การผสมผสานระหว่าง 2 สิ่งให้มาอยู่รวมกันนั้น ถือเป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่มักจะได้ผลดีออกมาอยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าหากสิ่งที่นำมาผสมรวมกัน ดันมีเคมีที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีด้วยแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมออกมาลงตัวกลมกล่อมเป็นพิเศษ วันนี้เราจึงได้นำเอาการผสมผสานระหว่างความ Dark, Elegance, Beautiful และ Performance มามัดรวมกันจนกลายเป็น The Bandit9 รถจักรยานยนต์ Custom สุด Dark ดุดันที่เราจะนำมาให้ชาว UNLOCKMEN ชมกันในวันนี้ The Bandit9 ได้มีการเผยโฉมออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงฝีมือการ Custom ตกแต่งขั้นเทพที่ดูกี่ทีกี่ทีก็ไม่เบื่อ โดย The Bandit9 คันนี้ ถูกผลิตมาในรูปแบบ Limited Edition มีเพียงแค่ 9 คันบนโลกเท่านั้น ดังนั้น ความพิเศษของมันจึงมีอยู่ที่ทั่วตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณถังน้ำมัน, เบาะนั่ง และรูปทรงเส้นสายที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ โดย Bandit9 คันนี้นั้น ได้นำเอารถจักรยานยนต์ต้นตำรับ V-Twin จากสหรัฐอเมริกาอย่าง Harley-Davidson มาทำการแต่งหล่อใหม่ แต่ยังคงใช้ขุมกำลังเดิมขนาด 750 cc
ดูเหมือนว่าช่วงนี้บริษัทยานยนต์ทั้งหลายจะเริ่มขยับตัวออกมาปล่อยของที่หมกไว้ในช่วงต้นปีกันซะแล้ว โดยเฉพาะบรรดา Concept Car ของแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลก ที่เรียกได้ว่า จัดมาโชว์กันแต่ละคันนั้น ทำเอาบรรดาผู้คลั่งไคล้ในของเล่นมีล้อสำหรับผู้ชายต้องน้ำลายไหลไปตาม ๆ กัน ล่าสุด วงการยานยนต์กำลังจะลุกเป็นไฟอีกครั้ง หลังจากที่ BMW ได้เปิดตัวรูปและแนวคิดของ The All-Electric Mini ออกมา นั่นทำให้จากเดิมที่ที่รถจิ๋ว 3 ประตูสุดเท่คันนี้นั้น เป็นที่หมายปองของคนทั่วไปอยู่แล้ว ยิ่งกลายเป็นรถที่มีแรงดึงดูดมากขึ้นไปอีก การเปิดตัวของ The All-Electric Mini ครั้งนี้นั้น ทางผู้ผลิตได้นำเอารูปแบบของโมเดลสุดฮิตตลอดกาล และถือว่าเป็นออริจินัลของแท้ก็คือ ตัวถังแบบ 3 ประตู มาทำการวางคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ทันสมัย เพื่อที่จะพัฒนา และดัดแปลงมันให้กลายเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต The All-Eletric Mini นอกจากทรวดทรงที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เอาไว้อย่างครบถ้วนแล้ว บริเวณไฟหน้าก็ยังถูกรักษารูปแบบไฟแบบกลมกลึงเอาไว้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ที่ด้านในของดวงไฟ จะมีการเพิ่มเส้นสายของด้วยไฟเข้าไปให้ดูมีความเป็น Electric มายิ่งขึ้น ซึ่ง The All-Electric Mini คันนี้ที่ว่านี้ เป็น Concept Car ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย
หลายคนคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่า ชายชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Ken Okuyama คือผู้ออกแบบ รถไฟหัวกระสุนที่มีความเร็วร่วม 200 mph, หุ่นยนต์, แว่นตา, เฟอนิเจอร์ รวมไปจนถึงรถแทรคเตอร์!! แต่สิ่งที่ทำให้นักออกแบบชาวญี่ปุ่นคนนี้โด่งดังไปถึงระดับโลก และเป็นที่ต้องการของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายต้องการตัวเขามากที่สุด นั่นก็คือผลงานการออกแบบรถยนต์ของเขา ที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับ Top ติดอันดับต้น ๆ ของโลก ปีที่แล้ว Ken Okuyama เพิ่งจะสร้างความฮือฮาให้กับทุกสายตาที่งาน The Quail ซึ่งจัดขึ้นที่ Monterey เมื่อเค้าได้เผยโฉมเจ้า V12-powered Kode 57 Supercar และในปี 2017 นี้ เขาก็กลับมาพร้อมกับ Supercar สุดพิเศษที่ถูกออกแบบ และทำขึ้นมาเพียงคันเดียวเท่านั้น โดยครั้งนี้เขาให้ชื่อของผลงานว่า “Kode O” (ออกเสียงว่า โค้ดซีโร่) ณ Monterey Peninsula ที่ California งาน The Quail ทีว่านี้คือ หนึ่งในไฮไลต์ของซีรี่ส์งานแสดงนวัตกรรมยานยนตร์ที่มีชื่อเสียง รวมไปถึงงานชื่อดังอย่าง Pebble Beach Concours d’Elegance ที่รวมเอาผู้คลั่งไคล้ในนวัตกรรมยานยนต์
