ข้อความด้านบนนี้ อาจเป็นความหมายของ ‘HERO’ ภายใต้การรับรู้ของคนทั่วไป เพราะฮีโร่มักจะถูกแทนค่าด้วยความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์มนา เป็นผู้ที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่เหนือกว่ามนุษย์คนใดในโลกหล้า แต่ถ้าหากลองย้อนมองวิกฤติ COVID-19 ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าทุกคนต่างเคยได้สัมผัสกับ ‘ฮีโร่’ ในชีวิตจริง ที่อาจไม่จำเป็นต้องมีพลังอำนาจใด ๆ ยิ่งใหญ่ล้นฟ้ามาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ‘ฮีโร่’ เดินดิน ที่มีวิถีชีวิตคนเมืองร่วมกันกับพวกเรา หรือเหล่า ‘ฮีโร่’ ที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน เจ็บปวดกับปัญหาร้อยแปดพันประการโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่เล็ก ๆ ของตัวเองในทุกวันด้วยความตั้งใจ ซึ่ง ‘ฮีโร่’ เหล่านั้นอาจเป็นได้ทั้งคนในครอบครัว, ลุงร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าคอนโด, พนักงานร้านสะดวกซื้อ, กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์, ไรเดอร์ส่งของ, รุ่นน้องที่ทำงาน หรืออาจเป็นคนเดียวกันกับที่เรามองเห็นตอนส่องกระจกทุกเช้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเหนือจินตนาการแต่อย่างใด เพราะในความเป็นจริงที่ผ่านมาพวกเราทุกคนคือ ‘HERO’ ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือใครก็ตามที่ยังมุ่งมั่นฝ่าฟันมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยหัวใจของนักสู้ที่เข้มแข็ง ที่ปลุกตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้ในทุกเช้า เพื่อไปต่อ! ลุยต่อ! สู้ต่อ! ยืนหยัดทำหน้าที่และร่วมรับผิดชอบต่อสังคมเมืองเป็นอย่างดีในทุก ๆ วัน และประเด็นเรื่องพลังเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าฮีโร่คนเมือง ฮีโร่เดินถนนคนธรรมดาอย่างพวกเราทั้งหลาย ที่ยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และเพื่อให้สังคมได้ขับเคลื่อนไปต่อ นั้นเป็นสิ่งที่
หลังจากที่มนุษยชาติได้พบพานกับสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งเหล่านั้นเริ่มกลายมาเป็นวิถีชีวิตรูปแบบใหม่หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ New Normal Living ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลต่อเนื่องมาถึงมุมมองของการใช้ชีวิต ที่หลายคนค้นพบสกิลใหม่ๆ หรืออาชีพใหม่ และผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ New Normal ได้อย่างรอบด้านอันเนื่องมาจากการที่ผู้คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ชีวิตใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น จาก Insight ที่น่าสนใจดังกล่าวนี้ จึงได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นไอเดียต่อยอดสู่รายการ ‘SANSIRI HOME STORIES’ ที่ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Real-Time Marketing จากแสนสิริ ที่เป็นอีกแบรนด์ที่มักสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้อย่างชาญฉลาดและทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ เรียกได้ว่ารายการนี้เป็นประโยชน์แบบวิน-วินทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งตัวแบรนด์เองก็ตาม ในแง่ของผู้ชมอย่างเรา ๆ ก็รับไปเต็ม ๆ กับไอเดียการอยู่อาศัยในยุคนี้ และการปรับใช้พื้นที่ภายในบ้านให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการและใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ลงตัวทุกด้านของการใช้ชีวิต