แม้ปีใหม่จะวนมาทุก ๆ 365 วัน แต่เมื่อวันที่ 1 มกราคมใกล้มาถึงทีไร ผู้ชายอย่างเราก็ยังตื้นเต้นและรอคอยสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาทักทายอยู่เสมอ เพราะปีใหม่คล้ายเป็นหมุดหมายว่า “ได้เวลาเปลี่ยนแปลง” อีกครั้งหนึ่ง อะไรจะดีไปกว่าการได้ “ปลุกความคิด” ตัวเองให้ตื่น พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังหมุนเร็วขึ้นทุกวัน และเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รับมือทุกอุปสรรคได้แกร่งกว่าเดิม รวมถึงเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่มีความสุขกว่าเดิมด้วย Principles: Life and Work แม้แต่มหาเศรษฐีที่เก่งระดับโลกอย่าง Bill Gate ยังยกย่องว่าหนังสือเล่มนี้ “เปลี่ยนชีวิต” เขา เพราะ Principles: Life and Work ได้ให้คำแนะนำและแนวทางสุดล้ำค่าที่เขานำไปใช้ในชีวิตได้จริง Principles: Life and Work ว่าด้วยหลักคิดสุดแข็งแกร่งที่ผู้ชายทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานและชีวิต โดยยอดขายจากผู้อ่านทั่วโลกก็การันตีได้เป็นอย่างดีว่าหนังสือเล่มนี้เปลี่ยนชีวิตผู้คนมาแล้วจำนวนมาก นอกจากนั้นผู้เขียน Ray Dalio ยังถูกขนานนามว่าเป็น Steve Jobs แห่งโลกการลงทุนอีกด้วย ใครที่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองปีนี้ช่างยุ่งเหยิงจัดการไม่ได้ และอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ในปีหน้าอย่างมีหลักให้ยึดและพิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง Principles: Life and Work
แม้ใคร ๆ จะบอกว่าวิธีการฝึกภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดคือการใช้งานให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฝึกฟังยังพอไหว ให้ฝึกพูดก็พอถูไถ แต่พอถึงการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทีไร หัวใจลูกผู้ชายมันท้ออย่างบอกไม่ถูก เพราะอ่านไม่เคยจบเล่ม อ่านไป งงไป อ่านไปเปิดพจนานุกรมไป เศร้านัก! วันนี้ UNLOCKMEN นำ 5 เคล็ดลับอ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น แม้คุณจะไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษมาฝากกัน รับรองว่าจะอ่านจบเล่มได้ง่ายขึ้นแน่นอน อย่าเริ่มต้นที่เล่มหนา แม้การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มบาง ๆ จะดูไม่เท่ ไม่คูลเท่าอ่านเล่มหนา ๆ แต่เคล็ดลับแรกคือการเลือกเล่มที่บาง ๆ เข้าไว้ เพราะการอ่านเล่มบาง ๆ ให้จบ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและกำลังใจที่ดี ซึ่งมีผลอย่างมากในการฝึกอ่านเล่มต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะเมื่อเรายังไม่คล่องกับภาษาอังกฤษมาก การเลือกเล่มบาง ๆ ยิ่งทำให้เราเปลี่ยนเรื่องที่สนใจได้เร็วกว่าการต้องจดจ่อกับเล่มหนา ๆ ที่จะทำให้เราเบื่อได้ง่าย ไม่ใช่แค่บาง