นอกจากชีวิตที่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ผู้ชายอย่างเรามักเลือกเติมเต็มความสุขให้ตัวเองด้วยกิจกรรมที่ทำหัวใจต้องเต้นรัวพร้อมอะดรีนาลีนในร่างกายที่สูบฉีด เพราะคนมันส์ ๆ แบบพวกเราไม่เคยปล่อยให้ไลฟ์สไตล์ขาดความตื่นเต้นและท้าทายของกีฬา การแข่งขัน และประสบการณ์แบบสุดขั้วแต่ละครั้ง ที่มีโอกาสพบเจอในชีวิตก็ทำให้เราได้เติมฮอร์โมนชนิดนี้เข้าไปเสมอ แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ความชื่นชอบในกีฬามอเตอร์สปอร์ต แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรจะเจ๋งไปกว่านี้ กับการมีโอกาสได้นั่งชมการแข่งขันรถยนต์ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของวงการ นั่นคือการแข่งขัน “รถสูตรหนึ่ง” หรือ Formula 1 ซึ่งแค่การนั่งชมอยู่หน้าทีวีก็ยังทำให้ลุ้นกันจนตัวโก่งได้ แต่จะเจ๋งแค่ไหนถ้าวันหนึ่งคุณเลือกจะเดินทางไปนั่งชมสัมผัสบรรยากาศเต็มทุกโสตประสาทแบบติดขอบสนามด้วยตัวเอง และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เพราะหนึ่งในสนามแข่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการแข่งขันนี้อยู่ใกล้แค่เพียงประเทศสิงคโปร์เพื่อนบ้านของเรานี่เอง Formula 1 (F1) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ FIA Formula One World Championship การแข่งขันรถระดับสูงสุดที่มีจุดเริ่มต้นขึ้นในปี 1950 เป็นการแข่งขันรถยนต์ที่นั่งเดี่ยวที่ถูกสร้างขึ้นมาตามกติกา ปัจจุบันใช้ความเร็วสูงสุดในการขับขี่ได้ถึง 360 กิโลเมตร/ต่อชั่วโมง ทำให้มันกลายเป็นทัวร์นาเมนต์แห่งความเร็วที่น่าตื่นตาตื่นใจ เสียงเครื่องยนต์ที่คำราม กลิ่นของยางและเบรกที่สร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี และการไล่บี้กันชิงตำแหน่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งผู้ชนะจะไม่มีคำว่าโชคช่วยเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะนี่คือการแข่งขันที่ทั้งทีมเบื้องหน้า เบื้องหลัง และแม้แต่ตัวนักแข่งเองต้องทำงานหนักกันครบทุกตำแหน่ง ตั้งแต่นักขับที่เป็นเหมือนหัวใจหลัก ไปจนถึงทีมช่าง และทีมโค้ช ก็ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จร่วมกัน ด้วยมนต์เสน่ห์นี่เองก็ทำให้แต่ละปีมีคนทั่วโลกตั้งตารอชมการแข่งขันมากกว่า 600 ล้านคน และตัวเลขผู้ชมก็ดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะสำหรับฤดูกาลของปี 2019
ถ้าพูดถึง Chevrolet Camaro ผู้ชายอย่างเราคงรู้ดีถึงความสวยงามและสมรรถนะของอเมริกันมัสเซิลคาร์คันนี้ ที่ถูกปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นรถที่เร็วไม่แพ้ใครบนท้องถนน ผู้ผลิตเองก็ยังไม่ยอมหยุดพัฒนา เลยจัดการเปลี่ยนสัญชาติมันเป็น EV Muscle Car ที่มีความแรงไม่น้อยไปกว่าเครื่องยนต์สันดาปเลย Chevrolet Camaro eCOPO เคยอวดโฉมไปแล้วก่อนหน้านี้ในงาน SEMA 2018 โดยเป็นรถยนต์คอนเซปต์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของเชฟโรเลตและ Hancock and Lane Racing ทีมที่พัฒนารถแข่งแบบวิ่งทางตรง (Drag) โดยมีต้นแบบมาจาก Chevrolet Camaro COPO รุ่นปี 2019 เพื่อเฉลิมฉลองให้กับ 1969 Chevrolet COPO Camaro ตำนานของค่าย ด้วยการใช้โทนสี Laguna Blue เหมือนกัน เป้าหมายคือการสร้าง Camaro ในระบบส่งกำลังไฟฟ้าขึ้นมาเพื่อแทนที่เครื่องยนต์ V8 แบบไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างดั้งเดิมของตัวรถ โดยขุมพลังของมันถูกแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า BorgWarner สองตัว ที่ได้พลังงานจากแบตเตอรี่ ลิเทียม-ไอออนขนาด 800 โวลต์ที่แบ่งออกเป็นสี่ก้อน แต่ละก้อนมีความจุ 200 โวลต์ที่วางกระจายตามส่วนต่าง ๆ ของรถที่สร้างสมดุลด้วยการส่งน้ำหนักไปที่ด้านหลังของตัวรถ
ไม่ว่าใครก็รู้ดีว่าผู้ชายกับรถยนต์นั้นเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร รถเปรียบเสมือนของคู่ใจที่ผู้ชายเราแทบขาดไม่ได้ สำหรับบางคนมันเป็นเพียงเครื่องทุ่นแรงในการเดินทาง มีประโยชน์ตอนขับไปง้อสาวหรืออวดความเท่บนท้องถนนเท่านั้น แต่กับผู้ชายบางคนรถยนต์มีคุณค่าและสำคัญยิ่งกว่านั้น เพราะมันคือลูกชายสุดที่รักและเปรียบดั่งชีวิตจิตใจของผู้ชายเราเลยก็ว่าได้ ต่อให้คุณจะหมั่นทำความสะอาดและขัดสีฉวีวรรณรถขนาดไหน ก็ไม่ได้แปลว่าพวกคุณจะสามารถเข้าใจความรู้สึกและความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถได้ทั้งหมด วันนี้ UNLOCKMEN เลยอยากชวนหนุ่ม ๆ มาถอดรหัสจากสัญญาณเตือนที่บอกว่าลูกชายของคุณคันนี้กำลังเริ่มมีปัญหาแล้ว! เสียงตบที่เพิ่มขึ้นด้วยความเร็วรถ ขณะที่รถยนต์กำลังวิ่งบนท้องถนน หากคุณได้ยินเสียงตบดังปับ ๆ เป็นสัญญาณที่บอกว่ายางล้อรถของคุณกำลังจะแย่ เพราะเสียงตบที่เกิดขึ้นมาจากการที่ยางกำลังจะแยกตัวออกจากโครงยาง แล้วหากหนุ่ม ๆ ยังดึงดันขับรถด้วยความเร็วสูงจะยิ่งเพิ่มแรงเสียดทานและเกิดความร้อนตามมา จนท้ายที่สุดมันจะทำให้ยางและล้อรถของคุณสึกหรอ ไม่ก็หลุดออกไปจากคันรถเลย กลิ่นของแพนเค้กไซรัป สำนวนที่ว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ยังคงใช้ได้เสมอแม้กับเรื่องรถ เพราะเมื่อใดที่คุณได้กลิ่นหอมหวานราวกับไซรัปที่ราดบนแพนเค้กเล็ดลอดมาจากช่องเครื่องยนต์ นั่นแปลว่ารถยนต์ลูกรักของหนุ่ม ๆ เริ่มเกิดปัญหาขึ้นแล้ว เพราะแท้ที่จริงกลิ่นหอมหวานที่ว่านั่นคือ Ethylene Glyco หรือสารประกอบอินทรีย์ที่ใช้ป้องกันการแข็งตัวจากความเย็น ซึ่งมันกำลังรั่วไหลและกระจายกลิ่นออกมาจนเตะจมูกคุณ แล้วนี่เป็นสัญญาณที่บอกว่าหม้อน้ำของคุณเก่า แตก หรืออาจชำรุดได้ แอ่งน้ำมันบริเวณที่จอดรถ เคยเป็นไหมครับ? เวลาจอดรถยนต์อยู่กับที่ แต่ไม่รู้ว่ามีน้ำมันที่ไหนรั่วซึมมาจากใต้ท้องรถ แล้วหนุ่มบางคนก็เลือกจะเพิกเฉยเพราะคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่จริง ๆ แล้วแอ่งน้ำมันใต้ท้องรถกำลังบอกว่าวันนี้อากาศค่อนข้างชื้น หรืออาจบอกว่าคุณลืมเสียบปลั๊กท่อระบายน้ำก็ได้ เมื่อคุณมองเห็นน้ำมันรั่วซึมออกมา โปรดสังเกตสีและตำแหน่งของมันให้ดี ถ้ามันเป็นน้ำเปล่าใส ๆ แปลว่ามันรั่วมาจากคอนเดนเซอร์เครื่องปรับอากาศ
