CARS

DRIVE: 2020 MERCEDES-BENZ GLC 220d 4MATIC COUPE AMG DYNAMIC

By: Chaipohn June 11, 2020

หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนเรา ว่าเพราะอะไร ถึงค่ายรถถึงนิยมดีไซน์รถยนต์ Coupe SUV ออกมาขาย ทำไมเราถึงต้องเอารถที่มีจุดเด่นเรื่องพื้นที่ห้องโดยสารและที่เก็บสัมภาระ ลดขนาดมันให้เล็กลง เพื่อแลกกับความโฉบเฉี่ยวสวยงามที่เพิ่มขึ้น แถมยังต้องจ่ายเงินแพงกว่าหลายแสนบาท?

จนกระทั่งเราได้รีวิวมัน ถึงได้เข้าใจว่าอารมณ์ของรถ Coupe SUV และการขับขี่ในความเร็วสูงนั้น มันแตกต่างกันจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม BMW และ Porsche ถึงต้องมีรถทรงนี้ออกมาขายกันอย่างจริงจัง

ที่จริง BMW เป็นผู้ริเริ่มการทำ Coupe SUV ไม่ว่าจะเป็น X4, X6 ซึ่งมีความสวยงามโฉบเฉี่ยวมากขึ้น และก็ทำกำไรได้มากกว่ารุ่นทั่วไป เช่นเดียวกับ Mercedes-Benz ที่ตั้งราคาขายรุ่น Coupe SUV ไว้สูงกว่าปกติพอสมควร อย่างใน GLC 220d 4MATIC Coupe’ AMG Dynamic Facelift คันนี้ราคา 4,040,000 บาท ซึ่งต่างจากรุ่นหลังคาปกติ GLC 220d Off-Road ราคา 3,239,000 บาท และ GLC 220d AMG Dynamic ราคา 3,699,000 บาท โดยที่สเปกเครื่องยนต์ให้พละกำลังเท่ากัน แต่มีออพชันหลาย ๆ อย่างที่ตัว Coupe’ ถูกตัดทิ้งออกไปจากตัว AMG Dynamic

ดังนั้นส่วนต่างหลัก ๆ ของการจ่ายแพงกว่า คือเรื่องของความสวยงามเป็นหลัก แต่อย่าคิดว่าไม่มีคนยอมควัก เพราะบนตามท้องถนนในกรุงเทพมหานครจะพบเห็น GLC Coupe’ บ่อยกว่ารุ่นธรรมดาซะอีก ซึ่งมันก็ดูโดดเด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตอบโจทย์คนที่จ่ายเงินราคานี้ ย่อมอยากได้อะไรที่สะท้อนไลฟ์สไตล์บุคลิกสปอร์ตของตัวเองมากกว่า


“GLC Coupe’ เป็นรถที่สวยงาม เราชอบทุกครั้งที่ได้เห็นตัวเองนั่งอยู่ในรถคันนี้ เพียงแต่เราคาดหวังความแตกต่างใน Facelift มากกว่านี้”

ภายนอกการออกแบบ 2020 GLC 220d 4MATIC Coupe’ AMG Dynamic Facelift ต่างจากรุ่นเดิมเล็กน้อยมาก ๆ คนที่ซื้อไปก่อนคงยิ้มออกไปตาม ๆ กัน ส่วนคนที่รอ Facelift และพลาดโอกาสซื้อช่วงราคาพิเศษคงเสียดายมาก ๆ เช่นกัน

จุดที่เห็นชัดคือไฟหน้าและไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ และเปลี่ยนล้อเป็น AMG ลาย 5 ก้านสี Tremolite Grey ขนาด 19 นิ้ว เท่านี้จริง ๆ แต่โดยรวมก็ถือว่าสวยงามลงตัวดี ขนาดตัวกว้าง 1,890 x ยาว 4,731 x สูง 1,600 มิลลิเมตร ซึ่งเตี้ยกว่ารุ่น SUV ธรรมดาที่ความสูง 1,644 มิลลิเมตร เมื่อบวกกับหลังคาด้านท้ายแบบ Coupe’ กระจังหน้า  Diamond Radiator Grille และกันชนหน้าหลัง AMG ที่มีปลายท่อคู่โครเมียม (ปลายท่อหลอก) ให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่าอย่างชัดเจน