แต่เราต้องรักหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนั้นด้วย จริง ๆ การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ไม่ต่างจากการทำสิ่งอื่นในชีวิต เราต้องเลือกเล่มที่เราจะรู้สึกสนุกไปกับมัน เพราะต่อให้มีคนแนะนำเล่มที่ดีที่สุดในโลก เล่มที่เป็นเบสต์เซลเลอร์ ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าคุณไม่รู้สึกสนุกจนอยากเปิดอ่านหน้าต่อไปด้วยตัวคุณเอง เพราะต่อให้คุณยังอ่านไม่ได้รู้เรื่องทุกคำ แต่ถ้าเนื้อเรื่องในหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนั้นทำปฏิกิริยากับคุณเป็นพิเศษ มันช่วยให้คุณอ่านจบเล่นได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน
บ่อยครั้งที่เรารู้สึกเหงา แปลกแยก และแสนเดียวดายบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินแสนอ้างว้างใบนี้ ไม่ว่ารอบกายจะมีคนรายล้อมหรือไม่ ความเหงาจู่โจมเราไม่เลือกสถานที่ งอกงามในหัวใจไม่เลือกเวลา จนเราอดสงสัยไม่ได้ว่ามีแค่เราหรือเปล่านะที่เหงาถึงเพียงนี้? คำตอบคือ ไม่ เราไม่ได้เหงาอยู่เพียงลำพัง เพราะโลกใบนี้เต็มไปด้วยคนเหงา และคนบางคนเขียนหนังสือที่ว่าด้วยความเหงา คนเหงา ความแปลกแยก ความโดดเดี่ยวเอาไว้ให้เราได้พินิจพิจารณาโดยละเอียด บางความเหงาอาจตรงกับสิ่งที่เรารู้สึก บางความเดียวดายอาจใกล้เคียงกับที่เราเคยคิด แต่ไม่มีความเหงาไหนที่เหมือนกัน และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เราควรหาหนังสือ 6 เล่มนี้มาอ่าน เพื่อเข้าใจความเหงาในสารพัดมิติและรับมือกับมันให้ดีกว่าที่เคย ยอดมนุษย์ดาวเศร้า: องอาจ ชัยชาญชีพ “คุณเคยได้ยินเรื่อง 52Hz มั้ย? มันเป็นวาฬสีน้ำเงินที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในมหาสมุทรแปซิฟิคมาเป็นเวลานานถึงยี่สิบปี มันไม่อาจสื่อสารไปถึงวาฬตัวอื่นๆ ได้ เพราะคลื่นความถี่ 52Hz ของมัน ดันเป็นความถี่ที่ไม่เหมือนกับวาฬตัวใดในโลก มันจึงต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาตลอด…” เราเหงาที่สุดตอนไหน? ความเหงานั้นหน้าตาเป็นอย่างไร? ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่อ่านย่อหน้าข้างต้นจาก “ยอดมนุษย์ดาวเศร้า” แล้วรู้สึกว่าเจ้าวาฬ 52Hz คือเรื่องของคุณ เล่มนี้คือเล่มที่คุณไม่ควรพลาด แต่ไม่ต้องห่วงว่าหนังสือจะพาเราจมดิ่งไปในความเหงาเปลี่ยวดายจนไม่อาจย้อนคืน ตรงกันข้าม องอาจ ชัยชาญชีพ จะพาเราไปสำรวจความรู้สึกดิ่งลึกของเราในแง่มุมที่ชวนให้เข้าใจและยอมรับมันมากขึ้น พร้อมกับข้อความจาง ๆ ที่กระซิบบอกคนเหงาอย่างเราทุกคนว่า “อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้เหงาอยู่เพียงลำพัง” และจำนวนพิมพ์ 14
ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีบิดชีวิตให้เราไปเลื่อนฟีดบนสมาร์ตโฟน ใช้ชีวิตบนโลกโซเชียล หาข้อมูลจากอินเทอร์เนตมากกว่า แต่เราก็ยังเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า “อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์” และ “หนังสือ” ยังคงมีคุณค่าอยู่เสมอ ไม่ว่าตลาดการแข่งขันคอนเทนต์วันนี้จะเป็นเช่นไร วัตถุอนาล็อกอย่างหนังสือก็ยังคงความคราฟต์และคลาสสิกในสายตาเรา ล่าสุดเวทีประกวดหนังสือที่ดีไซน์ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019 ที่จัดขึ้นที่ Leipzig ประเทศเยอรมนีได้ประกาศรายชื่อหนังสือที่ได้รับรางวัลประกวดการออกแบบหนังสือที่ดีที่สุดในปีนี้ เป็นหนังสือสีน้ำตาลที่ใช้ชื่อว่า Old Trades of Jiangsu: A Glimpse จากโรงพิมพ์ Jiangsu Phoenix Education Publishing Co., Ltd ถ้ามองผ่าน ๆ อาจจะดูไม่ออกว่าทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงชนะใจกรรมการและกองหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่ส่งประกวด เพราะหน้าตาของมันดูบ้าน ๆ เทคนิคการเข้าเล่มก็ไม่ได้เหนือกว่ามากมาย แล้วยิ่งถ้าเจาะเข้าไปจากการสัมผัสเนื้อกระดาษหรือมองด้วยตาเปล่าก็รู้ได้ทันทีเลยด้วยว่ามันไม่ใช่กระดาษคุณภาพและมีราคาแพง แต่เป็นกระดาษถูก ๆ นี่แหละ เพราะขอบข้างของมันก็ดูเปื่อยยุ่ยขนาดนั้น ความจริงของกระดาษราคาถูกที่เพิ่มคุณค่าด้วยเรื่องราวของมัน คือหนึ่งในเหตุผลที่เอาชนะใจกรรมการได้ เนื่องจากเหตุผลสามประการ ข้อแรกกระดาษเหล่านี้คือกระดาษจากร้านขายของชำที่ใช้ห่ออาหาร กระดาษที่ถูกมองข้ามเรื่องการนำมาใช้ในงานพิมพ์ผลิตหนังสือเพราะเป็นกระดาษถูก ทำให้แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เราเห็นมานานแล้วแต่ก็เป็นการพลิกโฉมวงการดีไซน์หนังสือ ข้อที่สอง เนื้อเรื่องภายในเล่ม ชวนสัมผัสและมีเสน่ห์ขึ้นจากวัสดุที่นำมาทำหนังสือ อ่านจากชื่อหนังสือเราจะรู้ว่าภายในเล่มพูดถึงเรื่อง Old trade หรือการค้ายุคเก่าของมณฑลเจียงซู
“หวามไหว” ดูไม่ใช่คำศัพท์ที่ผู้ชายอย่างเราจะยกมาใช้ได้บ่อยในชีวิตประจำวัน แต่ละเช้าเราตื่นมาเพื่อทำงานหนัก ตกเย็นสังสรรค์เพื่อพักผ่อน ก่อนจะกลับห้องเพื่อหลับไปแล้วตื่นมาทำกิจวัตรเดิม ๆ วนย้ำซ้ำเก่า “หวามไหว” จึงไม่ใช่คำที่เราจะได้ใช้และอาจถึงขั้นลืมไปแล้วว่าคำนี้มันมีความหมายแบบไหน ชวนให้รู้สึกอย่างไร UNLOCKMEN อาสากระตุกความวาบหวามในหัวใจ กระตุ้นความหวั่นไหวในร่างกายผู้ชายด้วยวรรณกรรมอีโรติก 7 เล่มสุดเย้ายวนรัญจวนใจที่เราชวนอ่านเพื่อเสพเรื่องราว ดื่มด่ำภาษาที่งดงามราวกับมีมนตร์สะกด ที่สำคัญเนื้อหาชวนสุขสมจนผู้ชายอ่านเมื่อไหร่เป็นต้องตื่นทั้งตัวและหัวใจ เนินนางวีนัส Anaïs Nin เนินนางวีนัส แปลจากหนังสือ: Delta of Venus ผู้เขียน: Anaïs Nin ผู้แปล: รังสิมา ตันสกุล สำนักพิมพ์: Library House เซ็กซ์สำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ ไม่ใช่เรื่องลึกลับดำมืดขนาดนั้น แต่จินตนาการดูสิว่าช่วงทศวรรษที่ 1940 ช่วงที่เรื่องราวเซ็กซี่ เย้ายวน ยังไม่ใช่เรื่องที่ใคร ๆ ก็พูดถึงได้ขนาดนั้น ความน่าค้นหามันจะยิ่งเพิ่มความรัญจวนเป็นกี่เท่า ? อนาอิส นิน นักเขียนหญิงสายเลือดสเปน ฝรั่งเศส และเดนมาร์ค เขียนเรื่องสั้นเล่มนี้ขึ้นในช่วงทศวรรษ 1940 โดย ณ