คงไม่ได้มีเพียงค่ายรถชั้นนำในยุโรป อเมริกาหรือในเอเชียเท่านั้นที่เดินหน้าพัฒนาความเร็วให้รถพวกเขาแบบไม่เคยหยุดพัก เพราะค่ายรถขนาดกลางอย่าง Tushek จากประเทศสโลวีเนียก็เตรียมเปิดตัวไฮเปอร์คาร์คันใหม่ของค่ายอีกครั้งหลังจากหายเงียบไปจากวงการเกือบ 10 ปีเต็ม Tushek TS 900 H APEX คือชื่อของไฮเปอร์คาร์สายพันธุ์ไฮบริดสัญชาติสโลวีเนียจากค่ายรถที่ชื่อ Tushek ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีผลงานเป็นซูเปอร์คาร์ Tushek renovotio 500 ก่อนจะเงียบหายไปหลายปี ใครจะรู้ว่าพี่เขาไปซุ่มเงียบพัฒนารถ Prototype คันใหม่ของค่ายกันอยู่ โดยจะเปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในงาน Salon Prive ที่กำลังจะจัดขึ้นในประเทศอังกฤษ มองกันที่ดีไซน์ภายนอกของรถคันนี้มากับเส้นสายที่ดุดัน แม้บางมิติจะดูเยอะเกินแต่เชื่อว่าสัดส่วนต่าง ๆ คงถูกพัฒนาให้เพิ่มประสิทธิภาพในงานทำงานของระบบ Aerodynamic ให้ดีที่สุด โดยตัวรถเลือกผสมผสานระหว่างวัสดุอย่าง Chrome-Moly และคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียง 1,410 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากมียังมีช่วงล่างที่ไว้ใจได้จากเบรค Brembo และยางจาก Pirelli Trofeo R มาเพิ่มการยึดเกาะถนนเพิ่มขึ้นอีกแรง ส่วนเรื่องของขุมพลัง ไฮเปอร์คาร์สัญชาติสโลวีเนียคันนี้ก็ไม่เป็นสองรองใคร เพราะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบไฮบริด V8 ขนาด 4.2 ลิตร ที่จะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่จะให้พลัง 937 แรงม้าและแรงบิดที่ 1033
Honda NSX หรือชื่อที่วางขายในตลาดสหรัฐอเมริกาว่า Acura NSX ถือเป็นหนึ่งในซูเปอร์คาร์ที่หนุ่มหลายคนหมายตา ถึงแม้การทำตลาดในเมืองลุงแซมจะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แต่ Acura NSX ปี 2020 เตรียมกลับมาอีกครั้งพร้อมกับสี Indy Yellow Pearl ที่คล้ายกับสีดั้งเดิมของรถเจเนอเรชันแรก หนุ่ม ๆ ที่กำลังรอฟังข่าวของซูเปอร์คาร์จากค่าย Honda อย่าง Acura NSX คงตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อทางค่ายผู้ผลิตประกาศแล้วว่า Acura NSX ปี 2020 จะเพิ่มทางเลือกด้วยสีสุดพิเศษอย่าง Indy Yellow Pearl ซึ่งเป็นสีที่ทำมาเพื่อระลึกถึงสีเหลืองยอดนิยมของ NSX ในเจเนอเรชันแรกที่ผลิตระหว่างปี 1990 – 2005 ซึ่งถูกเรียกว่า Spa Yellow และ Rio Yellow และเป็น 1 ใน 5 สียอดนิยมที่ลูกค้าสั่งซื้อมากที่สุด ก่อนหน้านี้ Acura NSX เคยนำสีดั้งเดิมจากรถในเจเนอเรชันแรกกลับมาใช้ในรุ่นปัจจุบันอีกครั้งนั่นคือสี Berlina Black โดยสีมาตรฐานที่มีให้เลือกคือ
