เมื่อพูดถึงสกู้ตเตอร์ที่ขึ้นชั้นตำนานระดับโลก ชื่อของสกู้ตเตอร์สัญชาติอิตาเลียนอย่าง LAMBRETTA เป็นต้องโผล่มาในห้วงความคิดของใครหลายคนอย่างไม่ต้องสงสัย และภายใต้ความเท่คลาสสิกที่มีประวัติยาวนานกว่า 76 ปี นับตั้งแต่ได้ถือกำเนิดมาในปี 1947 ยังมีข้อมูลน่าสนใจอีกหลายสิ่งที่เราเชื่อว่าชาวแลมทั้งรุ่นเก่า และรุ่นใหม่อาจยังไม่รู้ วันนี้ UNLOCKMEN จึงอยากชวนทุกท่านไปสัมผัสเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในหน้าประวัติศาสตร์ของ LAMBRETTA เพื่อดื่มด่ำกับความเก๋าที่ยังคงสานต่อเรื่องราวมาถึงปัจจุบัน เริ่มต้นด้วยการย้อนเวลาไปสู่จุดเริ่มต้นของ LAMBRETTA กับบริษัท Innocenti ที่ก่อตั้งโดย Ferdinando Innocenti เมื่อปี 1922 ซึ่งทำธุรกิจท่อเหล็กอย่างเป็นล่ำเป็นสัน รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนท่อเหล็กให้กับเครื่องบินรบของกองทัพอิตาลีในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้โรงงานผลิตตกเป็นเป้าหมายที่ฝ่ายตรงข้ามทิ้งระเบิดโจมตีอย่างหนัก หลังสงครามจบลง โรงงาน Innocenti จึงเหลือแต่เศษซากความเสียหาย แต่แทนที่จะท้อใจหมดหวัง Ferdinando Innocenti กลับมองเห็นโอกาสที่จะทำธุรกิจพร้อมไอเดียที่จะช่วยให้ชาว Italian สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกมากขึ้นแม้ในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่และถนนที่พังเสียหาย เหลือเพียงทางเล็ก ๆ ให้วิ่ง เป็นที่มาของการสร้างยานพาหนะสองล้อที่ราคาไม่แพง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย สวยงาม และต้องขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกสภาวะถนนและอากาศ ซึ่งเจ้าตัวได้แรงบันดาลใจจาก Cushman Scooters ซึ่งเป็น Military motor bikes
ในตระกูล M3 โมเดลที่ได้รับการยกย่องว่ามีความสำคัญมากที่สุดก็คือ E30 M3 ทั้งในด้านมูลค่าน่าสะสมและความสำเร็จในวงการ motorsport เป็นพื้นฐานที่นำไปสู่ M3 ในปัจจุบัน และหนึ่งใน M3 ที่ติดอันดับหายากและน้อยคนจะรู้จักก็คือ E30 M3 Roberto Ravaglia Edition มีเพียง 25 คัน สร้างขึ้นเพื่อตลาด UK โดยเฉพาะ (ป้ายระบุจำนวนโชว์ 065/505 เพราะถูกนับรวมในรุ่น Cecotto Edition ที่แยก edition พิเศษในแต่ละประเทศ) E30 M3 Roberto Ravaglia Edition เป็นรุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองความสำเร็จให้กับ Roberto Ravaglia นักขับที่พา M3 คว้าชัยชนะ World Touring Car Championship ในปี 1987 และ European Touring Car Championship ในปี
ผลงานชิ้นใหม่ของ Toyota Gazoo Racing (GR) ที่น่าจะเป็นเป้าหมายของนักสะสมและแฟน Supra ทั่วโลก นี่คือ GR Supra GT4 “100 Edition” รุ่นพิเศษเพื่อฉลองส่งมอบ GR Supra GT4 ครบ 100 คัน โดยจะมีเพียงแค่ 3 คันโลก แบ่งเป็น 1 คันสำหรับตลาดยุโรป 1 คันสำหรับตลาดอเมริกา และ 1 คันสุดท้ายสำหรับตลาดเอเชีย เรียกว่าเป็นตัวบั๊กที่แรร์ยิ่งกว่าแรร์ ภายนอกของ GR Supra GT4 “100 Edition” มาในสีส้ม Plasma Orange ชุดแต่งรอบคันเข้มดุสมกับเป็นรถแข่งที่เกิดมาเพื่อวิ่งแบบ track-only ช่องดักอากาศขนาดใหญ่บนฝากระโปรง ชุดพาร์ทรอบคันที่เอาไว้สร้าง downforce มหาศาลเพื่อรองรับสมรรถนะ 440 แรงม้าจากเครื่องยนต์ 3.0L six-cylinder turbocharged พร้อมระบบไอเสียใหม่ทั้งเส้น เป็นรถแข่งที่สร้างขึ้นมาสำหรับนักสะสมตัวจริงโดยเฉพาะ
