การใช้ชีวิตก็คงแทบไม่ต่างอะไรจากการเดินทางผจญภัย อาจมีบางครั้งที่เราขับเคลื่อนชีวิตราบรื่นไปบนถนนราบเรียบที่ถนัด แต่บางทีก็ต้องเผชิญถนนขรุขระที่ท้าทายและไม่ชอบใจ แต่ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้ชายอย่างเราคงรู้สึกจำเจไม่น้อยเลย ถ้าไม่กล้าขับออกจากถนนเส้นเดิม ๆ เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจหรือประสบการณ์แปลกใหม่ที่รอคุณอยู่ในอีกเส้นทางหนึ่ง แล้วจะดีแค่ไหนถ้ามีทริปเจ๋ง ๆ ที่พาคุณออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างแดน มอบประสบการณ์ขับขี่ระดับโคตรมันส์ และตื่นเต้นเร้าใจจนทำคุณเกือบลืมหายใจไปชั่วขณะ อัยเยโพล่ก (Arjeplog) จุดหมายปลายทางของนักล่าแสงเหนือ สวีเดนไม่ได้โด่งดังแค่ชนเผ่านักเดินเรือไวกิงระดับตำนาน แต่ประเทศกลุ่มนอร์ดิกบนคาบสมุทรสแกนดิเนเวียแห่งนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักล่าแสงเหนือทั่วโลก โดยเฉพาะ อัยเยโพล่ก (Arjeplog) เมืองทางตอนเหนือของสวีเดนที่มีแสงเหนือให้เห็นมากถึง 200 วัน/ปี นอกจากที่นี่จะเป็นจุดชมแสงเหนือยอดนิยม อัยเยโพล่กยังได้ชื่อว่าเป็นสนามทดสอบรถยนต์ฤดูหนาวที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย รวมปรากฏการณ์น่าอัศจรรย์ของธรรมชาติและกิจกรรมโลดโผนที่ผู้ชายเราหลงใหลเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว JOY GO ///M ON ICE 2020 – Arjeplog ทริปในฝันและประสบการณ์ขับขี่ที่ลืมไม่ลง ท่ามกลางมวลหิมะที่ปกคลุมและอุณหภูมิเย็นยะเยือกของอัยเยโพล่ก บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดทริป ‘JOY GO ///M ON ICE 2020 – Arjeplog’ เมื่อวันที่ 28 มกราคมถึง 4 กุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมาชวนสาวก
Czinger ค่ายผลิตซูเปอร์คาร์จากแคลิฟอร์เนียเปิดตัวไฮเปอร์คาร์คันล่าสุดของค่ายในชื่อ 21C โดยผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Kevin Czinger ได้นำเทคโนโลยี 3D-Printing มาร่วมใช้งานเพื่อให้ได้โครงสร้างรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุด งาน 3D-Printed เข้ามีส่วนช่วยในขั้นตอนการสร้างชิ้นส่วน Czinger 21C เกือบทั้งหมดตั้งแต่โครงยึดช่วงล่าง โครงสร้างกระจกด้านหน้า ไปจนถึงแผงหน้าปัดภายในตัวรถ ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากคาร์บอนไฟเบอร์และอลูมิเนียมที่แข็งแกร่งทนทานแต่มีน้ำหนักเบา ดีไซน์ของ 21C ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะห้องโดยสารที่โค้งมนเป็นวงรี ด้านหน้ามีช่องดูดอากาศที่เชื่อมต่อกับซุ้มล้อขนาดใหญ่ หลังล้อหน้ามีช่องอากาศซึ่งจะปล่อยลมต่อไปยังช่องอากาศขนาดใหญ่ตรงซุ้มล้อหลังต่อไป ด้านหลังเป็นตะแกรงขนาดใหญ่และใช้ท้ายเป็นเล็กที่โฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารของ CZinger 21C เป็นที่นั่งแบบ 1+1 คล้ายกับการนั่งซูเปอร์ไบค์ เพราะเน้นให้ประสบการณ์ตรงกับตัวผู้ขับขี่มากที่สุด ด้านขุมพลัง Czinger 21C เป็นไฮบริด ไฮเปอร์คาร์ที่มาพร้อมเครื่องไฮบริดที่มีพลัง 1250 แรงม้าและชุดเกียร์ 7-speed Transaxle เมื่อยกมาวางในรถรุ่นไลต์เวท Czinger เคลมว่าขุมพลังนี้ทำให้ 21C มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 1.9 วินาที วิ่งควอเตอร์ไมล์ในเวลาเพียง 8.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 460 กิโลเมตร/ชั่วโมง