สำหรับผู้ชายอย่างเรา การมีโอกาสได้ครอบครองรถยนต์รุ่นในฝันหรือโมเดลที่หลงใหลถือเป็นการเติมเต็มความสุขในชีวิตอีกอย่างหนึ่ง รถหลายคันมีความต้องการในท้องตลาดสูง ความต้องการในตลาดมืดจึงสูงไม่ต่างกันโดยเฉพาะในดินแดนที่กว้างใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาที่ตลาดรถยนต์มีขนาดใหญ่ มีสถิติที่น่าสนใจจาก The Insurance Institute For Highway Safety หรือบริษัทประกันภัยทางหลวงของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยรายชื่อรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมากที่สุด นับเฉพาะโมเดลใหม่ที่ผลิตออกมาระหว่างปี 2016-2018 มาดูกันว่ารถยนต์จากค่ายไหน รุ่นใดที่มีความต้องการในตลาดมืดมากที่สุดในแดนลุงแซมปีนี้ 10. Mercedes-Benz S-Class 4Matic รถรุ่นยอดนิยมของ Mercedes-Benz อย่าง S-Class หนึ่งในยนตรกรรมคลาสสิกที่หนุ่ม ๆ รู้ดีว่าขึ้นชื่อด้านความหรูหราและได้รับความนิยมในทุกยุคสมัย โดยเฉพาะเสียงของเครื่องยนต์ V8 ใน S-Class 4Matic คันล่าสุด ก็ทำให้อัตราการถูกขโมยของมันเพิ่มขึ้น 2.91 เท่าจากรถยนต์รุ่นเดิมที่เคยผลิตออกมา 9. CHRYSLER 300 ลำดับต่อมาของลิสต์คือ Chrysler 300 จากบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกาที่หลายคนอาจไม่คุ้ยชื่อกันนัก อย่างไรก็ตาม Chrysler 300 ถือเป็นยนตรกรรมที่หรูหราทั้งดีไซน์ภายนอกที่ใกล้เคียงกับ Bentley และงานภายในห้องโดยสารที่สวยงาม อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.7 ลิตรที่ให้พลังม้า 363
Monterey Car Week จากงานแข่งรถโบราณอันโด่งดังแห่งอเมริกาได้กลายมาเป็นมหกรรมยานยนต์ที่คึกคักที่สุดของโลก ในงานไม่เพียงแต่นำรถยนต์สุดแรร์ของแต่ละค่ายมาจัดแสดงต่อสายตาสาธารณชน หากยังจัดประมูลรถยนต์เท่ ๆ ที่ผู้ชายอย่างเราหลงใหลและคลั่งไคล้เสียยิ่งกว่าอะไร เมื่อสัปดาห์แห่งโลกยานยนต์เริ่มต้นขึ้น UNLOCKMEN ก็ไม่พลาดที่จะหยิบรถยนต์ไฮไลต์ของงานมาให้หนุ่ม ๆ ของเราได้ยลโฉมกัน แล้วนี่คือ 30 คันรถที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะปรากฏตัวในงานประมูลรถ MONTEREY ของปีนี้ 973 Datsun 240Z ($60,000 – $75,000) 1977 Italycar 1/2 scale Grand Prix Racer ($60,000 – $80,000) Real McCoy Chevrolet Corvette Replica ($75,000 – $100,000) 1979 Volkswagen Super Beetle Convertible 1926 Bugatti Type 35 Replica
‘ความเร็ว’ ‘ซูเปอร์คาร์’ ‘ศาสดาอาร์ต’ ‘งานศิลปะ’ ทั้งหมดนี้เมื่อมองดูแล้วไม่น่าจะเป็นสิ่งที่สามารถรวมกันได้ แต่สำหรับ BMW มองเห็นความเจ๋งของทุกอย่างที่กล่าวมาจนเกิดงานศิลปะสุดแนวชื่อว่า BMW Art Car โดยได้เหล่าศิลปินชื่อก้องโลกแต่ละยุคมามีส่วนสร้างสรรค์รถซูเปอร์คาร์ให้กลายเป็นศิลปะ เช่นเดียวกับผลงานที่ครบรอบ 40 ปี ในปีนี้กับงานของ BMW M1 และ เจ้าพ่อ Pop Art นาม Andy Warhol คอรถวินเทจหลายคนคงรู้จักซูเปอร์คาร์จากค่าย BMW กับรุ่น M1 ทวินแคม 6 สูบเรียง 3,500 ซีซี (3.5 ลิตร) เครื่องยนต์วางกึ่งกลาง โดดเด่นทุกครั้งเวลาเปิดประตูด้วยประตูแบบปีกนก ไฟหน้าแบบ pop up สุดคลาสสิก พร้อมขุมพลัง 470 แรงม้า ซึ่งถือว่า BMW เป็นแบรนด์รถยนต์แรก ๆ ที่สามารถทำความเร็วแรงได้มากขนาดนี้ BMW M1 เริ่มวางจำหน่ายช่วงปี 1978-1981 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวก็มีศิลปินชาวอเมริกันกำลังโด่งดังเป็นพลุแตกด้วยผลงานแนว