ทั้งครอบครัว สุขภาพ และการทำงาน ส่วนในแง่ของแบรนด์ก็ได้สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย แถมยังเป็นการสะท้อนตัวตนของแบรนด์ที่มุ่งมั่นส่งมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มากกว่าเพียงแค่ที่อยู่อาศัยอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการดึงเอาความน่าสนใจของจุดขายในโครงการบ้านและทาวน์โฮมจากแสนสิริ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของพื้นที่อยู่อาศัยซึ่งถูกออกแบบขึ้นมาภายใต้แนวคิด Flexible Living Area พื้นที่ในตัวบ้าน ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ทั้งการเป็น Connecting Space เพื่อทุกคนในครอบครัว และ Working Space เพื่อรองรับการทำงานในรูปแบบ Work From Home
ในวันที่เมืองใหญ่กำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยคนหลากหลายรุ่น หลายหลากวัย แต่ดูเหมือนว่าคนรุ่นใหม่จะกลายเป็นขุมพลังงานสำคัญในการขับเคลื่อนสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนสังคม โดยเฉพาะพลังความคิดสร้างสรรค์ที่คนรุ่นใหม่เปรียบได้กับตัวแทนแห่งการกล้าคิด กล้าแตกต่าง และกล้าที่จะเป็นตัวเอง การได้เป็นตัวของตัวเองในสายตาคนรุ่นใหม่จึงไม่ต่างจากการปลดล็อกจากกรอบความคิดเดิม ๆ พื้นที่อยู่อาศัยที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่สามารถใส่ความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่จึงเป็นที่อยู่อาศัยที่คนรุ่นใหม่ต่างฝันถึง บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จึงเตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่เพื่อยกระดับแบรนด์ ASPIRE คอนโดระดับพรีเมียมที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น ผ่านแคมเปญออนไลน์ ‘ASPIRE DECOR MISSION’ ร่วมกับ 6 YouTubers ตัวแทนคนรุ่นใหม่เพื่อทำให้เห็นว่าทุกคนสามารถใส่ความเป็นตัวเองลงไปในพื้นที่อยู่อาศัยอย่าง Aspire คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ 6 ทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ ได้ ที่สำคัญพื้นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบของคนรุ่นใหม่ได้ นับเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่พิถีพิถัน และเป็นคำตอบของการใช้ชีวิตได้ครบจบในที่เดียว ‘ASPIRE DECOR MISSION’ ภายใต้นิยามของคำว่า A.S.P.I.R.E. ซึ่งถูกแตกแนวคิดผ่าน 6 คอนเซ็ปต์ ได้แก่ Active, Social, Perspective, Inspire, Reliability และ Enjoying จึงเป็นตัวแทนพื้นที่อยู่อาศัยของตัวตนคนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ACTIVE : Aspire
ถ้าสังเกตให้ดี ลงลึกไปในจิตใจของผู้ชายอย่างเรา ๆ สิ่งหนึ่งที่พวกเรามีเหมือนกันคือความเป็นเด็กผู้ชายซุกซน ที่ไม่ว่าอายุจะมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยังไม่วายที่จะชอบแกะนู่น แต่งนี่ ต่อนั่น เพื่อสร้างสรรค์ของเล่นคู่ใจให้กลายมาเป็นเวอร์ชันส่วนตัวหนึ่งเดียวในโลกไม่มีใครเหมือน ซึ่งของเล่นที่ผ่านการดัดแปลงมาตลอดช่วงชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งนั้น ต่างก็มีมาแล้วทั้ง ตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา โมเดลพลาสติก ฟิกเกอร์ รถบังคับ ฯลฯ ต่อเนื่องมาจนถึงเริ่มเป็นหนุ่มวัยรุ่น ไปจนถึงหนุ่มใหญ่ ที่ไม่ว่าใครก็มักจะแพ้ทางมอบความหลงใหลให้กับของเล่นชิ้นใหญ่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์กลไก