วัสดุภายในสัมผัสได้ถึงคุณภาพที่ดี มีการอัพเกรดอุปกรณ์สำคัญ ๆ ให้ทันสมัยและใช้งานง่ายขึ้นเหมือนใน Mercedes-Benz generation ใหม่ ๆ เช่นการเปลี่ยนมาใช้พวงมาลัย AMG รุ่นปี 2019 ที่มีปุ่มควบคุม Touch Control ขนาดเล็กสำหรับควบคุมจอกลาง Touch Screen ขนาด 10.25 นิ้วและมาตรวัด Full Digital instrument display ขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งไม่ได้รวมเป็นชิ้นเดียวกันเหมือนในรถ Sedan แต่ก็ให้ความรู้สึกบึกบึนแข็งแรงดี

จุดนึงที่เราบอกไปว่าการซื้อทรง Coupe’ เป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่าฟังก์ชัน เพราะมีหลายอย่างที่เราจ่ายแพงกว่าแต่กลับถูกตัดออพชั่นออก ซึ่งชิ้นหลัก ๆ ที่เรามองว่าน่าเสียดายก็คือไฟหน้าของ GLC Coupe’ ได้เป็นแบบ LED High Performance ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่ให้โคมไฟแบบ MULTITBEAM LED แบบในรุ่นรองมา จึงไม่มีระบบ Cornering Light และ ULTRA RANGE Highbeam มาด้วย ไม่มีหลังคากระจก Panoramic Runroof มาให้ และเครื่องเสียงก็ไม่ใช่ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester!! ทั้งที่จ่ายแพงกว่า GLC SUV ตั้งสี่แสนบาท

แต่สิ่งที่ Coupe’ มีเหนือกว่าคือการได้ระบบ 4MATIC มา ซึ่งใน GLC อีกสองรุ่นจะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และเราก็รู้กันดีว่า 4MATIC ของ Mercedes-Benz นั้นดีแค่ไหน ซึ่งถ้าถามคนที่เน้นความสวยงามและความเท่เมื่อนั่งอยู่ในห้องโดยสาร บวกกับการขับขี่ที่พร้อมลุยและเกาะถนนมากกว่า ก็เป็นข้อดีที่หลายคนยินดีเลือกตัวถัง Coupe และที่สำคัญราคาปัจจุบันถูกกว่า GLC 250d Coupe รุ่นแรก CBU ที่เปิดตัวมาเกือบห้าล้านบาท

ถ้าจะเลือกสี เราอยากแนะนำรถสีดำล้อดำ เมื่อบวกกับภายในแผงคอนโซลสีดำ เบาะดำ มันจะเพิ่มความเก๋าและขรึมให้ GLC Coupe’ ของคุณได้หลายเท่าตัว


“คล่องตัวสำหรับ SUV การทรงตัวเป็นเยี่ยม แต่เราอยากให้มันแรงกว่านี้ และใช้งานง่ายกว่านี้”

GLC 220d ทุกรุ่นมากับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว Turbocharged 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที ทำเวลา 0-100 km/h ได้ใน 7.9 วินาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ 9G-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC มากับล้อที่ขนาดใหญ่ คู่หน้า 235/55 R19 คู่หลัง 255/55 R19 จึงวางใจเรื่องเกาะถนนได้ เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงสบาย ๆ ไม่ต้องลุ้น

อัตราเร่งที่เปลี่ยนอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่องสำหรับรถรูปร่างขนาดนี้ถือว่าทำได้ดีพอสมควรโดยเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำ แต่อาจจะไม่ทันใจนักในช่วงความเร็วสูงขึ้นไป (ตั้งแต่ช่วงราว 140 km/h ขึ้นไป แต่ก็ไม่ถือว่าแย่ สำหรับรถยนต์ไซส์นี้)

น่าเสียดาย และน่าดีใจสำหรับคนที่มี GLC 250d ที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะมีแรงม้ามากถึง 204 ตัว และแรงบิดมากถึง 500 นิวตันเมตร ซึ่งรู้สึกถึงการดึงที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน (250d ถูกเปลี่ยนเป็นรหัส 300d ในตลาดโลก และไม่ได้เข้ามาทำตลาดในไทยในช่วงหลัง)

ช่วงล่างแบบ Sport ของ GLC อาจจะไม่ได้นุ่มนวลจนวิ่งผ่านหลุมหรือเนินโดยไม่รู้ตัว แต่ก็รับมือกับสภาพถนนประเทศไทย ไม่ว่าจะหลุม บ่อ หรือเนินใด ๆ ได้ดี ซึ่งความเป็นสปอร์ตจะรู้สึกแข็งกว่า GLC รุ่น Off-Road ที่มีช่วงล่างแบบ Comfort แต่ก็ไม่ถึงกับกระด้างจนเกินไป แลกกับการจิกโค้งที่มีกว่าถือว่าคุ้มค่า แต่น่าเสียดายที่ไม่มีออพชันช่วงล่างถุงลม AIRMATIC air suspension สำหรับปรับโหมดการขับขี่และช่วงล่างให้เหมาะกับแต่ละสภาพถนนได้ดีกว่านี้

