ขยายขอบเขตสู่โลกกว้างไร้ขีดจำกัด กับครั้งแรกของฟังก์ชั่น GMT ในเรือนเวลา SEIKO 5 SPORTS

นับตั้งแต่การเปิดตัวของนาฬิกา Seiko 5 Sports ในปี 1968 โลกก็ได้รู้จักกับ เรือนเวลาจักรลที่เป็นตัวแทนของความทนทาน และคุณค่าด้านประสิทธิภาพที่ไว้ใจได้ มาอย่างยาวนานกว่า 54 ปี จวบจนปัจจุบัน โดยเลข “5” ในชื่อรุ่นเป็นสิ่งแสดงถึงคำมั่นสัญญาว่านาฬิกา Seiko 5 ทุกเรือนจะมาพร้อมคุณสมบัติหลัก 5 ประการ ดังนี้ เครื่องระบบอัตโนมัติ, ฟังก์ชั่นวันและวันที่บริเวณ 3 นาฬิกา, ระบบกันน้ำ, เม็ดมะยมบริเวณ 4 นาฬิกา และ ตัวเรือนรวมถึงสายที่มีความแข็งแรงทนทาน

Seiko 5 Sports รุ่นแรกจากปี 1968

จากคุณสมบัติเหล่านี้ ส่งผลให้ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ชื่อของ Seiko 5 Sports นาฬิกาสปอร์ตสัญชาติญี่ปุ่น ได้สร้างประวัติศาสตร์รับความนิยมในระดับนานาชาติในฐานะนาฬิกาที่สามารถ “ไปได้ทุกที่” โดดเด่นทั้งประสิทธิภาพครบครันและดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในราคาที่คุ้มค่า 

อีกทั้งจุดเด่นเหล่านี้ยังได้ถ่ายทอด DNA ความแข็งแกร่งสู่คอลเลคชั่นใหม่ของ Seiko 5 Sports ที่กลับมาในปี 2019 ซึ่งได้มีการเพิ่มความกระตือรือร้นและพลังแห่งการขับเคลื่อนอันทันสมัยลงไป พร้อมเปิดตัวรุ่นพิเศษออกมามากมาย ทั้ง Thailand Limited Edition / Street Fighter V / Naruto & Boruto / One Piece ฯลฯ  ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละรุ่นนั้นได้รับความนิยมจากแฟน ๆ Seiko 5 Sports อย่างท่วมท้น

แต่ต้องบอกว่าตำนานความยิ่งใหญ่ของ Seiko 5 Sports  นั้นไม่ได้จบแค่การ Fresh Up ปรับโฉมใหม่ เพราะล่าสุดได้มีการขยายขอบเขตการใช้งานสู่โลกกว้างไร้ขีดจำกัด กับครั้งแรกที่มีการวางกลไกซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่น GMT หรือการบอกบอกเวลาที่ 2 เพิ่มเข้ามาในคอลเลกชั่นล่าสุดของ Seiko 5 Sports 

โดยกลไกชุดนี้ได้รับการต่อยอดและพัฒนามาจากกลไกอัตโนมัติในตระกูล 4R ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานและประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเท่สปอร์ตคลาสสิกของดีไซน์โดยรวมเอาไว้ ด้วยขนาดตัวเรือนที่หนาขึ้นจากรุ่นก่อนเพียงแค่ 0.1 มิลลิเมตรเท่านั้น

สำหรับงานออกแบบตัวเรือนและหน้าปัดของ Seiko 5 Sports GMT ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาสปอร์ตรุ่นดังในอดีตของ Seiko ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากสาวกทั่วโลก ซึ่งเป็นที่รู้จักของแฟน ๆ Seiko ในชื่อ SKX Series สายโลหะของนาฬิการุ่นใหม่เป็นสายแบบ 5 ข้อ ที่ได้รับการออกแบบใหม่ แต่ก็มีกลิ่นอายของ SKX โดยข้อสายที่อยู่ตรงกลางได้รับขัดเงาเพื่อสร้างความโดดเด่น และเพิ่มความแตกต่างจากข้อสายฝั่งซ้ายและขวาที่ให้ความรู้สึกถึงสัมผัสที่แข็งแกร่ง