ไม่ว่าชื่อเต็มจะเรียกว่าอะไร แต่ผู้ชายนักอ่านก็เป็นอันรู้กันว่า “งานสัปดาห์หนังสือ” จะวนมาปีละ 2 ครั้งในทุกเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม เดือนตุลานี้ก็เช่นกันที่งานหนังสือวนมาให้เราได้เลือกหาหนังสือถูกใจมาอ่านอีกหน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันแบบนี้ ถ้าใครไม่รู้จะทำอะไรหรือไม่รู้จะไปไหน ลองพาตัวเองไปสูดกลิ่นกระดาษ เสพความรู้และความบันเทิงที่งานหนังสือดูได้ แต่ถ้าหนังสือกองพะเนินทำให้หนักใจไม่รู้จะหยิบเล่มไหนกลับบ้านดี UNLOCKMEN ภูมิใจนำเสนอว่า 5 เล่มนี้ที่เราอยากแนะนำ เมา: ประวัติศาสตร์แห่งการร่ำสุรา ผู้เขียน : Mark Forsyth ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายขี้เมาหรือไม่เคยคิดจะเมาเลย การมี “เมา: ประวัติศาสตร์แห่งการร่ำสุรา” ผลงานของ Mark Forsyth เล่มนี้อยู่ในครอบครองเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเล่มนี้จะพาเราดื่มด่ำเมามายไปกับประวัติศาสตร์แห่งการเมาที่ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ แต่ย้อนยาวไกลไปได้ถึงชาวอียิปต์โบราณ หรือยาวไกลไปถึงความเมาของจักรพรรดิจีน ในเล่มนี้เราจะได้พบความเมาในสารพัดมิติ ทั้งประวัติศาสตร์ การเมือง สังคม ถ้าเป็นผู้ชายขี้เมาเราก็อ่านเล่มนี้เพื่อดื่มเหล้าครั้งต่อไปได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่ถ้าไม่ใช่สายเมา แต่มีเหตุให้ต้องไปอยู่ในวงสนทนาของเพื่อนหรือธุรกิจที่เมากันเป็นประจำ อ่านเล่มนี้ไว้เป็นข้อมูลพูดคุยในวงเหล้า รับรองว่าดูมีชั้นเชิงขึ้นหลายระดับแน่นอน ไฟต์คลับ ผู้เขียน : Chuck Palahniuk กฎข้อแรกของ “ไฟต์คลับ” คือ เราจะไม่พูดถึง “ไฟต์คลับ” คงไม่มีอะไรต้องโน้มน้าวเชิญชวนให้มากความสำหรับหนังสือเล่มนี้
วันหยุดยาวมาถึงทีไร ผู้ชายอย่างเราถ้าไม่ได้นอนอยู่บ้าน ก็เดินทางไปพักผ่อนที่ไหนสักแห่ง วินาทีที่เราได้อยู่กับตัวเอง วินาทีที่ได้พักจากงานที่ถาโถมและอยากพาตัวเองออกจากโลกโซเชียลมีเดียสุดวุ่นวายสักพัก ดูเหมือน “หนังสือ” จะเป็นเพื่อนยากที่รอตอบโจทย์การใช้เวลาในวันหยุดของเราได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศแห่งการเดินทาง หรือหยุดอยู่บ้านแต่อยากเสพการเดินทางของนอื่น UNLOCKMEN อาสานำเสนอหนังสือ 5 เล่มว่าด้วยการเดินทางของมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ รับรองว่าบูสต์พลังให้วันหยุดได้แบบเต็มขั้น กลับไปเริ่มต้นวันทำงานใหม่ด้วยทัศนคติแบบหิวกระหายความหมายบางอย่างให้ชีวิตแน่นอน