การขับขี่มีทัศนวิสัยด้านหน้าและรอบ ๆ ตัวรถทำได้ดี แม้จะรู้สึกได้ว่ารถมีความบึกบึน แต่กระจกหน้ากว้างและเคลียร์ เสา A อาจจะดูหนาแต่กลับไม่บดบังให้เกิดมุมอับ แต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับรถสไตล์ Coupe’ อาจจะต้องปรับตัวกับการมองด้านท้ายเนื่องจากมีมุมมองค่อนข้างแคบ เนื่องจากหลังคาท้ายที่ลาดลงกว่ารุ่นปกติ ซึ่งรถที่สูงขนาดนี้ทำให้เรามองวัตถุเตี้ย ๆ ไม่ค่อยเห็น แต่ก็แก้ไขได้ด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทางที่แสดงภาพได้อย่างคมชัด (คนที่ไม่ชินอาจจะงงกับเสียงเปิดปิดกล้องจากฝาด้านหลัง แต่สักพักจะชินไปเอง)

พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างใหญ่นั่งสบาย ซึ่งผิดคาดเพราะคิดว่าด้านหลังจะคับแคบจากการดูรูปทรงจากภายนอก เมื่อนั่งจริงกลับมีพื้นที่ทั้งศีรษะและเข่าเหลือพอสมควร แต่ควรจะนั่งด้านหลังแค่ 2 คนเท่านั้น เพราะคนตรงกลางนั่งระยะทางไกลไม่สบายแน่นอน แต่พื้นที่เก็บสัมภาระนั้นมีมากพอที่จะใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ และอื่น ๆ อีกมากมายแม้แต่รถเข็นเด็กสำหรับคนมีครอบครัวได้อย่างไม่ยากเย็น

การใช้งาน Infotainment และระบบต่าง ๆ ผ่านหน้าจอระหว่างขับขี่ ยังคงเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แม้เราจะเริ่มคุ้นเคยกับมันจาก Mercedes-Benz หลาย ๆ รุ่นแล้วก็ตาม การใช้งานยังคงต้องละสายตามามองเพื่อเข้าถึงเมนูต่าง ๆ เช่นจะเปลี่ยนเพลง ยังต้องเลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งของมัน จึงจะสั่งงานผ่าน Touch Control บนพวงมาลัย, Touchpad กลางคอนโซล จะกด touchscreen ยิ่งเป็นไปไม่ได้ในขณะขับรถ หรือแม้แต่การเจอกรณีฉุกเฉินที่ต้องกดไฟขอทางฉุกเฉิน ก็ต้องความหา แทนที่ปุ่มจะอยู่ในจุดที่เด่นเช่นกลางคอนโซลเพื่อให้ง่ายในการใช้งาน


“นี่คือ Coupe SUV ที่เท่ โดดเด่น ใช้งานได้ทุกวันทั้งในเมืองและนอกเมือง”

2020 GLC 220d 4MATIC Coupe’ AMG Dynamic Facelift เป็นรถ SUV Coupe’ ที่เท่ สวยงาม โดดเด่นบนท้องถนน ความพิเศษในเรื่องสไตล์ อารมณ์ที่ดูสปอร์ตขึ้น และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC เป็นจุดเด่นที่สุดของรถคันนี้

มันเป็นรถ SUV ที่ใช้งานได้ดี ขับได้คล่องแคล่วแม้แรงบิดจะไม่ดึงทันใจเท่ารุ่น 250d และออพชั่นก็ไม่ได้มาครบที่สุดเมื่อเทียบกับโมเดลรองที่ราคาถูกกว่า ดังนั้นการตัดสินใจจ่ายเงิน 4,040,000 บาท จึงเหมาะกับคนที่ต้องการ SUV ที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยว ความหรูหราของ Mercedes-Benz และภาพลักษณ์ทางสังคมที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด

ถ้าราคาของตัว Coupe’ ดีกว่านี้อีกสักนิด หรือแถม Warranty มากกว่านี้อีกหน่อย น่าจะถูกใจสาวก Mercedes-Benz ที่เหนียวแน่นกันมากขึ้นแน่นอนครับ

แต่ถ้าเน้นความคุ้มค่ากับราคา และไม่ต้องการระบบ 4MATIC เรามองว่า GLC SUV AMG ตัวถังปกติ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line