เรื่องราวของรถสปอร์ต Mazde RX-7 ซึ่งเป็นตำนานจากดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่มีชื่อเสียงกว้างไกลไปทั่วโลก
มาอย่างหล่อหรูดูร่ำรวย Toyota เปิดตัว 2025 Camry ใหม่วันนี้น่าจะช่วยให้ตลาด midsize sedan ในบ้านเราคึกคักขึ้นอีกครั้งด้วย generation ที่ 9 ขุมพลังตอนนี้มีเฉพาะ Hybrid ซึ่งในตลาดโลกสามารถเลือกรุ่นย่อยที่ครอบคลุมตั้งแต่ขับเคลื่อนล้อหน้าไปจนถึง all-wheel-drive แต่ในบ้านเราอาจจะมีแค่ front-wheel-drive ทำตลาด Camry ใหม่อาจจะยังเรียกว่า All-new ไม่ได้ เพราะยังคงพัฒนาบนพื้นฐาน TNGA-K platform เหมือนรุ่นก่อน แต่มีการพัฒนาช่วงล่างใหม่ให้ตอบสนองได้เฉียบคมขึ้น มิติตัวถังและภาพรวมของรถจึงยังดูคล้ายเดิม ด้านหน้าและหลังเปลี่ยนไฟ LED ได้กระจังหน้าใหม่ ภายในติดตั้งจอ digital instrument cluster ขนาด 7 นิ้ว และจอ infotainment ขนาด 8 นิ้ว และ 12.3 นิ้วในรุ่นท็อป เครื่องเสียง JBL ลำโพง 9 จุด และ Toyota Safety
เก็บตกภาพบรรยากาศ Test Drive ยนตรกรรมพลังไฟฟ้าในงาน BMW Beyond Electric ครั้งที่สอง ที่สนามแข่งรถปทุมธานี สปีดเวย์ งานนี้นำทัพด้วย BMW i5 ซีดานหรูระดับตำนานจากซีรีส์ 5 ที่ถูกสานต่อด้วยพลังงานไฟฟ้า มาครบทั้ง BMW i5 eDrive40 M Sport และตัวท็อปอย่าง BMW i5 M60 xDrive ที่พกพาความแรงถึงขีดสุดด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ BMW xDrive Electric กับชุดมอเตอร์ที่ให้กำลังขับถึง 442 กิโลวัตต์ / 601 แรงม้า และแรงบิด 795 นิวตันเมตร หรืออัดได้เต็มกำลังที่ 820 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานระบบ M Sport Boost / M Launch Control BMW i5 M60 xDrive
สร้างความสั่นสะเทือนวงการรถจักรยานยนต์อีกครั้ง กับแบรนด์ LAMBRETTA (แลมเบรตต้า) เจ้าพ่อสกู๊ตเตอร์คลาสสิกระดับตำนาน 76 ปี จากอิตาลี ทำเซอร์ไพรส์เผยโฉมสุดยอดอิเลคทริคสกู๊ตเตอร์ EV Concept รุ่นต้นแบบ ในชื่อรุ่น Elettra กับรูปโฉมที่เปรียบเสมือนผลงานศิลปะแห่งอนาคต ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% Elettra รถรุ่นต้นแบบของสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ดังฝั่งอิตาลี อย่างแลมเบรตต้า ที่นำมาเผยโฉมให้ได้ชมกันเป็นครั้งแรกในโลก ภายในงาน EICMA 2023 (Esposizione Internazionale Ciclo Motociclo e Accessori 2023) จัดขึ้น ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 66 นี้ ซึ่งถือเป็นปีที่แบรนด์แลมเบรตต้าครบรอบ 76 ปี สำหรับชื่อ Elettra เป็นชื่อภาษาอิตาเลียน ที่นิยามถึงหญิงสาวทรงเสน่ห์ มากความสามารถมีความคิดนอกกรอบและมีความมั่นใจในตนเอง นอกจากนี้ ยังมีความหมายอีกนัยหนึ่งว่าเป็น จิตวิญญาณแห่งการบุกเบิก หรือผู้ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นจนได้รับเป็นผู้ที่ถูกเลือก
