

Entertainment
5 ศิลปินที่เคย “หนัก” จนต้องเข้าสถานบำบัดมาแล้ว!
By: unlockmen November 19, 2015 19209
สำหรับศิลปินที่โด่งดังมีเงินถุงเงินถังนั้น ราคาของยาเสพติดเหล่านี้คงไม่ใช่ปัญหา มันจึงง่ายกว่าที่จะหาหรือเสพในปริมาณที่พวกเค้าพึงพอใจ จนหลายรายถึงกับเสียชีวิตเพราะเสพยาเกินขนาด (OVERDOSE) แต่เมื่อร่างกายไม่สามารถทนกับสารพิษแห่งความสุขได้อีกต่อไปล่ะ? ว่ากันว่า พิษสุราเรื้อรัง นั้นแย่แล้ว แต่มีสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เฮโรอีน โคเคน แอมเฟตามีน หรือ เคตามีน สิ่งเหล่านี้มันคงไม่ใช่ความสุขแล้วล่ะ เมื่อมันส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง เกิดความคิดที่สับสน จึงเป็นผลให้เกิดความเครียด ภาวะซึมเศร้า จนไม่สามารถทนอยู่กับตัวเองได้ และต้องการใครบางคนมาช่วยให้หลุดพ้น
และนี่คือรายชื่อของศิลปินผู้โด่งดัง ที่เดินเข้าสถานบำบัดยาเสพติดแบบเมาๆและกลับออกมาอย่างขาวสะอาด การบำบัดยาเสพติดไม่ใช่เรื่องตลก เมื่อใครคนนึงตัดสินใจเข้ารับการบำบัด มันจำเป็นที่จะต้องใช้ “ความอดทน” และ “ความพยายาม” อย่างมาก บุคคลรอบข้างคงได้แต่จ้องมองและเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ แต่น่าเสียดายสำหรับศิลปินจำนวนมากที่มากด้วยพรสววรค์และความสามารถ มีพร้อมทั้งเงินทองและชื่อเสียงที่ดังกระฉ่อนโลกหลายๆคนที่ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร
Oliver Sykes ฟรอนต์แมน วง Bring Me the Horizon เคยเล่าถึงเรื่องการต่อสู้กับอาการติดยาของตัวเอง โดยเค้าพูดถึง “ยาเค” ที่ตัวเองเสพ และในส่วนของการบำบัดยาเสพติดครั้งแรกของตัวเขาเอง เค้ารู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตของเขาได้ดำเนินมาถึงจุดที่ตกต่ำที่สุดจนเกือบจะปลิดชีพตัวเองลงด้วย “ผมเกือบจะฆ่าตัวตายแล้ว ผมไม่แคร์แล้วตอนนั้นว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ตอนนั้นผมอยากตาย” ในช่วงบำบัดเลิกยา หลายคนก็ส่งจดหมาย ส่งข้อความ แล้วก็อีเมล์ให้กำลังใจพวกนั้นมาหาผม มันทำให้ผมทำได้และเมื่อผมหลุดพ้นจากช่วงเวลาของการบำบัดได้แล้วผมก็ไม่อยากจะกลับไปอีก
Billie Joe Armstrong นักร้องวง Green Day จบหลักสูตรการบำบัดยาเสพติด และแอลกอฮอลิซึ่มในเดือนตุลาคม 2012 อาร์มสตรองถูกผู้จัดการวงกล่อมให้ไปเข้ารับการบำบัดอาการเหวอกลางเวที และแจกฟักเป็นเข่งให้คนดูไปกินจนอิ่ม ทำให้ Green Day ต้องยกเลิกโปรแกรมทัวร์ไปและอีเวนต์ต่างๆ “ผมพยายามทำเนื้อตัวให้สะอาดมาตั้งแต่ปี 1997 แต่ผมไม่อยากเข้าโปรแกรม บางครั้งเวลาเมาคุณสามารถครองโลกได้ด้วยตัวคนเดียว แต่บางทีผมก็ทนความเบื๊อกของตัวเองไม่ไหว ผมไม่มีทางเลือกแล้ว” สิ่งที่ผมเคยทำก็คือ “เราจะเปิดบ้านใครสักคนเป็นฮาเล็มส่วนตัวเพื่อเล่นดนตรีและปาร์ตี้กัน พอถึงจุดพีคๆก็ควักยาออกมาเสพให้สุดฟีล ผมจะใส่หนัก ดึงให้สุดปอด จากนั้นผมก็จะลงมือแต่งเพลง มันเต็มไปด้วยอารมณ์นะ แต่จริงๆ แล้ว มันไม่จำเป็นหรอก เพลงน่ะมันมีอยู่ในหัวผมอยู่แล้ว ความกล้าต่างหากที่ผมต้องการ มันมีความหวาดกลัวอยู่เสมอ”
