‘ถนนสีลม’ เป็นถนนคอนกรีตหกช่องจราจรที่ทอดยาวเกือบสามกิโลเมตร ตั้งแต่แยกบางรักสิ้นสุดที่แยกศาลาแดง นอกจากถนนเส้นนี้จะเป็นเส้นธุรกิจที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ถนนสีลมยังมากไปด้วยผู้คนที่พ่วงมากับความวุ่นวายตามสไตล์คนเมือง แต่ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวจนเราเริ่มเวียนหัวกับการมองผู้คนที่สัญจรไปมา ถนนแสนวุ่นวายที่รถติดแหง็กเส้นนี้ยังมีร้านกาแฟดี ๆ บรรยากาศสบาย ๆ ที่อาจช่วยคลายร้อนและทำให้อิ่มท้องได้พร้อมกัน Entree Coffee & Brunch Entree Coffee & Brunch เป็นร้านกาแฟขนาดกะทัดรัดที่ตั้งอยู่ในตึกแถวของซอยสีลม 8 ร้านกาแฟแห่งนี้เพิ่งเปิดอย่างไม่เป็นทางการในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตัวร้านตกแต่งสไตล์โคเรียนลอฟต์ ดูดิบเท่แต่ก็ซ่อนกลิ่นอายความเรียบง่ายถอดแบบคาเฟ่เกาหลีมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน แถมการใช้โทนสีเขียว เกรย์สเกล และประดับประดาภายนอกไปจนถึงภายในร้านด้วยต้นไม้ ยังช่วยให้ Entree Coffee & Brunch แห่งนี้ดูอบอุ่น มีสไตล์ และร่มรื่นสบายตาในเวลาเดียวกัน ก้าวแรกที่เข้ามาในร้านนอกจากจะได้กลิ่นขนมโฮมเมดอบใหม่อบอวลไปทั่ว เรายังสัมผัสความโปร่งโล่งจากดีไซน์ของร้านที่ยกเพดานให้สูงกว่าปกติ แม้พื้นที่ใช้สอยจะมีเพียงไม่กี่ตารางเมตร แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบแต่อย่างใด ตัวร้านแบ่งเป็นสามชั้น (แต่ตอนนี้เปิดแค่สองชั้น) ชั้นหนึ่งเป็นบาร์เครื่องดื่ม ตู้ขนม และมีเคาน์เตอร์ม้าหินสีเทาเข้มทอดยาว ส่วนชั้นสองตกแต่งด้วยเก้าอี้และโต๊ะไม้เป็นหลัก ดูเรียบง่ายและอบอุ่นสไตล์ร้านเกาหลี เหมาะจะเอางานมานั่งทำ อ่านหนังสือ หรือนั่งละเอียดรสชาติกาแฟอย่างไม่รีบร้อน Specialty Coffee & Homemade Bakery ที่นี่เน้นเสิร์ฟ
ต่อให้คุณจะชอบดื่มกาแฟมากแค่ไหน หรือเป็น Café Hopper ตัวยงที่พร้อมตะลุยทุกตรอกซอกซอยเพื่อค้นหาร้านกาแฟเด็ด ๆ แต่เราเชื่อว่าคงไม่ใช่ทุกร้านที่จะปรุงแต่งรสชาติกาแฟได้ถูกใจทุกคน และใช่ว่าตุ่มรับรสบนลิ้นของแต่ละคนจะเหมือนกันเสียทีเดียว ทำให้นิยามของคำว่า ‘อร่อย’ และ ‘กาแฟที่ดี’ จากปากผู้ชายแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บางคนบอกว่ากาแฟร้านนี้อร่อย บ้างว่ารสชาติของอีกร้านนั้นกินขาด ทำให้เราคิดว่าคงไม่มีทางที่ร้านกาแฟร้านใดจะสามารถสร้างสรรค์รสชาติได้ถูกปากผู้ชายทุกคน แต่ในบรรดาร้านกาแฟที่ผุดขึ้นทั่วกรุงเทพฯ ก็มีอยู่ร้านหนึ่งที่เปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่อเมนูกาแฟไปอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะเลือกเมล็ดพันธุ์และระดับการคั่วที่บาริสต้าเป็นผู้กำหนด ร้านนี้กลับเปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกเมล็ด ระดับการคั่วบด และวิธีการสกัดกาแฟด้วยตัวเอง แล้วเราก็เชื่อว่าต้องมีกาแฟสักแก้วที่ถูกปากและถูกใจเราแน่นอน Y’EST WORKS COFFEE ROASTERY ท่ามกลางความวุ่นวายของย่านที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอย่าง ‘อโศก’ ลึกเข้าไปในซอยสุขุมวิท 23 มีร้านกาแฟเล็ก ๆ สไตล์ญี่ปุ่นซ่อนตัวอยู่ที่นี่ Y’est Works หรือ Y’est Works Coffee Roastery เป็นร้านกาแฟคุณภาพที่อิมพอร์ตมาจากประเทศญี่ปุ่น แม้เพิ่งเปิดบริการได้ไม่ถึง 5 เดือน แต่ก็ได้กระแสตอบรับจากหนุ่มสาวคอกาแฟในย่านนี้เป็นอย่างดี ภายในร้านตกแต่งด้วยผนังสีขาวและเฟอร์นิเจอร์ไม้ สร้างบรรยากาศอบอุ่นด้วยสีเอิร์ธโทน และสะท้อนความเป็นร้านกาแฟญี่ปุ่นผ่านวัสดุไม้และความเรียบง่ายของงานดีไซน์ FIND YOUR BEST COFFEE! ร้านนี้มีคอนเซ็ปต์หลักคือ “Find
‘ตลาดน้อย’ ถือเป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ในอดีตที่นี่โดดเด่นด้วยธุรกิจเซียงกง ตลอดสองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านจำหน่ายอะไหล่ ชิ้นส่วนประกอบ และเครื่องยนต์เก่าของรถที่ใช้แล้ว แม้ปัจจุบันธุรกิจประเภทนี้จะถูกลดความนิยมลง แต่เซียงกงก็ยังคงมีให้เห็นและถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของย่านตลาดน้อยแห่งนี้ นอกจากตลาดน้อยจะรวบรวมเสน่ห์เมืองเก่าและบรรยากาศที่แฝงกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนเอาไว้ ที่นี่ยังห้อมล้อมไปด้วยวิถีชีวิตของชาวจีนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่น่าหลงใหลไม่แพ้กัน ขณะที่เรากำลังเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยของย่านนี้ ก็ต้องสะดุดตากับ ‘TAIGUAN CAFE’ ร้านกาแฟสไตล์จีนที่ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าโจ๋วซือกง เป็นคาเฟ่ที่ดีไซน์แบบร่วมสมัย และดึงดูดใจมากพอจะทำให้ก้าวเข้าไปแบบไม่ยั้งคิด TAIGUAN CAFE เปลี่ยนบ้านเก่าเก็บให้กลายเป็นคาเฟ่ร่วมสมัย จุดเริ่มต้นของ ‘TAIGUAN CAFE’ เกิดจากการนำบ้านจีนเก่าแก่อายุร่วม 200 ปี มารีโนเวตให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น แต่เดิมเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นคนจีนที่อพยพมาจากสิงคโปร์ เขาจึงสร้างบ้านให้เป็นทั้งที่พัก ลานจอดรถม้า และโกดังเก็บของ ด้วยแนวคิดที่อยากคงเสน่ห์ของความเก่าแก่เอาไว้ เจ้าของร้าน TAIGUAN CAFE จึงนำสไตล์ Modern Chinese เข้ามาตกแต่งตัวอาคาร แถมยังเหลือโครงสร้างเก่าอย่างประตูไม้อายุ 200 ปีไว้ให้ดูต่างหน้า ส่วนชื่อร้าน “TAIGUAN CAFE” ก็มาจากชื่อบ้านเดิม “ไทง้วนเอ้งกี่” ที่แปลว่าจุดกำเนิดรุ่นแรกของประเทศไทย ด้านหน้าของร้านดีไซน์ด้วยผนังสีขาว ยกโครงสร้างเป็นสองชั้นให้ดูเหมือนปราสาทเมืองจีน พร้อมประดับด้วยโคมไฟจีนสีแดงเด่น ส่วนภายในร้านเน้นใช้วัสดุไม้เป็นหลัก ดีไซน์ให้ดูอบอุ่นเหมือนบ้าน เพื่อให้เป็นจุดพบปะของเพื่อนฝูง เมนูเครื่องดื่มสุดครีเอตที่ถ่ายทอดรสชาติแบบจีนสมัยใหม่
คงต้องบอกว่าในปัจจุบันนั้นเป็นไปได้ยากที่จะมองหาร้านกาแฟเท่ ๆ สักร้าน ที่มีอะไรมากกว่าแค่คาเฟอีนขมเข้มและความอิ่มท้องจากอาหารว่าง เราเชื่อเสมอว่าความต้องการของผู้ชายสมัยนี้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ผู้ชายบางคนอาจอยากไปร้านกาแฟที่มีพื้นที่ธรรมชาติ บ้างปรารถนาเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ นอกจากกาแฟ บางคนอยากให้ร้านกาแฟมีเสื้อผ้า ของกิน