TAG Heuer Carrera Chronograph เป็นที่จดจำในฐานะนาฬิกาที่แสดงถึงงานฝีมือ ซึ่งเป็นมากกว่านาฬิกา; นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ TAG Heuer ในการสร้างเรือนเวลาที่บ่งบอกความเหนือใครของผู้สวมใส่ การเปิดตัวครั้งนี้เหมือนได้นึกย้อนกลับถึง Jack Heuer ผู้มีวิสัยทัศน์ที่ได้สร้างคอนเซปต์ที่พลิกวงการ: ด้วยการมอบนาฬิกาสีทองสู่เหล่านักแข่งรถ นาฬิการุ่นนี้นี้เปรียบเสมือนการแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง TAG Heuer และโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ต นาฬิกาเหล่านี้ได้ก้าวข้ามบทบาทผ่านรางวัลต่างๆ ไม่ว่าเป็นเพื่อนคู่ใจในการแสวงหาชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกระหน่ำของเครื่องยนต์และความเร็วน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้นักแข่งหลายคนเลือกที่จะสวมใส่นาฬิกาเหล่านี้บนข้อมือ อาทิ Ronnie Peterson และ Niki Lauda ซึ่งได้พาพวกเขาไปก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดต่างๆ ความกล้าหาญของ Jack Heuer ได้พลิกโฉมอุตสาหกรรมนาฬิกาลักซ์ชัวรี่ไปตลอดกาล นาฬิกาเรือนสีทองทั้งหมดนี้กลายเป็นมากกว่าเครื่องจับเวลา แต่ละรุ่นได้รวบรวมแก่นแท้ในด้านความสำเร็จ ความกล้า และ การมุ่งหาความเป็นเลิศอย่างแน่วแน่ ทุกการขับเคลื่อนของเข็มโครโนกราฟได้สะท้อนแรงผลักดันที่ไม่หวั่นเกรงของนักแข่ง ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจอยู่เสมอถึงเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ของพวกเขา นาฬิกา TAG Heuer Carrera Chronograph มาพร้อมขนาด 39 มิลลิเมตร ถือเป็นการยกย่องที่หวนคืนสู่ยุควินเทจ แสดงถึงเสน์ห์แบบย้อนยุค และสุนทรียะที่ไร้กาลเวลา ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสปิริตของแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดยั้ง ตัวเรือนนาฬิกา TAG
1967 Shelby GT500 ผลงานระดับ Iconic ของ Carroll Shelby จากการนำ Ford Mustang fastback มาอัพเกรดใหม่ให้สะใจชาวอเมริกันผู้ชื่นชอบกลิ่นควันยางรถบดถนน กระจังหน้าถูกแทนที่ด้วยโคมไฟคู่สไตล์ rally cars ฝากระโปรง fiberglass เพิ่มช่องดักอากาศระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ “Ford Cobra” FE Series 428 cu in (7.0 L) V8 engine 355 horsepower at 5400 rpm 420 ft-lb of torque ที่ทั้งใหญ่และหนัก ช่วงล่างของ Shelby GT500 ถูกเซ็ทให้แข้งกระด้าง ว่ากันตามตรงแล้วมันเป็นรถที่การทรงตัวไม่ค่อยจะดีนักก็เพราะสาเหตุนี้ด้วยเหมือนกัน ด้านข้างของรถเพิ่มช่องดักอากาศฝั่งละสองตำแหน่ง ด้านบนใช้ดักแรงลมพร้อมกับ ducktail ช่วยกดท้ายรถให้นิ่ง ด้านล่างใช้เป่าลดความร้อนใหัเบรกหลัง ไฟท้ายยาวใหญ่ชิ้นเดียวมาแทนที่ไฟเดิมดวงเล็กใน Mustang รุ่นปกติ ภายในสังเกตความพิเศษของ Shelby
All-Electric 1967 Ford Mustang Fastback ใกล้เป็นจริงเข้ามาทุกที แม้จะไม่ใช่ผลงานจากโรงงาน Ford แต่เป็นสำนัก Charge Car ที่ได้ License ในการสร้าง 1967 Ford Mustang Fastback พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ นั่นแปลว่าเราไม่จำเป็นต้องเสีย Donor car ในการเอามาตัดดัดแปลงแต่อย่างใด สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ทั้งหมด ไม่เสียรถระดับตำนานที่เหลือน้อยลงทุกทีอีกด้วย 1967 Ford Mustang EV by Charge Cars จะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 63 kWh ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 4 ตัว ให้ total output มากถึง 536 แรงม้า แรงบิด 1,500 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ใน 3.99 วินาที ความเร็วสูงสุด 322