ติดอยู่ระหว่างการเดินทาง : อุทิศ เหมะมูล สำหรับผู้ชายที่ชอบดื่มด่ำกับความสัมพันธ์ ดื่มด่ำกับอารมณ์และความรู้สึก เล่มนี้อาจจะเหมาะกับวันหยุดยาวของคุณ เพราะ “ติดอยู่ระหว่างการเดินทาง” ผลงานเล่มล่าสุดของอุทิศ เหมะมูล คือรวมเรื่องสั้นหลากอารมณ์ที่จะพาเราดำดิ่งไปในบรรยากาศของเมืองต่าง ๆ ในหลายมุมโลก พร้อมเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ตลอดเวลาที่อ่านเราอาจเผลอแทนตัวเองเข้าไปเป็นตัวละครในเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง จนแม้แต่นอนอยู่บ้านก็อาจจะรู้สึกราวกับว่าได้ออกเดินทางไปพร้อม ๆ กับตัวละคร และด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์สารพัดรูปแบบ เราเชื่อว่าคุณจะได้ปลดล็อกเรื่องราวในใจกับใครบางคนได้ แถมอยากออกเดินทางในวันหยุดครั้งต่อไปขึ้นมา หรือถ้าคุณเดินทางอยู่แล้ว คุณจะหิวเบียร์และกระหายที่จะสนทนากับใครสักคนขึ้นมาแน่นอน Eat Pray Love : Elizabeth Gilbert แม้ตัวละครหลักของหนังสือเรื่อง Eat Pray Love จะเป็นผู้หญิง แต่ UNLOCKMEN เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะบูสต์พลังแห่งความเด็ดเดี่ยวเต็มขั้นให้คุณในวันหยุดนี้ได้แน่นอน
ความตื่นเต้นของการได้ลักลอบทำอะไรบางอย่างมันกระตุ้นเร้าให้เลือดในร่างกายผู้ชายอย่างเราสูบฉีดแรงเสมอ โดยเฉพาะความรู้สึกของการได้ลอบอ่านบันทึกหรือจดหมายของใครสักคน ความลับ ความรู้สึก ความคิดและความทรงจำของมนุษย์คนอื่น ๆ มีแรงยวนใจบางอย่างให้เราอยากเข้าไปตะลุยและค้นหาแบบไม่รู้จบ แต่การไปแอบอ่านบันทึกหรือจดหมายคนอื่นในชีวิตจริงมันไม่ใช่มารยาทที่ดีของสุภาพบุรุษเท่าไหร่ จะดีแค่ไหนถ้ามีหนังสือสักเล่ม (หรือหลายเล่ม) ที่มาในรูปแบบจดหมายหรือบันทึกประจำวันให้เราได้ตะลุยอ่านความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเพื่อปลดล็อกพลังบางอย่างให้ตัวเอง ? นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไม UNLOCKMEN ไม่อยากให้คุณพลาดหนังสือ 5 เล่มนี้ เพราะมันได้ทั้งความรู้สึกของการได้อ่านบันทึกหรือจดหมายของคนอื่น แถมได้กระตุกเสี้ยวของความคิดอะไรบางอย่างในตัวเองได้แน่นอน บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์ (The Diary of a Young Girl) ถ้าจะพูดถึงบันทึกลับแล้วไม่พูดถึงหนังสือเล่มนี้ UNLOCKMEN คงพลาดมาก บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์ คือหนังสือที่เป็นสมุดบันทึกประจำวันจริง ๆ ของเด็กหญิงชาวยิวนามว่าแอนน์ แฟรงค์ที่ต้องหลบซ่อนอยู่ในบ้านเกือบ 2 ปีเพราะหนีการกวาดล้างชาวยิวช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2! บันทึกของเด็กหญิงวัย 10 ปีต้น ๆ ภายใต้สภาวะชวนหวาดผวา หลับไม่เต็มตาในแต่ละวัน แต่ละคืน จะพาเราดำดิ่งไปในความรู้สึกนึกคิดและความกล้าหาญของเธอ จนปลดล็อกพลังนักสู้ในตัวเราได้แน่นอน เมื่อพ่อของฉันถูกฆ่า (First They Killed My Father)
