เมื่อเดือนเมษายนกำลังคืบเคลื่อนมาถึงพร้อมหอบลมระอุแห่งฤดูร้อนมาด้วย ก็เป็นที่รู้กันดีว่านอกจากวันหยุดยาว เทศกาลสงกรานต์และการพักผ่อนแล้ว สิ่งที่มาพร้อม ๆ กับเดือนเมษายนของทุกปีคือ “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ” และปีนี้ก็เช่นกัน โดยงานมีระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ถ้าผู้ชายคนไหนยังงง ๆ ไม่รู้จะอ่านอะไรดี เรามีหนังสือ 5 เล่มที่ผู้นำประเทศต่าง ๆ แนะนำให้อ่านกัน Barack Obama : The Power Barack Obama อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ที่มักเจียดเวลามาอ่านหนังสืออยู่เสมอและมักแนะนำหนังสือที่เขาอ่าน เผื่อใครอยากจะอ่านตามบ้างให้เป็นประจำ สำหรับหนึ่งในหนังสือที่เขาแนะนำในปี 2017 ที่ผ่านมาคือ The Power ของ Naomi Alderman ไม่ต้องกลัวว่าจะเครียดเกินไปเพราะ The Power เป็นวรรณกรรม sci-fi ฝีมือนักเขียนชาวอังกฤษ ที่ว่าด้วยอำนาจที่เรามักเคยชินว่ามันอยู่ในมือผู้ชาย แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้หญิงสามารถพัฒนาความสามารถจนสามารถปล่อยไฟฟ้าออกมาจากนิ้วมือได้ และกลายเป็นเพศที่มีอำนาจควบคุม! แค่จินตนาการก็สนุกแล้วใช่ไหมล่ะ? แต่ภายใต้ความเครียดผู้ชายอย่างเราต้องได้ขบคิดอะไรบางอย่างแน่นอน ถ้าไม่อยากพลาดความสนุกและประเด็นเรื่องอำนาจและความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างเพศก็ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้เช่นกัน
ในวันที่ (เขาว่ากันว่า) หนังสือกำลังจะตายและร้านหนังสือหลายร้านทยอยปิดตัวไปอย่างเงียบเชียบ ราวกับว่าลมหายใจสุดท้ายของหนังสือกำลังรวยริน แต่ร้านหนังสืออิสระหลายร้านก็ยังคงยืนเด่นด้วยอัตลักษณ์ ด้วยวิธีคิดที่ชัดเจนว่าร้านหนังสือต้องไม่ใช่แค่พื้นที่ซื้อ-ขายหนังสือ แต่ต้องมีลมหายใจ มีชีวิต มีพื้นที่ให้ผู้คนเชื่อมโยงอยู่ในนั้นด้วย UNLOCKMEN เลยถือโอกาสนี้คุยกับ “แป๊ด-ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง” เจ้าของ candide books (ร้านหนังสือก็องดิด) ที่ก็เชื่อเช่นนั้น เชื่อเช่นว่าหนังสือจะไม่ตาย ร้านหนังสือจะไม่ตายเช่นกันตราบใดที่เชื่อมโยงกับผู้คน และต่อให้วันหนึ่งร้านหนังสือต้องตายลง เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรตราบใดที่ผู้คนยังคงอ่านอยู่ แต่ถ้าถามว่าเธอเชื่อมั่นในการเป็นคนทำหนังสือแค่ไหน เธอก็ตอบเราได้เต็มปากเต็มคำว่า “ทุ่มให้ทั้งชีวิต ไม่เคยคิดถึงอย่างอื่นเลย” แล้วอย่างนี้จะอดใจไม่ให้อยากคุยกับเธอได้อย่างไร… ทำงานเกี่ยวกับหนังสือมาตลอดเลยไม่ว่าจะเป็นกองบรรณาธิการ ทำสำนักพิมพ์ ร้านหนังสือ อะไรทำให้เราเชื่อในการทำงานกับหนังสือได้ขนาดนั้น พี่ไม่สามารถทำอะไรทีไม่เกี่ยวข้องกับหนังสือได้ ตั้งแต่พี่เรียนจบมา งานแรกก็ทำนิตยสาร จากนั้นทำพ็อคเก็ตบุ๊ค จนสุดท้ายก็มาทำสำนักพิมพ์เอง ก่อนจะมาทำร้านหนังสือ พี่ก็คิดไม่ออกเลยว่าจะทำอาชีพอื่นได้ มีอาชีพเดียวที่เราอยากทำ ตั้งแต่มัธยม ก็มาทางนี้ตลอดไม่เคยไปทางอื่นเลย ถ้าถามว่าเชื่อมั่นไหม ก็ทุ่มทั้งชีวิตไม่ได้คิดถึงอย่างอื่นเลย ที่บ้านอยากให้ทำงานราชการเพราะที่บ้านเป็นคนต่างจังหวัด ป๊าก็จะถามตลอดว่าไม่ทำราชการเหรอ แต่พอเราทำจนเลี้ยงตัวเองได้ และส่งเงินกลับไปที่บ้านได้ด้วย เขาก็เห็นว่า อ้าว มันก็ทำได้นี่หว่า อาชีพแบบนี้ ถึงจะทำงานกับหนังสือเหมือน ๆ กัน ในมุมมองเราการเป็นเจ้าของร้านหนังสือ เป็นกองบรรณาธิการ เป็นนักเขียน