หากพูดถึงรถยนต์สภาพยับเยินแต่ทรงมูลค่า หลายคนอาจนึกภาพไม่ออกว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร แต่บอกเลยว่า Lamborghini Countach ปี 1989 สีขาวคันนี้ เตรียมขึ้นแท่นรับตำแหน่งรถเละราคาแรงสุดกู่ ที่นักสะสมตัวยงต่างพากันแย่งชิงอย่างแน่นอน เพราะลำพังชื่อเสียงของตัวรถเองก็มีดีกรี Rare Item แห่งวงการ Supercar อยู่แล้ว ในฐานะโมเดลพิเศษฉลองครบรอบ 25 ปี Lamborghini ซึ่งมีเพียง 658 คันทั่วโลก และยิ่งไปกว่านั้น Lamborghini Countach สีขาวล้วนคันนี้ เป็นสเปคสำหรับตลาดสหรัฐซึ่งมีอยู่แค่ 12 คัน และมันได้ถูกเลือกให้เป็น Hero Car ในหนัง The Wolf of Wall Street โดยผู้กำกับ Martin Scorsese เพื่อสะท้อนภาพไลฟ์สไตล์สุดฟุ่มเฟือยของตัวละครเอกอย่าง Jordan Belfort ที่รับบทโดย Leonardo DiCaprio โดย Lamborghini Countach ตอกเลข VIN ZA9CAOSA6KLA12692 ที่อยู่ในสภาพยับเยินคันนี้
ได้ลองขับรถไฟฟ้ามาหลายรุ่น คันที่ให้ความรู้สึกประทับใจที่สุดต้องยกให้ BMW iX xDrive 40 รุ่นเริ่มต้นที่ตอนนี้ราคากำลังน่าสนใจมาก ๆ ความน่าประทับใจของมันเริ่มตั้งแต่ดีไซน์ ต้องยอบรับเลยว่า BMW iX เป็นรถที่ดูโดดเด่นมาก ๆ บนท้องถนน ดีไซน์ไฟหน้า ไฟท้าย และไตคู่หน้าที่แตกต่างจากรถรุ่นอื่น ล้อขนาด 22 นิ้ว ลงตัวทั้งความหรู ล้ำ เต็มไปด้วยเส้นสายอารมณ์สปอร์ต และด้วยความที่มีจำนวนไม่มากนัก ทำให้มันเป็นรถที่น่าตื่นเต้นเสมอเมื่อได้พบเจอ สังเกตได้จากสายตารอบข้างที่จับจ้องในขณะที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ให้ความรู้สึกพิเศษกว่า X5 พอสมควร บอดี้ที่ใหญ่โตเทียบเท่า X5 หมายถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมากและอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ล้ำหน้าเอาไว้เพียบ บรรยากาศภายในห้องโดยสารผ่อนคลายและปลอดโปร่ง ทั้งวัสดุและดีไซน์ให้ความรู้สึกสบายเหมือนนั่งในห้องเลาจน์ การใช้ matte wood, recycled fabric และปุ่ม iDrive แบบ Crystal ช่วยสร้างความน่าสนใจได้ดี หลังคา panoramic glass roof พร้อมเทคโนโลยี PDLC (Polymer Dispersed Liquid Crystal)
ซื้อรุ่นนี้ไม่มีตกยุค 2024 Mazda MX-5 Roadster เปิดหลังคา น้ำหนักเบา ล่าสุดได้รับการอัพเกรดใหม่เพิ่มความทันสมัยเข้าไป ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่รวมเอา daytime running lights ย้ายจากกันชนเข้าไปไว้ในโคมเรียบร้อยแล้ว กระจังหน้าฝั่งซ้ายติดตั้ง radar sensor สำหรับ Adaptive Cruise Control พร้อม Smart Brake Support หยุดรถอัตโนมัติหากเจอสิ่งกีดขวาง ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 15 km/h และได้ล้อลายใหม่อัพขนาดจาก 16 เป็น 17 นิ้ว ขยับมาดู interior ในที่สุดจอ infotainment ก็ได้เปลี่ยนใหม่เป็นจอขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปรับ interface ใหม่ให้ทันสมัยและตอบสนองได้ดีขึ้น ช่วยปรับลุคให้ภาพรวมดูดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว เพิ่มทางเลือกสีภายในโทนเบจเพื่อความ old-school ช่วยให้ห้องโดยสารดูปลอดโปร่งมากขึ้น ด้านการขับขี่ เครื่องยนต์ยังคงให้ output เท่าเดิม แต่มีการอัพเกรดหลายอย่างเช่น asymmetrical