ซึ่งสามารถขับขี่ไปไหนมาไหนได้ กับสิ่งที่เรียกว่าพาหนะคู่ใจ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ถ้ามีโอกาสยังไงผู้ชายทั้งหลายก็ไม่พลาดที่จะปรับนู่นแต่งนี่ ทั้งการปรับจูนเครื่องเพิ่มสมรรถนะ รวมไปถึงความสวยงามภายนอก ยังไงก็ขอให้ได้แตกต่างจากของเดิมที่เหมือนกันไปทั่วท้องถนนสักเล็กน้อยก็ยังดี หรือใครที่เล่นใหญ่หน่อยก็เอาซะแทบจำโฉมเดิมไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะแต่งมาก แต่งน้อย เป้าหมายปลายทางสุดท้ายคือได้เห็นรถที่เรารักมีความสวยงามในสไตล์ที่เราชื่นชอบ เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว ด้วย Insight ที่ชัดเจนนี้ ทางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจึงนำมาคิดต่อยอด ทำการบ้านอย่างดี จนถือกำเนิดออกมาเป็นแคมเปญ “Express Your REBEL” ที่ชูจุดเด่นของมอเตอร์ไซค์ Honda Rebel ซึ่งเป็นรถสไตล์ Custom Bobber ที่สนองนี้ดผู้ชายอย่างเรา ๆ ด้วยการนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้หลากหลายสไตล์ตามความชอบส่วนตัว โดยยังคงความสวยงามคลาสสิกแบบดั้งเดิมเอาไว้ ซึ่งการจัดประกวดแต่งรถชิงรางวัลมันอาจจะดูธรรมดาไป และไม่สามารถเจาะกลุ่มผู้ใช้งานจริงได้ดีเท่าไหร่นัก เพราะจะดูเหมือนเป็นการประกวดโชว์ของสำหรับสำนักแต่งรถเท่านั้น
หากลองมาคิดดูว่าในปัจจุบันนี้เงินจำนวน 899 บาท ถ้าจำเป็นต้องใช้ให้หมดในครั้งเดียว จะสามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายอะไรได้บ้าง สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง คงหนีไม่พ้นค่าบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อาหารญี่ปุ่น 1 มื้อ หรือไม่ก็ค่าโทรศัพท์ + แพ็คเกจอินเตอร์เน็ตรายเดือน แต่คงไม่มีใครคิดว่าเงินจำนวนเท่านี้ จำนวนที่ถูกกว่าค่าเช่าหอ เช่าอพาร์ทเม้นต์รายเดือนเสียด้วยซ้ำ จะนำมาใช้เริ่มต้นสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตด้วยการมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง กับคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่นับวันจะยิ่งเพิ่มมูลค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งถ้าอยู่ในพื้นที่พิกัดทำเลดี ๆ หากต้องการขยับขยายครอบครัวย้ายไปหาบ้านใหม่ ก็ยังสามารถปล่อยคอนโดให้เช่าสร้างรายได้ระยะยาว หรือประกาศขายทำกำไร เอาไปโปะค่าบ้านก็น่าสนใจไม่ใช่เล่น จาก Insight ดังกล่าว ‘คอนโด ยู เกษตร – นวมินทร์’ โครงการคอนโดมิเนียมน้องใหม่ล่าสุด จากค่ายแกรนด์ ยูนิตี้ จึงงัดกลยุทธ์แหวกกระแส ผุดแคมเปญ ‘ตัดภาระทางการเงิน’ ทำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นจริง กับการเพิ่มมูลค่าของเงิน 899 บาท ให้สามารถเป็นงบประมาณต่อเดือนในการผ่อนคอนโดได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 2 ปี จากที่ปกติห้องราคาประมาณ 2 ล้าน จะมียอดผ่อนชำระต่อเดือนประมาณหมื่นกว่าบาท ถือได้ว่าแคมเปญนี้ช่วยประหยัดเงินไปได้อีกเป็นกอง แถมยังนำเงินส่วนต่างตรงนี้ ไปเป็นเงินเก็บลงทุนต่อยอดได้อีกมากมาย และเชื่อว่าจะสามารถสร้างกระแสการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคได้ไม่ยาก นอกเหนือจากกลยุทธ์เด็ดของแคมเปญที่มีจุดเด่นอย่างค่างวดผ่อนแสนถูก