หนังสือกลายเป็นของขวัญที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะต้องอาศัยความใส่ใจจากตัวผู้ให้ แถมต้องรู้นิสัยใจคอของผู้รับอยู่บ้าง ยิ่งซื้อหนังสือให้ผู้หญิงที่เรารักสักคนไม่ว่าจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดในวันแม่ที่จะถึงนี้ หรือหวานใจในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เราอาจยิ่งกุมขมับเพราะไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงดี UNLOCKMEN ขออาสารับความยุ่งยากใจตรงนั้นมาจัดการให้เอง! เพราะยิ่งใกล้ช่วงวันแม่แห่งชาติเข้ามา เราก็สนับสนุนให้เลือกสรรของขวัญอย่างหนังสือเป็นอีกทางเลือก (นอกจากดอกมะลิ อาหารเสริม ฯลฯ) แถมเราช่วยเลือกให้ด้วยว่า 5 เล่มไหนที่น่าจะถูกใจผู้หญิงที่คุณรักชัวร์ ๆ ! หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา ผู้เขียน: อุรุดา โควินท์ สำนักพิมพ์: มติชน ถ้าคุณแม่หรือแม่คุณของคุณเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน หรือจะเข้มแข็งก็ไม่ว่า แต่ชอบเสพความงดงามของความสัมพันธ์ หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา คือหนังสือที่คุณควรรีบหยิบใส่ตะกร้าซื้อไปฝากให้เร็วไว เพราะหยดน้ำหวานในหยาดน้ำตาถูกเขียนขึ้นจากความคิด ความรู้สึก ความทรงจำของนักเขียนสาวที่เราลงความเห็นว่ามีภาษาที่งดงามที่สุดอีกคนหนึ่ง หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตาว่าด้วยเรื่องราวชีวิตจริงของ “อุรุดา โควินท์” นักเขียนสาวซึ่งเป็นคนรักของ “กนกพงศ์ สงสมพันธ์” นักเขียนหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จอีกคนของวงการน้ำหมึกไทย หนังสือบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ชีวิตคนสองคนในชั่วระยะหนึ่งของเวลาก่อนความตายจะพรากพวกเขาจากกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเขียนนวนิยาย จนกลายมาเป็น หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา เล่มนี้ UNLOCKMEN บอกเลยว่าไม่อยากให้คุณพลาด ซื้อให้แม่ก็ได้ หวานใจก็ดี รับรองว่าทันทีที่อ่านจบ อ้อมกอดที่มีให้กันจะโอบแน่นขึ้นกว่าเดิม ทำลาย, เธอกล่าว