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า หลายคนมองหาทางชุบชีวิตไอคอนในอดีตขึ้นมาใหม่ด้วยการเปลี่ยนขุมพลัง EV ที่ทั้งแรง เสถียร และใช้งานได้สะดวกมากขึ้น เช่นเดียวกับ EL1 คันนี้ที่สร้างบนพื้นฐานของตำนาน Audi Sport Quattro ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ ใส่วัสดุและ EV tech ที่แรงเทียบเท่า Supercar ภายใต้หน้าตาที่มีเสน่ห์ของ retro classic car โครงสร้างเดิมถูกนำมาใช้เป็นต้นแบบเพื่อสร้างขึ้นใหม่ด้วยวัสดุ carbon fiber และ aluminium subframes พร้อมออกแบบระบบส่งกำลังใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เหมาะสมกับขุมพลัง Dual electric motor และ 80kWh T-shaped battery pack ให้ outpur มากกว่า 800 แรงม้า สามารถทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 km/h ได้ใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุดทะลุ 300 km/h โดย ELegend
จากการผนึกกำลังอันน่าจดจำที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2021 TAG Heuer และ Porsche ร่วมกันเป็นหุ้นส่วนระดับโลก เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์และคุณค่าในคุณภาพ นวัตกรรม และศักดิ์ศรี ซึ่งได้จับมือกันอย่างภาคภูมิใจในการนำเสนอนาฬิการุ่นใหม่อย่าง TAG Heuer Carrera Chronosprint x Porsche ที่มาพร้อมกับดีไซน์ 2 รูปแบบ การเปิดตัวครั้งนี้นับว่าเป็นการแสดงความเคารพในช่วงวาระแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของคอลเล็กชั่น TAG Heuer Carrera และ Porsche 911 (เดิมถูกเรียกว่า 901) การผนวกรวมองค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งจากนาฬิกาและรถยนต์ ทำให้ออกมาเป็นนาฬิกาเหล่านี้ ที่จะมอบประสบการณ์การบอกเวลาที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยการเผยโฉมครั้งใหม่นี้ รวมถึงการนำความเร็วและความแม่นยำมาบรรจบกัน ได้เป็นการจารึกถึงแก่นแท้ของความสำเร็จที่น่าประทับใจของ Porsche 901 รุ่นดั้งเดิม จากอัตราเร่งถึง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.1 วินาที นับเป็นก้าวสำคัญที่เพิ่มขึ้นในขณะที่ประวัติศาสตร์ของ 911 ได้รับการเปิดเผยมา พลังแห่งความแม่นยำ นับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างทลายขีดจำกัดในปี 1963 Porsche
Vision Neue Klasse ใช้แนวทางการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เน้นความเป็นอนาคตที่ลดทอนเส้นสายความเป็นสปอร์ตลงซึ่งชาว bimmer หลายคนน่าจะไม่คุ้นตากันแน่นอน โดยเฉพาะไตคู่หน้าที่ยืดเต็มกระจังหน้าและมีเส้นไฟ LED แนวตั้งอยู่บริเวณมุม เป็นการตีความใหม่ของ 3-series ที่ชูความล้ำสมัยให้อารมณ์แบบ retro-modern แบบรถ EV เต็ม ๆ ซึ่งมีผลกับการออกแบบเช่นตัวถังซีดานทรง 3 กล่องที่ยืดระยะ overhang และฐานล้อหน้าและหลังได้เต็มที่เพราะไม่ต้องแชร์เผื่อระบบ ICE อีกต่อไป รวมถึงการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เช่นช่อง shark nose บนฝากระโปรงหน้า เส้นหลังคาที่เรียบ กระจกข้างถูกแทนที่ด้วยกล้อง รวมถึง diffuser รอบคันที่ดูเหมือนจะเป็น forged carbon เพื่อ aerodynamic ที่ดีขึ้น ในขณะที่ดีไซน์อาจยังไม่ถูกใจใครหลายคน แต่ด้านความเป็นรถ EV ถือว่าพัฒนาได้ดี BMW เคลมว่าดีไซน์ของ Vision Neue Klasse บวกกับแบตเตอรี่ และ eDrive geneeration ที่ 6 จะช่วยเพิ่มระยะทางในการขับไดัถึง
