Entertainment

ย้อนเวลา! 9 บทเพลงที่จะทำให้คุณหวนนึกถึงยุครุ่งเรืองที่สุดของดนตรี “POST-PUNK REVIVAL”

By: JEDDY February 20, 2022

ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน กระแสดนตรีมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนถ่ายเทไปมาอยู่ตลอดเวลา มีดนตรีแนวต่าง ๆ เกิดขึ้นมาใหม่มากมาย มีการผสมผสานครอสโอเวอร์ข้ามสายพันธุ์จนเกิดความแปลกใหม่ขึ้นมาให้เสพเสมอ แต่ในบางครั้งบางแนวเพลงที่เคยได้รับความนิยมในอดีตก็ถูกฟื้นฟู (Revival) ให้ฟื้นคืนชีพกลับมาได้รับความนิยมในกระแสหลักอีกครั้ง อย่างเช่นดนตรีแนวโพสต์พังก์ที่เคยได้รับความนิยมในช่วงยุค 80’s

โพสต์พังก์ถูกเหล่าวัยรุ่นในยุค 2000’s ปัดฝุ่นหยิบกลับมันมาเล่นอีกครั้ง จนเกิดกระแสตอบรับไปทั่วโลกและถูกขนานนามว่าเป็นยุคแห่ง “Post-Punk Revival” (แม้ว่าดนตรีแนวเรทโทรอื่น ๆ จะตามมาด้วยก็ตาม) เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนก็น่าจะเคยไหลไปกับกระแสนิยมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงและการแต่งตัว เรามาย้อนช่วงเวลาความสนุกเหล่านั้นกับ 10 บทเพลงที่จะทำให้คุณนึกถึงยุครุ่งเรืองของ Post-Punk Revival กันดีกว่าครับ


1. THE STROKES – REPTILIA

แม้จะเป็นวงดนตรีจากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่การสื่อสารซาวด์แบบฝั่งอังกฤษของพวกเขาทำออกมาได้อย่างแนบเนียนจนทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดได้เลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งวงที่ทำให้วัยรุ่นลุกขึ้นมาแต่งตัวทำผมเลียนแบบกันเต็มไปหมด

ส่วนผลงานเพลง “Reptilla” อยู่ในอัลบั้มที่ 2 ‘Room On Fire’ เป็นเพลงที่จังหวะเนิบ ๆ มีริฟฟ์กีตาร์ที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก แต่แค่นั้นก็เท่โคตรแล้ว ยิ่งพอมาเจอท่อนโซโล่กีตาร์อีกก็ยิ่งเติมเต็มอารมณ์ของเพลงให้เพอร์เฟกยิ่งขึ้น

เพลง “Reptilla” ถูกโปรโมตครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี 2004 เพิ่งจะครบรอบ 18 ปีไปสด ๆ ร้อน ๆ


2. ARCTIC MONKEYS – I BET YOU LOOK GOOD ON THE DANCE FLOOR

วงดนตรีที่เปิดตัวด้วยลุคที่ดูราวกับเด็กเนิร์ดลุกขึ้นมาจับเครื่องดนตรี แต่แท้จริงแล้วฝีมือการทำเพลงของ Arctic Monkeys เต็มไปด้วยความจัดจ้าดและความสดใหม่ จนสุดท้ายพวกเขาก็ขยายชื่อเสียงจนกลายเป็นวงระดับโลกเหมือนดั่งเช่นในปัจจุบัน

สำหรับเพลง “I Bet You Look Good On The Dance floor” ผลงานจากอัลบั้มแรก ‘Whatever People Say I Am, That’s What I’m Not’ วางจำหน่ายเมื่อปี 2006 และเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัว  ดนตรีเต็มไปด้วยจังหวะรุกเร้า แฝงไปด้วยอารมณ์ของความก้าวร้าวในแบบฉบับวัยรุ่น ใครก็ตามที่ได้ฟังเพลงนี้ไม่มีทางที่ร่างกายจะอยู่เฉย ๆ ได้แน่นอน

แม้จะเป็นเพลงเดบิวต์ของวง แต่พวกเขาก็สร้างความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ซิงเกิ้ลนี้ทำยอดขายได้มากถึง 1.8 ล้านก็อปปี้ (เฉพาะในอังกฤษ) และยังคว้ารางวัลบทเพลงยอดเยี่ยมจากเวที NME Awards 2006 ได้อีกด้วย