Bayerische Motoren Werke AG หรือชื่อภาษาอังกฤษ คือ Bavarian Motor Works (BMW) นั้น ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่า พวกเขาถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ Luxury และ Super Performance ชั้นนำระดับโลก ซึ่งแน่นอนว่า แทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักพวกเขาเป็นแน่ แต่เชื่อหรือไม่ว่า แบรนด์ที่ยังคงโดดเด่นที่สุดของโลก และยังเป็นแบรนด์ที่เรียกได้ว่าอยู่ในจุดสูงสุดของ Big 3 ผู้ผลิตรถรายใหญ่ในประเทศ German ครั้งหนึ่ง Bavarian Motor Works (BMW) เกือบจะกลายเป็นตำนานที่เหลือแค่ชื่อไปแล้ว ภายใต้ผลกระทบจากสนธิสัญญา Versailles วันนี้ถ้าหากคุณคิดว่าคุณคือ แฟนพันธุ์แท้ของ BMW แล้วล่ะก็ ต่อไปนี้คือเครื่องพิสูจน์ กับข้อเท็จจริงที่เบื้องลึกจะมีน้อยคนนักจะรู้เกี่ยวกับ BMW “Signature Front Face” หลายคนเห็นแว้บแรกก็รู้ได้ทันทีเลยว่า รถยนต์คันไหนเป็นรถจากแบรนด์ BMW นั่นก็เพราะ ความโดดเด่นบริเวณกระจังหน้าที่บางคนก็บอกว่ามันเป็นฟันหนู บางคนก็บอกว่ามันเหมือนรูจมูก ฯลฯ แต่ที่แน่
รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคนั้น เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน และเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่า ทั้ง ๆ ที่เทคโนโลยีของเราพัฒนามากขึ้นทุกวัน แต่เราก็ยังพยายามที่จะกลับไปหาอะไรในแบบเก่า ๆ กันอยู่ตลอด อย่างเช่นสิ่งที่เรากำลังพูดถึงต่อไปนี้ นั่นก็คือ “Monday Motorbikes M1 Crossover Bike” Smart Electric Motorcycle ที่ทำมาเพื่อให้ใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัวโดยเฉพาะ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงสร้างของรถมอเตอร์ไซค์ในยุค ’70 และ ’80 มาผสมผสานกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยกลุ่มนักสร้างรุ่นใหม่ไฟแรง Bolt Motorbikes ใน California เมื่อคุณเห็น “Monday Motorbikes M1 Crossover Bike” ครั้งแรก คุณจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เรียกว่า ความอิสระ อาจจะด้วยการออกแบบที่ไม่ได้ยึดติดขั้นตอนการผลิตรถมอเตอร์ไซค์แบบเดิม ๆ นอกจากนี้ ความอิสระยังเป็นคอนเซ็ปต์ของทาง Bolt Motorbikes ที่ต้องการสร้างรถมอเตอร์ไซค์เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระท่ามกลางการจราจรที่คับคั่งของเมืองหลวง แต่ยังคงความมีสไตล์ แตกต่างจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มักมีรูปทรงหน่อมแน้ม หรือมีตระกร้าติดอยู่หน้ารถ ซึ่งทำให้ผู้ชายอย่างเราเป็นต้องส่ายหน้า เมื่อคุณขี่ “Monday Motorbikes M1 Crossover