Anthony Kiedis นักร้องลิ้นรัว วง Red Hot Chilli Peppers ไม่ใช่เฉพาะมือกีต้าร์ที่มีเรื่องราวกับการเสพยา
ตัว Anthony เองก็ไปพัวพันกับยาเสพติดจนเกือบตายมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลกับตัวเพลง และเนื้อหาในเพลงมากมายเกี่ยวกับยาเสพติด ในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจเข้ารับการบำบัด แถม Anthony Kiedis กับแฟนสาว Helena Vestergaard เข้าร่วมแคมเปญการกุศล #GivePeace ของผู้ให้บริการเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าออนไลน์สัญชาติออสเตรเลีย General Pants Co. โดยร่วมกับเสื้อผ้าแบรนด์ดังหลายแบรนด์ รายได้จะนำไปสมทบองค์กรการกุศลอย่าง “Save The Children Australia” และสถานบำบัดยาเสพติด “The Salvation Army Oasis Youth”
Steven Tyler แห่ง Aerosmith ได้เคยเปิดเผยว่าช่วงหนึ่งของชีวิตเขาเคยใช้เงิน 2,000 เหรียญต่อสัปดาห์หมดไปกับยาเสพติดทั้งเฮโรอีน, โคเคน และ แอลกอฮอลล์ “ผมใช้เงินหมดไปกับพวกนี้ประมาณ 20 ล้านเหรียญ ผมสูบรถพอร์ช, ผมสูบเครื่องบิน, ผมสูบบ้าน เข้าไปในปากกว้างๆ ของผม ทุกอย่างหมดไปกับเหล้าและยา ซึ่งผมสูญเสียทุกอย่างเลย” เค้าพูดติดตลกหลังจากที่เค้าได้รับการบำบัดยาเสพติดจากสถานบำบัดเรียบร้อย
John Frusciante อดีตมือกีต้าร์ ของวง Funk-Rock ระดับตำนานอย่าง Red Hot Chilli Peppers เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ขณะที่ตัวเค้าเองในตอนนั้น ติด Cocaine และ Heroin อย่างหนักว่าในปี 1994
นักข่าว : คุณรู้รึเปล่า? ว่าสิ่งเสพติดที่คุณเสพเข้าไปมันกำลังทำลายร่างกายของคุณนะ!
John : ไม่! ไม่! มันดีมาก รู้สึกดีสุดๆ รู้สึกดีจริงๆ ผมรู้สึกมีพลัง ผมสามารถเขียนเพลงได้ตลอดเวลา เล่นกีต้าร์อย่างเมามันส์ ยาช่วยพัฒนาสมองของผม ผมทราบซึ้งกับมันนะ มันทำให้ผมเป็นผู้ชายที่ดีกว่าเดิม
คำตอบของเค้ามันทำให้หลายๆคนถึงกับเอามือทาบอก ร้องโฮลี่ชิท! กันเลย เพราะด้วยสภาพและร่างกายของเค้าในตอนนั้นมันตรงกันข้ามกับคำพูดของเค้าโดนสิ้นเชิง สุดท้าย John เกือบเสียชีวิตจากพิษของยาเสพติดเนื่องจากสารพิษมันอยู่ในกระแสเลือดของเค้ามากเกินไป หรือที่เรียกว่าโลหิตเป็นพิษนั่นเอง หลังจากนั้นจึงเข้ารับการบำบัดยาเสพติด และกลับออกมาฟรุ้งฟริ๊งอย่างที่เห็นในตอนนี้
คงไม่ต้องอธิบายถึงพิษภัยจากยาเสพติดกันนะครับว่ามันมีเอฟเฟ็คที่เลวร้ายขนาดไหน แต่สำหรับใครหลายๆ คนที่กำลังคิดจะใช้ยา มันไม่มีเหตุผลที่ต้องนำมาใช้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานหรือสิ่งอื่นแต่อย่างใด สำหรับคนที่กำลังต่อสู้เพื่อที่จะหลุดพ้นกับสิ่งเหล่านี้ UNLOCKMEN ขอยกเอาตัวอย่างของศิลปินเหล่านี้และขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนกลับมาสดใสแข็งแรงนะครับ สำหรับคนที่ยังติดอยู่กับสิ่งเหล่านี้ อย่าลืมนะครับ! คุณกำลังสูบบ้าน, สูบรถ และทุกๆ อย่างในชีวิตคุณเองอยู่