DESIGN

RE-FREEZE THE ARCTIC: เรือดำน้ำกู้วิกฤติทะเลอาร์กติก เปลี่ยนน้ำแข็งละลายให้กลายเป็นก้อน

By: unlockmen August 1, 2019

จะพูดว่าเป็นเรื่องไกลตัวก็คงไม่ใช่ จะบอกว่าใกล้ก็คงไม่เชิง กับปรากฏการณ์น้ำแข็งขั้วโลกที่หลอมเหลวเร็วกว่าปกติ เนื่องด้วยภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนนักวิทยาศาสตร์เองยังคาดไม่ถึง

ในปัจจุบันน้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วกว่าเมื่อ 39 ปีก่อนถึง 6 เท่า ซึ่งในช่วงปี 2009 ถึง 2017 น้ำแข็งบริเวณทวีปแอนตาร์กติกาหลอมเหลวกลายเป็นน้ำมากถึง 252,000 ล้านตัน แน่นอนว่ามันส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นตามมา เป็นสัญญาณที่บอกว่าโลกของเราได้เปลี่ยนไปแล้วและความแข็งแกร่งของน้ำแข็งก็เริ่มสั่นคลอน

dezeen

ด้วยเหตุนี้ทีมนักออกแบบนำโดย Faris Rajak Kotahatuhaha, Denny Lesmana Budi และ Fiera Alifa จึงร่วมคิดค้นโปรเจกต์ ‘RE-FREEZE THE ARCTIC’ สร้างเรือดำน้ำผลิตน้ำแข็งเพื่อแก้วิกฤตน้ำแข็งขั้วโลกหลอมละลายในครั้งนี้

นอกจากผลงานชิ้นนี้จะได้รับรางวัลในการแข่งขันระดับนานาชาติที่จัดขึ้นโดย Association of Siamese Architects เรือดำน้ำของพวกเขายังมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูความสมดุลของระบบนิเวศขั้วโลก ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อภูมิอากาศของทุกประเทศ

dezeen

กึ่งกลางของตัวเรือถูกดีไซน์ให้เป็นช่องว่างหกเหลี่ยมขนาดใหญ่และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 25 เมตร เมื่อเรือลำนี้ดำดิ่งลงไปใต้ทะเลจะหอบเอาประมาณน้ำ 2,027 ลูกบาศก์เมตรขึ้นมาด้วย และเปลี่ยนสถานะของสสารจากน้ำที่เป็นของเหลวให้กลายเป็นน้ำแข็ง

ใช้ระบบ Reverse Osmosis กรองเกลือบางส่วนจากน้ำทะเลทิ้งไปเพื่อเร่งกระบวนการเยือกแข็ง จากนั้นเรือจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำพร้อมกับใช้อุปกรณ์ปกคลุมก้อนน้ำแข็งเพื่อรักษาอุณหภูมิและป้องกันแสงแดด เมื่อน้ำทะเลถูกแช่แข็งและปล่อยก้อนน้ำแข็งทรงหกเหลี่ยมลงสู่ทะเลเรียบร้อยแล้ว เรือก็จะดำลงไปใต้น้ำอีกครั้งและทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

dezeen

รูปทรงหกเหลี่ยมของ “Ice Baby” หรือน้ำแข็งที่ถูกปล่อยลงทะเลอาร์กติกนั้นเป็นรูปร่างที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเชื่อมติดกับน้ำแข็งก้อนอื่น ๆ เพราะทรงหกเหลี่ยมจะรวมตัวกันในรูปแบบรวงผึ้ง ก่อตัวเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ และค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของขั้วโลกเหนือทีละน้อย

แม้ในนิวยอร์กจะระดมทุนให้บริษัทสถาปนิกรายใหญ่หาหนทางป้องกันน้ำท่วมเพื่อปกป้องแมนฮัตตันตอนล่างจากคลื่นลูกยักษ์ หรือในซานฟรานซิสโกจะออกมาตรการเพื่อพิทักษ์ชายฝั่งจากมหาสมุทรที่รุกล้ำ

แต่สามดีไซเนอร์ผู้ออกแบบเรือดำน้ำลำนี้กลับคิดว่ามนุษย์เราให้ความสำคัญกับการปกป้องเมืองจากระดับน้ำทะเล มากกว่าแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือการหลอมเหลวของน้ำแข็งขั้วโลก

It is better to prevent than cure”

ในวันนี้เราอาจยังไม่เห็นผลกระทบของน้ำแข็งที่ละลายมากเท่าไร แต่เมื่อใดที่น้ำแข็งยังหลอมเหลวอย่างต่อเนื่อง มันจะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.8 เมตรภายในปี 2100

แล้วถ้าหากน้ำแข็งขั้วโลกทั้งหมดหลอมละลายกลายเป็นน้ำ ความสูงของน้ำทะเลก็จะเพิ่มระดับขึ้นอีกถึง 57 เมตร คงไม่ต้องจินตนาการว่ามวลน้ำมหาศาลจะพากันไหลทะลักเข้าท่วมเมืองแถบชายฝั่ง ส่งผลกระทบต่อประชาชนนับล้าน และท้ายที่สุดมันก็เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับชีวิตประวันของเราอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

COVER SOURCE , SOURCES: 1 / 2 / 3

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line