คนคลั่งรถโดยเฉพาะผู้ชายเรา คงต้องเคยได้ยิน และพูดคุยถกเถียงกันว่าระบบขับเคลื่อนแบบไหนดีกว่ากันแน่นอน บางคนก็บอกว่า ซื้อรถทั้งทีต้องมีระบบขับเคลื่อนแบบ RWD (Rear-Wheel Drive) สิถึงจะเจ๋ง บางคนก็ว่า ขับเคลื่อนแบบล้อหน้ามีเร่งดีกว่านะเว้ยเฮ้ย แค่นี้ยังปวดหัวไม่พอ เพราะยังมีระบบขับเคลื่อนแบบ AWD (All-Wheel Drive) และ 4WD (4Wheel-Drive) เข้ามาอีก ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า รถที่ตัวเองขับอยู่ทุกวี่ทุกวัน เป็นรถขับเคลื่อนแบบไหน จริง ๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นฐานอย่างหนึ่งที่เราทุกคนควรรู้ โดยเฉพาะถ้าหากคุณต้องการรถที่เหมาะสมต่อการใช้งาน และสไตล์การขับขี่ของตัวเอง การทำความรู้จักกับระบบขับเคลื่อนทั้งหมดที่เราได้กล่าวมา ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะศึกษาเอาไว้ วันนี้เราจึงได้นำเอาข้อมูลเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนไม่ว่าจะเป็นแบบ FWD, RWD, AWD และ 4WD มาให้กับชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้รู้จักกัน FWD / RWD / AWD And 4WD รถยนต์ที่เราเห็นกับบนท้องถนนนั้น แม้จะขับได้เหมือนกันหมด แต่จริงๆ แล้วภายในรถแต่ละคันมีระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน สำหรับในบ้านเรา รถบนท้องถนนส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD กันเป็นส่วนใหญ่ ลองลงมาก็จะเป็น
รถสไตล์ Retro เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายหลายคน แต่ทว่าด้วยสมรรถนะที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งาน หรือเทคโนโลยีที่ยังไปไม่ถึงไหน ทำให้ถึงแม้จะสวยอย่างไรประสิทธิภาพก็ไม่จูงใจมากนัก โดยเฉพาะรถที่ใช้แข่งขันในกีฬาความเร็วด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาที่ถูกพัฒนาให้ก้าวกระโดดออกมาไกลจากความ Retro และเน้นไปที่ความโฉบเฉี่ยวทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นรถแข่งที่เป็นรถรูปทรงโบราณลงไปวิ่งอยู่ในสนามพร้อมกับรถแข่งในยุคนี้ แต่ดูเหมือนว่าล่าสุด จะมีคนคิดพิเรนทร์ โดยมีไอเดียที่จะพยายามสร้างรถแข่งยุคใหม่ในสไตล์รถแข่งแบบ Retro ขึ้น นั่นก็คือ INFINITI ที่ได้เปิดตัวภาพเรนเดอร์ของรถแข่งสมัยใหม่ที่มีดีไซน์ย้อนยุคออกมา โดยรถคันนี้นั้นมีชื่อว่า “Prototype 9” เมื่อไม่นานมานี้ โดยรถแข่งจาก INFINITI คันนี้นั้น ได้ย้อนยุคไปนำเอาสไตล์การออกแบบของรถแข่งยุค 40 มาออกแบบ และพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ยังคงรูปลักษณ์ความโดดเด่นภายนอกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาที่เปิดโล่ง, วงล้อซี่ลวดพร้อมดอกยางสไตล์วินเทจ และตัวถังแคปซูลที่หายไปจากนวัตกรรมยายนต์ปัจจุบันไปนานแล้วมามัดรวมกันไว้ใน “Prototype 9” คันนี้ แรงบันดาลใจนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้เมื่อรถต้นแบบคันนี้นั้น คาดว่าจะถูกนำเอามอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่คุณภาพสูงจากแบรนด์รถยนต์อย่าง Nissan ซึ่งจะเข้ามามีส่วนร่วม และว่ากันว่าน่าจะได้ทีมควบคุมการผลิต และช่างฝีมือชั้นเซียนของทาง Nissan อย่าง Team of Takumi มาแจมอีกด้วย จากแรกเริ่มเดิมทีที่ผู้ออกแบบ “Prototype
หนึ่งในตำนานรถยนต์ Sedan หรูหราสำหรับผู้บริหาร แต่สามารถไล่หวดตามรถ Supercar ได้สบาย ๆ ต้องยกให้ BMW M5 ที่ถูกออกแบบบนพื้นฐานของ DNA เทคโนโลยีรถแข่งตั้งแต่แรกเริ่ม แค่อาศัยใช้ร่างของ Passenger cars เท่านั้นเอง ถ้าใครเคยขับ BMW 525d มาแล้ว คงจะรู้ดีว่ามันแรงขนาดไหน ถ้าขยับมาเป็น M5 นี่บอกได้เลยว่าคนละเรื่อง แต่เราคงต้องหยุดความปรับทับใจที่มีมาทิ้งไปก่อน เพราะ 2018 BMW M5 F90 มีรายละเอียดที่น่าตื่นตาตื่นใจรออยู่เพียบ จาก teaser video ด้านล่าง ที่ส่งเสียงแหวกอากาศโหด ๆ พร้อมโชว์ brake caliper สีเหลืองสไตล์ Sport ให้ขนลุกชัน Limits can be exceeded. The all-new BMW M5 is living proof.
