เชื่อว่าแฟนเพลงของวง Linkin Park ยังคงจะไม่ลืมเสียงร้องของนักร้องนำวัย 41 ปี ที่ได้ทำการปลิดชีพตัวเองด้วยการแขวนคอกันไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งก็คือ Chester Bennington นั่นเอง โดยหลังจากที่ Chester จากไป ทางวงก็ได้ตัดสินใจยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดขึ้นในหลายไปเทศไปจนเกือบหมด และดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากที่วง Linkin Park จะกลับมาทำการแสดงสดสุดมันส์ต่อหน้าแฟน ๆ อีกครั้ง แต่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม หรือช่วงเช้าวันที่ 28 ของบ้านเราที่ผ่านมา ทางวงได้จัดคอนเสิร์ตรอบพิเศษขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “Linkin Park & Friends Celebrate Life in Honor of Chester Bennington” ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตเพื่อการรำลึก และเป็นเกียรติให้กับ Chester นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีอีกมากมายที่มาร่วมแจมในงานนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Blink-182, Alanis Morissette, Avenged Sevenfold, No Doubt, Sum 41’s และ
บางคนออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก บางคนควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก แต่ใครจะไปคิดว่าดูหนังก็ช่วยลดน้ำหนักได้! แต่ก็ใช่ว่าจะดูหนังอะไรก็ได้ เพราะงานวิจัยเขาชี้เฉพาะมาว่าต้องดูหนังสยองขวัญสั่นประสาทเท่านั้น University of Westminster ทำการทดลองโดยใช้กลุ่มตัวอย่าง 10 คน โดยให้ 10 คนนี้ดูหนังสยองขวัญ 10 เรื่องที่แตกต่างกันไป จากนั้นก็สังเกตอัตราการเต้นของหัวใจ การสูดเอาอ็อกซิเจนเข้าร่างกาย ผลปรากฏว่า The Shining ภาพยนตร์ปี 1980 นับเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอันดับหนึ่ง (จาก 10 เรื่อง) ที่กลุ่มตัวอย่างดูแล้วสะดุ้งและกรีดร้องจนเผาผลาญแคลอรี่ไปได้ถึง 184 แคลอรี่ (ปกติคนเราเดิน 40 นาที จะเผาผลาญราว ๆ 140 แคลอรี่) ส่วนลำดับ 2 คือเรื่อง Jaws หนังฉลามกินคนสุดโหดที่เผาผลาญได้ 161 แคลอรี่ ในขณะที่เรื่อง The Exorcist ที่ไล่ผีกันจนเผาผลาญได้ 158 แคลอรี่ Richard Mackenzie ผู้ทำงานวิจัยนี้แก้ข้อสงสัยให้เราหายงงเป็นไก่ตาแตกว่าหนังสยองขวัญนั้นยิ่งเราดูแล้วรู้สึกเครียด กดดัน (ระยะเวลาสั้น
สำหรับคอ High-Fashion แบรนด์ Givenchy (จีวองชี่) ถือเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์คอนเซ็ปต์อย่างชัดเจน อีกทั้งดีไซน์ต่าง ๆ ล้วนถูกออกแบบมาอย่างโดนใจหนุ่ม ๆ ไม่ว่าจะเป็น Animal Spirit , Rottweiler , Star Print เป็นต้น ซึ่งวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ก็ขอเอาข่าวคอลเลคชั่นใหม่ของ Givenchy มานำเสนอ สำหรับคอลเลคชั่นใหม่ของ Givenchy คือ Spring 2018 Pre-Collection ที่ถูกออกแบบโดยทีมสตูดิโอของแบรนด์ ซึ่งคอลเลคชั่นนี้ยึดเอาคอนเซ็ปต์ “ความบริสุทธิ์ ความสง่างาม ความสดใส” จาก 3 โทนสีหลัก ได้แก่ สีขาว สีดำ (Black) , สีน้ำเงิน (Electric Blue) และสีชมพูฟูเซีย (Fuchsia) เติมแต่งด้วยลายปรินท์ทหาร ผสานการออกแบบตัดเย็บที่ประณีต เผยให้เห็นเค้าโครงของเสื้อผ้าอย่างชัดเจน ผ่านวัสดุเนื้อผ้าที่มีความหรูหราตามแบบฉบับของ Givenchy (จีวองชี่) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก
สำหรับคนทั่วไปรวมไปถึงนักบิดปกติที่ไม่ได้มีกลุ่มแก๊งค์จริงจัง และยังคงเป็นมนุษย์ในจำนวน 99% ที่ใช้ชีวิตการขับขี่ที่ไม่มีกฎระเบียบของกลุ่มเพื่อนนั้น แน่นอนว่า ชีวิตในการขับขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจไปไหนต่อไหน ถือเป็นอะไรที่เพลิดเพลิน สนุกสนาน ผ่อนคลาย และทำให้รู้สึกถึงความเป็นอิสระ แต่สำหรับนักบิดตัวจริงซึ่งถูกเปรียบเทียบเป็นกลุ่มคนจำนวน 1% ที่มีความแตกต่างจาก 99% ที่เหลือนั้น มันแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ตามหลักสากลแล้ว นักบิดตัวจริงที่ได้ชื่อว่าเป็น 1% เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกที่อยู่ในกลุ่ม หรือ Club ที่มีความใหญ่โตระดับชาติ จนไปถึงระดับโลก โดยชาวต่างชาติมักจะเรียกกลุ่มรถจักยานยนต์เหล่านี้ว่า “One-Percenter Outlaw Motorcycle Gangs” ซึ่งที่เรียกแบบนั้นก็เพราะว่า กลุ่มมอเตอร์ไซค์เหล่านี้นั้น จะไม่สนใจถึงกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ใช่พวกเขาจะใช้ชีวิตได้อย่างตามอำเภอใจไร้กฎระเบียบใด ๆ ในชีวิตเลย เพราะในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาเองก็มีกฎที่ยุ่งยาก และต้องเคร่งครัดมาก ๆ ของพวกอยู่ด้วยเช่นกัน โดยกฎเหล่านี้ ไม่ได้มีไว้เล่น ๆ หรือมีไว้ขู่ขำ ๆ แต่ถ้าหากใครละเมิดขึ้นมาล่ะก็จะมีความผิดรุนแรง และมีการลงโทษที่ไม่มีใครอยากเจอกับตัวแน่นอน บางครั้งบทลงโทษอาจจะหนักถึงขนาดที่คนทั่วไปอาจจะจินตนาการไปไม่ถึงเลยทีเดียว แต่ด้วยความเข้มข้นของกฎระเบียบเหล่านี้เอง ทำให้พวกเขาได้ความมีวินัย ความมีระบบ