และของใช้ที่ซื้อไปเอาใจแฟนสาวได้ แต่หนุ่มบางพวกก็อาจอยากนั่งเงียบ ๆ คนเดียว แล้วปล่อยให้ความคิดสร้างสรรค์โลดแล่นอวลกลิ่นกาแฟและบรรยากาศของงานศิลปะ ขณะที่เรากำลังขับรถตามหา ‘ร้านกาแฟ’ ที่มีอะไรมากกว่า ‘กาแฟ’ ก็แทบไม่รู้ตัวเลยว่าดันขับรถเลยย่านสาธรมาแล้ว แถมยังมาโผล่บนถนนนางลิ้นจี่ที่ไม่คุ้นตา แต่ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลนักจากย่านก่อนหน้า ระหว่างที่กำลังเสาะหาร้านกาแฟตามถนนนางลิ้นจี่ที่ถอดยาว เราเผลอสะดุดตากับร้าน AGO CAFE หรือ AGO – Designed Selected Shop ที่เป็นร้านกาแฟควบช็อปเซรามิกสุดเท่ จึงรีบเลี้ยวรถเข้าซอยนางลิ้นจี่ 4 และเดินดุ่มเข้าไปในร้านโดยไม่รีรอ AGO CAFE เริ่มต้นจากงานดีไซน์ ก่อนขยายไปสู่กาแฟ เมื่อไถ่ถามบาริสต้าประจำร้านจนได้ความ ก็พอทราบคร่าว ๆ ว่านี่เริ่มต้นจากช็อปซีเล็คเต็ดที่ผนวกงานคราฟต์ งานอาร์ต และงานดีไซน์เข้าด้วยกัน โดยนำเสื้อผ้ามือหนึ่งและสองจากฝีมือดีไซเนอร์ชาวไทย สมทบด้วยของใช้ เครื่องประดับ และเครื่องเขียนมาจัดวางตกแต่งร้าน ก่อนจะยกคอฟฟี่แมชชีนมาสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มหลากชนิด ภฤศธร สกุลไทย
เราเชื่อว่าหนุ่ม ๆ นักท่องเที่ยวหลายคนคงไม่พลาดจะที่หาเวลาไปเยือนเมืองเกาะอย่างประเทศญี่ปุ่น เพื่อชื่นชมความงดงามของ ‘มหานครโตเกียว’ ที่เป็นเมืองหลวงและสัมผัสกับกลิ่นอายทางวัฒนธรรมที่สอดแทรกอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยว แต่คงมีผู้ชายน้อยคนที่จะรู้จัก ‘เกียวโต’ อดีตเมืองหลวงของประเทศนี้ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขาของภูมิภาคคันไซ ที่นี่ไม่เพียงเป็นเมืองเก่าแก่ที่รวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และมรดกโลกเอาไว้ หากยังเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ช็อกโกแลตแบรนด์ดังใต้ชายคาบ้านเก่าสองชั้นที่มีอายุร่วมร้อยปี Fumihiko Sano Studio ได้สร้างร้านกาแฟควบช็อปช็อกโกแลตภายใต้แบรนด์ ‘Dandelion Chocolate’ ซึ่งถือเป็นบริษัทผลิตช็อกโกแลตอันโด่งดังที่มีสาขากระจายตัวอยู่ทั่วอเมริกาและญี่ปุ่น เมื่อเล็งเห็นเสน่ห์บางอย่างของเมืองเกียวโต แบรนด์ช็อกโกแลตรายนี้จึงเนรมิตบ้านเก่าสองชั้นที่มีอายุกว่าร้อยปี ให้กลายเป็นคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นและถอดแบบรสชาติช็อกโกแลตดั้งเดิมของซานฟรานซิสโกมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน Dandelion Chocolate ตั้งอยู่บนนถนนที่เงียบสงบในย่าน Ichinenzaka ของเมืองเกียวโต ภายในพื้นที่ 200 ตารางเมตร มีช็อปช็อกโกแลตขนาดย่อมสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อกลับบ้าน มีบาร์โกโก้ให้สั่งเครื่องดื่มหรือแอลกอฮอล์แกล้มกับช็อกโกแลตของทางร้าน แถมภายนอกยังรายล้อมไปด้วยบรรยากาศสวนแบบดั้งเดิมสไตล์ญี่ปุ่น การตกแต่งภายในร้านเลือกใช้ไม้ซีดาร์เป็นวัสดุหลักของตัวโครงสร้าง พร้อมวางต้นซีดาร์ไว้บริเวณจุดศูนย์กลางของร้าน เพื่อสะท้อนถึงความสอดรับกันของเมนูช็อกโกแลตและไม้ซีดาร์ ซึ่งต้องใช้ทักษะงานคราฟต์และส่วมผสมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีจึงจะสร้างทั้งสองสิ่งนี้ขึ้นมาได้ นอกจากนั้นไม้ซีดาร์ที่ประดับประดาตามจุดต่าง ๆ ยังบ่งบอกเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย จากความตั้งใจอยากรื้อฟื้นบรรยากาศเมืองเกียวโตแบบดั้งเดิมและสอดแทรกความเป็นซานฟรานซิสโกเข้าไว้ด้วยกัน ทีมสถาปนิกจึงรีโนเวตพื้นที่ภายให้ดูร่วมสมัย แต่ก็ไม่ทิ้งโครงสร้างเก่าของตัวบ้านอย่างคานและเสา ออกแบบพื้นที่ให้โปร่ง โล่ง สบาย ด้วยบานหน้าต่างกระจกทรงสูงที่ประดับแนบผนังตามทิศต่าง ๆ ของร้าน ช่วยเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน แถมยังเป็นการสร้างสเปซกว้างขวางในพื้นที่ขนาดย่อมได้อย่างไร้ที่ติ Dandelion Chocolate
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า หลากหลายอุตสาหกรรมที่พัฒนา บวกกับการแข่งขันทางธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ชายวัยทำงานอย่างเราต้องรีบเร่งกับแทบทุกเรื่องในชีวิต ตั้งแต่ตื่นนอน อาบน้ำ กินข้าว ไปทำงาน หรือแม้แต่ต้องรีบนอนเพื่อรีบตื่นให้ทันใช้ชีวิตอีกวันหนึ่ง หากมองไปตามถนนสายธุรกิจหรือโครงการรถไฟฟ้าที่เป็นตัวยืนยันว่าส่วนนี้ของเมืองถูกพัฒนาแล้ว แต่ที่นั่นกลับแออัดยัดเยียดไปด้วยผู้คนวัยทำงานและมวลความเร่งรีบที่กระจายตัวอยู่แทบทุกอณู ยิ่งถ้าเป็นย่านใจกลางเมืองอย่างแถบบีทีเอสช่องนนทรีแล้วละก็ คงไม่ต้องจินตนาการเลยว่าจะมากไปด้วยผู้คนและซุกซ่อนความวุ่นวายของชีวิตเอาไว้มากขนาดไหน คงต้องบอกว่าการใช้ชีวิตที่แข่งขันกับเวลาและโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กความเร็วแสง ถือเป็นเบ้าหลอมที่ทำให้คนในยุคนี้ไม่รู้จักการรอคอย ตลอดจนทำให้ทักษะการรอของผู้ชายบางคนถดถอยลงเรื่อย ๆ ขณะที่เราเดินเตร่อยู่กลางใจเมืองพร้อมสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตรีบเร่งที่รายล้อม แวบหนึ่งก็หันไปเห็น ‘ANALOX FILM CAFE’ ร้านกาแฟเล็ก ๆ ชิดติดริมถนนใหญ่ที่บรรยากาศขัดกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพราะมันไม่ได้แข่งขันกับเวลาหรือโกลาหลวุ่นวายอะไร หากเนิบช้า มีเอกลักษณ์ และดึงดูดใจมากพอจะทำให้เราเดินเข้าไปอย่างไม่ยั้งคิด ANALOX FILM CAFE เสน่ห์ของร้านกาแฟควบล้างฟิล์มที่ไม่เหมือนใคร เพียงก้าวแรกก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศของโลกกล้องฟิล์มและอบอวลหวนหอมด้วยกลิ่นกาแฟ ถึงจะเคยได้ยินมาก่อนหน้าว่าการมาของกล้องดิจิทัลทรงประสิทธิภาพ ทำให้ความหลงใหลในกล้องแอนะล็อกยุคเก่าของผู้ชายบางคนเลือนรางไป แต่พอได้เข้ามาที่นี่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะ ANALOX FILM CAFE ได้รวบรวมกล้องฟิล์มโบราณเอาไว้จำนวนไม่น้อย ทำให้เราคิดได้ว่าจริง ๆ แล้วกล้องฟิล์มนั้นเป็นอมตะและไม่เคยเลือนหายไป ใต้ฉากหลังของร้านกาแฟเล็ก ๆ ริมถนนใหญ่ ซ่อนร้านล้างฟิล์มขนาดกะทัดรัดเอาไว้ เมื่อไถ่ถามเจ้าของร้านจนได้ความก็ทราบว่าที่นี่เกิดขึ้นจากความหลงใหลรูปและเสียงของกล้องฟิล์ม ที่มีมากพอ ๆ กับการหลงรักรสและกลิ่นของกาแฟ เขาจึงผนวกทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกันในฐานะร้านกาแฟมรดกของวง Cocktails