ใครกำลังอยู่บนท้องถนนตอนนี้ อาจจะสังเกตเห็นเทรนด์ที่น่าสนใจว่าจำนวนรถประเภท SUV บนท้องถนนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ บางทีอาจจะมากกว่าจำนวนรถ Mid-Size car ด้วยซ้ำไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก นี่คือเทรนด์ที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์หลายประเทศ อย่างเช่นใน USA ยอดขายรถ Mid-Size car ครึ่งปีแรกนั้นลดลงเกือบ 18% เนื่องจากคนหันไปถอยรถ SUV แทน เช่นเดียวกับในฝั่งยุโรป ที่รถกลุ่ม SUV เข้ามามีบทบาทมากขึ้นตั้งแต่ปี 2015 โดยจำนวนความนิยมเทไปทาง Compact SUV มากเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย Mid-Size, Large และ Compact SUV ตามลำดับ กลับมาที่ประเทศไทยบ้านเรา แม้ภาพของยอดขายรถ SUV จะไม่เด่นชัดเท่าต่างประเทศ แต่ก็เป็นเทรนด์ที่กำลังโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยสภาพถนนที่ดูแลโดยหน่วยภาครัฐที่ทำงานแบบขรุขระ พวกเราก็เลยได้ถนนแบบขรุขระเช่นเดียวกันมาใช้งานอย่างไม่เต็มใจนัก ซึ่งค่อนข้างจะเหมาะกับการใช้งานรถ SUV ยิ่งนัก แต่ก็ไม่อยากได้รถที่ภาพพจน์ดูบุกตะลุยเกินไป อยากได้ทั้งความคล่องตัว หรูหรา ขับสนุก และพร้อมบุกเมื่อจำเป็น ด้วยความคิดนี้เอง
หลังจากที่เราโพสต์เรื่องของรถ BMW รวมถึงประวัติของ Logo ที่หลายคนเข้าใจผิดกันมาแล้ว วันนี้เราเลยอยากนำเอาที่มาของ Logo ของ BMW ตัวแรงที่หลายคนชื่นชอบอย่าง “///M” มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้ดูกัน เพราะจริง ๆ แล้ว ภายใต้ Logo ที่เป็นแถบสี 3 แถบนี้ มันมีความหมายอะไรมากกว่าที่หลายคนคิดซ่อนอยู่ หากใครที่เป็นคนรักรถรหัส “///M” ตัวจริง บทความนี้จะเป็นอีกบทความหนึ่งที่คุณห้ามพลาด ปีนี้ก็จะเข้าถือว่าเป็นปีที่ 45 แล้ว สำหรับการที่ BMW นำรถของพวกเขามาปรับปรุงออกมาให้มีศักยภาพสูงระดับรถแข่งในสนามอย่าง “///M” โดยโมเดลแรกของ “///M” ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตอนนั้นก็ คือ BMW M1 อันเลื่องลือ และเปรียบเสมือนบรรพบุรุษของตระกูล M ของ BMW มาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับรถในตระกูล M ของ BMW นั้น ถือว่าเป็นรถตัวตัวท็อปสุด แรงสุด และแพงสุดของแต่ละ Series