โดย Seiko 5 Sports GMT นั้นมีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย กับ 3 สีสันที่แตกต่างให้สวมใส่ในสไตล์ที่เป็นตัวเองที่สุด นอกจากนี้นาฬิกาทั้ง 3 รุ่นที่มาพร้อมกับหน้าปัดและขอบตัวเรือนที่มีสีสันแตกต่างกันไปยังถูกออกแบบให้ใช้งานฟังก์ชัน GMT ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยเข็ม GMT และขอบตัวเรือนที่มีสีสันต่างกัน เพื่อความสะดวกในการอ่านค่าเวลา โดยในรุ่นหน้าปัดดำและน้ำเงิน มาพร้อมเข็ม GMT สีแดง ส่วนรุ่นหน้าปัดส้มจะมีเข็ม GMT สีดำ 

ซึ่งเข็ม GMT ของทุกรุ่นนั้นได้รับการเคลือบสารเรืองแสงเช่นเดียวกับชุดเข็มแสดงเวลาและหลักชั่วโมง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการอ่านเวลาขณะที่อยู่ในที่มืดหรือพื้นที่ซึ่งมีแสงน้อย ยิ่งไปกว่านั้นฟังก์ชั่นแสดงเวลาที่ 2 หรือ GMT ยังถูกออกแบบให้ใช้งานอย่างสะดวกสบาย สามารถใช้ร่วมกับขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ซึ่งประดับด้วยสเกล 24 ชั่วโมงที่แบ่งออกเป็น 2 สีเพื่อแสดงช่วงเวลากลางวันและกลางคืน 

ทางด้านตัวเลขและเครื่องหมายบนวงแหวนของขอบตัวเรือนผลิตจากวัสดุที่ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและความเงางามอย่างกระจก Hardlex เพื่อสะท้อนถึงนิยามความทนทาน ไว้วางใจได้ และตอกย้ำให้โลกได้รู้ว่า Seiko 5 Sports GMT พร้อมเป็นเรือนเวลาจักรกลที่สามารถไปด้วยกันได้ทุกที่อย่างแท้จริง

ฉีกทุกข้อจำกัดสุดท้าทาย แล้วออกเดินทางสัมผัสโลกกว้างไปด้วยกันกับ Seiko 5 Sports GMT ได้แล้ววันนี้ที่ Siam Paragon Watch & Jewelry Expo 2022, ไซโก บูติก เซ็นทรัลแกรนด์ พระราม9 และ เคาท์เตอร์ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

หรือสั่งซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่

Online boutique: https://www.seikoboutiquethailand.com/…/seiko-boy-gmt-th/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888

#Seiko #SeikoThailand #5Sports #GMT #ParagonWatchExpo

Website: https://www.seikowatches.com/th-th/products

FB: Seiko Club by Seiko Thailand

Youtube Channel: Seiko Club by Seiko Thailand

IG: Seiko_Thailand

Line: @Seiko_Thailand

Twitter: @Seiko_Thailand

Seiko 5 Sports GMT

กลไก: 4R34

ความถี่: 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ครั้งต่อวินาที)

พลังงานสำรอง: 41 ชั่วโมง

จำนวนทับทิม: 24 เม็ด

รายละเอียดทางเทคนิค 

• ตัวเรือนและสายผลิตจากสแตนเลสสตีล
• บานพับสายแบบพับ 3 ทบ พร้อมปุ่มกดปลดล็อก
• กระจกแบบ Hardlex
• ฝาหลังแบบใสมองเห็นกลไกที่อยู่ข้างใน
• เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42.5 มิลลิเมตร ความหนา: 13.6 มิลลิเมตร
• การกันน้ำ: 10 บาร์

ราคา: 19,000 บาท