BMW เปิดตัวอาร์ตคาร์คันล่าสุดของค่ายครั้งนี้กับสายพันธุ์แรงอย่าง M2 โดยได้ตำนานสตรีตอาร์ตจากนิวยอร์กอย่าง Leonard Hilton McGurr หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Futura BMW Art Cars โปรเจ็คต์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1975 จากแนวคิดของ Herve Poulain นักแข่งรถชาวฝรั่งเศสที่ต้องการถ่ายทอดผลงานศิลปะลงบนรถยนต์ ก่อนให้กำเนิดอาร์ตคาร์คันแรกเป็น BMW 3.0 CSL รุ่นปี 1975 ซึ่งเป็นรถที่ Herve Poulain ใช้ในการแข่งขัน Le Mans และศิลปินในครั้งนั้นคือ Alexander Calder เพื่อนของเขานั่นเอง นับจากนั้นมา BMW Art Cars กลายเป็นโปรเจ็กต์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีศิลปินระดับโลกร่วมฝากผลงานของตัวเองลงบนยนตรกรรมของ BMW มากมายไม่ว่าจะเป็น David Hockney, Roy Lichtenstein, Frank Stella และ Andy Warhol ล่าสุดเป็นผลงานของศิลปินสตรีตสุดเก๋าอย่าง Futura ที่ใช้ชื่อว่า BMW x
หนุ่ม ๆ ที่หลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะจากค่าย Ducati เตรียมตัวต้อนรับโมเดล 2 ล้อคันใหม่ล่าสุดของค่ายในฐานะรถที่ทรงพลังที่สุดของค่ายบิ๊กไบค์จากอิตาลี ชื่อของมันคือ Superleggera V4 (ซูเปอร์เลกจีรา วีโฟร์) ผ่านเวลามา 2 ปีหลังจากเปิดตัว Panigale V4 ที่ทรงพลัง แต่ดูเหมือน Ducati ยังต้องการผลิตรถที่มีพลังเพิ่มขึ้นเสมอ ล่าสุดพวกเขาพัฒนาโมเดล Superleggera V4 ที่จะเข้ามารั้งตำแหน่งโมเดลที่เร็วที่สุดของค่าย และมีแผนจะผลิตเพียง 500 คันเท่านั้นโดยแต่ละคันจะมีหมายเลข xxx-500 เป็นของตัวเอง Superleggera V4 เป็นรถที่ทีมนักออกแบบและวิศวกรของ Ducati ตั้งใจพัฒนาให้เป็นรถที่ล้ำสมัยทั้งเรื่องการวัสดุและงานดีไซน์ ใช้งานออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ GP16 Aerodynamic Design ที่ขึ้นชื่อว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุดของ Ducati ในปัจจุบัน วัสดุใน Superleggera V4 เป็นส่วนผสมระหว่างคาร์บอนไฟเบอร์ ไทเทเนียม และแมกนีเซียม รถคันนี้เป็นโมเดล 2 ล้อที่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้ถูกต้องตามกฎหมายคันเดียวที่มีโครงสร้างตัวถังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เหมือนกับรถแข่งในสนามโดยไม่ต้องปรับแต่งอะไร โปรเจ็กต์นี้ Ducati ยังร่วมมือกับ Ohlins
ผู้ชายอย่างเราต่างมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพราะเราไม่ได้มองหาเแค่รถยนต์ที่ขับขี่ได้ดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการรถยนต์เอนกประสงค์ ทั้งหมดเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้รถยนต์ประเภทซีดาน B-Segment เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากในเมืองไทย หนึ่งในนั้นคือ All-New Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) รถยนต์ซีดาน B-Segment คันล่าสุดจากนิสสันที่ได้รับการพัฒนาใหม่ตั้งแต่หัวจรดท้ายและถือเป็นโอกาสดีที่ UNLOCKMEN ได้เข้าร่วมการทดสอบรถคันนี้บนเส้นทาง 250 กิโลเมตรจากจังหวัดภูเก็ต-พังงา มาดูกันว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความแตกต่างของตัวเมือง ถนนเลียบทะเลอันดามันและเส้นทางที่คดเคี้ยวของเส้นทางผ่านหุบเขา All-New Nissan Almera จะโชว์สามารถดึงสมรรถนะออกมาให้เราเห็นมาก-น้อยแค่ไหน ก่อนการเดินทางจะเริ่มขึ้น เราขอพาทุกคนมาดูงานออกแบบครั้งใหม่ของรถคันนี้กันก่อน โดยดีไซน์ใหม่ของ All-New Nissan Almera ถือเป็นจุดแข็ง กับความเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนในด้านรูปลักษณ์งานดีไซน์ที่เน้นการใช้งาน สู่การเป็นรถยนต์ที่มีกลิ่นอายความสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น กระจังหน้าทรง V-Motion งานดีไซน์ที่ต่อไปจะเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์จากนิสสันซึ่งเราเคยเห็นมาแล้วใน LEAF ชุดไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อม LED Signature Light ทรงบูมเมอแรงและชุดไฟท้าย Signature Light พร้อมไฟเบรก LED ทรงบูมเมอแรงเหมือนกันถือว่าหล่อลงตัวเลยทีเดียว All-New Nissan Almera มากับความยาวตัวรถ 4495
หนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบยนตรกรรมจากฟอร์ด โดยเฉพาะโมเดลซูเปอร์คาร์อย่าง GT น่าจะถูกใจกับรุ่นพิเศษล่าสุดที่ถูกเปลี่ยนวัสดุตัวถังและล้อแม็กรวมถึงปรับสีให้ดุดันไม่แพ้พลังม้าที่มีใต้ฝากระโปรง และชื่อของมันคือ Ford GT Liquid Carbon Ford GT Liquid Carbon มีพื้นฐานมาจาก Ford GT รุ่นปี 2020 ถูกแผนก Ford Performance หยิบไปปรับแต่งและใส่แรงบันดาลใจจากโมเดล Ford GT Mk ll Track-Only ออกมาเป็น GT ที่มาพร้อมวัสดุคาร์บอนพิเศษสีดำชั้นนอกสุดเคลือบสีเงาเพื่อโชว์เส้นคาร์บอนโดยรอบตัวรถ นอกจากตัวถังคาร์บอนแล้ว Ford GT Liquid Carbon ยังมาพร้อมล้อแม็กคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ติดมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน น็อตล้อเสริมความแกร่งด้วยไทเทเนียม พร้อมคาลิปเปอร์เบรกให้หนุ่ม ๆ เลือกเพิ่มสีสันให้กับรถคันเก่งถึง 5 สีด้วยกัน นอกจากนี้ผู้สั่งซื้อยังสามารถสั่งคัสตอมฝาครอบกระจกและแถบสีเสริมตามส่วนต่าง ๆ ของตัวรถได้ ถือเป็นการเพิ่มความแตกต่างตั้งแต่ออกจากโรงงานกันไปเลย Liquid Carbon ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแค่ภายนอกแต่ยังถูกปรับแต่งในเรื่องของสมรรถนะและระบบอากาศพลศาสตร์เพิ่มเติมอีกด้วย โดยเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่อง V6 ตัวใหม่ที่มีพลังเพิ่มขึ้น 13
ถ้าพูดถึงรถสปอร์ตจากนิสสันหนุ่ม ๆ หลายคนคงนึกภาพของ Nissan Skyline หรือ GT-R เป็นภาพตัวแทนความแรงของแบรนด์รถยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัยแบรนด์นี้ แต่จริง ๆ แล้ว อีกหลายคนคงรู้ว่านิสสันยังมีรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตอีกหนึ่งตระกูลที่เป็นตำนานไม่แพ้ Godzilla นั่นก็คือรถตระกูล Z-Cars และคอลัมน์ THE ICONIC CARS ครั้งนี้จะมาพูดถึงต้นแบบของ Z-Cars ด้วยชื่อแสนอ่อนหวานผิดวิสัยรถสปอร์ตดุดัน จนเคยโดนสบประมาทว่าเป็นชี่อที่ไม่ดีพอสำหรับใช้ทำตลาดในสหรัฐอเมริกา ชื่อของรถยนต์คันนั้นคือ Nissan Fairlady Z กำเนิด Fairlady Z ต้นกำเนิดของ Nissan Fairlady Z เกิดขึ้นในปี 1969 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงได้ไม่นาน ตลาดรถยนต์ในยุคนั้นคือช่วงแห่งการแข่งขันและขยายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ไปสู่ทวีปต่าง ๆ และนิสสันในเวลานั้นอยู่ภายใต้การนำทีมของประธาน Yutaka Katayama หรือ Mr.K ผู้รู้ดีถึงความสำคัญของรถสปอร์ตโดยเฉพาะถ้าพวกเขาต้องการตีตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา โดยเน้นในเรื่องของการทำราคาที่อยู่ในระดับซึ่งจับต้องได้ควบคู่กันไป ซึ่งประจวบเหมาะกับที่นิสสันกำลังลุยสร้าง Prototype สายพันธุ์สปอร์ตขึ้นมาจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น Prince Skyline ที่ต่อมาถูกพัฒนาและเปลี่ยนชื่อเป็น Nissan