ก่อนจะหยุดสายการผลิตของ SLS AMG supercar ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง Mercedes-Benz ตัดสินใจส่งท้ายด้วย Final Edition ซึ่งเป็น limited series มีเพียง 350 คัน แบ่งเป็น coupe 200 คัน และ roadster 150 คัน แม้แต่ตลาดใหญ่อย่างอเมริกายังได้โควต้าไปเพียงแค่ 10 คัน โดยมันถูกวางตำแหน่งให้เป็นรุ่นท็อปสุดรองจาก SLS AMG Black Series ความพิเศษของ SLS AMG GT Final Edition คือชุดแต่งที่จัดให้อย่างดุเดือดผลิตจาก carbon-fiber สีดำเริ่มตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าพร้อมช่องระบายอากาศ ช่องดักอากาศใต้กันชนหน้า และ rear wing ซึ่งอาจจะดูคล้าย SLS AMG Black Series พร้อมล้อ forged สีดำด้าน ภายในหุ้มหนังสีดำเกรดดีขึ้นจาก designo program
เรียกว่า All-new ได้เต็มปากเต็มคำสำหรับ 2024 Mini Countryman โฉมใหม่ใส่เต็ม ตัวถังขนาดยาว 174.5 นิ้ว (+5 นิ้ว) กว้าง 72.5 นิ้ว และสูง 65.1 นิ้ว (+2 นิ้ว) มาพร้อมขุมพลังสองทางเลือก Countryman E : มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวติดตั้งล้อหน้า ให้กำลัง 201 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 54-kilowatt-hour WLTP-rated 462 กิโลเมตร 0-100 km/h ใน 8.6 วินาที Countryman SE All4 : dual-motor all-wheel drive 308 แรงม้า แรงบิด 494 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 64-kWh
ใหม่ล่ามาแรง กับออโตเมติกสกู้ตเตอร์เซกเม้นต์ใหม่ล่าสุดของ Honda โดย ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด New Honda Giorno+ เป็นครั้งแรกในโลกเมื่อวันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่ง New Honda Giorno+ ได้ถูกสร้างสรรค์พัฒนาต่อยอดแรงบันดาลใจจากตัวแทนความเท่ของวัยรุ่นยุค 90s อย่าง Giorno 50cc ปี 1992 สู่ภาษางานออกแบบใหม่ผสานอดีตและอนาคตเอาไว้ในแนวทางโมเดิร์นคลาสสิก ลงตัวกับงานดีไซน์ที่แมทช์กันได้กับทุกลุค ปลุกเร้าจิตวิญญาณ High Fashion Scooter ด้วยชุดไฟหน้า – ไฟท้าย LED ที่โดดเด่น การออกแบบของ New Honda Giorno+ได้เลือกใช้เส้นสาย Horizontal Line สื่อถึงความล้ำสมัย ผสานกับเส้นโค้งมนที่สื่อถึงความเรียบง่าย คลาสสิก พร้อมพื้นผิว รวมถึงสีสันที่ดูพรีเมียมสวยงาม พร้อมให้พวกเราได้บ่งบอกสไตล์ที่แตกต่างผ่านสีสันทั้ง 6 สี ไม่ว่าจะเป็น ขาว / เทา
เปิดตัวใหม่เรียบร้อยแล้ว New Tesla Model 3 Highland หลังโมเดลปัจจุบันทำตลาดมานานถึง 6 ปี โดยรุ่นใหม่นี้ผ่านการอัพเกรดใหม่ทั้งด้านดีไซน์ภายนอกภายใน ระยะทางที่ได้ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ใส่เข้าไปอีกเพียบ ตอนนี้มีเพียงรุ่น RWD และ LR เท่านั้น ใครต้องการรุ่น Performance ต้องนั่งทับมือไปก่อนระหว่างนี้ Sleeker Design : โดยรวมมิติรถใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบัน ยาวขึ้น 1 นิ้ว ความสูงลดลงเล็กน้อย และเตี้ยลง 5.5 นิ้ว ดีไซน์โดยรวมถูกปรับให้ลงตัวและเฉียบคมมากขึ้น ซึ่ง Tesla บอกว่าดีไซน์นี้ผ่านการปรับปรุง aerodynamics ที่นอกจากจะเท่แล้วยังช่วยให้รถขับดีขึ้น ลดเสียงลมปะทะเข้ามาในห้องโดยสาร และยังได้ระยะทางในการขับเพิ่มมากขึ้นด้วย ด้านหน้าคมคายดูเป็นผู้ใหญ่ที่สปอร์ตและ luxury ขึ้นอย่างชัดเจน โคมไฟหน้าและเส้นไฟ LED ใหม่เพิ่มความดุดันทันสมัย ด้านท้ายปรับทรงไฟ C-shaped ใหม่ โลโก้ Tesla ใหม่ถูกย้ายมาด้านบนกลางฝากระโปรง ล้อ 18