เมื่อพูดถึงสาเหตุที่คร่าชีวิตคนไทยไปเป็นจำนวนมากในแต่ละปี หลายคนคงนึกถึงการเสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงโรคมะเร็ง ซึ่งก็ไม่ผิดคาด เพราะโรคมะเร็งคือสาเหตุหลักอันดับหนึ่งในการเสียชีวิตของประชาชนคนไทย ตามมาด้วยอันดับสองคือการเสียชีวิตเนื่องด้วยอุบัติเหตุ แต่ใครจะรู้บ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยที่สูงเป็นอันดับสาม ซึ่งอันตรายไม่แพ้กัน นั่นก็คือการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน โดยสิ่งที่น่ากังวลคือ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า เมื่อหัวใจหยุดเต้น จะไม่มีเลือดเดินทางไปเลี้ยงอวัยวะใด ๆ ในร่างกาย ทำให้สมองหยุดทำงานทันที และจะหมดสติภายในเวลา 10 วินาที โดยไม่ทันได้รู้ตัว ไม่ทันได้ขอความเชื่อเหลือใคร ๆ อย่างที่เคยได้เห็นในคลิปภาพข่าว ที่แม้แต่ผู้ซึ่งออกกำลังกายดูแลสุขภาพอยู่สม่ำเสมอ วิ่งลู่ในฟิตเนสอยู่ดี ๆ ก็ยังเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ล้มตึงหมดสติจนเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา สรุปออกมาเป็นสถิติที่น่าตกใจว่า แต่ละปีมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 54,000 คน เฉลี่ยแล้วมีผู้เสียชีวิตมากถึงชั่วโมงละ 6 คน ซึ่งจริง ๆ แล้ว เมื่อผู้ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเกิดอาการหมดสติ หากได้รับการทำ CPR (การช่วยฟื้นคืนชีพ หรือการปั๊มหัวใจด้วยมือ) ภายใน 4 นาที จะมีโอกาสรอดชีวิตอยู่ที่ 27% และถ้าบริเวณนั้นมีเครื่อง AED (เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ) สำหรับใช้ในการทำ CPR สลับกับการใช้เครื่อง
ยุทธวิธีทางการตลาดในปัจจุบัน การสื่อสารตัวตนของแบรนด์ออกไปให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ ถือเป็นอีกแนวทางสำคัญ เพราะคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่ชัดเจนนั้น สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ที่แม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกผลิตภัณฑ์ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่คล้ายคลึง และเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองเป็นหลัก ด้วยเหตุผลง่าย ๆ จากความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์ ที่เชื่อมั่นว่าสิ่งที่มีความใกล้เคียงกับตัวเอง คือสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งแบรนด์คอนโดมิเนียม The Reserve จากค่ายพฤกษา เป็นแบรนด์อสังหาฯ ที่เรามองว่า สามารถหยิบยกเอาแนวทางสื่อสารการตลาด ซึ่งเน้นการถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์มาปรับใช้ได้อย่างน่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ทางการตลาด ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคาแรคเตอร์แบรนด์ที่ชัดเจน ควบคู่ไปกับความต้องการที่จะเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างตรงจุด จนกลายมาเป็นแนวคิดใหม่ในการสื่อสารแบรนด์โดยใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างตามจุดเด่นของแต่ละโครงการ เพื่อสร้างภาพจำ และความคุ้นเคย รวมถึงเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี แนวคิดการเลือกใช้สัตว์เพื่อสื่อสารคาแรคเตอร์ของโครงการที่ชัดเจนนั้นเริ่มมาตั้งแต่ The Reserve Thonglor 2 ที่เลือกใช้หมาป่าเป็นสัญลักษณ์ พร้อม Tagline “Reserve Your Nature” สื่อถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิตในย่านทองหล่อ ที่มักรวมกลุ่มแบบ Wolfpack เพื่อ Hangout ท่ามกลางแสงสี และความมีชีวิตชีวายามค่ำคืนในย่านนี้ ต่อเนื่องมาจนถึงโครงการล่าสุดอย่าง The Reserve Phahol-Pradipat ซึ่งใช้ “เสือหิมะ” เป็นตัวแทนของนักล่าที่มีความทะเยอทะยานมุ่งมั่น และชื่นชอบการอาศัยอยู่บนที่สูง