ผู้ชายหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับคำว่า Dystopia สักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงหนังสุดมันส์อย่าง The Hunger Games, The Maze Runner หรือแบบคลาสสิค ๆ ระดับพระกาฬอย่าง Blade Runner, Children of Men หรือที่พอจะเห็นภาพแบบง่ายโคตร ๆ ก็ต้องเป็น The Matrix หนังที่ผู้ชายอย่างเราคุ้นตาดีพวกนี้แหละคือหนังที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนัง Dystopia เพราะ Dystopia คือเรื่องราวว่าด้วยโลกในอนาคตอันล่มสลาย หรือสังคมที่ไม่พึงประสงค์หรือน่าหวาดกลัว อาจจะผ่านภัยพิบัติล้างโลกมาจนต้องกินอยู่กันอย่างแร้นแค้น หรือแม้แต่การพัฒนาทางเทคโนโลยี การเมือง การปกครองไปแบบก้าวหน้าสุด ๆ (อย่าง The Matrix) แต่ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุม ปกครองที่โหดร้าย รุนแรง (ถ้าจินตนาการไม่ออกก็ลองนึกถึงหนังที่เรายกตัวอย่างไปได้เลย) เพราะในสังคม Dystopia แต่ละเรื่องก็จะมีความบิดเบี้ยวแตกต่างกันไปที่ทำให้เราเห็นภาพโดยที่เจ้าของเรื่องยังไม่ทันอธิบายเลยด้วยซ้ำว่านี่คือโลก Dystopia ความสนุกของการเสพหนังหรือหนังสือ Dystopia มันจึงเร้าใจผู้ชายอย่างเรามาก ๆ ด้วยความที่การปกครองมันทั้งโหดร้าย ชวนให้เราลุกขึ้นมาต่อต้าน ทั้งความตื่นเต้นที่มันชวนให้เราลุ้นอยู่ทุกขณะว่าเราจะเจออะไรสุดแปลกประหลาดบ้าง หรือแม้แต่ความสิ้นหวังของระบบการปกครองที่ชวนให้เราขบคิดว่าถ้าเราต้องไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริง ๆ เราจะฝ่าฟันกับความสิ้นหวังในใจเราได้มากน้อยแค่ไหน
เรากล้าพูดว่าผู้ชายหลายคนไม่ได้เกลียดการอ่านหนังสือและเรื่องเงินทองความมั่งคั่งก็เป็นเรื่อง Top of mind ของพวกเรา แต่เหตุผลที่พวกเราปฏิเสธการอ่านมันเพราะดงหนังสือที่มีให้เลือกจากหลายสำนักพิมพ์มันเยอะจนเลือกไม่ถูกว่าเริ่มจะหยิบเล่มไหนก่อนดี แถมราคาหนังสือเดี๋ยวนี้ก็ไม่ถูกเหมือนแต่ก่อนด้วย สำหรับคอ UNLOCKMEN ที่ชอบอ่านหนังสือแนวธุรกิจแล้วเจอว่าน้ำเยอะกว่าเนื้อ หนนี้ลองเลือกใหม่ไปจากหนังสือที่เหล่า CEOs ประสบความสำเร็จเขาอ่านเป็นประจำและใช้เป็นแรงบันดาลใจก่อนลุกไปบริหารคนบริหารเงินกันต่อจากทั้ง 10 คน และ 10 เล่มนี้ รับรองว่าไม่ผิดหวัง “Scaling Up: How a Few Companies Make It … and Why the Rest Don’t” PICKED BY: Bruce Clay ผู้ก่อตั้งมาร์เก็ตติ้งเอเจนซี่ชื่อเดียวกับตัวเอง บริษัทของเขาติดชาร์ตหนึ่งใน 5000 บริษัทเอกชนจดทะเบียนของอเมริกาที่โตไวที่สุดถึง 9 สมัยติดต่อกัน IN BRIEF: หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือทะลวงความตันทุกครั้งที่เขามีปัญหาด้านธุรกิจ “Scaling Up” เขียนโดยผู้ก่อตั้งองค์กรระดับโลกชื่อ Entrepreneurs’ Organization (EO) และยังเป็นผู้ก่อตั้ง และ CEO