ปัจจุบันผู้ชายอย่างเราต่างสนใจรถยนต์เซกเมนต์เอสยูวี หรือ Sport Utility Vehicle เพราะเป็นหนึ่งในเซกเมนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย โดดเด่นเรื่องสมรรถนะ ความปลอดภัยรวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มาพร้อมกับตัวรถ ค่ายรถยนต์เอ็มจี (MG) เข้าใจความต้องการของผู้ใช้รถเป็นอย่างดี ปีที่ผ่านมาพวกเขาเปิดตัวและวางขายรถยนต์เอสยูวี 2 รุ่นล่าสุดคือ NEW MG HS และเอสยูวีพลังไฟฟ้า 100 % NEW MG ZS EV ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่กำลังมองหารถยนต์เอสยูวีที่ขับขี่อย่างปลอดภัยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ รถยนต์ 2 รุ่นทั้ง NEW MG HS และ NEW MG ZS EV ได้รับคะแนนด้านความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาวจากการทดสอบการชนโดยสถาบันทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ของยุโรป หรือ Euro NCAP* มาทำความรู้จักกับเอสยูวีทั้ง 2 คันให้ดีขึ้นไปพร้อมกัน เริ่มที่ NEW MG ZS EV เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100 % มาพร้อมพลังการขับขี่ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet
Porsche 911 กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์เสื้อผ้าจากนิวยอร์กอย่าง AIME LEON DORE ออกแบบคอลเลกชันใหม่ขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เนื่องในโอกาสการเปิดตัว Porsche 911 โฉมคัสตอมพิเศษที่มีเพียงแค่คันเดียวในโลก “ALD 964” คือชื่อของ Porsche 911 รุ่นปี 1990 โดยรถคันนี้ถูกคัสตอมมาในสีขาวทั้งคัน มาพร้อมสปอยเลอร์ทรง Ducktail สร้างขึ้นมาใหม่ ส่วนดีไซน์พิเศษที่เพิ่มขึ้นมาคือกราฟิกรูปเพกาซัสที่ด้านข้างตัวรถและป้าย “ALD 964” ชื่อที่ใช้เรียก Porsche 911 เจนแรกของคนในโรงงานปอร์เช่ งานคัสตอมสุดพิเศษทั้งหมดนี้เกิดจากความหลงใหลในรถยนต์ปอร์เช่ของ Teddy Sanis ดีไซน์เนอร์คนสำคัญของ AIME LEON DORE ที่เคยได้มีโอกาสเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของปอร์เช่ รวมถึงโรงงานประกอบโมเดล 911 ในสตุ๊ตการ์ต กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างออกแบบคอลเลกชัน “ALD 964” และใช้เตรียมรถเพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่หลายเดือน ซึ่งแรงบันดาลใจอันเข้มข้นนี้ยังได้ถูกถ่ายทอดสู่คอลเลกชันเสื้อผ้าของแบรนด์ ประกอบไปด้วยเอาท์เตอแวร์หลัก 2 ชิ้นเป็น Hoodie และ Work Jacket บวกกับไอเทมท่อนบนอย่าง Sweatshirt และ
Lotus Cars Limited ค่ายรถสัญชาติอังกฤษเปิดตัวรุ่นใหม่ของ Lotus Evora สายพันธุ์แรงไซซ์เล็กของค่ายที่มาพร้อมงานดีไซน์ใหม่บางจุดและน้ำหนักเบากว่าเดิม Evora คือรถสปอร์ตที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 ก่อนจะถูกพัฒนาและเริ่มผลิตครั้งแรกในปี 2009 ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมามีรุ่นรถย่อยออกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Evora S, Evora 400 และ Evora GT จนกระทั่งในปี 2018 โลตัสได้ปล่อย Evora GT410 Sport ลงสู่ตลาด ซึ่งมันได้เสียงตอบรับที่ดีในเรื่องความเร็วและความคล่องตัว แม้ยอดขายจะไม่ได้สูงมากเนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังมองว่ามันไม่เหมาะสมกับการใช้งานประจำวัน เรื่องนี้เป็นเหตุผลทำให้โลตัสต้องการปรับปรุงโมเดล Evora ให้เหมาะกับการขับขี่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยการเพิ่มความหรูหราและเทคโนโลยีสนับสนุนการขับขี่เข้าไปจนออกมาเป็น Evora GT410 คันนี้ ดีไซน์ภายนอกของ Evora GT410 ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ส่วนใหญ่ที่เคยใช้ใน Evora GT410 Sport ยกเว้นแต่ส่วนกระจกด้านหลังของ Evora GT 410 ที่ใช้เป็นวัสดุกระจกมากขึ้น รวมถึงสปอยเลอร์ดีไซน์ใหม่ ทางด้านยางมาตรฐานติดรถจะเป็น Michelin Pilot