3. THE WHITE STRIPES – SEVEN NATION ARMY 

ในยุคที่ดนตรีโพสต์พังก์กลับมาได้รับความนิยม มันก็ได้ลากดนตรีการาจร็อกรวมถึงนิวเวฟให้กลับมาได้ความนิยมไปด้วยเช่นกัน ซึ่งดนตรีของ The White Stripes ก็ได้รับอิทธิพลจากการาจร็อกมาแบบเต็มๆ

แต่ถ้าจะให้พูดถึงเพลงที่สร้างความอิมแพคได้อย่างยิ่งใหญ่ คงต้องยกให้ “Seven Nation Army” กับริฟฟ์กีตาร์เดียวเล่นวนได้ทั้งเพลง (แม้กระทั่งไลน์เบสยังเล่นริฟฟ์เดียวกัน) และน่าจะเป็นเพลงคนจำซาวด์กีตาร์ได้มากกว่าเสียงร้องแน่นอน ซึ่งมันพิสูจน์ได้จากการที่แฟนเพลงจะฮัมเมโลดี้ของริฟฟ์กีตาร์ตามเวลาวงไปแสดงสด และลุกลามกลายไปเป็นเพลงเชียร์ของบรรดาแฟนบอลสโมสสรฟุตบอลในยุโรปอีกด้วย (เคยถูกใช้เป็นเพลงในฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซีย)

“Seven Nation Army” ถูกรวมอยู่ในอัลบั้ม ‘Elephant’ วางจำหน่ายเมื่อปี 2003 โปรดิวซ์โดย Jack White เอง


4. THE KILLERS – SOMEBODY TOLD ME

เป็นอีกหนึ่งวงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อัลบั้มแรก The Killers วงนิวเวฟ/โพสต์พังก์ จาก ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา มาพร้อมกับสีสันทางดนตรีที่หลากหลาย โดยเฉพาะซาวด์ของเสียงสังเคราะห์ที่ช่วยให้เพลงของพวกเขามีความฟุ้งกระจายไปทั่วเลเยอร์ของแต่ละพาร์ตดนตรี

เอกลักษณ์ของซาวด์ที่ได้เกริ่นมาเกิดขึ้นกับเพลง “Somebody Told Me” ที่แม้ว่าเพลงจะถูกปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2004 แต่หากใครก็ตามที่ฟังจะต้องรู้สึกว่าเพลงมันคงมีความสดใหม่ไม่เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด

จากความโด่งดังของ The Killers ทั้งจากเพลง “Somebody Told Me” และ “Mr.Brightside” ส่งผลให้อัลบั้ม ‘Hot Fuss’ ทำยอดขายถล่มทลายมากถึง 7,000,000 ก็อปปี้ทั่วโลก


5. KINGS OF LEON – KINGS OF THE RODEO

KOL จัดได้ว่าเป็นวงดนตรีที่สร้างดนตรีโพสต์พังก์ได้แตกต่างจากวงอื่น เพราะพวกเขาหยิบเอาสำเนียงซาวด์ของเซาท์เทิร์นร็อกมาใส่ไว้ได้อย่างน่าฟัง

ผลงานเพลงในอัลบั้ม ‘Aha Shake Heartbreak’ จะทำให้เราเข้าใจดีเทลที่กล่าวมาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสำเนียงการร้องที่ชัดเจนเอามาก ๆ

นอกจากนั้นบรรยากาศในอัลบั้มยังมีความเป็นคาวบอยสอดแทรกเข้ามาด้วย พิสูจน์ได้ด้วยเพลง “King Of The Rodeo” โดยเฉพาะใครที่ได้ชม MV ก็จะยิ่งเข้าใจสิ่งที่ทางวงต้องการจะสื่อสารออกมา

แม้ระยะหลังซาวด์ดนตรีของ KOL จะมีการปรับเปลี่ยนไป แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ยังคงจะต้องย้อนกลับมาฟังผลงานที่สร้างรากฐานให้กับพวกเขาเป็นประจำอย่างแน่นอน


6. BLOC PARTY – BANQUET

วงดนตรีโพสต์พังก์จากลอนดอน ที่ในยุคนั้นทุกคนต่างให้ความสนใจเนื่องจาก Kele Okereke ฟรอนต์แมนของวงเป็นชาวผิวสี ซึ่งค่อนเป็นอะไรที่แหวกมาก ณ เวลานั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันคือตัวดนตรีจากอัลบั้ม ‘Silent Alarm’ (2005) ที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ

เพลง “Banquet” คือซิงเกิ้ลที่ 2 ที่ถูกนำมาโปรโมต พวกเขาเอาสัดส่วนดนตรีโพสต์พังก์มาเบลนด์เข้ามาจังหวะของเพลงแดนซ์ ช่วยเพิ่มสีสันทางดนตรีให้มีความสนุกมากขึ้นไปอีกเท่าตัว

ถึงแม้ว่าในแง่ของยอดขายอาจจะไม่ได้ปังเท่ากับวงบิ๊กเนมในรุ่นเดียวกัน แต่ความครีเอทีฟไอเดียของอัลบั้มนี้ก็เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องคารวะ


7. EDITORS – AN END HAS A STRAT

หากคุณหลงรักซาวด์ของ Joy Division ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้คุณต้องไม่ชอบผลงานของ Editors วงดนตรีโพสต์พังก์จากเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะกับดนตรีในอัลบั้ม ‘An End Has A Start’ (2007) ที่บ่งบอกความเคารพรุ่นพี่แห่งยุค 80’s ได้เป็นอย่างดี

ซาวด์ของความหม่น บรรยากาศที่ดำดิ่ง ถูกส่งผ่านมากับไตเติ้ลแทร็กชื่อเดียวกับอัลบั้ม ดนตรีกับเสียงร้องไม่ได้มีอะไรโดดเด่นไปมากกว่ากัน เพราะมันถูกบาลานซ์ให้มีความสำคัญเท่ากันทั้งหมด

และคุณรู้หรือไม่วง Editors ยังเป็นอิทธิพลทางดนตรีที่สำคัญให้กับวง The Yers อีกด้วย


8. WHITE LIES – TO LOSE MY LIFE

พวกเขาเป็นอีกหนึ่งวงที่เล่นซาวด์ค่อนข้างจะมีความใกล้เคียงกับโพสต์พังก์ในยุค 80’s แต่สิ่งที่แตกต่างก็คงเป็นภาคโปรดัคชั่นที่มีความทันสมัย ทำให้ซาวด์ที่บรรเลงออกมาได้ยินครบทุกชิ้นแบบไม่มีจม

ดนตรีในเพลง “To Lose My Life” ของ White Lies จะมีเสียงของซินธิไซเซอร์มาเป็นส่วนประกอบเพื่อสร้างบรรยากาศภายในเพลง มีเสียงของเบสที่ชวนอึดอัด บรรยากาศรวม ๆ ค่อนข้างอึมครึมราวกับท้องฟ้าที่กำลังจะมีสายฝนโปรยปรายลงมา

White Lies เป็นอีกหนึ่งวงที่ชื่อเสียงอาจจะไม่ได้ดังเทียบเท่ากับวงใหญ่ ๆ แต่ใครที่นิยมชมชอบซาวด์หม่น ๆ ดนตรีของพวกเขาตอบสนองได้ดีแน่นอน


9. FRANZ FERDINAND – TAKE ME OUT

ในยุค Post-Punk Revival โด่งดัง ถ้าจะให้พูดถึงเพลงที่แม้แต่คนทั่ว ๆ ไปยังเคยฟัง คงหนีไม่พ้นเพลง “Take Me Out” ของวง Franz Ferdinand จากดินแดนวิสกี้ ประเทศสกอตแลนด์

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจังหวะดนตรีในเพลงนี้มันช่างคล้ายกับจังหวะเพลงเซิ้งของประเทศเราซะจริง ๆ การวางริฟฟ์กีตาร์ก็พาลให้นึกดนตรีหมอลำด้วยเช่นกัน นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เพลงนี้ถูกเปิดตามผับบาร์เพลงสากลในบ้านเราเต็มไปหมด แม้กระทั่งในปัจจุบันก็ยังคงได้ยินอยู่ต่อเนื่อง

แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วเพลง “Take Me Out” มันก็ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก สามารถขึ้นไปติดอันดับ 1 บนชาร์ต Uk Indie และทำยอดขายซิงเกิ้ลเกิน 1 ล้านก็อปปี้ รวมถึง Daft Punk ยังเคยนำเพลงไปรีมิกซ์อีกด้วย

 

เพลงทั้งหมดนี้มาจากความอินของผู้เขียนล้วน ๆ เพราะเชื่อว่าแต่ละคนอาจจะมีเพลย์ลิสต์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามความสุขของการฟังเพลงเก่า ๆ มันก็มักจะพาความทรงจำดี ๆ ในช่วงเวลาเหล่านั้นย้อนกลับมาได้ดีเสมอครับ

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line