ถ้าพูดถึงค่ายรถผู้เชี่ยวชาญด้านงานคาร์บอนไฟเบอร์อย่าง Pagani (ปากานี) หลายคนคงรู้จักพวกเขาผ่านสุดยอดยนตรกรรมอย่าง Pagani Zonda (ปากานี ซอนด้า) ไฮเปอร์สายตัวเบาซึ่งเป็นเหมือนจุดขาย แต่ดูเหมือนว่า Pagani จะยังต้องการรถที่มีน้ำหนักเบามากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องแข็งแกร่งพอที่จะวางเครื่องยนต์กำลังโหด ๆ เอาไว้ได้จนท้ายที่สุดก็ออกมาเป็น Pagani Huayra Roadster BC คันนี้ ทุกวันนี้ซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์ของค่ายรถยนต์ระดับโลกมากมาย ต่างหันมาใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นโครงสร้างหลักของตัวรถกันหมดแล้ว ด้วยคุณสมบัติที่ทั้งน้ำหนักเบาและแข็งแรง แต่มันก็อาจไม่ใช่วัสดุที่ดีที่สุด Pagani Huayra Roadster BC นอกจากจะดีไซน์ใหม่ทั้งคันแล้ว ยังเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่เบาและแข็งแรงกว่าที่เรียกว่า Carbotanium (คาร์บอนไฟเบอร์ + ไทเทเนียม) ที่ใช้ในเครื่องบินแอร์บัส A380 รวมถึงพาหนะพิเศษต่าง ๆ ที่ทำให้มันแข็งแรงพร้อมต้านแรงลมด้วยน้ำหนักเพียง 1,250 กิโลกรัมเท่านั้น Carbotanium พัฒนาโดย Pagani เมื่อเทียบกับวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบเดิมจะแข็งแรงมากกว่าถึง 12 เปอร์เซ็นต์ แต่ยืดหยุ่นมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของมันก็ทำให้ราคาค่าวัสดุของ Pagani Huayra คันเพิ่มสูงขึ้นขึ้นถึง 450 เปอร์เซ็นต์เลยเช่นกัน
หลังจากเปิดตัว 7 Series คันใหม่ไปได้ไม่นาน ดูเหมือน BMW จะต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับแฟน ๆ ของ THE 7 มากขึ้นด้วยการเปิดตัวสายพันธุ์แรงที่มีพื้นฐานมาจาก 7 Series อย่าง BMW Alpina B7 ตามออกมาติด ๆ ว่ากันว่ามันคือซีดานที่แรงที่สุดของค่ายจากแคว้นบาวาเรียแห่งนี้ หนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบในรถยนต์ของ BMW คงจะรู้จักและคุ้นเคยกับรถยนต์ของ BMW ที่มีตราสัญลักษณ์ Alpina ซึ่งเป็นค่ายปรับแต่งรถยนต์สมรรถนะสูงที่ทำงานรวมกับค่ายใบพัดสีฟ้ามานานกว่า 50 ปี ในปีนี้พวกเขาเตรียมต่อยอด สายการผลิตรถยนต์ซีดานตัวแรงอย่าง Alpina B7 รหัสตัวถัง G12 ที่คราวนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ตัวพัฒนาใหม่ล่าสุดของค่าย BMW Alpina B7 ปี 2020 ถูกพัฒนามาจากยนตรกรรมสายพันธุ์ซีดานอย่าง BMW 7 Series โดยดีไซน์ภายนอกของรถคันนี้ยังมีกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ รวมถึงช่องอากาศที่อยู่ต่ำลงมา ก่อนจะแปะคำว่า Alpina ไว้ที่ด้านล่างสุด ซึ่งเข้ากันได้ดีกับดีไซน์ของไฟหน้าที่มีขนาดบางลง ส่วนท้ายมาพร้อมกับ