โลกของหนังสือไม่ได้ถูกแบ่งตายตัวไว้ว่าเล่มนี้ให้ความรู้ เล่มนี้ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่หนังสือมันทั้งหลากหลายและมีความซับซ้อนมากกว่าที่เราคิด ก่อนจะเบือนหน้าหนีเพราะขี้เกียจอ่าน เราขอเตือนไว้ก่อนว่า อย่าเพิ่ง! เพราะหนังสือที่เราจะพาไปรู้จักวันนี้มันซาบซ่านกว่าที่คุณคิดแน่นอน ถ้าพูดถึงหนังสือเซ็กซี่ ๆ เราอาจคิดออกแต่หนังสือโป๊หรือหนังสือความสัมพันธ์ ต้องทำยังไงผู้หญิงถึงจะรัก แต่วันนี้ UNLOCKMEN อาสาพาไป UNLOCK ความรู้สึกเกี่ยวกับหนังสือเซ็กซี่ ด้วยการพาไปพบกับหนังสือ 5 เล่มเกี่ยวกับเพศที่ไม่โป๊ แต่อ่านแล้วรับรองว่าวาบหวิว แถมได้ความรู้ไปเต็ม ๆ EARLY DESIRE ประวัติศาสตร์ใต้สะดือ EARLY DESIRE ประวัติศาสตร์ใต้สะดือ ผู้เขียน: โตมร ศุขปรีชา สำนักพิมพ์: Salmon Books หลายครั้งหลายหนที่ผู้ชายอย่างเราแอบรู้สึกผิดกับความหื่นกระหายของตัวเอง เคลือบแคลงสงสัยว่า เอ๊ะ นี่กูผิดปกติหรือเปล่าวะ? ที่มีความต้องการทางเพศมากระดับนี้ แถมเราก็ดันอยู่ในสังคมที่คนจำนวนไม่น้อยชอบพูดว่าสมัยก่อนนั้นดีงามกว่าสมัยนี้มากนัก คนก็ยังไม่หื่น ไม่หมกมุ่น ไม่แต่งตัวโป๊เท่านี้? EARLY DESIRE ประวัติศาสตร์ใต้สะดือ จะพาไปรู้จักกับประวัติศาสตร์เรื่องเพศที่ทำให้เราได้ความรู้ว่า เฮ้ย เรื่องเพศมันมีมานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรอย่างที่หลายคนพยายามบอก แถมเรื่องเพศในประวัติศาสตร์ยังหวือหวาชวนตะลึงยิ่งกว่าปัจจุบันเสียอีก แลกคู่ สวิงกิ้ง ฯลฯ เล่มนี้ถ้าหามาอ่านประดับความรู้ไว้
เหมือนเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ Bill Gates เจ้าพ่อ Microsoft และมหาเศรษฐีชื่อดังมักจะแชร์หนังสือที่เขาอ่านให้กับผู้คน เพราะความรักในการอ่านของเขาและความต้องการหามุมมองใหม่ ๆ ให้ตัวเองอยู่เสมอ หนังสือที่เขาแนะนำจึงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปหลากหลายประเภท แต่สำหรับเซ็ตนี้ Bill Gates จัดเต็มด้วยหนังสืออัตชีวประวัติเป็นส่วนใหญ่ ที่ UNLOCKMEN ขอรับรองว่าการที่เราได้อ่านชีวิตคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนั้นยิ่งช่วยให้เราเห็นมุมมองใหม่ ๆ แบบที่เราอาจไม่เคยมองมาก่อนได้แน่นอน “Hillbilly Elegy” by JD Vance JD Vance เป็นอีกหนึ่งนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน เขาเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตวัยเด็กและการเติบโตมาอย่างยากจนของตัวเองในเมืองห่างไกลแถบเทือกเขา Appalachia ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ภายในเล่มบอกเล่าเรื่องราวความยากลำบากในชีวิต ทั้งช่วงเวลาสุดโหดและช่วงเวลาดี ๆ ที่เขาพบเจอ รวมถึงสอดแทรกมุมมองของเขาที่มีต่อวัฒนธรรมและปัญหาครอบครัวที่ซับซ้อน เนื่องจากเขาถูกพ่อแม่ปล่อยไว้ให้อยู่กับปู่และย่า จนกระทั่งการฟันฝ่าจนเขาสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนกฎหมาย Yale ได้ Bill Gates บอกว่าความมหัศจรรย์ของหนังสือเล่มนี้นอกจากประเด็นความซับซ้อนทางวัฒนธรรมและปัญหาครอบครัวที่ลึกซึ้ง ก็คือการที่ Vance มีความกล้าหาญมากพอที่จะลุกขึ้นมาพูดถึงอดีตด้วยตัวของเขาเอง “A Full Life” by Jimmy Carter Jimmy Carter หรืออดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ภายในเล่มบอกเล่าเรื่องราวการเติบโตมาจากชนบท
นี่คือหนังสือ 10 เล่มของผู้ชาย 10 สไตล์ ที่จะทำให้หน้าร้อนนี้ชีวิตคุณเปลี่ยนไป